[ แสดงกระทู้ท้งหมด]


อืมม...มันน่าคิดนะ ! ! !


รายละเอียด

รายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศแห่งหนึ่ง ระบุว่า
การแข่งขันของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ระหว่างบริษัทขนาดใหญ่สามแห่งในประเทศอยากพัฒนาประเทศหนึ่ง
ได้ดำเนินไปอย่างดุเดือด จนกระทั่งได้มีการออกแคมเปญใหญ่ๆ ของแต่ละบริษัทออกมา
ซึ่งเมื่อวิเคราะห์ลงไปลึกๆ พบว่า แคมเปญทั้งหมดที่กำลังออกมาฟาดฟันกันในปัจจุบันนั้น
ตกอยู่ภายใต้วิธีคิดที่เรียกว่า ยิ่งโทรยิ่งโง่ ทั้งสิ้น





ยิ่งโทรยิ่งโง่แบบที่หนึ่ง : ยิ่งโทรมากก็จะได้รับส่วนลด



วิธีแบบนี้เป็นที่นิยมมาก เพราะเป็นวิธีการนำเสนอว่ายิ่งโทรมาก ยิ่งจ่ายน้อย
โดยพยายามนำเสนอว่าความสำคัญในการพิจารณาเรื่องการใช้โทรศัพท์นั้นอยู่ที่การประหยัดต่อหน่วยหรือต่อครั้ง

ที่โทร



วิธีการนำเสนอแบบนี้ก็คือ การจูงใจให้โทรมากขึ้น เพราะทำให้ผู้โทรเชื่อว่าถ้าใช้โทรศัพท์เป็นมูลค่า 300

บาท จะโทรได้ประมาณ 3 บาท ต่อครั้ง แต่ถ้าโทรเกิน 1,000 กว่าบาทขึ้นไป ค่าโทรต่อนาทีก็จะถูกลง



ฮ่าฮ่า ... เขาไม่ได้หลอกเรากิน แต่เรานั่นหลอกตัวเองครับ เพราะยิ่งโทรมากก็ยิ่งจ่ายมากอยู่ดี
เพราะถ้าไม่โทรก็ไม่เสียเงิน





ยิ่งโทรยิ่งโง่ในแบบที่สอง : การจ่ายเงินต่อเดือนน้อยลง



วิธีแบบนี้ใช้จูงใจคนที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเป้าหมายแบบโทรน้อย ก็คือ
บอกว่าคนที่ไม่ค่อยได้ใช้โทรศัพท์ในแต่ละเดือน ก็หันมาใช้บริการแบบนี้
ซึ่งเดือนหนึ่งก็จะจ่ายค่าบัตรเติมเงินน้อยลง แต่ถ้าจะโทรแต่ละครั้งก็จะจ่ายแพงขึ้น อาทิ บัตรเติมเงิน
300 บาท อาจจะโทรได้นาทีละ 3 บาท และอายุการใช้งาน 1 เดือน ขณะที่บัตรเติมเงินในระบบใหม่ 150 บาท โทรได้

1 เดือนเช่นกัน แต่นาทีละ 5 บาทเป็นต้น



ฮ่าๆ อำนาจอยู่ที่การบริโภคอีกแล้วครับท่าน เขาไปหลอกเราเสียเมื่อไหร่





ยิ่งโทรยิ่งโง่ในแบบที่สาม : โทรบางเวลาถูกกว่า



วิธีแบบนี้เป็นการแบ่งเวลาการจัดเก็บค่าบริการในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน
เช่นให้ผู้โทรระบุว่าจะโทรในช่วงเวลาไหนดี อาทิ เลือกโทรในช่วงผีตากผ้าอ้อม จะถูกกว่าโทรในช่วงอื่นๆ
ขณะที่อีกคนอาจเลือกโทรในช่วงหมาหอน บรู๊วๆ ก็จะถูกกว่า ขณะที่ในเวลาอื่นๆ นั้น ก็จ่ายกันหูตูบทีเดียว



บางบริษัทก็ออกมาเกทับ โดยบอกว่าของเขาไม่ต้องเลือกช่วงเวลา ... อะแฮ่ม
เพราะเขาเลือกให้ว่าไม่ให้โทรในช่วงเวลาที่เขาสำรวจมาแล้วว่าคนจะโทรกันมากที่สุด
แล้วก็จัดการตั้งราคาโทรในช่วงนั้นเอาไว้แพงหูฉี่



ทั้งนี้ ไม่นับว่าค่าโทรนาทีแรกนั้นจะแพงกว่านาทีต่อไปอีกต่างหาก



ไหนอ่ะ ... ยิ่งคุยกันมากขึ้น ก็เข้าใจกันมากขึ้น



กลายเป็นว่ายิ่งโทรกันมากขึ้น ก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าจะมาหลอกมาลวงอะไรกันนักหนา





ยิ่งโทรยิ่งโง่ในแบบที่สี่ : ยิ่งโทรยิ่งเท่



วิธีนี้ผมเองก็ยังไม่แน่ใจว่าทำไมยังใช้ได้ในบางที่
ทั้งที่ในบางพื้นที่นั้นสัญญาณเขาก็ครอบคลุมกันหมดแล้ว แต่ก็ยังสามารถจูงใจและอธิบายได้ว่า
ถ้าใช้บริการของยี่ห้อนี้แล้วจะดูมีระดับกว่าอีกยี่ห้อหนึ่ง
ทั้งที่ทุกบริษัทก็ใช้กับโทรศัพท์รุ่นเดียวกันได้ (แน่นอนว่ายกเว้นอีกโครงข่ายหนึ่ง)



เอ ... พูดอย่างนี้เดี๋ยวจะถูกกล่าวหาในรายละเอียด
แต่ทั้งนี้ผมก็ขอยืนยันว่าบางครั้งคุณไม่ได้มีความต้องการในการใช้บริการขนาดนั้น
แต่คุณถูกทำให้รู้สึกว่ามีความต้องการขนาดนั้น
จนบางครั้งก็แยกไม่ออกว่าเราเป็นผู้เลือกบริการที่เหมาะกับตัวเรา
หรือว่าทางผู้ให้บริการเขาเป็นผู้วางกรอบเอาไว้
และอิสระและทางเลือกที่เรามีนั้นก็มีเพียงแค่เลือกที่จะเข้าไปอยู่ในกรอบต่างๆ ที่เขาจัดให้นั่นเอง





ยิ่งโทรยิ่งโง่แบบที่ห้า : โทรไปแถมไป



ตอนนี้วิธีจูงใจแบบนี้กำลังมาแรงเหลือเกิน คือโทรแล้วแถมให้โทรอีก
ซึ่งความจริงแล้วก็คือเป็นวิธีคิดแบบเดิมๆ นั่นแหละ แต่นำมาแต่งหน้าทาปากและนำเสนอใหม่
เพราะวิธีนี้ก็คือการจูงใจให้โทรมากขึ้นนั่นแหละครับ



แต่อย่าลืมว่าในบางครั้งการจัดเก็บค่าโทรในลักษณะใหม่ๆ นั้น เขาไม่ตัดเป็นวินาทีอีกต่อไป
หากแต่จะตัดเป็นนาที ซึ่งเป็นการทำให้เราอาจเสียค่าโทรเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นและไม่เป็นธรรม





ยิ่งโทรยิ่งโง่แบบที่หก : โทรในเครือข่ายเดียวกันถูกกว่า



วิธีนี้จูงใจให้คุณไปหาลูกค้าให้กับเขาโดยเขาไม่ต้องลงมือเอง
และก็ไม่ได้ตอบคำถามว่าทำไมต้องโทรกันมากมายขนาดนั้น



ที่ลองยกตัวอย่างมาทั้งหมดนี้ แคมเปญยิ่งโทรยิ่งโง่เนี่ยก็ยังทรงพลังเสียเหลือเกิน ทั้งนี้
เพราะค่าแสตมป์นั้นก็ขึ้นมาจดถึงราคาขั้นต่ำที่ราคา 3 บาทเสียแล้ว
บางทีส่งข้อความทางโทรศัพท์และโทรนาทีหนึ่งยังถูกกว่าเสียอีก ... เป็นไปได้ไง ไม่อยากเชื่อเลย ...





รายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศชิ้นนี้ ยังได้สรุปบทเรียนเอาไว้ว่า ในสังคมสมัยใหม่นั้น เวลา
เป็นเงินเป็นทองเสียจริงๆ ดังนั้น บรรดานายทุนจึงมีความฉลาดในการทำมาหารับประทานกับ เวลา
ได้หลายรูปแบบดังที่ได้รายงานข่าวไป
ในขณะที่ผู้บริโภคอาจไม่ได้รับข้อมูลอย่างเพียงพอที่จะทำให้เขาตัดสินใจได้อย่างรู้เท่าทัน



อาจเป็นเพราะว่า ผู้บริโภคนั้นไม่มี เวลาเพียงพอ หรือพวกเขาไม่เคยสนใจหาและสละ เวลา
มาร่วมมือกันเข้าใจ และจัดการกับวิธีการทำมาหารับประทานกับ เวลา เช่นนี้



ส่วนใครที่คิดว่าได้ประโยชน์จากการแข่งขันเหล่านี้ ผมก็ขอดีใจด้วยนะครับ
เพราะว่าคนอีกหลายคนอาจจะคิดว่าเขาอาจจะเอา เวลา
ในส่วนของการคิดคำนวณโปรโมชั่นเหล่านี้ไปทำอย่างอื่นในชีวิตน่าจะดีกว่า



แต่สำหรับผมแล้ว ผมขอเสนอแคมเปญใหม่แบบเพี้ยนๆ ว่า ไม่โทรไม่โง่ และ ไม่โทรมาก ไม่โง่มาก คร้าบ

โดย : ตลาด (ที่มา bangkokcity.com) [ 19/11/2004, 23:29:12 ]

  แพลเลทพลาสติก
  E-mail: webmaster@thaibg.com
Copyright 2002-2024 ThaiBG.com, All Rights Reserved