[ แสดงกระทู้ท้งหมด]


เคราะห์กระหน่ำธุรกิจเกมออนไลน์อีกระลอก คลังงัดฯ..

รายละเอียด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1949 17 ต.ค. - 20 ต.ค. 2547
http://www.thannews.th.com/detialNews.php?id=T4819492&issue=1949

ผู้ประกอบการเกมออนไลน์อ่วม คลังงัดภาษีสรรพสามิตคุม กำเนิด หลังเยาวชนติดกันงอมแงม ด้านผู้ให้บริการ"แร็กน่าร็อก-มิวออนไลน์" ชี้มาตรการสกัดดาวรุ่ง ดับฝันนโยบายปั้นไทยเป็นฮอลลีวูดเอเชียพร้อมระบุควรให้ไอซีทีรับหน้าเสื่อจัดการปัญหาเด็ก ติดเกม

ปัญหาจากการที่เยาวชนไทยติดเกมออนไลน์จนไม่สนใจเรียน ทำให้หลายฝ่ายแสดงความสนใจเข้ามาจัดการกับปัญหาดังกล่าว ล่าสุด ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบนโยบายให้กรมสรรพสามิตศึกษารูปแบบของการจัดเก็บภาษีเกมออนไลน์ เพื่อลดปัญหาการมอมเมาเยาวชน

ต่อกรณีดังกล่าวนายปราโมทย์ สุดจิตพร กรรมการผู้จัดการ บริษัทบี.เอ็ม. มีเดีย จำกัด ผู้ได้รับสิทธิ์ทำตลาดเกมออนไลน์ชื่อดัง "แร็กน่าร็อก" กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าเท่าที่ทราบข้อมูลในขณะนี้กระทรวงการคลังได้มอบหมายให้กรมสรรพสามิตทำการศึกษามาตรการเก็บภาษีเกมออนไลน์ เพื่อควบคุมปัญหาการเล่นเกมออนไลน์ของเยาวชนเท่านั้น ซึ่งยังไม่มีรายละเอียดที่แน่ชัดออกมา ทั้งนี้ในมุมของผู้ประกอบการรายหนึ่งเห็นว่า การนำวิธีการเก็บภาษีมาควบคุมเกมออนไลน์มีทั้งข้อดีและข้อเสีย กล่าวคือ ข้อดีอาจจะช่วยลดปัญหาความไม่สบายใจของผู้ปกครองลงไปได้ ส่วนข้อเสียนั้นปัญหาที่ผู้ประกอบการกังวลใจอยู่ขณะนี้ คือ การเปิดเครื่องแม่ข่าย หรือเซิร์ฟเวอร์ให้บริการเกมออนไลน์แบบไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

โดยภายหลังนโยบายจัดระเบียบเกมออนไลน์ ของกระทรวงไอซีทีและการเก็บค่าบริการของผู้ให้บริการที่ถูกต้องตามกฎหมายทำให้เกิดการตั้งเครื่องแม่ข่ายให้บริการแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมายขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งถึงแม้จะมีมาตรการจัดระเบียบหรือควบคุมเกมออนไลน์ออกมาเด็กหรือเยาวชนก็สามารถหนีไปเล่นเกมออนไลน์บนเครื่องแม่ข่ายให้บริการผิดกฎหมายได้ ต่อไปหากมีการเก็บภาษีกรมสรรพสามิตก็คงต้องออกไปตรวจจับเครื่องแม่ข่ายให้บริการผิดกฎหมายเหล่านี้ด้วย

"การใช้มาตรการภาษีควบคุมเกมออนไลน์ย่อมส่งผลกระทบกับธุรกิจอย่างแน่นอนเหมือนกับมาตรการปิดห้างหลัง 4 ทุ่ม ห้างก็ได้รับผลกระทบแต่ในส่วนเกมออนไลน์ขณะนี้ยังไม่มีอะไรแน่ชัดออกมา ซึ่งถ้าหากมีมาตรการออกมาเราในฐานะผู้ประกอบการก็พร้อมปฏิบัติ ตาม เพื่อให้สังคมอยู่ร่วมกันได้"

อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาเกมออนไลน์นั้นควรเป็นหน้าที่ของกระทรวงเทคโนโลยีสาร-สนเทศและการสื่อสารหรือไอซีทีมากกว่า เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกับผู้ประกอบการ ทำให้มีความเข้าใจปัญหามากกว่า ตลอดจนมีแนวทางการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการหลากหลายมิติไม่ใช่การแก้ปัญหาเพียงด้านเดียว

ด้านนายนิธิ ชีวะประเสริฐพร ผู้จัดการโครงการ "มิว ออนไลน์" บริษัทนิวอีร่า ออนไลน์ จำกัด กล่าวว่าหน้าที่ในการควบคุมหรือดูแลธุรกิจเกมออนไลน์ ควรเป็นของกระทรวงไอซีที เนื่องจากมีความเข้าใจธุรกิจมากกว่า ส่วนกรณีกระทรวงการคลังมีนโยบายควบคุมเกมออนไลน์ โดยให้กรมสรรพสามิตศึกษาแนวทางการเรียกเก็บภาษีกับผู้บริการนั้นมองว่าน่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมออนไลน์ในประเทศไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กๆ ที่ผ่านมาประเทศไทยมีผู้ให้บริการเกมออนไลน์ประมาณ 10 ราย แต่มีเพียง 2-3 ราย เท่านั้นที่มีการเก็บรายได้และมีกำไร การออกมาตรการ ดังกล่าวมาจะทำให้รายเล็กๆ ที่เหลืออาจประสบปัญหาไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

ขณะเดียวกันมาตรการดังกล่าวยังสวนทางกับนโยบายการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางไอซีทีแห่งภูมิภาคหรือฮอลลีวูดแห่งเอเชีย อีกด้วย

เนื่องจากศักยภาพของบุคลากรภายในประเทศที่มีอยู่สามารถพัฒนาเกมออนไลน์เพื่อส่งออกเกมออนไลน์ไปตลาดต่างประเทศได้ โดยอุตสาหกรรมดังกล่าวมีขนาดใหญ่มาก ซึ่งจากสถิติปัจจุบันตลาดทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 215,000 ล้านบาท (อัตรา 43 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐ) ส่วนมูลค่าตลาดประเทศไทยนั้นคาดว่าปี 2547 นี้จะมีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท

ด้าน น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่ามาตรการการจัดเก็บภาษี เกมออนไลน์เพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาการมอมเมาเยาวชนนั้นมิใช่แนวทางสุดท้ายในการแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งหากกรมสรรพสามิตทำการจัดเก็บภาษีจริงก็จะต้องมีการเจรจาและศึกษารายละเอียดในหลายประเด็นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ในอนาคตผู้ประกอบการที่นำเข้าเกมออนไลน์จะต้องได้รับการตรวจสอบความเหมาะสมของเนื้อหาเกมที่จะนำเข้ามาให้บริการจากกระทรวงไอซีที เพื่อทำการกำหนดช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม
พร้อมทั้งจัดอันดับความเหมาะสมของประเภทเกมในแต่ละกลุ่มอายุผู้เล่น

ในส่วนของการดูแลจัดระเบียบร้านอินเตอร์เน็ตนั้นล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบอนุมัติให้กระทรวงไอซีทีเข้า มาดูแล ซึ่งกระทรวงไอซีทีจะมีการประชุมหารือร่วมกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อกำหนดระเบียบข้อบังคับในการให้บริการตามพระราชบัญญัติพัสดุเทปวิทยุโทรทัศน์พร้อมทั้งกำหนดมาตรการเปิด-ปิดการให้บริการที่ชัดเจน

โดย : เห็นมา [ 17/10/2004, 22:27:37 ]

ความคิดเห็นที่ : 1

ไทยบีจีจะโดนด้วยไหมนี่

โดย : มาเห็น    [ 18/10/2004, 15:55:19 ]

  tdelphi.com
  E-mail: webmaster@thaibg.com
Copyright 2002-2023 ThaiBG.com, All Rights Reserved