|
|
[ กลับหน้าหลัก ]
เรื่องของ Chess มาให้อ่านกันบ้างครับ
โดย รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์
เมื่อบ็อบบี ฟิชเชอร์ (Bobby Fischer) ถูกจับในญี่ปุ่นเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม 2547
ผมบอกไม่ถูกว่าดีใจหรือเสียใจ ด้านหนึ่งผมรู้สึกดีใจที่ได้ข่าวคราวเกี่ยวกับฟิชเชอร์
อีกด้านหนึ่งรู้สึกเสียใจที่ฟิชเชอร์สูญเสียอิสรภาพ
ผมชอบกีฬาหมากรุกเป็นชีวิตจิตใจ
เคยนั่งเล่นหมากรุกตั้งแต่รับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยไปจนถึงรุ่งสาง
เมื่อมีการแข่งขันหมากรุกระหว่างประเทศ ก็เฝ้าติดตามชนิดเกาะติด ทุกวันนี้ เมื่ออ่าน The Financial
Times ฉบับวันเสาร์-อาทิตย์ คอลัมน์หมากรุกเป็นคอลัมน์แรกที่เลือกอ่าน ความข้อนี้รวมถึงนิตยสาร The
Spectator ด้วย
ผู้คนที่คลั่งไคล้กีฬาหมากรุก คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักบ็อบบี ฟิชเชอร์
ผมเองนอกจากจะชื่นชมอัจฉริยภาพด้านหมากรุกของฟิชเชอร์แล้ว
ยังมีโอกาสพัฒนาทักษะการเล่นหมากรุกด้วยการอ่านหนังสือที่ฟิชเชอร์แต่งอีกด้วย ผมเข้าใจว่า
ฟิชเชอร์เขียนหนังสือหมากรุกเพียง 2 เล่ม อันได้แก่ Bobby Fischer Teaches Chess (1966) และ My 60
Memorable Games (1969) แต่มีผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับฟิชเชอร์นับสิบเล่ม
บ็อบบี ฟิชเชอร์ เกิดเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2486 ณ นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา บิดาเป็นชาวเยอรมันอพยพ
มีอาชีพเป็นนักฟิสิกส์ มารดาประกอบหลายอาชีพ ตั้งแต่ครู นางพยาบาล และแพทย์ บิดามารดาหย่าร้างกัน
โดยมารดาเป็นผู้เลี้ยงดูฟิชเชอร์ตั้งแต่เยาว์วัย
ฟิชเชอร์เริ่มหัดเล่นหมากรุกตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ครั้นเมื่ออายุ 13 ขวบ มารดาขอให้จอห์น ดับบลิว
คอลลินส์ (John W. Collins) เป็นครูสอนหมากรุก คอลลินส์เป็นครูหมากรุกที่มีชื่อเสียง
ลูกศิษย์หลายคนเป็นนักหมากรุกชั้นยอดของสหรัฐอเมริกา ดังเช่นโรเบิร์ต ไบร์น (Robert Byrne) และวิลเลียม
ลอมบาร์ดี (William Lombardy) ฟิชเชอร์สนิทกับครูคอลลินส์มาก
บางครั้งคลุกอยู่ในบ้านคอลลินส์เกือบตลอดทั้งวัน จนเข้าใจกันทั่วไปว่า
ฟิชเชอร์นับคอลลินส์เป็นพ่อบุญธรรม
ฟิชเชอร์ชอบเก็บตัว และมีปัญหามนุษยสัมพันธ์ เข้ากับคนอื่นมิได้ เมื่อเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษา
ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน และหันไปเอาดีในการเล่นหมากรุก จนได้ตำแหน่งชนะเลิศ U.S. Junior Championship
ในปี 2499 ต่อมาจึงเขยิบขึ้นเป็นเล่นกับนักหมากรุกชั้นยอด เกมการแข่งขัน Fischer v Donald Byrne ในปี
2499 ได้รับยกย่องว่าเป็น The Game of the Century ในที่สุด
ฟิชเชอร์ก็ได้ครองตำแหน่งชนะเลิศหมากรุกแห่งสหรัฐอเมริกาในปี 2501
และมีสิทธิที่จะเข้าแข่งขันชิงชนะเลิศระดับโลก
ฟิชเชอร์เขยิบขึ้นไปเป็น International Grandmaster และค่อยๆ คืบคลานไปแย่งชิงตำแหน่งแชมป์โลก
ไล่ปราบมาร์ก ไตมานอฟ (Mark Taimanov) เบนต์ ลาร์สัน (Bent Larson) และท้ายที่สุดติกราน เปโตรเซียน
(Tigran Petrosian) อดีตแชมป์โลกจนมีสิทธิที่จะแย่งชิงตำแหน่งแชมป์โลกจากบอริส สปาสสกี (Boris Spassky)
ในปี 2514
ตำแหน่งแชมป์หมากรุกโลกผูกขาดโดยนักหมากรุกชาวรัสเซีย ตลอดช่วงเวลาหลังสงครามโลก
ฟิชเชอร์โจมตีว่า ระเบียบการแข่งขันเปิดช่องให้นักหมากรุกรัสเซียยึดพื้นที่ได้มากกว่านักหมากรุกชาติอื่น
เพราะนักหมากรุกชาติอื่นต้องฝ่า "ดงตีน" นักหมากรุกรัสเซีย
กว่าจะหลุดเข้าไปชิงตำแหน่งแชมป์โลกกับนักหมากรุกรัสเซียอีกเช่นกัน
การชิงชนะเลิศหมากรุกโลก ณ กรุง Reykjavik ประเทศไอซ์แลนด์ในปี 2515
นอกจากจะเป็นการประกาศศักดาในกีฬาในร่มประเภทนี้แล้ว ยังเป็นการทำสงครามเย็นขั้นสุดท้ายอีกด้วย
ในเมื่อเป็นครั้งแรกที่นักหมากรุกอเมริกันสามารถหลุดเข้ากับชิงตำแหน่งกับนักหมากรุกรัสเซียได้
ในเวลานั้น ฟิชเชอร์อารมณ์แปรปรวน และส่ออาการโรคประสาท
ฟิชเชอร์มีข้อเรียกร้องคณะกรรมการผู้จัดการแข่งขันต่างๆ นานา ไม่ต่างไปจากการขออภิสิทธิ์
มีรายงานข่าวว่า ฟิชเชอร์เลาะสารที่ใช้อุดฟันออกจากปากทั้งหมด เพราะเกรงว่า
รัสเซียจะส่งคลื่นวิทยุรบกวนสมองขณะกำลังแข่งขัน แม้คณะกรรมการผู้จัดการแข่งขันจะเอาใจฟิชเชอร์มากปานใด
แต่ฟิชเชอร์ทำท่างอแงจะไม่เข้าแข่งขัน จนมีรายงานข่าวว่า นายเฮนรี คิสซิงเจอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศ
ต้องร้องขอแกมกดดันให้ฟิชเชอร์เห็นแก่ประเทศชาติ ฟิชเชอร์ปรากฏตัวเข้าแข่งขัน
โดยที่ไม่แน่ชัดว่าเป็นเพราะฝีปากของนายคิสซิงเจอร์ หรือฝีมือของนายจิม สเลเตอร์ (Jim Slater)
นายทุนชาวอังกฤษที่โปะเงินรางวัลอีก 125,000 ดอลลาร์อเมริกัน รวมเป็นเงินรางวัลทั้งสิ้น 250,000
ดอลลาร์อเมริกัน
ฟิชเชอร์แพ้การแข่งขันในเกมที่หนึ่งอย่างชนิดมิควรจะแพ้
แต่แล้วกลับงอแงไม่เข้าแข่งขันในเกมที่สอง จนถูกปรับให้แพ้ เมื่อทำใจที่จะเข้าแข่งขันต่อไป
ฟิชเชอร์ก็เดินเครื่องจนได้ตำแหน่งแชมป์โลก ฟิชเชอร์กลายเป็นวีรบุรุษแห่งสงครามเย็น
เพราะสหรัฐอเมริกาชนะรัสเซียแม้แต่ในกระดานหมากรุก ไม่มีใครกล่าวขวัญถึงบอริส สปาสสกี ผู้แพ้ ทั้งๆ
ที่สปาสสกีสมควรได้รับยกย่องให้เป็นสุภาพบุรุษแห่งสงครามเย็น ตลอดช่วงเวลาที่ฟิชเชอร์งอแง
และแสดงอาการฟาดงวงฟาดงา สปาสสกีต้องสูญเสียสมาธิในการแข่งขันมากน้อยเพียงใด
ไม่มีการกล่าวถึงในสื่อมวลชนอเมริกัน
แม้สปาสสกีจะได้รับคำสั่งจากรัฐบาลโซเวียตให้ยื่นคำร้องให้ฟิชเชอร์แพ้การแข่งขัน
เนื่องจากไม่เข้าแข่งขันในเกมที่สอง สปาสสกีเมินเฉยต่อคำสั่งนั้น ผลที่ได้รับก็คือ
เมื่อสปาสสกีกลับสู่มาตุภูมิ ก็ถูกรัฐบาลห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
อารมณ์อันแปรปรวนและสภาพจิตที่ไร้เสถียรภาพ ทำให้ฟิชเชอร์ไม่ยอมป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกกับอนาโตลี
คาร์ปอฟ (Anatoly Karpov) ในปี 2518 และถูก FIDE ถอดออกจากตำแหน่ง
ฟิชเชอร์หายไปจากสังคม 20 ปี แต่ทนกลิ่นเงินกลิ่นทองมิได้
โผล่ขึ้นมาแข่งหมากรุกกับสปาสสกีคู่ปรับเก่าอีกในปี 2535 โดยมีการประโคมข่าวว่า เป็น Revenge Match of
the 20th Century ด้วยเหตุที่การแข่งขันจัดในยูโกสลาเวีย และยูโกสลาเวียถูกสหประชาชาติคว่ำบาตร
(Sanction) ในฐานก่อสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ฟิชเชอร์ได้รับจดหมายเตือนจากกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกาในเรื่องนี้
เพราะการเข้าไปแข่งขันหมากรุกในยูโกสลาเวียโดยรับเงินรางวัล ถือเป็นการประกอบพาณิชยกรรม
อันมีความผิดทางอาญา
โทษทางอาญามิอาจยับยั้งฟิชเชอร์ได้ แต่การแข่งขันที่เรียกว่า Revenge Match of the 20th Century
จืดชืด ไม่ตื่นตาตื่นใจ เพราะคู่แข่งขันเลยวัยปราดเปรื่องและเรื้อเวที
ภายหลังการแข่งขันปี 2535 ฟิชเชอร์หายตัวไปอีกครั้งหนึ่ง โดยที่เข้าใจกันว่า
ฟิชเชอร์หลบซ่อนอยู่ในยุโรปตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮังการี แล้วโฉบมาอยู่อาเซียบูรพา
เดินทางเข้าออกระหว่างฟิลิปปินส์กับญี่ปุ่น ฟิชเชอร์มิได้กลับไปสหรัฐอเมริกาอีกเลย
ไม่ได้แม้แต่ร่วมงานศพมารดาและพี่สาว
ฟิชเชอร์ถูกจับ ณ สนามบินนาริตะ ในนครโตเกียว ในขณะที่กำลังเดินทางไปฟิลิปปินส์
โดยมิได้เฉลียวใจว่า หนังสือเดินทางสิ้นอายุ ฟิชเชอร์ดิ้นรนจะขอลี้ภัยทางการเมือง
แต่ญี่ปุ่นมีสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นคงต้องรักษาพันธสัญญา
ในสายตาของชนชั้นปกครองอเมริกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลบุช ฟิชเชอร์เป็นไอ้ตัวร้าย เพราะเมื่อ
World Trade Center ถูกผู้ก่อการร้ายถล่มเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 ฟิชเชอร์ให้สัมภาษณ์ Radio Bombo
ใน Baguio City ประเทศฟิลิปปินส์ว่า เป็นข่าวดีอันสมควรแก่การปรบมือ ฟิชเชอร์กล่าวว่า
สหรัฐอเมริกาก่อกรรมทำเข็ญแก่มนุษยโลกเป็นอันมาก
รวมทั้งการเกื้อกูลให้อิสราเอลเข่นฆ่าชาวปาเลสไตน์นานนับปี
ฟิชเชอร์คงต้องเป็นผู้ร้ายข้ามแดน
รัฐบาลอเมริกันมิอาจลงโทษฟิชเชอร์โดยอ้างบทสัมภาษณ์วิทยุดังกล่าวได้ แต่สามารถลงโทษโดยอ้าง
"อาชญากรรม" ในยูโกสลาเวียได้
บ็อบบี ฟิชเชอร์ คงต้องติดคุก เพราะเล่นหมากรุก
แต่จอร์จ บุช จูเนียร์ ผู้ส่งกองทัพเข้าไปเข่นฆ่าประชาชนชาวอิรักผู้บริสุทธิ์
กลับลอยนวลอยู่นอกคุก
|
โดย : ม้าเจ็ก [ 30/07/2004, 17:45:39 ] |
1
ขอบพระคุณครับ
ไม่ได้ข่าวฟิชเชอร์ นานแล้วจริงๆ
อย่างน้อยก็ยังดีใจว่ายังอยู่ |
โดย : เห็นมา [ 31/07/2004, 07:28:01 ] |
2
เขียนได้ดีจริงๆ น่าอ่านมากๆ |
โดย : หมูหมู [ 02/08/2004, 21:46:01 ] |
3
พี่เขียนเก่งจังอ่ะ มาเขียนให้อ่านบ่อยๆหน่อยสิคับ |
โดย : ต้น [ 03/08/2004, 07:45:38 ] |
4
ผมพอดีอ่านเจอใน นสพ ผู้จัดการครับ
|
โดย : ม้าเจ็ก [ 03/08/2004, 09:06:01 ] |
5
ขอบคุณ คุณม้าเจ็ก
สำหรับบทความดีๆ ที่น่าอ่านครับ |
โดย : KU41 [ 03/08/2004, 10:10:23 ] |
6
บุชและชาวเมกันต่างรู้ดีว่า บ๊อบบี ฟิชเชอร์ เป็นโรคทางประสาท
แล้วทำไมกะแค่คำพูดของเขาต้องทำโทษถึงขนาดนี้ด้วย
ไม่ค่อยยุติธรรมเลย (จะติดคุกตลอดชีวิตหรือเปล่าหน๊อ)
.....สาธุ ขอให้พระเจ้าจงคุ้มครองเขาด้วยเถิด
ปล. ขอบคุณคุณม้าเจ๊กมากๆๆ น๊ะค๊ะ
เป็นเรื่องราวที่ดีมากๆๆ ค๊ะ ที่เอามาแปะให้อ่านค๊ะ ขอบคุณจิ๊งๆๆ ค๊ะ |
โดย : น้องฉาว [ 04/08/2004, 21:59:22 ] |
7
อย่างน้อยก็ได้ยินข่าวแล้ว เย่ๆๆๆ |
โดย : ไร้น้ำปลาหมึก [ 09/08/2004, 03:15:35 ] |
8
เอาใจช่วยครับ
|
โดย : เอาใจช่วย [ 09/08/2004, 13:55:22 ] |
9
เอาใจช่วยครับ(อีกที)
|
โดย : เอาใจช่วย [ 09/08/2004, 13:58:32 ] |
10
ถ้าFischer ไปหลบแถวๆเทือกเขาชายแดนปากีสถาน-อัฟกานิสถานอาจจะไม่ถูกจับก็ได้ เฮ้อออออ เศร้า |
โดย : นักปลา สาวก Fischer พันธุ์แท้ [ 11/08/2004, 14:47:50 ] |
13
คอลัมน์ใต้ฟ้าเดียวกัน ในหน้า2 ของไทยรัฐ ฉบับ 30 สิงหาคม 47
นี้เขียน ถึงบ็อบบี้ ฟิชเชอร์ ครับ |
โดย : ขุนสันต์ [ 30/08/2004, 06:29:31 ] |
14
น่าสนใจและขอบคุณมากครับ ก็ขอนำมาลงให้อ่านในที่นี้
คอลัมน์ จุดจบนักกีฬาอัจฉริยะ
โดย บวร โทศรีแก้ว
นสพ.ไทยรัฐ วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม 2547
http://www.thairath.co.th/thairath1/2547/column/earth/aug/30_8_47.php
มีผู้เปรียบเปรยว่าเส้นแบ่งความเป็น "อัจฉริยะ" (Genius) กับความ "บ้า" (Insane)
ของคน ห่างกันแค่เส้นยาแดงผ่าสิบ
อัจฉริยะมักมีมันสมองล้ำเลิศเป็นทุนเดิม และคิด-ทำอะไรนอกกรอบผิดคนทั่วไป ขณะเดียวกันก็มี
"อีโก้" สูง จนอาจถึงขั้นหลงตัวเอง แต่นี่คือ "พลังพิเศษ"
ช่วยขับศักยภาพในตัวมนุษย์ออกมาได้สูงสุด
"บ็อบบี ฟิชเชอร์" ชื่อนี้คนรุ่นใหม่ๆ อาจไม่คุ้นหู แต่สำหรับคนรุ่นผมและก่อนหน้า
ใครไม่รู้จัก "ยอดอัจฉริยะแห่งวงการหมากรุกสากล" คนนี้ ต้องถือว่าเชยเอาการอยู่นะครับ
ฟิชเชอร์เป็นชาวนิวยอร์ก เป็นเซียนหมากรุกขั้นพระกาฬ บงการเกมบนกระดานสี่เหลี่ยมได้อย่างน่าอัศจรรย์
สไตล์หมากรุกของเขาทั้งดุดัน และลื่นไหลสง่างามเต็มไปด้วยสีสันเร้าใจ
โด่งดังถึงขีดสุดเมื่อโค่น "บอรีส สปาสสกี" แชมป์โลกผู้ยิ่งใหญ่ ชาวรัสเซียได้ในปี 2515
ขณะอายุแค่ 29 ปี ตอนนั้นโลกยังระอุอยู่ในยุคสงครามเย็น
ค่ายทุนนิยมเสรีนำโดยสหรัฐอเมริกาขับเคี่ยวกับค่ายคอมมิวนิสต์
นำโดยสหภาพโซเวียตอย่างเอาเป็นเอาตายทุกกระบวนยุทธ์
ชัยชนะครั้งนั้น ทำให้ฟิชเชอร์กลายเป็น "วีรบุรษ" ของค่ายทุนนิยมไปในชั่วข้ามคืน
แต่จากนั้นเขาก็ทำตัวเพี้ยนๆ ไปเข้าร่วมลัทธิ "คริสตจักร แห่งพระเจ้าทั้งโลก"
ไม่นานก็ถอนตัวออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และเริ่มมีทัศนคติต่อต้านชาวยิวหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งที่แม่ตัวเองก็เป็นคนยิว
จิตใจจอมอัจฉริยะคนนี้สุดที่คนอื่นจะหยั่งถึง จู่ๆเขาก็เลิกเล่นหมากรุกไปซะเฉยๆ
จนถูกริบตำแหน่งแชมป์โลกในปี 2518 เพราะไม่ยอมป้องกันตำแหน่งกับอนาโตลี คาร์ปอฟ ผู้ท้าชิงชาวรัสเซีย
เร้นกายอยู่กว่า 10 ปี ฟิชเชอร์ก็หวนคืนวงการอีก ด้วยการไปแข่ง "รีแมตช์"
กับสปาสสกีที่ยูโกสลาเวีย โดยไม่สนใจว่าขณะนั้นยูโกฯ ถูกสหประชาชาติและสหรัฐฯ
"คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ" อยู่ โทษฐานหนุนหลังเซอร์เบียให้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ศัตรูอย่างโหดเหี้ยม
ในสงครามกลางเมืองในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
ในงานแถลงข่าวก่อนแข่ง ฟิชเชอร์ซ่าจัด ถ่มน้ำลายใส่จดหมายของรัฐบาลสหรัฐฯ
ที่เตือนไม่ให้เขาไปแข่งในยูโกฯ และนัดนั้น ฟิชเชอร์ก็ชนะอีก คว้าเงินรางวัลถึง 3.35 ล้านดอลลาร์ (ราว
135 ล้านบาท)
ฟิชเชอร์ถูกรัฐบาลสหรัฐฯออกหมายจับในข้อหาละเมิดมติคว่ำบาตร มีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับอีก 250,000
ดอลลาร์ 12 ปีตั้งแต่นั้นเขาไม่กลับไปสหรัฐฯอีกเลย ตะลอนๆ เดินทางไปทั่วโลก รวมทั้งฮังการี
สวิตเซอร์แลนด์ ฮ่องกง มาเก๊า และเกาหลีใต้ ก่อนยึดญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์เป็นหลักพักพิงตั้งแต่ปี 2543
แต่ก็ไม่เชิงหนีเสียทีเดียว เพราะยังใช้ชื่อจริงและพาสปอร์ตจริงในการเดินทาง
มีอยู่ 2 ครั้ง ฟิชเชอร์กล้าไป "เหยียบจมูก" รัฐบาลถึงที่
คือไปขอต่อพาสปอร์ตที่สถานทูตสหรัฐฯในสวิตเซอร์แลนด์ ในปี 2540 และ 2546
ซึ่งก็แปลกครับที่สหรัฐฯก็ยังเฉยๆ ไม่ยอมจับ
แต่นับวันทัศนคติแอนตี้ชาวยิวและรัฐบาลสหรัฐฯ ของฟิชเชอร์รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาให้สัมภาษณ์ในหลายประเทศ
ด่าว่าพวกยิวชั่วช้า โกหก เป็นลูกอีสำส่อน และด่ารัฐบาลสหรัฐฯว่าเป็นเผด็จการที่โหดร้าย
ที่แสบที่สุดก็คือ เมื่อผู้ก่อการร้ายก่อวินาศกรรมช็อกโลกในสหรัฐฯ เมื่อ 11 ก.ย.2544 ตึกแฝดเวิลด์เทรด
เซ็นเตอร์ พังถล่ม ฟิชเชอร์ประกาศอย่างสะใจผ่านวิทยุฟิลิปปินส์ว่า
"ช่างเป็นข่าวที่ยอดเยี่ยมจริงโว้ย ข้าขอสรรเสริญวินาศกรรมครั้งนี้
ข้าอยากให้สหรัฐอเมริกาถูกลบหายไปจากแผนที่โลก"
เมื่อ 13 ก.ค.ที่ผ่านมานี่เองครับ ฟิชเชอร์วัย 61 ปี ถูก ตม.
ญี่ปุ่นจับคาสนามบินขณะจะเดินทางไปกรุงมะนิลา ว่ากันว่าญี่ปุ่นได้รับ "ใบสั่ง" จากสหรัฐฯ
ให้ส่งตัวฟิชเชอร์กลับในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งกลุ่มผู้สนับสนุนฟิชเชอร์ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งเนรเทศของ
รมว.ยุติธรรมญี่ปุ่น แต่ไม่เป็นผล
นางมิโยโกะ วาตาอิ ประธานสมาคมหมากรุกของญี่ปุ่นวัย 59 ปี
ซึ่งตกหลุมรักและอยู่กินกับฟิชเชอร์อย่างลับๆมากว่า 4 ปี
ก็วิ่งเต้นจะแต่งงานกับฟิชเชอร์เพื่อให้เขาได้สัญชาติญี่ปุ่น แต่รัฐบาลก็ไม่อนุมัติ
หลายคนกังขาว่าทำไมสหรัฐฯเพิ่งมาซิวฟิชเชอร์ ทั้งที่ปล่อยลอยนวลมาตั้ง 12 ปี
คำตอบที่เป็นไปได้ที่สุดก็คือ ฟิชเชอร์กำลังเป็น "ตัวอันตราย" ต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ
และนโยบายทำสงครามกวาดล้างผู้ก่อการร้ายทั่วโลก เพราะ "ปากสุนัข"
เที่ยวทำตัวเป็นกระบอกเสียงให้ศัตรูไปทั่ว
และอย่าลืมนะครับว่า พวกยิวมีอิทธิพลอย่างสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ มาทุกยุคสมัย เมื่อฟิชเชอร์
"ซ่าเกินพิกัด" ปานนี้ จะปล่อยไว้ไม่ได้ ส่วนไอ้หัวโขน "วีรบุรษ"
นั่นน่ะมันคืออดีตไปแล้ว!!!
|
โดย : ผ่านมา [ 30/08/2004, 08:21:36 ] |
15
ยอดมากครับ ฟิชเชอร์จงเจริญ!!!! |
โดย : ,hkg:HdgTk;N [ 30/08/2004, 11:10:43 ] |
17
จากข่าวสด 11 มีนาคม 2548
บทความเรื่อง 10 ตำนานกีฬา สุดยอด "คู่กัด" แห่งวงการกีฬาโลก
ในวงการกีฬามีผู้แพ้ย่อมมีผู้ชนะและนั่นนำมาซึ่งการขับ
เคี่ยวของ2 ฝัก 2 ฝ่ายอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
และต่อไปนี้คือการคัดเลือก 10 คู่ปรปักษ์ในวงการกีฬา
ที่คัดเลือกว่าสุดยอดที่สุด โดยเป็นการพิจารณาคัดสรรจากหนังสือ
พิมพ์ "เดอะการ์เดี้ยน"
มีใครเป็นใครบ้างทัศนาตามสะดวก
1.ฟิชเชอร์-สปาสสกี้
ในช่วงทศวรรษที่70 ในขณะที่ "ริชาร์ด นิกสัน " ยังดำรง
ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ส่วนโซเวียตรุสเซีย ก็มี "เบรซเนฟ"
เป็นผู้นำประเทศเป็นช่วงเวลาแห่งความตึงเครียด หมากรุกเป็น
กีฬายอดนิยมในแดนหมีขาวและสุดยอดนักวางหมากในยุคนั้นไม่มี
ใครเกินหน้าแชมป์โลก "บอริส สปาสสกี้" แต่ในปี 1972 "บ็อบบี้
ฟิสเชอร์ " หนุ่มวัย 29 จากชิคาโกกลายเป็นผู้เล่นคนแรกนอกสห-
ภาพโซเวียตที่สามารถเอาชนะสปาสสกี้ไปได้อย่างน่าทึ่ง เป็น
คู่แข่งขันจากสองประเทศที่เป็นคู่ปรปักษ์ซึ่งมีความสามารถทัด
เทียมกันอย่างยิ่ง
..............................................
ตอนเห็นบทความนี้นั่งอ่านไล่ขึ้นมาจากอันดับสิบเพราะนึกว่าจะอยู่
ท้ายๆๆ และคิดว่าน่าจะเป็นคู่ของคาสปารอพกับคาร์ปอพมากกว่า
ส่วนอันดับอื่นๆๆ ใครสนใจก็ลองไปหามาอ่านดูนะครับ ข่าวสด
เล่มนี้ยังมีบทความเขียนถึงเทศกาลกีฬาไทยที่สนามหลวงด้วย
มีภาพประกอบการแข่งหมากรุกไทยเป็นคู่ของ ธงชัยอั้นสมศรีพบ
กับชาติวลลภ เลิศลาภสหชัย ปีนี้สื่อหนังสือพิมพ์ให้ความสนใจ
กับเทศกาลนี้ดีทีเดียว
มีบทความเก่าที่เขียนถึงฟิชเชอร์อีกในมติชนสุดสัปดาห์
อ่านได้ที่นี่http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=04116100947&srcday=2005/03/11&am
p;search=no |
โดย : ขุนสันต์ [ 12/03/2005, 02:24:06 ] |
20
เอ๊ะ ใครมาเจือกล่ะนี่ |
โดย : ... [ 28/11/2005, 19:35:06 ] |
21
อืม เขาเก่งจริงๆนะครับทางด้านหมากรุกนี้ แต่ท่านิสัยเขาดีกว่านี้หน่อยเขาคงจะได้อยู่อย่างมีความสุข
เออออออออ จะดีใจหรือเสียใจดีล่ะ ...............................! |
โดย : คิงครับ [ 29/11/2005, 07:01:06 ] |
|
|
|
E-mail: webmaster@thaibg.com |
Copyright 2002-2024@www.ThaiBG.com (Thailand), All Rights Reserved |
|
|
|
|