ผมชอบกีฬาหมากรุกเป็นชีวิตจิตใจ
เคยนั่งเล่นหมากรุกตั้งแต่รับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยไปจนถึงรุ่งสาง
เมื่อมีการแข่งขันหมากรุกระหว่างประเทศ ก็เฝ้าติดตามชนิดเกาะติด ทุกวันนี้ เมื่ออ่าน The Financial
Times ฉบับวันเสาร์-อาทิตย์ คอลัมน์หมากรุกเป็นคอลัมน์แรกที่เลือกอ่าน ความข้อนี้รวมถึงนิตยสาร The
Spectator ด้วย
ผู้คนที่คลั่งไคล้กีฬาหมากรุก คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักบ็อบบี ฟิชเชอร์
ผมเองนอกจากจะชื่นชมอัจฉริยภาพด้านหมากรุกของฟิชเชอร์แล้ว
ยังมีโอกาสพัฒนาทักษะการเล่นหมากรุกด้วยการอ่านหนังสือที่ฟิชเชอร์แต่งอีกด้วย ผมเข้าใจว่า
ฟิชเชอร์เขียนหนังสือหมากรุกเพียง 2 เล่ม อันได้แก่ Bobby Fischer Teaches Chess (1966) และ My 60
Memorable Games (1969) แต่มีผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับฟิชเชอร์นับสิบเล่ม
ฟิชเชอร์ชอบเก็บตัว และมีปัญหามนุษยสัมพันธ์ เข้ากับคนอื่นมิได้ เมื่อเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษา
ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน และหันไปเอาดีในการเล่นหมากรุก จนได้ตำแหน่งชนะเลิศ U.S. Junior Championship
ในปี 2499 ต่อมาจึงเขยิบขึ้นเป็นเล่นกับนักหมากรุกชั้นยอด เกมการแข่งขัน Fischer v Donald Byrne ในปี
2499 ได้รับยกย่องว่าเป็น The Game of the Century ในที่สุด
ฟิชเชอร์ก็ได้ครองตำแหน่งชนะเลิศหมากรุกแห่งสหรัฐอเมริกาในปี 2501
และมีสิทธิที่จะเข้าแข่งขันชิงชนะเลิศระดับโลก
ฟิชเชอร์หายไปจากสังคม 20 ปี แต่ทนกลิ่นเงินกลิ่นทองมิได้
โผล่ขึ้นมาแข่งหมากรุกกับสปาสสกีคู่ปรับเก่าอีกในปี 2535 โดยมีการประโคมข่าวว่า เป็น Revenge Match of
the 20th Century ด้วยเหตุที่การแข่งขันจัดในยูโกสลาเวีย และยูโกสลาเวียถูกสหประชาชาติคว่ำบาตร
(Sanction) ในฐานก่อสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ฟิชเชอร์ได้รับจดหมายเตือนจากกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกาในเรื่องนี้
เพราะการเข้าไปแข่งขันหมากรุกในยูโกสลาเวียโดยรับเงินรางวัล ถือเป็นการประกอบพาณิชยกรรม
อันมีความผิดทางอาญา
โทษทางอาญามิอาจยับยั้งฟิชเชอร์ได้ แต่การแข่งขันที่เรียกว่า Revenge Match of the 20th Century
จืดชืด ไม่ตื่นตาตื่นใจ เพราะคู่แข่งขันเลยวัยปราดเปรื่องและเรื้อเวที