สมมติว่ามี 4 คน A, B, C, D ได้ 5/7 คะแนนเท่ากันหมด
A ชนะ B ชนะ C แต่ไม่ได้เล่นกับ D เพราะฉะนั้น A มี Direct Encounter Tie-break 2 คะแนน
B เสมอ C แต่ไม่ได้เล่นกับ D เพราะฉะนั้น B มี DE Tie-break 0.5 คะแนน
C เสมอ D เพราะฉะนั้น C มี DE Tie-break 0.5 คะแนน
ส่วน D มี DE Tie-break 0 คะแนน
ในกรณีนี้ทุกคนไม่ได้พบกันหมด แต่หากให้แข่งเพิ่มเพื่อ"ซ่อม"เกมที่ไม่ได้พบกัน
เกมที่เพิ่มขึ้นมาก็ไม่สามารถทำให้ B, C หรือ D มีคะแนน DE Tie-break มากกว่าของ A ได้ ดังนั้น A
จึงเป็นผู้มีอันดับตามสูงสุด Direct Encounter
โดย : FatCat [ 25/06/2012, 23:13:47 ]
ความคิดเห็นที่ : 2
ต้องเพิ่มอีก B ชนะ D ดังนี้
สมมติว่ามี 4 คน A, B, C, D ได้ 5/7 คะแนนเท่ากันหมด
A ชนะ B ชนะ C แต่ไม่ได้เล่นกับ D เพราะฉะนั้น A มี Direct Encounter Tie-break 2 คะแนน
B เสมอกับ C และชนะ D เพราะฉะนั้น B มี DE Tie-break 1.5 คะแนน
C เสมอ D เพราะฉะนั้น C มี DE Tie-break 0.5 คะแนน
ส่วน D มี DE Tie-break 0.5 คะแนน
ในกรณีนี้ทุกคนไม่ได้พบกันหมด แต่หากให้แข่งเพิ่มเพื่อ"ซ่อม"เกมที่ไม่ได้พบกัน
เกมที่เพิ่มขึ้นมาก็ไม่สามารถทำให้ B, C หรือ D มีคะแนน DE Tie-break มากกว่าของ A ได้ ดังนั้น A
จึงเป็นผู้มีอันดับสูงสุดตาม Direct Encounter
โดย : Teamwork [ 26/06/2012, 00:27:32 ]
ความคิดเห็นที่ : 3
ค.ห. ที่ 1: ผิดครับ...
D มี DE Tie-break 0.5 คะแนน จากการแข่งกับ C; แต่ไม่ได้เล่นกับ A และ B...
จึง "เป็นไปได้" ว่า D อาจจะได้คะแนน DE Tie-break เพิ่มอีก 2 คะแนน (รวมเป็น
2.5) หากได้เล่นกับ A และ B (และชนะ)...
โดย : Poompat [ 28/06/2012, 01:57:28 ]
ความคิดเห็นที่ : 4
เฉลย:-
-- เป็นไปได้" ว่า B หรือ C จะมี DE Tie-break เท่ากับ A (คือ 2 แต้ม) หาก (สมมติ) ว่า B แข่งกับ C
แล้วมีผลแพ้-ชนะ
-- อย่างไรก็ตาม โดยไม่ต้องพิจารณาถึง "ความเป็นไปได้" ของเกมระหว่าง B กับ C เลย,
เราก็สามารถสรุปให้ A ได้อันดับ 1 ในระหว่าง 4 คนนี้ ได้เลย >>> เพราะ A ชนะ B ชนะ C มาแล้ว
[= คือแม้ว่า B หรือ C จะได้ 2คะแนน DE Tie-break เท่ากับ A ก็ตาม แต่ A ก็เหนือกว่าทั้ง B หรือ C]