วันนี้ กลับมาถึงน่านแล้วครับ เริ่มสอนต่อเลยในตอนเย็น วันนี้นัด นร มาเรียน มากันไม่ครบ อาจเพราะแจ้งกะทันหัน มีหนูทีซี มาเรียนคนเดียว อ้อ มีนักหมากฮอสรุ่นจิ๋ว มาแจมด้วยอยากเล่นหมากรุก น้องหงส์ กะน้องริว คู่หูดูโอ หงส์ แอน ริว new duo kids in town 555
1
ยังไม่เอารูปลง ติดไว้ก่อนนะ พึ่งกลับมาถึงบ้านตอนบ่าย เหนื่อยๆอยู่ วันนี้สอนหนูทีซีคนเดียวไปเต็มที่เลย เด็กคนนี้ เป็นคนแรกๆที่ผมเคยแนะนำหมากรุกไทยให้แบบไม่เป็นทางการ แต่มีเวลาเทรนนิ่งให้น้อยที่สุด มีความสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก และยังเล่นเปียโน อีก จึงมีเซนส์ทางการเรียนรู้สูง เมื่อมาฝึกหมากรุกไทย ผมจึงแนะเบสิคให้และระบบในการฝึก โดยเชื่อมโยงกับองค์ความรู้เดิมที่เด็กมีอยู่
2
เด็กมีความคิดอ่านค่อนข้างดีอยู่แล้ว แต่ไม่รู้จักเบสิค และระบบของหมากรุกจึงดูการเดินออกแนวมั่วๆ แต่ผมสังเกตเห็นว่า เมื่อทีซีเดินพลาด เค้า สามารถเอ๊ะใจ และรู้ตัวได้เองในบางจังหวะโดยไม่ต้องบอก ซึ่งเป็นจุดเด่นในตัวน้องเค้าซึ่งผมมองเห็นตั้งแต่รู้จักกันในครั้งแรกแอบคิดในใจไอ้หนูคนนี่นี่สำมะคัญ ถ้าจับมาปล่อยให้วาดลวดลายในสนามจะเป็นอย่างไรหนอ สำนวนหนังจีนกำลังภายในเค้าว่า ช้างเผือกอยู่ในป่า ม้าป่า คือม้าป่า เกิดในป่าโตในป่า ตายก็ตายในป่า ยอดอาชา ปะปนอยู่กับอาชาทั่วไป ม้าป่าไม่ใช่ม้าแข่ง ถ้าอยากเป้นม้าแข่ง มันก็อยู่ที่การฝึก
3
โดยส่วนตัวแล้วผมมีความเห็นเฉพาะตัวว่า สังคมไทยไม่ค่อยให้คุณค่ากับระบบการฝึกฝน พัฒนาตนอย่างเป้นระบบแบบมืออาชีพ ตลอดจนถึงการโปรโมท ยกระดับ พัฒนา ฝีมือของบุคลากรในวงการต่างๆ ไม่ใช่เฉพาะด้านหมากรุกอย่างเดียว ขอยกตัวอย่างอย่างเช่น ยอดเซียนหมากรุกไทยในอดีตหลายๆท่าน ที่ยังอยู่และล่วงลับไปแล้ว จะมีชื่ออยู่ในวงการแคบๆเท่านั้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นทำไมนักหมากรุกสากลถึงได้รับการยอมรับในระดับประเทศหรือสากล หรือ ถ้าในวงการดนตรีไทย ครูบุญยงค์ เกตุคง ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งมีความรู้ความสามารถทางดนตรีไทยชนิดหาตัวจับยาก จนถึงระดับอัจฉริยะ แต่ชีวิตความเป็นอยู่ส่วนตัวกลับอาภัพ คล้ายๆกับแวนโกะ นั่นแหละครับ น่าเสียดายในภูมิปัญญา ความรู้ความสามารถ ของบุคคลระดับนี้ บางทีสำนวนปิดทองหลังพระนี่ผมว่า มันก็ต้องเลือกเอามาใช้เหมือนกัน
4
วันนี้ 16 พย 53 วันอังคาร ตอนเย็น มีเด็กนร มาติดต่อ เรียนหมากรุก เพิ่มเติม มีน้องพัด หายหน้าหายตากันไปเป็นสัปดาห์ และน้องหงส์ ริว นร ป5 ป3 นักหมากฮอสจิ๋ว สนใจมาเรียนต่อ คงสนุกติดลมอ่ะดิ 555 เลยจัดให้น้องพัดเทรน น้องริว ให้ฝึก ไล่เรือ กับ 3 เบี้ย ลองดูดิว่าทำได้อ่ะป่าว พัดอยู่ม 6 ริว อยู่ป3 ช่วยกันไล่หนี ตอนนี้พัดไล่ได้คล่องแล้ว มีหลุดบ้างเล็กน้อย ตรงลูกรายละเอียด ถ้าไม่คิดดีๆจะเลยผ่านไป เลยเติมเรื่องรายละเอียดในการไล่และหนี ถึงแม้จะทำได้แล้วก็ต้องซ้อมต่อให้เข้าใจ ต้องเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่ให้เสียจังหวะ น้องริวเห็นตุ๊ต๊ะยังงั้น ไล่เรือได้จัดมากไล่ไปคุยโม้ไปขำกลิ้งกันรอบวง
5
น้องหงส์ ตามมาสบทบทีหลัง อยากเล่นมั่ง ต้องการเล่นตัวเต็มเลยจัดให้ ไปอัดกับเจ้าหนูริว เดินไปแซวกันไป ขำกลิ้งกันรอบวง ส่วนผมก็เลยซ้อมให้น้องพัดเล่นกันไป3แผ่นได้ ก็แนะแต้มน้องเค้าไป แถมอธิบายต่อไปอีกว่า ต้องแยกแยะรายละเอียดในการเล่น การเรียน การเล่น การซ้อมหรือการฝึกมันไม่เหมือนกัน เด็กเล่นอยากจะเล่นสนุกกันอย่างเดียว มาถึงก็เล่นตัวเต็มเลย อย่างนี้เรามองว่ามันจะเสียเวลาในการเรียนรู้ไปมาก และไม่ได้เรียนรู้หมากรุกจริงๆ เพราะตัวเราก้เติบโตมาในระบบแบบนี้ คือโตมาในซุ้ม ครูพักลักจำมาในตอนเด็กๆ จนได้มาเจออาจารย์จริงๆ ก็ตอนรุ่นๆแล้วสมัยเรียน ปตรี เปรียบเทียบได้ชัดเจนเลยว่า ฝึกแบบมวยวัด กลับมีโคชแล้วมันแตกต่างกันมาก การมีครูคอยชี้นำและแนะนำ ช่วยทุ่นเวลาในการเรียนรู้ไปอย่างมหาศาล บางครั้งการฝึกเอาคนเดียวบางทีมันหลงทิศหลงทางหลงหูหลงตาไป เราก็ไม่รู้ตํว แถมติดนิสัยผิดๆมา ต้องมาปรับแก้กันอีก วุ่นวายกันใหญ่
6
โดยส่วนตัวเราแล้ว เริ่มเล่นหมากรุกจริงจัง ก้ตอนอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว โดยก่อนหน้านั้นก่อนจะออกมาเล่นนอกมหาวิทยาลัย ก่อนได้เจอเซียนหลายๆคนในซุ้ม เราเองก้เล่นสนุกๆกับเพื่อน ปลายกระดานพื้นฐาน เราพอเป็นมาบ้างแล้วหลายๆรูป คือจำเอาจากตอนเด้กๆ และซื้อหนังสือมาอ่าน ก็เล่นสุสีกับเพื่อน ชนะเป้นส่วนใหญ่ จนขยับออกมาเล่นที่ส่วนกลางของมหาวิทยาลัย คราวนี้ได้เจอรุ่นพี่ของมหาลัยหลายๆคนทั้งชาย และหญิง บางคนก้เป็นนักกีฬาด้วย แรกๆก็สู้ไม่ได้เพราะเราไม่รู้ทฤษฎี หลักการต่างๆ อาศัยความเห็นอย่างเดียว ก็ได้คนนี้ คนนั้น ต่อเติมให้มั่ง เริ่มรู้จักเบี้ยนอกเบี้ยใน ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยได้ยิน ก้กินมั่วพังเบี้ย แลกออกให้ตัวขึ้นได้เท่านั้น เริ่มเดินเบี้ย จากพี่อี๊ด แพทย์ มช ปี5 ตอนนั้น เราเองก็ปี3 ได้ยินเบี้ยนอกเบี้ยในครั้งแรกก้คราวนั้นเอง ปี 2540 พอดีลอยตัวค่าเงินบาท ไม่กระเทือนมาก วันๆเรียนกกับเล่นหมากรุก กินข้าวในมหาลัย ถูกๆ การนั่งเล่นหมากรุกช่วยประหยัดเงินไปได้มาก แต่ไม่ประหยัดเวลานะครับ คุณหนูๆต้องแยกแยะเวลาให้ถุก กับมาต่อ จุดเปลี่ยนสำคัญต่อมา คือเจอพี่ป โท 2 คน ขอสงวนนามล่ะกัน เอ่ยไปได้ร้องอ๋อกันทั้งประเทศไทยแน่555
7
จำได้ว่า อัดพี่ป โท คนแรกไป หลายแผ่น ก็สูสีกันมีแพ้ชนะ เสมอคละๆกันไป พี่ปโท เลยโทรไปชวนเพื่อนอีกคนมาเพราะแผ่นหลังๆแกแพ้เป็นซะส่วนใหญ่ ยังจำได้ บอกเพื่อนแกว่า ให้ตามมาที่ชมรมกีฬาในร่ม ใต้ อมช ด่วน มีน้องป ตรี คนนึงเล่นหมากรุกเก่งมาก หมายถึงเรา เราเองนั่งพองลมปากอยู่ตรงนั้น คราวนี้พอพี่ปโทคนที่สองมา เล่นแต้มเท่ากันเลย คราวนี้แพ้ขาดลอย หนังคนละม้วน ผิดฝาผิดตัว ผิดฟอร์ม จนเสียศูนย์ไปเลย ม้าโยงขวาบังคับ พึ่งได้ยินเป็นครั้งแรก ยังงี้มันมีด้วยหรือ พี่คนแรกวิจารณ์เราว่าน้องนี้ถ้าเอามาฝึกดีๆ เอามาเป็นตัวมหาวิทยาลัยได้เลยนะ พี่คนที่สอง ก้สวนมาว่า เดินยังไม่ดี ยังไม่รู้จักรุปเบี้ย แต่ไอ้นี่มันเดินโคนเป็น
8
เราเองก้นั่งฟังไปฉุนกึ้ก อยู่ในใจ อะไรว่ะ มาว่าเราเล่นหมากรุกไม่เป้น ก้เล่นมาตั้งแต่เป้นเด้ก จนโตล่ะนี่ยัง ไม่เป้นอีกหรือ แปลกใจ เบี้ยคว่ำนี่นะมันมีรูปด้วยหรือ อือ แต่ยังดีได้รู้ว่าเราเดินโคนเป้น พอมาถึงวันนี้ นึกขึ้นมาทีไรยังขำตัวเองไม่หาย พี่แกไม่ได้ดูถูกเราหรอกน่าขอบใจแกด้วยซำ้ที่วิจารณ์กันตรงๆ ไม่งั้นคงโง่ไปอีกนาน หลงทางไปอีกมาก คิดๆดูแล้วเล่นหมากรุกมา10กว่าปีตอนเป้นเด็กไม่ได้เรียกว่าเล่นหมากรุกเป้นเลยจริงๆดิให้ดิ้นตาย คือมันเป้นภาพลวงตา เราเล่นไม่เป้นเล่นกับคนไม่เป้น ก้เลยไปกันใหญ่ ธรรมดา มันก้ต้องมีแพ้ ชนะ เสมอ อยุ่แล้วผลลัพธ์ มันก็มีแค่นี้ แต่เราก็จำมาแบบผิดๆ พอมาเจอคนที่เค้ารุ้เรื่องมากกว่า มันก้เลยเละเป้นโจ๊กไปยังงั้น ก็เล่ามาให้เป็นอุทาหรธ์ แก่เด็กๆ และเยาวชนรู่นหลัง เอาความโง่ของตัวเองออกมาขาย เพราะเล็งเห็นว่าน่าจะเป้นประโยชน์กลับใครอีกหลายๆคน
วันนี้ กลับมาถึงน่านแล้วครับ เริ่มสอนต่อเลยในตอนเย็น วันนี้นัด นร มาเรียน มากันไม่ครบ
[ 15/11/2010, 21:27:51 ] 
เด็กมีความคิดอ่านค่อนข้างดีอยู่แล้ว แต่ไม่รู้จักเบสิค
โดยส่วนตัวแล้วผมมีความเห็นเฉพาะตัวว่า สังคมไทยไม่ค่อยให้คุณค่ากับระบบการฝึกฝน
น้องหงส์ ตามมาสบทบทีหลัง อยากเล่นมั่ง ต้องการเล่นตัวเต็มเลยจัดให้ ไปอัดกับเจ้าหนูริว 
โดยส่วนตัวเราแล้ว เริ่มเล่นหมากรุกจริงจัง ก้ตอนอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว
จำได้ว่า อัดพี่ป โท คนแรกไป หลายแผ่น ก็สูสีกันมีแพ้ชนะ เสมอคละๆกันไป พี่ปโท