[ กลับหน้าหลัก ]

หมากรุกนั้นเก่งยากจริงหรือ

หมากรุกไทย เป็นการเล่นซึ่งแต่โบราณ เริมจากชั้นเจ้าพระยาแม่ทัพนายกอง เปรียบการเล่นเหมือนสงคราม
เข้าต่อสู้กัน ต่อภ่ยหลังได้แพร่หลาย
ปัญหาการเล่นหมากรุก ให้เก่งนั้น ยากจริงหรือ
สำหรับหมากรุกสากล มีหลักการสอน และถือว่า การเรียนรู้และฝึกฝน จะมีความสามารถเหนือกว่าพรสวรรค์
คำว่าพรสวรรค์ สำหรับผู้ที่ไม่เก่งทางนั้น ก็กล่าวว่าเราไม่มีพรสวรรค์ คนนี้เก่ง(หมากรุกไทย)
เขามีพรสวรรค์ จึงเก่ง ปัญหาจึงเกิดขึ้นว่า
1.คำว่าพรสวรรค์ หมายถึงอะไร
2. เราสามารถสร้างพรสวรรค์ ได้หรือไม่
3. การเรียนรู้และฝึกฝน เหนือกว่าพรสวรรค์ จริงหรือ
4. คำว่าศิษย์สู้ครู หมายความว่าอย่างไร
5. คำว่า ความรู้เรียนเท่าทันกันหมด เชื่อหรือไม่
ผมอยากจะให้นักหมากรุกได้แสดงความคิดเห็นในปัญหาทั้ง ห้าข้อที่กล่าวมานี้
ซึ่งเป็นเรื่องที่จะเข้าใจและวินิจฉัยได้ว่า เล่นหมากรุกนั้นเก่งยาก จริงหรือ

โดย : *นคร Member - [ 29/10/2009, 15:52:58 ]

1

ศิษย์สู้ครูนี่น่าจะจริง

ครูผมเคยสอนให้ตั้งแต่ลดเรือสองลำ

จนเดี๋ยวนี้แต้มเท่า

บางทีผมก็เบียดเอาชนะได้บ่อยๆ




อ่อครูผมเคยเล่นกะเซียนแหว่ง

เซียนแหว่งลดเม็ดให้

เห็นสู้กันได้อย่างสูสี

โดย : แมวอมยิ้ม Member   [ 30/10/2009, 09:22:13 ]

2

คำกล่าวของคนสมัยเก่า เข่น เรื่องศิษย์สู้ครู เป็น จากการเรียนรู้จากครู
ก็จะมีความสามารถขึ้นจนทัดเทียมกับครูและอาจเหนือครู ฉะนั้น
บางครั้งครูจึงเก็บไม้ตายบางอย่างไว้ปราบศิษย์ (เผื่อกรณี ศิษย์คิดล้างครู)นอกจากนี้ยังมีคำ วัดรอยเท้า
คือการพยายามทดสอบว่าตนเองมีความสามารถ สู้ได้จึงกลับมาท้าต่อสู้ด้วย
การทีจะมีความสามารถให้ทัดเทียมเท่ากับครู ก็ต้องพิจารณาว่า ครูมีพื้นฐานความรู้ความสามารถเพียงใด
ถ้ามีความสามารถไม่มาก ศิษย์ก็จะทัดเทียมและเหนือกว่าได้ แต่ถ้าครูมีความสามารถมาก
ศิษย์ก็จะเรียนรู้ให้ทัดเทียมยาก อย่างครูของแมวอมยิ้ม เล่นกับเซียนแหว่งลดเม็ด สูสีกันนั้น
หากตั้งใจเรียนรู้จับทาง ไม่นานก็จะลดให้ไม่ได้ แต่ถ้าเล่นไม่ได้จำแต้มของเซียนแหว่งมาแก้ไข
ก็ไม่อาจประเมินได้ว่าจะสู้ได้แน่หรือไม่
การเรียรู้ จะต้องจดจำแต้มของครู และลองเอาไปใช้ ทั้งปรับปรุงแก้ไข แม้จะถูกบ้างผิดบ้างก็ไม่เป้นไร
ต่อไปก็จะถูกเอง และฝีมือก็จะพัฒนาขี้นทัดเทียม หากจะเหนือกว่า ก็ต้องหาครูที่มีความรูมากกว่า
หรือค้นกว้าแต้มเพิ่มเติมจึงจเเหนือกว่าได้
และท่านมีความสามารถสู้ครูได้หรือยัง

โดย : *นคร Member  -  [ 30/10/2009, 11:42:00 ]

3

กรณีไม่มีครูอ่ะครับ..แบบศึกษาเองสามารถพัฒนาได้มั้ยครับ
ซึ่งตรงนี้เองพรสวรรค์จะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ครับ

โดย : ล้อเกวียน Member   [ 30/10/2009, 11:55:49 ]

4

การศึกษาหมากรุก ในความหมายไม่มีครูสอน ของท่าน คือ ไม่มีคนแนะนำ ยอกแต้มและแนวทาง
แต่คำว่าครูความเป็นจริง คนที่ซ้อมและเล่นกับเราซึ่งมีฝีมือเหนือกว่า
ก็ถือว่าเป็นครูเช่นกัน(จะนับว่าเป้นครูหรือไม่ ก็สุดแท้แต่) อีกประการหนึ่ง เราไปเรียนรู้แต้มจากคนอื่น
เช่นเขาเล่นกัน หรือ มีการเล่นแข่งขัน ก็เรียกว่า ครูพักลักจำ
มาว่ากันถึงการศึกษาเอง ก็สามารถทำได้ เช่น ซื้อตำราหมากรุกมาอ่านและทำความเข้าใจ
เอาไปทดลองใข้และคิดหาทางแก้ไข ดูเขาเล่นกันและจำ หาเกมแจ่งขันมาดู และคิดหาแต้มดูว่าตรงไหนถูก
ตรงไหนผิด และแก้ไข ซึ่งก็ต้องใช้เวลานานมาก กว่าจะพัฒนา
และที่สำคัญต้องไปประมือกับนักหมากรุกระดับฝีมือดีๆ มิฉะนั้นก็จะมีฝีมือสูงในระดับหนึ่ง
ซึ่งหากพิจารณากันแล้ว นักหมากรุกแขมป์ต่างจังหวัด หากยังไม่เข้ามาทดลอบกับนักหมากรุกในกรุงเทพ
ย่อมต้องเป้นรอง
ส่วนพรสวรรค์ คุณเข้าใจอย่างไร ในความหมายของคุณ คือ ผู้ที่เก่ง จึงว่าเขามีพรสวรรค์ (ยังไม่เก่ง
ก็ถือว่าไม่มีพรสวรรค์)
คุณคงเคยได้ยินว่า พรสวรรค์ สู้ พรแสวงไม่ได้
การเรียนจะช่วยให้มีความรู้รวดเร็ว แต่ศึกษาเองก็ต้องใช้ความพยายามและตั้งใจ และใช้เวลามาก
แต่จะประสบผลแค่ไหนคงตอบไม่ได้ (ลองเทียบการเรียนถ้าอ่านหนังสือเอง กับมีครูสอน ผลจะเป็นอย่างไร)
สรุป ถ้ามีความตั้งใจจริง คุณคงประสบความสำเร็จครับ

โดย : *นคร Member  -  [ 30/10/2009, 15:43:37 ]

5

ขอบคุณมากครับ จริง ๆ แล้วผมก็เห็นด้วยกับอาจารย์ฯ ล่ะครับบว่าพรแสวงนั้นสำคัญกว่าพรสวรรค์ พอดีอาจารย์ฯ
ตั้งประเด็นมาก็เลยร่วมแสดงความคิดเห็นครับ อย่างไรก็ตามผมก็จะพยามยามต่อไปครับ (พยายามใช้พรแสวง)

โดย : ล้อเกวียน Member   [ 30/10/2009, 18:26:57 ]

6

จากกระทู มีผู้สนใจเรื่องศิษย์สู้ครู ส่วนปัยหาอื่น ดูไม่มีใครสนใจ
ซึ่งปัญหาการเล่นหมากรุกให้เก่งนั้น จะเกิดจากการศึกษา และฝึกฝนหาประสบการณืประกอบ
ปัญหาที่เล่นไม่เก่ง เกิดจากสาเหตุใด
ปัญหาแรก ท่านเป็นผู้ชอบเล่นหมากรุก และหวังว่าจะเล่นให้เก่งหรือไม่
มีหลายๆท่าน ที่ชอบเล่นเล่น แต่เล่นไม่เก่ง ก็จะมีข้ออ้างต่างๆ เช่น คิดมากปวดหัว
บางท่านเล่นแล้วนอนไม่หลับหละบแล้วยังเห็นหมากรุกลอยอยู่ในความฝัน
ความจริงแล้ว เมื่อใช้ความคิด สนองก็ทำงาน
ทำให้สมองเหนื่อยล้าเช่นเดียวกับกล้ามเนื้อส่วยอื่ๆที่เราใช้งาน หากเราใช้งานให้เหมาะสม สมอง
หรือกล้ามเนื้อในส่วนที่ใช้งานนั้นก็รับได้ และเมื่อใช้ให้เหมาะสม สมองหรือกล้ามเนื้อนั้นๆ
ก็จะปรับตัวรองรับการใช้งานและพัฒนาให้เหมาะสม จะทำให้ปัญหาดังกล่าวหมดสิ้นไป (เช่นเราออกกำลังยกน้ำหนัก
ยกได้ 30 กิโลกรัม หากยกนานเกินขนาด หรือยกน้ำหนักให้มากกว่า ก็จะทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ ต้องพักการฝึกฝน
และไม่สามารถปรับและพัฒนาให้มีความสามารถยิ่งๆขี้นไปได้)
ท่านมีความคิดเล่นอย่างไร? ...............

โดย : *นคร Member  -  [ 31/10/2009, 07:50:17 ]

7

ก่อนอื่นขบอกก่อนนะครับว่านี่เปนความคิดส่วนตัวครับ 1.พรสวรรค์เปนสิ่งที่มีเฉพาะตัวบุคคล
ซึ่งในแง่ของหมากรุกผู้มีพรสวรรค์ย่อมเรียนรู้ได้เร็วกว่า เข้าใจดีกว่ารู้ตำแหน่งแลโครงสร้างได้รวดเร็ว
2.เราเรียนรู้ได้ก้อจริงแต่จะสู้ได้หรือไม่ล้วนขึ้นอยู่กับผู้สอนและผู้เรียน
3.ผมเชื่อว่าการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดนั่นย่อมหมายความว่า
"การเรียนรู้และฝึกฝนย่อมสามารถทันและก้าวล้ำพรสวรรค์ได้"
และ5.ความรู้ก้อสามารถเท่าทันกันได้แต่ต้องถูกหลักการมิใช่ความคิดที่เอาความเห็นของเราเปนอย่างเดียว(ไม่
เกี่ยวกับการเมืองนะครับเฉพาะหมากรุกอย่างเดียว)
แต่ทั้งหมดนี้ล้วนขึ้นอยู่กับศิษย์กับครูเปนหลัก........

โดย : เงาอโศก Member   [ 31/10/2009, 21:38:53 ]

8

เรื่องพรสวรรค์
ทุกคนมีพรสวรรค์ทั้งนั้น ท่านทราบหรือไม่(ยกเว้นบุคคลผิดปกติ) แต่ส่วนมากไม่รู้
จะรูก็ต่อเมื่อผู้นั้นได้แสดงออกว่า เป็นผู้มีความสามารถเรียนรู้และเก่งตอบุคคลทั่วไป
ซึ่งหลายๆท่านมักจะโทษในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ดีว่า ไม่มีพรสวรรค์และเกิดการย่อท้อ ทั้งๆที่พรสวรรค์
เป็นสิ่งที่ท่านสร้างเองได้ แต่ไม่ได้สร้าง
ท่านก็มีพรสวรรค์ ทราบหรือไม่ว่า พรสวรรค์ของท่านคืออะไร และหากเราต้องการพรสวรรค์ จะทำอย่างไร...
หลายๆท่านช่วยผมด้วย .........................

โดย : *นคร Member  -  [ 01/11/2009, 07:11:57 ]

9

จาก http://www.zheza.com/index.php?a=blog&b=entry&uid=9&eid=4

หลายคนมักน้อยใจว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์ ไม่สามารถทำอะไรได้อย่างคนอื่นเขา ทำไอ้นู่นก็ไม่ดี
ไอ้นั่นก็ไม่เด่น
ว่าแต่พรสวรรค์คืออะไรทำไมต้องอยากมีกันขนาดนั้น? พรสวรรค์อาจจะเป็นเซนส์พิเศษสำหรับบางคน? เช่น
เซนส์ทางด้านศิลปะดี ทำมั่วๆก็ได้งานดีๆแล้วในขณะที่บางคนทำจะเป็นจะตายแล้วก็ไม่ได้ซักที หรือ
พรสวรรค์คือความพิเศษของร่างกายที่ดีกว่าคนอื่น? เช่น
ความยืดหยุ่นของร่างกายดีที่ทำให้เล่นกีฬาได้ดีกว่าคนอื่น
ถ้าพรสวรรค์คือสิ่งที่ทำให้ความสามารถของคนทำได้ดีกว่าคนอื่นๆแบบนั้น
ผู้หญิงที่แข่งกินจุได้มากกว่าผู้ร่วมแข่งขันแข่งกินได้มกกว่าคนอื่นๆ เป็นคนที่มีพรสวรรค์
เค้าสามารถกินหมูย่างเกาหลีรวดเดียว 7 กก.ได้อย่างสบายๆ หมอที่ตรวจร่างกายของผู้หญิงคนนี้ได้บอกว่า
ระบบร่างกายของผู้หญิงคนนี้เผาผลาญได้ดีกว่าคนทั่วไปจึงทำให้กินได้จุ ถ้าแบบนี้ระบบเผาผลาญที่ว่าคือ
พรสวรรค์?

ผมไม่คิดว่าสิ่งที่เรียกว่าพรสวรรค์คือสิ่งที่ทำให้คนประสบความสำเร็จ
ถึงแม้ว่าสิ่งที่เรียกว่าพรสวรรค์มีอยู่จริง หรือ จะบอกว่าคนนั้นเก่งเพราะมีพรสวรรค์
ใครจะไปรู้ว่าเบื้องหลังของคำว่าคนมีพรสวรรค์หลายๆคนมาจากอะไร
คนนั้นอาจจะมุมานะพยายามฝึกฝนจนทำสิ่งนั้นได้โดยเราก็ไม่รู้ก็ได้
ดังนั้นอย่าไปคิดว่าเราไม่มีพรสวรรค์งั้นไม่สู้หรือไม่ทำดีกว่า
โดยส่วนตัวผมคิดว่าคนเราจะทำอะไรซักอย่างสำเร็จไม่ได้มาจากพรสวรรค์ แต่มาจาก "ใจรัก"
จริงๆผมอยากพูดว่า "ใจรัก" ก็คือ "พรสวรรค์"
พรที่สวรรค์ส่งมาให้เราได้รักได้ชอบในการทำอะไรซักอย่าง
แม้คนที่เก่งในงานเขียนขนาดไหนแต่ถ้าหากไร้ซึ่งใจรักมันก็คงไม่มีประโยชน์
ถ้าหากเทียบกับคนที่เขียนไม่เก่งแต่หากมีใจรัก หมั่นฝึกฝน เอาใจใส่ในงาน งานนั้นย่อมออกมาดี
ยกตัวอย่างง่ายๆที่เห็นชัดๆ นั่นคือ TV Champion น้อยคนคงไม่รู้จักรายการทีวีดังของญี่ปุ่นนี้
ในแต่ล่ะครั้งได้มีการแข่งขันสุดยอดคนในแต่ล่ะสาขา มีใครจะบอกผมมั้ยว่าทุกคนที่ออกรายการมีพรสวรรค์ทุกคน
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง คนญี่ปุ่นคงมีสายเลือดที่น่าอิจฉา
แต่หากความจริงสุดยอดคนเหล่านั้นมาจากใจรักทั้งสิ้น
ใจรักที่พยายามทำสิ่งที่ตัวเองชอบพัฒนาตัวเองให้ถึงจุดสูงสุดของสายนั้น
ผมไม่รู้ว่าถ้ามีรายการแบบนี้ในประเทศไทยจะมีคนสุดยอดแบบนี้กี่คน
ซึ่งอันนี้ผมก็ไม่รู้ว่าสุดยอดคนแต่ล่ะแขนงของไทยมีน้อย หรือ เวทีในประเทศไทยไม่เอื้ออำนวย
ถ้าหากเป็นแบบแรกมันก็มีคำถามว่าทำไมถึงมีน้อย ทั้งๆที่เรากับเค้าก็เป็นคนเหมือนกัน
เพราะสิ่งแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย? เพราะประเทศเขามีการแข่งขันสูงกว่าเรา? หรือเพราะเรารักสงบ? แต่ถ้าถามผม
ผมคิดว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับระบบของคนไทย มีอะไรขวางกั้นการที่เราจะทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองชอบ
ไม่กว่าจะเป็นความกลัว ความไม่กล้า ความคิดแบบเดิมๆว่าต้องทำแบบนี้ถึงจะดี
ไปทำอะไรที่ตัวเองชอบก็คงไม่มีอนาคต ผมว่าถ้าสิ่งที่ตัวเองชอบไม่ใช่สิ่งที่ผิดกฎหมาย ไม่ใช่สิ่งเสพย์ติด
ไม่ใช่การพนัน ไม่ใช่ของมัวเมา ผมว่าถ้าเรามีใจรักจริงนั่นก็คือพรสวรรค์ ล่าสุดผมได้ดู TV Champion
ตอนเก่าๆ เช่น สุดยอดนักต่อLEGO ใครจะคิดว่าการต่อ LEGO จะเป็นพรสววรค์? 1
ในผู้เข้าร่วมแข่งขันก็มีอาชีพเป็นผู้บรรยายเกี่ยวกับตัวต่อ LEGO มีการสอนวิธีการต่อให้เด็กๆดู
ถ้าเป็นบ้านเราใครที่ชอบต่อ LEGO ซื้อตัวต่อพวกนี้มาเล่นบ่อยๆ ทางบ้านคงจะตำหนิว่า
โตแล้วยังจะเล่นของพวกนี้อยู่ บางคนก็อาจจะเลิกไป
ผมไม่ได้หมายความว่าให้เลิกเรียนหรือลาออกจากงานมามุ่งทำ LEGO
เพราะคนเราบางทีก็มีหน้าที่ที่จะต้องทำอยู่ มีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ แต่การที่จะเลิกทำสิ่งที่ชอบ
ถ้าสิ่งที่ชอบนั้นไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเองและคนรอบข้าง ก็เป็นสิ่งที่น่าเสียดาย
เพราะซักวันหนึ่งคนๆนั้นอาจจะได้ทำงานดีๆในโรงงาน LEGO ก็ได้ใครจะไปรู้
คนเราถ้ารู้ว่าตัวเองชอบอะไรแล้วถือว่ามีบุญครับ และยิ่งได้ทำงานที่ตัวเองชอบยิ่งมีบุญใหญ่

ถึงตอนนี้ผมก็ยังมีความคิดที่ว่า "คนเราทุกคนฉลาดเท่ากัน แต่ชอบสิ่งที่ไม่เหมือนกัน"ครับ

โดย : กะพงฟ้า Member   [ 01/11/2009, 11:17:14 ]

10

จาก http://www.oknation.net/blog/accharas/2009/10/15/entry-1

วันพฤหัสบดี ที่ 15 ตุลาคม 2552
อัจฉริยะสร้างได้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือพรสวรรค์
Posted by เอกรัศมิ์ , ผู้อ่าน : 373 , 10:25:48 น.
หมวด : การศึกษา
พิมพ์หน้านี้

จากกิจกรรมล่าสุดที่อินเทลได้จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย
มีโอกาสแสดงทักษะ และประกวดความรู้ด้านไอที ในกิจกรรมที่ชื่อว่า ‘ค้นหาอัจฉริยะไอที’ หรือ ‘Find The
Genius’ นั้น เราเดินสายไปทั้งหมด 9 จังหวัดซึ่งรวมถึงกรุงเทพมหานคร โดยมีนักเรียนเข้าร่วมทั้งหมดกว่า
3,000 คน เป็นที่มาของหัวข้อบล็อคของผมในวันนี้


สำหรับท่านที่อาจจะยังไม่ทราบข่าวกิจกรรมนี้ ผมขอเล่าคร่าวๆ
ก่อนนะครับว่าเป็นการแข่งขันประกวดทักษะและความสามารถทางด้านไอที ที่เริ่มตั้งแต่การใช้อินเทอร์เน็ต
การลงซอฟต์แวร์ ไปจนถึงการประกอบฮาร์ดแวร์ ซึ่งเราเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนเริ่มจากชั้นประถมศึกษาปีที่
4 จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เข้ามาประกวด โดยแบ่งเป็น 2 ระดับ
และเราได้ผู้ชนะจากการแข่งขันแต่ละครั้งมาทั้งหมด 18 คน ซึ่งจะมาแข่งรอบชิงชนะเลิศที่กรุงเทพฯ
ในเดือนพฤศจิกายนนี้

ทุกวันนี้ สิ่งที่ผมสังเกตุเห็นและผมคิดว่าน่าสนใจ คือ เด็กที่เข้ารอบและชนะการแข่งขันหลายคน
พัฒนาทักษะจากการฝึกฝนบ่อยๆ การที่ผู้ปกครองเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เรียนรู้เทคโนโลยีตั้งแต่เด็ก
สามารถเป็นจุดเริ่มต้นให้เขามีทักษะและพัฒนาการที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
และสามารถนำความเชี่ยวชาญไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับกฎ 10,000 ชั่วโมง
จากหนังสือที่ผมเพิ่งได้อ่านเมื่อเร็วๆ นี้ คือ Outliers ซึ่งเขียนโดย Malcom Gladwell ซึ่งมีกฎอยู่ 1
ข้อในในหนังสือเล่มนี้บอกว่า เราสามารถที่จะมีความเชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งได้
หากเราใช้เวลากับมันอย่างต่ำ 10,000 ชั่วโมง
ซึ่งตัวอย่างที่ผู้เขียนได้ยกมานั้นล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา
นักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่มีความชำนาญมาจากการให้เวลากับสิ่งนั้น
และใช้เวลาในการพัฒนาทักษะและความรู้ในเรื่องนั้นๆ ให้ลึกและแตกฉาน

ดังนั้น หากเราต้องการให้อนาคตของประเทศ มีบุคลากรด้านไหนมากขึ้น
เราควรจะต้องให้ความสำคัญและทุ่มเทกับเยาวชนของเราให้มากขึ้น
โดยให้เขาได้มีโอกาสได้ฝึกฝนทักษะในด้านนั้นๆ มากขึ้น ผมขอย้ำอีกทีนะครับว่า
ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ การให้เวลากับสิ่งที่เราสนใจ สามารถทำให้เราเป็นอัจฉริยะด้านนั้นๆ
ขึ้นมาได้ครับ

โดย : กะพงฟ้า Member   [ 01/11/2009, 11:24:15 ]

11

จาก http://www.learntripitaka.com/scruple/Itibaht4.html

อิทธิบาท 4
คำว่า อิทธิบาท แปลว่า บาทฐานแห่งความสำเร็จ หมายถึง สิ่งซึ่งมีคุณธรรม
เครื่องให้ลุถึงความสำเร็จตามที่ตนประสงค์ ผู้หวังความสำเร็จในสิ่งใด ต้องทำตนให้สมบูรณ์
ด้วยสิ่งที่เรียกว่า อิทธิบาท ซึ่งจำแนกไว้เป็น ๔ คือ

๑. ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น
๒. วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น
๓. จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น
๔. วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น

ธรรม ๔ อย่างนี้ ย่อมเนื่องกัน แต่ละอย่างๆ มีหน้าที่เฉพาะของตน

ฉันทะ คือความพอใจ ในฐานะเป็นสิ่งที่ ตนถือว่า ดีที่สุด ที่มนุษย์เรา ควรจะได้ ข้อนี้ เป็นกำลังใจ
อันแรก ที่ทำให้เกิด คุณธรรม ข้อต่อไป ทุกข้อ

วิริยะ คือความพากเพียร หมายถึง การการะทำที่ติดต่อ ไม่ขาดตอน เป็นระยะยาว จนประสบ ความสำเร็จ คำนี้
มีความหมายของ ความกล้าหาญ เจืออยู่ด้วย ส่วนหนึ่ง

จิตตะ หมายถึงความไม่ทอดทิ้ง สิ่งนั้น ไปจากความรู้สึก ของตัว ทำสิ่งซึ่งเป็น วัตถุประสงค์
นั้นให้เด่นชัด อยู่ในใจเสมอ คำนี้ รวมความหมาย ของคำว่า สมาธิ อยู่ด้วยอย่างเต็มที่

วิมังสา หมายถึงความสอดส่องใน เหตุและผล แห่งความสำเร็จ เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งๆ
ขึ้นไปตลอดเวลา คำนี้ รวมความหมาย ของคำว่า ปัญญา ไว้อย่างเต็มที่

โดย : กะพงฟ้า Member   [ 01/11/2009, 11:27:50 ]

12

ขอขอบคุณผู้ที่ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นมา ณ.ที่นี้ สำหรับเรื่องพรสวรรค์ ที่กล่าว
ซึ่งผลสรุปของคำว่าพรสวรรค์ในประเด็นซึ่งกล่าวถึง หมากรุกเก่งได้ยากจริงหรือ
หลายท่านที่อ่านข้อความดังกล่าว คงสรุปได้ว่า
เก่งได้ไม่ยาก
จุดแรก คือต้องมีความชอบ เมื่อชอบแล้วจะต้องพิจารณาต่อไปว่า ชอบในลักษณะใด เช่น ชอบเล่นสนุกๆ
ชอบเล่นชนะ(เลือกผู้เล่นที่อ่อนกว่า) ชอบเล่นเพื่อผ่อนคลายโดยใช้ความคิดบ้าง
หรือจะเล่นเพื่อสนุกสนานเฮอากับเพื่อๆเพื่อคุยโม้บ้าง คุยกลกบ้าง คุยเพื่อหยกล้อกัน
ความชอบในลักษณะนี้ จะเล่นไม่เก่ง สำหรับผู้ที่จะเล่นเก่ง ความชอบจะต้องเข้าลึกในหลักการเดิน
ในเงื่อนแง่ต่างๆ คิด จำ และเอามาปรับปรุงแก้ไข หรืออาจจะกล่าวว่าชอบในวิชาการนั้นๆ
ความชอบในหลักการของสิ่งนั้นๆ จึงเป็นฐานที่เกิด
พรวรรค์ จะทำให้ศึกษาหรือเรียนรู้ได้เร็วกว่า
เมื่อได้รับการศึกษาหรือเรียนรู้ในสิ่งนั้นๆ ก็จะเพิมขีดความสามารถ ให้บุคคลอื่นเห็น
และอาจจะกล่าวว่าบุคคลนั้นมีพราวรรค์ (เก่งเฉพาะสิ่งนั้นสิ่งเดียว)
ถ้าบุคคลใด ชอบหลายๆอย่าง และได้รับการศึกษาและลงมือปฏิบัติ ก็ไม่สามารถเก่งสุดยอดได้
เพราะความสามารถได้ถูกเฉลี่ยออกไป การจะได้ความเก่งถึง 2 อย่างในคราวเดียวกัน อาจจะได้
แต่เป็นเรื่องยากมากๆ แต่จะเก่งเป็นพิเศษ 1 อย่าง ส่วนอีกหลายอย่างอนู่ในระดับดี ก็เป็นไปได้
จากที่กล่าวมานี้ คงสรุปได้ว่า พรสวรรค์ เป็นสิ่งที่ชอบในหลักการของวิชานั้นๆ
หากท่านสามารถปรับให้ตัวเองหันมาชอบ ก็จะมีพรสวรรค์ในสิ่งนั้นๆเช่นกัน แต่อย่างไรก็ดี
ต้องประกอบกับพรแสวงด้วย เพราะพรแสวงจะเหนือกว่าพรสวรรค์ ผู้ มีพรสวรรค์ หากไม่แสวง
ก้ไม่สามารถพัฒนาสู้ได้ เช่น นักหมากรุกในเมือง ย่อมเก่งกว่า นักหมากรุกต่างจังหวัด เพราะในเมือง
มีการเล่นมากปละมีผู้มีฝีมือมาก
สุดท้ายนี้ คือ ท่านทำได้ ถ้าอยากทำ
จะได้แค่ไหนก็อยู่ที่ท่านจะให้ความชอบและความสนใจในสิ่งนั้นๆเพียงไร
สวัสดีครับ

โดย : *นคร Member  -  [ 02/11/2009, 07:07:14 ]

13

ของพระคุณอาจารย์นครมากครับ ในความคิดเห็นที่ 12 ให้ความเข้าใจได้ชัดเจนดีมาก
ความเห็นเหล่านี้มาจากประสบการณ์ที่สรุปออกมาให้เห็น จึงไม่เป็นที่สงสัยเลย

โดย : ทรงพล Member   [ 02/11/2009, 09:49:40 ]

14

ขอบพระคุณอาจารย์นครมากนะครับ


ท่านอาจารย์ตอบได้เคลียร์มากครับ

ลองคุยประเด็นอื่นๆกันมั่งดีกว่าครับ



โดย : แมวอมยิ้ม Member   [ 02/11/2009, 15:36:04 ]

15

กระทูที่ตั้งมานี้ หลายๆท่านคงจะเข้าใจได้ว่า หมากรุกไทยเก่งไม่ยาก ขึ้นอยู่กับตัวของท่านเอง
การศึกษาเรื่องหมากรุกไทยให้เก่งนั้น ต้องแบ่งการฝึกฝน 3 ส่วน
ส่วนแรก รูปหมาก ซึ่งนิยมเล่นกัน คือ ม้าโยง(ขวา) ม้าเทียมรถ(ม้าเทียม) ม้าซ้ายและม้ามังกร
ส่วนปลีกย่อยก็มีม้าอุปการ(ซ้าย หรือชวา) บางทีก็เรียกม้าขางกระดาน
การเล่นฝ่ายใดจะใช้รูปหมากใด และอีกฝ่ายจะใช้รูปหมากใดเข้าประกบ
ส่วนที่สอง คือ หมากกลางกระดาน
ส่วนที่สาม คือ หมากปลายกระดาน
การฝึกฝนหมากรุกไทย ได้เคยให้ความเห็นว่า ควรเริ่มจากหมากปลายกระดาน ซึ่งจะเก่งช้า แต่มั่นคง
ส่วนการฝึกจากต้นกระดานเก่งเร็วแต่ก้าวหน้าต่อไปช้า
ท่านได้ศึกษา ครบถ้วนทั้ง 3 ส่วน หรือยัง และมีความเห็นในแต่ละส่วนอย่างไร ...................

โดย : *นคร Member  -  [ 03/11/2009, 00:13:55 ]

16

หมากปลายกระดาน

หมายถึงฝึกหนีฝึกไล่เหรอครับ

ผมมีปัญหาสำหรับตัวเองแบบนี้นะครับ

คือไม่มีวิญญาณเพชฌฆาต

เป็นคนที่จำเก่งมาก

แต่อะไรที่นอกเหนือการจำ (เช่นรูปแบบต่างๆที่ต้องเอาไว้ใช้ในกรณีๆไป)

จะทำอะไรไม่ค่อยถูกเลย
ใจร้อน

ครูผม (คนที่เคยให้เซียนแหว่งลดเม็ดให้)

ครูบอกว่าหมากรุกมีแค่ดูว่า

"เขาเดินอะไรเดินเพื่ออะไร"

เราเดินอะไรเดินเพื่ออะไร

ครูสอนแค่นี้ครับ

แกบอกว่าเคล็ดหมากรุกมีแค่นี้


ผมก็ฝึกตามแกบอก


ซึ่งก็ไม่เก่งสักที

ตอนสมัยอายุยี่สิบต้นๆถือว่าแต้มพุ่งมากนะครับ

ตอนนี้สามสิบกลางๆ

ดูเหมือนฝีมือมันหล่นๆไปไงไม่รู้

อีกอย่างสาระการเล่นก็เปลี่ยนไปด้วยครับ

แต่ก่อนเล่นเอาชนะ

เดี๋ยวนี้เอามัน


ทั้งๆที่ความอยากชะก็มีเหมือนก่อน

แต่แพ้ก็ไม่เป็นไร

เมื่อก่อนแพ้นี่จำได้ติดตาเลย

หลับยังฝันเห็นตาที่แพ้นั่นเลยครับว่าพลาดตรงไหน

เดี๋ยวนี้แพ้พอเล่นตาใหม่ก็ลืมแล้ว




ทำไมมันเป็นงี้ละครับ


อีกอย่างผมเลิกเล่นหมากรุกไปนานมาก

ประมาณ ห้าปีไม่เคยจับม้าเลย

เพิ่งมาเริ่มเล่นอีกนี่แหละ

โดย : แมวอมยิ้ม Member   [ 03/11/2009, 08:15:19 ]

17

การเล่นที่จะเก่งได้นั้น ลองอ่านกระทู้ข้างต้นและทำความเข้าใจให้ดีครับ
เพราะเป็นเรื่องเบื้องต้นที่จะนำไปสู้ความสำเร็จ มิไช่จะเป็นการเล่นหมากรุกไทยเก่งอย่างเดียว
ผมเล่นหมากรุกไทย ประมาณอายุ 14 ปี(ม.4) ก่อนนี้เล่นหมากฮอส และมีความสนใจที่จะคิด จะดู ตลอดมา
เมื่อจบชั้นอุดมศึกษา เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ฝีมือก็ขนาดอาจารย์สม บรมสุข(อาจารเหงี่ยม)
ลดได้ประมาณเม็ดหรือโคน(ผมประเมินเอง) เมื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย เพื่อนๆรุ่นพี ที่เล่นหมากรุก,
หมากฮอส ก็รวมกล่ม แยกชุมกี)ในลม(ตอนนั้นอยู่กับกลุมเล่นปิงปอง) เป็นหมากกระดานต่างหาก ซึ่งมี
หมากรุกไทย หมากรุกสากล หมากฮอส สกา เพื่อการพัฒนาฝีมือของนักหมากรุก ผมจึงเสนอขอผู้ฝึกสอน
ในยุคนั้นถือว่า อาจารย์สม เก่งสุด รองลงมา คือ พระจำเนียน สิงหผลิน(ตอนนั้นท่านยังไม่ได้บวช)
เพื่อนรุนพี่ รู้จักและเคยเล่นกับพระจำเนียน ทางชุมนุมจึงตกลงเชิญมาสอนที่ชุมนุม เป็นคนแรก และในปีถัดไป
ผมเสนอให้ติดต่อ อาจารย์สม บรมสุข มาสอน
ผมได้ซ้อมและเรียนรู้ จากพระจำเนียร และท่านก็แนะนำพาไปเล่นกับพระครูอาจ (วัดจอมทอง)
ขณะนั้นผมสู้ท่านไม่ได้ ผมมาซ้อมทุกสัปดาห์ ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ก็ถือว่าผ่าน เมือได้อาจารย์สม มาสอน
1 ปี ชีวิตผมก็ผลิกผัน ต้องหาเงินเลี่ยงตัวเอง(เรียนได้2 ปี) ความคิดจะเรียนก็จะสิ้นสุด
แต่เพื่อนๆขอให้ทำเรื่องย้ายคณะก่อน(เดิมเรียนรวม คณะสิลปศาตร์) ผมก็ทำเรื่องย้ายมาเรียน คณะ
นิติศาตร์ แต่ไม่ได้หวังว่าจะเรียน ช่วงนั้น รู้จักกับ ชลอ ก็ออกไปเล่นหมากรุกพนันกัน
ชีวิตจึงเข้าสู่วงการหมากรุก ส่วนการเรียน ก็มาบ้างไม่มาบ้าง นอกจากเล่นเดิมพันแล้ว
ก็แข่งตามวัดที่จัดแข่ง แข่งที่เทศบาลนครกรุงเทพจัด และสมาคมคมกีฬาไทย การเรียนก็ได้อาศัยเพื่อนรุ่นน้อง
คือ นายไชยวัฒน์ สุวรรณโมลี (คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี) หา หรือคัดลองตำราเรียนซึ่งหาไม่ได้มาให้
ทั้งช่วยสมัครสอบให้ ทำให้เรียนจบมหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ ใช้เวลารวม 5 ปีครึง ซึงในตอนนั้น
ก็ได้ชนะเลิศหมากรุกไทยของสมาคมกีฬาไทย (แชมป์สนามหลวง) พ.ศ.2510
หากนับอาจารย์ที่สอนผม ก็มี พระจำเนียน พระครูอจ
อาจารบย์สม (หลังจากที่สอนที่ธรรมศาตร์ 1 ปี ผมติดตามท่านไปที่บ้าน สัปดาห์ละครั้ง ประมาณ 1 ปีครั่ง)
และอีกท่าน คือ หมอวรมิตร์ (หมอสืบ) ซึ่งถือว่า การไล่หนี ดีที่สุดในประเทศไทย
ผมก็ได้ฝึกฝนการไล่หนีจากท่าน
หลังจากได้แชมป์และจบการศึกษา ก็เข้าทำงาน และหมากรุกไทยก็เลิกลาไป จะเล่นก็เพื่อสนุกเป็นส่วนใหญ่
ให้ความรู้แก่นักหมากรุทั่วไป (ช่วงนี้นฟรี) ได้สรุปกฎเกณฑ์หมากรุกถ่ายถอดออกไปมากมาย เช่น
การขึ้นหมากรุก ควรเดินอะไรก่อน การเล่นหมากรุกช่วงหลังจึง
ลุ่มๆดอนๆ มาแช่งชนะเลิศ ชุนทองคำในปี 2538 (บุญสืบได้แชมป์ขุนทองคำปี 2539) และก้หยุดไป
มาแข่งอีกทีก็ตลาดหลักทรัพย์
จะเห็นว่า ผมเล่นหมากรุกจิงจัง ประมาณ 3 ปี(อยู่ในวงการเล่น) จากนั้นก็เล่นประปราย
แต่ผมก็ขอบค้นควาและหากฎเกณฑ์ ฝีมือจึงตกไปเป็นช่วงๆ และพัฒนากลับมาเป็นช่วงๆเช่นกัน
คุณแมวเหมียว การเล่นตกไป เพราะหยุดเล่น และช่วงที่เล่นก็ยังไม่สุดยอด เมื่อหวนกลับมา
ก็ขาดการเล่นที่จริงจัง(ดูความเห็นข้างต้น) ขึงทำให้การพัฒนาฝีมือขึ้นไปได้ยาก หากจะเล่นให้เก่ง
ต้องปรับปรุงใหม่ตามที่ว่ากันช่วงต้น

โดย : *นคร Member  -  [ 03/11/2009, 09:27:40 ]

18

คือขอบคุณอาจารย์นครมากเลยนะครับ
ที่มาเล่าประวัติให้ฟังละเอียดเลย
นับว่าเป็นเกียรติมากที่ได้สนทนากับบรมครูทางหมากรุกระดับประเทศ

อาจารย์ครับงั้นผมจะเล่าขั้นตอนผมเป็นนักหมากรุกบ้างนะครับ

ผมเพิ่งหัดหมากรุกตอนที่ผมอายุได้ยี่สิบเอ็ดปีฮะ
คือมาเรียนเอาเมื่อแก่มากแล้ว(สำหรับนักหมากรกุคือว่าแก่ละ)

ผมกำลังเรียนอยู่คณะโบราณคดีปีสองที่ ศิลปากร

ไม่ทราบอาจารย์รู้จัก "หมู สุพรรณ"ไหม

หมูหรือเปล่าไม่แน่ใจ

แกขี้เมาและนอนอยู่แถววัดมหาธาตุ
มีเซียนหมากรุกแถวนั้นบอกว่าแกเล่นโคนก้าวร้าวเก่งมาก
แกเคยสอนผมด้วยนะครับให้ค่าครูไปแผ่นละยี่สิบ

ตอนนั้นผมเคยเล่นแถววัดมหาธาตุและไม่มีใครสู้ได้เลย
แต่มีคนบอกว่าแถววัดมหาธาตุไม่มีคนเก่งๆ
เพราะคนเก่งๆอยู่ที่ปิ่นเกล้าหมด

ผมฝึกจริงจังกับ พี่นา ครับ

พี่นา (ซุ้มเรือนแพริมน่าน) พี่เซนต์ลุกซ์ พี่คิด (พิษณุโลก)
พวกนี้เคยสอนให้แต่สอนจริงๆจังๆคือพี่นา

เรียนกับแกอยู่ประมาณนึง
พี่นาพี่ลุกซ์แกชอบเล่นพนันกันน่ะครับ

แต่พี่ดานุภพ ไม่เคยเล่นกันฮะ

ผมไม่เคยลงแข่งที่พิโลกนะครับ

แต่ก่อนเล่นกันอยู่วีดธรรมจักร
ตอนนี้ย้ายไปซุ้มวัดนางพญา

พี่ลุกซ์เคยเป็นแชมป์ที่พิโลก (ถ้วย ข รึเปล่าไม่แน่ใจ)

ตอนนั้นผมสู้พี่ลุกซ์ได้นะครับ
เคยเล่นพนันกันแต่ไม่บ่อยนัก
อนึ่งผมไม่คอยชอบพนัน
ถ้าเล่นก็จะโดนกินซะมาก



ผมเลิกเล่นไปประมาณปี สี่เจ็ดถึงห้าสอง
เพราะลาราชการเรียนต่อปริญญาเอกที่ศิลปากร

ตอนนี้เรียนจบแล้วและรอรับปริญญาอยู่

กลับมาทำงานเหมือนเดิมเลยว่างๆ
ลองกลับมาเล่นอีกที
ปรากฏว่า


ฝีมือบรมห่วยมากครับ
สู้ไม่ได้แพ้กระทั่งคนคะแนนน้อยๆ


ผมว่าการเรื้อเวทีมีส่วนครับ


โดย : แมวอมยิ้ม Member   [ 03/11/2009, 14:30:52 ]

19

ผมขอสรุป ดังนี้
1. ความชอบ หากไม่ชอบต้องปรับตัวให้ชอบ และความชอบจะต้องเป็นเนื้อหาสาระของเรื่องนั้น
2. ศึกษา ค้นคว้าในเรื่องนั้น
3. กระทำในสิ่งนั้นๆสมำเสมอ เป็นประจำ
เพียงแค่นี้ ก็ทำให้เก่งได้
หากหยุด ความสามารถก็ลดลง จะมากน้อยอยู่ที่ระยะเวลา เมื่อหวนกลับมา ก็สามารถปรับให้เก่งขึ้นได้
ถ้าการกระทำเข้า 3 ข้อแรก
หวังว่า ทุกท่านที่มุ่งหวัง จะประสบความสำเร็จทุกคน

โดย : *นคร Member  -  [ 04/11/2009, 07:32:10 ]

20



การศึกษาหมากรุก ซึ่งกระดานหนึงๆ แยกเป็น 3 ส่วน
คือ รูปหมาก หมากกลางกระดาน และ ปลายกระดาน
การเรียนรู้ หมากปลายกระดาน ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะมีผล แพ้ชนะ จำเป็นต้องไล่ - หนี เป็น
ควรที่จะศึกษาอย่างจริงจังก่อน
หมากกลางกระดาน เป็นการเรียนรู้ที่ยากมาก ต้องอาศัย การแนะนำ หรือการสอน และตัวอย่างต่างๆมาก
รูปหมาก เป็นสิ่งที่รู้กันมากในยุคนี้ ซึ่งเรียกชื่อตามการวางตำแหน่งของม้า เช่น ม้าโยงขวา
ม้าเทียม ม้าโยงซ้าย ม้าอุปการ ในการเล่น เมื่อขึ้นก่อนจะใช้รูปหมากใด และฝ่ายเดินทีหลังจะใช้รูปหมากใด
จะอยู่ในรูปแบบที่กล่าวนี้
รูปแบบที่เล่นกันและพบเห็นมากที่สุด คือ ม้าโยงขวา ต่อสู้กับม้าโยงขวา ดูรูป
นี่เป็นเสมือนต้นแบบ ส่วนการเดินต่อไป ก็จะมีชื่อเรียกกัน ซึ่งแยกแยะออกไปอีกมากมาย
การเดินต่อจากรูป ท่านคิดว่าจะเดินอะไร และโครงสร้างจะเป็นอย่างไร ..................

โดย : *นคร Member  -  [ 05/11/2009, 07:22:00 ]

21

ถ้าเราเดินผิดรูปแบบจากที่เป็นๆอยู่

(เหมือนจำๆกันมาเดิน)

เดินโดยที่ไม่เป็นรอง (คิดเอาเองว่าไม่เป็นรอง)

จะเป็นไรไหม?

ผมสังเกตดูเห็นวงการหมากรุกเดินแต่แบบซ้ำๆอยู่มาก

มันไม่มีอะไรใหม่ๆเลย



ปล.แต่ผมไม่เก่งนะครับ
เพียงตั้งข้อสังเกตว่าทำไมต้องเดินแบบซ้ำกันไปแบบนี้

สรุปจบท้ายถ้าหมากพอๆกันก็เห็นเสมอกันตลอด

ไปดูประวัติเซียนๆเวลาเจอกันก็เสมอกันตลอด

แค่จะไปแพ้ชนะกันในอย่างอื่นเช่นหมากป้องเป็นต้น

โดย : แมวอมยิ้ม Member   [ 05/11/2009, 10:08:17 ]

22

เห็นด้วยกับคุณแมวอมยิ้มครับ ช่วงหลังมีแต่นิยมขึ้นหมากรูปนี้ครับ (ม้าโยงขวา)
หรือว่าเป็นรูปหมากที่สมบูรณ์แบบที่สุด แล้วทีนี้ถ้าทุกคนขึ้นหมากเหมือนกันหมด (ม้าโยงขวา) น่ะครับ
แล้วจะตัดสินกันตรงไหน ซึ่งผมคิดเองก็คงจะเป็นช่วงการขยายตัวหมาก การเข้าทำ
ตลอดจนปลายกระดานว่าใครทำจัดกว่า ดีกว่า หรือเปล่าครับ รบกวนอาจารย์ช่วยอธิบายด้วยครับ
ปล.เล่นไม่เก่งเหมือนกันครับแต่ใจรัก

โดย : ล้อเกวียน Member   [ 05/11/2009, 14:41:36 ]

23

ผมได้แยกหมากรุก 1 กระดาน เป็น 3 ส่วน ส่วนแรก คือรูปแบบ รูปแบบที่เรียกตามตำแหน่งของม้า ซึ่งมี
ม้าโยงขวา ม้าเทียม ม้าซ้าย ม้ามังกร ม้าอุปการ ฉะนั้น การเดินจึงจะเป็นไปในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
และการเล่นจะเป็นรูปแบบใดเข้าประกบกัน ก็อยู่ในแบบที่กำหนดนี้
แต่ตำแหน่งของตัวหมากอื่นๆจะตั้งอยู่ในตำแหน่งประกอบรูปแบบก็เหมือนกันบ้าง หรือแตกต่างกันบ้าง
ในการเดินเข้าปะทะกัน โดยเฉพาะการจะใช้รูปแบบใดเข้าประกบกัน
ก็อาศัยลำดับการเดินและจังหวะที่จะบังคับให้มีการประกบรูปแบบตามที่ต้องการ
เฉพาะส่วนนี้ ก็มีมากมาย เพราะการเดินแต่ละที ก็มีผลต่อการเดินที่จะให้เกิดรูปแบบที่เข้าประกบกัน
แต่ถ้าผู้เล่นต้องการประกบรูปที่ตรงกันซึ่งนิยมเล่นกันมาก คือรูปม้าโยง สู้กับม้าโยง
ดูรูปตามความเห็นที่ 20 ทั้งสองฝ่ายเดินไปแล้ว 9 ที
ตำแหน่งของตัวหมากที่ตั้งประกอบม้าโยง จะตรงตามตัวหย่างนี้ หรือ ไม่เหมือน ซึ่งจะตั้งได้มากมาย
(คงตั้งรูปให้ดูในเวปบอร์ดนี้ไม่ไหว) สวนที่เห็นว่าซ้ำๆกันมาก คือการต่อเป็นรูป โคนมุดเลน เป็นต้น
และที่นิยมเดิน ก็มีส่วนเดียว คือ เดินเบี้ยไล่โคน
สรุป คือที่ว่าเหมือน คือความเหมือนที่มีข้อแตกต่าง
หากท่านสังเกตุตำแหน่งและจังหวะของการเดินที่จริงจัง
ผมขอสมมุติเรื่องให้ให้พิจารณาสัดนิด เด็กฝาแฝด 1 คู่
ใครๆเห็นก็ว่าเหมือนกัน(จำแยกไม่ได้ว่าใครคนพี่คนน้อง) แต่ พ่อแม่ ผู้อยู่ใกล้ชิดรู้และแยกได้อย่างไร
ทั้งนี้เพราะในความเหมือน ก็ยังมีข้อแตกต่าง
อีกเรื่องหนึ่ง คือ ดนตรี มีโน๊ต โด เร มี ฟา ซอล ลา ซี โด้ เพลงที่เล่น ก็มีเพียงนี้
แต่ก็เล่นกันยังไม่รู้จบ
ผมไม่รู้ตอบตรงประเด็นที่ถามหรือไม่ ที่อธิบายจะถูกต้องตรงใจหรือไม่ ก็อยากให้ค่อยๆพิจารณาดู
และคุยกันใหม่อีกครั้งก็ได้ครับ

โดย : *นคร Member  -  [ 06/11/2009, 08:31:13 ]

24

อาจารย์นคร พิมพ์ขยายความเรื่องความเหมือนที่มีข้อแตกต่าง ๆ ได้ดีมาก ๆ เลย
อาทิตย์นี้อยากลองเรียนด้วยจัง *-*
*-*

โดย : โคนมู๋มู๋ Member   [ 06/11/2009, 15:21:06 ]

25



จากรูปตามความเห็นที่ 20 การเดินต่อไปจะเป็นไปตามรูปนี้ หรือรูป ตามความเห็นที่ 26

โดย : *นคร Member  -  [ 08/11/2009, 07:37:19 ]

26



รูปที่แสดง 2รูป เก็นการเดิน โคนมุดเลน และเป็นทีหมากดำเดินก่อน
โคนมุดเลน ทั้งสองรูปนี้ ท่านว่าเหมือนกันไหม และแตกต่างกันอย่างไร
จากรูป คงพบเห็นในการเล่นตามรูปนี้มาก ซึ่งการเดินก็แตกแยกออกไปมากมาย ปัญหาว่า
ท่านชอบเล่นในรูปใด
จากการเล่น ก็พัฒนาค้นความ ซึ่งมีทั้งการบันทึกแต้ม เอามาถอดแต้ม จนปัจจุบันส่วนมากจะเสมอกัน
หากท่านได้ศึกษา เรียนรู้ และค้นคว้าจนชำนาญ ก็ถือได้ว่า ท่านเล่นหมากรุกไทยเก่งได้ (เก่งเฉพาะรูป
โคนมุดเลน)
ท่านมีความเห็นเรื่องนี้อย่างๆร? .........

โดย : *นคร Member  -  [ 08/11/2009, 07:46:22 ]

27

สิ่งที่ผมภูมใจในเรื่องหมากรุกไทย มีหลายอย่าง อยากจะเล่าให้ฟัง คือ
1. ในช่วงต้น ได้สอนและแนะนำ กฎเกณฑ์ต่างๆของการเล่นหมากรุกให้แก่ เพื่อนๆ และบุคคลที่ชอบพอมากมาย
2. อยู่เบื้องหลัง ผลักดันให้มีการจดบันทึก การเดินหมากรุก โดยผู้เล่นเป็นผู้จด ทำให้
การเดินหมากรุกได้พัฒนาออกไปอีกมากมาย ( และมารจดช่วงแรกถูกโจมตีอย่างหนักว่าใครเป็นผู้คิด
แต่น่าเสียดายปัจจุบัน การแข่งขันต่างๆ ไม่ดำเนินการให้มีการจดแต้ม)
3. เป็นผู้ได้ลงรูป หน้าปกนิตยสารหมากรุกไทย ของบริษัท สุรามหาราษฎร์ เป็นคนแรก
4. เวปกลูเกิล ได้ลงรูปของผม หาดูได้ครับ
5. ได้พยายามให้ทางเวปเปิดห้อง จัดการให้มีการสอนทาง ออนไลน์ 2 - 3 ปี ซึ่งปีนี้ ทางเวปก็ได้จัดการ
และยังได้ใช้การสอน แบบคอนเฟอร์เรน ซึ่งผู้สอนและผู้เรียนอยู่ต่างสถานที่ ก็คุยกัน ซักถามกันได้
ถือว่า ผมได้สอนครบระบบทางออนไลน์ ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2552 เป็นคนแรก
การสอนของผมนั้นพบว่า มีหลายๆท่านไม่เข้าใจ จึงอยากอธิบาย การสอน การเรียน หมากรุก ซึ่งทราบดีว่า
การจัดแบ่งหมากรุกไทย เป็น 3 ส่วน
วิธีการสอน
การสอนแต่ละคน ก็ไม่เหมือนกัน หรือคล้ายๆกัน ซึงจะขอแยกแยะดังนี้
1. เรียนเพื่อต้องการรู้ในสิ่งที่ต้องการ
สิ่งที่ต้องการ จะเป็นการรวบรัดให้เก่งเร็วที่สุด ซึ่งเรื่องนี้คงไม่เร็วดังที่ท่านคาดหวัง
เพราะอย่างน้อย ก็ต้องสัก 2 ปี และระหว่างเรียนมีความตั้งใจทำโดยสม่ำเสมอตามที่สอน
ก็คงเฉียดเข้าถึงหมากชั้นหนึ่งได้
แก้ไขปัญหาที่ต้องการ ปัญหาบางปัญหาที่ถามมา เป็นเรื่องกว้างที่จะตอบให้รู้ได้ในทันที เช่น
เดินอย่างไรจึงจะได้เปรียบ, เดินเบี้ยอย่างไรจึงจะดีและเป็นต่อ, รูปหมากไหนดีที่สุด, ม้าเทียมเม็ดซ้าย
ปราบม้าโยงขวาจริงหรือไม่ เป็นต้น สิ่งที่ตอบไป เป็นเรื่องจริงไม่ได้ปิดบัง
แต่ก็ไม่อาจอธิบายให้กระจ่างได้ เพราะมันเกี่ยวเนื่องและโยงใย
ที่จะต้องเรียนรู้มากมาย(ตอบได้ให้รู้หลักการ)
ต้องการเรียนรูป การประกบกันในรูปแบบต่างๆ ซึ่งก็ต้องศึกษาใช้เวลาพอสมควร
คงไม่อาจสอนหรือกำหนดจายตัวให้ได้ เพราะการเดินยังกล้างขวางมาก การเรียนจะได้ความคิด
แนวทางและข้อมูลของการเล่นที่ผ่านมาจากผู้มีฝีมือต่างๆที่ได้จัดรวบรวมไว้
2. การสอบตามหลักการ
ก. สอนและแนะทำ ให้ฝึกคิดเป็น และแบบการหนีการไล่ในลักษณะต่างๆ เพื่อนำไปใช้ประกอบการเล่น
ข. แนวทางการเดินของรูปหมากที่เข้าประกบกัน ในลักษณะต่างๆ และการเดินของผู้มีฝีมือ
ค. การวิเคราะห์ตำแหน่งหมากและเส้นทางการเดิน(จะอยู่ในหมวดการเดินของรูปหมากที่เข้าประกบกัน)
ปัญหาของผู้เรียนว่า จะต้องการแบบใด
ผู้ที่เรียน หากอ่านกระทู้นี้ หากปีปัญหาหรือขัดข้องอย่างไร
ผมก็พร้อมที่จะให้คำแนะนำ(ทบทวนดูว่าได้อะไรไปบ้าง)
ขอขอบคุณทุกท่านที่สนใจกระทูนี้

โดย : *นคร Member - Դ : 0819369002 -  [ 09/11/2009, 07:38:07 ]

28

รบกวน อ.นคร หน่อยครับ ที่สมัยโบราณเขาว่าม้าโยงขวาเวลาเดินกับม้าเทียมถ้าฝีมือพอๆกัน
เดินไปสักพักรูปหมากม้าเทียมจะเป็นรอง ขอบคุณคับ

โดย : คนดอย Member   [ 12/11/2009, 11:27:14 ]

29

ช่วยอธิบายให้คนความรู้น้อยเข้าใจด้วยครับ

โดย : คนดอย Member   [ 12/11/2009, 11:28:47 ]

30

ปัญหาจากความเห็นที่ 28 จะคล้ายกับปัญหาที่ว่า รูปแบบใดดีที่สุด
รูปแบบหลัก คือ ม้าโยง, ม้าเทียม, ม้าซ้าย หรือม้ามังกร ในแต่ละรูปแบบ มีทั้งจุดดีและจุดด้อย
จะว่าแบบใดดีที่สุด ก็ไม่อาจกำหนดได้ และรูปแบบทุกแบบก็สามารถ เอาชนะกันได้ จะกล่าวว่า
รูปหมากใดเป็นรองรูปหมากใดย่อมไม่อาจชี้ลงไปได้ เพราะการเดิน เดินคนละที การออกตัวแต่ละทีก็มีความหมาย
ในการรุกและรับ ซึ่งแล้วแต่สภาพ ตำแหน่งของตัวหมากที่ตั้งในขณะนั้น สรุปแล้ว ฝีมือดีและมีความชำนิชำนาน
ควรเสมอกัน คำว่าหมากเป็นรอง ก็เป็นเรื่องที่บอกยาก เพราะคำว่าเป็นรอง มีความหมายกว้างแค่ไหน เฃ่น
หมากดำถูกทำ แต่อย่างไรก็ไม่สามารถเอาชนะได้ จะเรียกว่าเป็นรองหรือไม่
การเดินก่อน เป็นการเปิดตัวหมากก่อน จะเรียกว่าเป็นต่อก็ได้ แต่ผล ก็มีทั้ง ชนะ แพ้ และเสมอ
สรุปว่า ถ้าท่านชำนาญในรูปแบบใดเฉพาะ และท่านได้เล่นในรูปแบบนี้น ท่านก็มีโอกาสชนะง่าย และหากจะแพ้
ก็แพ้ยาก (แพ้ก็ปรับปรุงตำแหน่งลายละเอียด และจังหวะการเดิน)
คำตอบคงพอเข้าใจได้นะครับ

โดย : *นคร Member - Դ : 0819369002 -  [ 12/11/2009, 14:05:08 ]

31

ขอบคุณมากครับ

โดย : คนดอย Member   [ 12/11/2009, 19:37:38 ]

32

การฝึกฝนหมากรุกไทย ให้มีความสามารถขึ้น
ปัญหาการฝีกฝน มีหลายวิธี
1. การเล่นมาก เมื่อผ่านการเล่นมาก ก็ได้พบการเดินหลากหลาย ก็จะคุ้นเคย
และพัฒนาทำให้การเดินแพ้ยากขึ้น แต่ทั้งนี้ หมายความว่า ต้องคิดและจดจำการเล่นและคิดแก้ไขด้วย
2. ดูการเล่นของผู้ที่มีฝีมือดีกว่า และจดจำนำมาใช้ ให้เกิดความคุ้นเคย และเกิดความชำนาญ
3. หาเกมต่างๆ มาดูเพื่อศึกษาการเดินในแต่ละแบบ
4. หาตำรามาดู และนำไปใช้ พร้อมทั้งคิดปรีบปรุงแก้ไข ในปัยหาใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากตำรา
4. หาคู่ซ้อมที่มีฝีมือดีกว่า และจดจำ ค่อยๆไต่เต้าพัฒนาฝีมือขี้นไปเลื่อยๆ
5. เรียนจากครูผู้สอน ผู้สอนจะแนะนำแต้มต่างๆและอธิบายบางจุดให้เข้าใจ
6. เรียนจากผู้ทรงซึ่งความรู้ ซึ่งสามารถสอนและสามารถแก้ไขปรับปรุงจุดอ่อนของผู้เรียนให้ดีขึ้น
ซึ่งผู้สอนในระดับนี้ จะเรียกว่าโค๊ช ย่อมต้องมีความรู้และประสพการสูง
การเรียนในระดับนี้ ผู้สอนจะเสียเวลามากในการศึกษาผู้เรียน เพื่อหาแง่มุมที่จะสอน
และแก้ไชจุดบกพร่องของผู้เรียน
ที่ลงบทความนี้ เพื่อปรับความเข้าใจ ในการฝึกฝน เพื่อพัฒนาฝีมือ หากคิดที่จะฝึกฝน จะได้เป็นข้อมูล
ตัดสินใจว่าท่านต้องการแค่ไหนเพียงใด ........

5.

โดย : *นคร Member - Դ : 0819369002 -  [ 14/11/2009, 19:27:15 ]

33

อ.นคร ครับเวลาเล่นหมากรุกที่เขาว่าคิดกันหลายๆชั้นก่อนเดิน เขามีวิธีคิดกันอย่างไร ใช้หลักการอย่างไร
อาจาร์ยลองยกตัวอย่างให้ดูด้วยครับ ขอบคุณมากครับ

โดย : คนดอย Member   [ 18/11/2009, 19:32:48 ]

34

อาจารย์ครับที่อาจารย์ว่าการวิเคราะห์ตำแหน่งหมากและเส้นทางการเดินตัวหมาก มีหลักการอย่างไรครับ

โดย : คนดอย Member   [ 18/11/2009, 19:39:56 ]

35

พอดีวันที่อาจารย์เปิดอบรมครั้งแรกฟังเสียงอาจารย์ไม่ได้จึงไม่ได้ความรู้ เห็นหัวข้ออบรม ที่อาจารย์ว่า
ปลายกระดานบอกส่วนที่ทำให้กระดานดีขึ้น อาจารย์มีวิธิคิดอย่างไร

โดย : คนดอย Member   [ 18/11/2009, 19:48:59 ]

36

จากปัญหาของคนดอย ในเรื่อง
วิธีคิดหมากรุก
การวิเคราะห็ตำแหน่ง
และหมากปลายกระดาน
ปัญหาทั้ง สามข้อที่ถามมา แต่ละเรื่อง จะต้องศึกษาและเรียนรู้ ซึ่งจะฝึกฝนเองก็ได้
หรือจะเรียนรู้จากการสอนซึ่งจะทำให้เข้าใจได้รวดเร็ว
แต่ละเรื่องเป็นเรื่องใหญ่ ผู้สอนจะต้องจัดตัวอย่างให้คิด และทำความเข้าใจเพื่อพัฒนาความคิด
และวิธีที่จะนำมาใข้ในการเล่นจริง พัฒนาจากน้อยชั้น ให้คิดได้มากชั้น เช่นเดียวกับการเรียนการคำนวน
จากง่ายไปยาก
สิ่งที่ไม่เข้าใจ ก็สอบถาม ซึ่งก็ต้องใช้เวลาในการปรับปรุง และนำไปทดสอบจากการเล่นจริงและนำมาแก้ไข
ผู้สอนจะต้องคอยดูและปรับปรุง วางแนวทางให้ดุและเรียนรู้เพื่อการพัฒนาเป็นลำดับ
(จะพูดในการสอนครั้งตอไป)
สำหรับผู้ที่จะเรียนเป็นทางการ ให้ติดต่อผม หรือทางเวปนี้(คุณวัชระ) ซึ่งก็คิดค่าเรียนเป็นรายเดือน
โดยสอนสัปดาห์ละ 2 ครัง ครั้งละ ประมาณ 1 ชั่วโมง และจัดส่งเอกสารทางอีเมล์ ให้ฝึกฝน การเรียน หากหลายคน
ก็จะพยายามแยกกลุ่ม เพื่อให้ผู้เรียนเข้าถึงหลักการให้มากที่สุด (การทดสอบ ที่สอน จะแนะนำเป็นกลางๆ
เพื่อให้รู้แนวทางการเล่น และการที่จะฝึกฝนต่อไป)

โดย : *นคร Member - Դ : 0819369002 -  [ 19/11/2009, 07:17:17 ]

37

บทความ อ.นคร ทรงคุณค่ามากผมติดตามอ่านอย่างสมำเสมอ อยากให้มีบทความลักษณะนี้
ที่ติดตามมาตลอดได้ข้อสรุปดังนี้ เงื่อนไข2ประการ ภายนอกและภายใน ภายนอกคือ มีอาจารย์
เล่นกับคนที่เก่งกว่า ภายในคือตัวเราเองครับ ผมให้ความสำคัญทั้ง2อย่าง การที่เรามีครู
จะทำให้เราเข้าสู่มิติใหม่มองภาพแตกต่างออกไปกว่าแต่ก่อน
ส่วนปัจจัยภายในขอยืมสุภาษิตโบราณที่ว่า..ชาดไม่ดีทาสีไม่แดง..เราควรพึ่งตัวเราให้มากเข้าไว้

โดย : กะปอม11 Member   [ 26/11/2009, 13:29:48 ]

38

ผู้ที่สนใจจะเข้าห้องเีรียน ฟรี 1 ชม กับ อาจารย์นคร
(เซียนทนาย) ในวันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2552
เวลา 20.30 - 21.30 น.รีบติดต่อ รับ จำนวนจำกัด
เป็นการทำลองเรียน หมากรุกไทย

** ผู้ที่สนใจ ต้องดาวน์โหลด โปรแกรม Skype ให้เรียบร้อย
และ สามารถทดสอบ กับ อาจารย์นครได้โดยตรง หรือ
โทรมาสอบถามกับทีมงานไทยบีีจี ได้ที เบอร์ 083-1235058

โดย : *TBG Member   [ 26/11/2009, 19:26:13 ]

39



จากการสอนที่ผ่านมา ค่อนข้างขลุกขลัง เกี่ยวกับระบบ ซึ่งก็ผ่านไปได้ด้วยดี
และเพื่อความสมบูรณ์ของระบบ และให้ท่านผู้สนใจแนวทางการสอน ทางเวปจึงได้พิจารณา
ให้ผู้สนใจได้เข้าเรียนอีกครั้งในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2520 เวลา 20.30น. - 21.30น
ส่วนผู้เข้าเรียน ผมต้องการ ชื่อ นามสกุลจริง อีเมล์ และชื่อที่ใช้เล่นในเวป
สำหรับผู้เล่นที่ใช้หลายชื่อ ขอให้ส่งมาเพียงชื่อเดียวที่ท่านคิดว่าเดินดีที่สุด เพื่อผมจะได้วิเคราะห์
ถึงความสามารถของท่าน(ชื่อนี้ท่านต้องเล่นคนเดียวนะครับ)
เพื่อจัดแนวทางการสอนให้พอเหมาะกับท่านที่จะได้นำไปใช้และพัฒนาฝีมือต่อไป
การเรียนในช่วงเดือนแรก ต้องขอให้ท่านจัดเวลาฝึกฝนตามที่สอนโดยสม่ำเสมอ
เพื่อจะได้วัดผลความก้าวหน้าจากการเดินของท่าน และท่านก็จะสามารถประเมินผลความก้าวหน้าของท่านเองได้
(ต้องไปทดสอบกับผู้ที่ท่านเคยเล่น ที่ไม่ได้เล่นกันประจำนะครับ)
จาการดูเกมจากผู้เล่นหลายๆท่าน ส่วนมากจะรูป รูปแบบของหมากรุก แต่ในช่วงปะทะกัน
การคิดที่เดินไม่ดีเท่าที่ควร จะเป็นเพราะขาดการฝึกฝนในด้านความคิด หรือการใช้เวลา
ที่เหลือน้อยทำให้คิดไม่ทัน ผมมีภาพให้ดู และลองพิจารณาว่า หมากดำควรจะเดินอะไร ผมจะเป็นอย่างไร
หลักการสอนของผม จะให้ท่านได้รับการสอน คือ
1. ฝึกฝนการคิด
2. รูปหมาก
3. แนวทางการต่อสู้กลางกระดาน และ
4. หมากปลายกระดาน
5. จะข่วยดูและแก้ไขการเดินของท่าน(จากเกมของท่าน)
6. จะมีเอกสารส่งทางอีเมล์ ให้ท่านดูและฝึกฝน ซึ่งท่านพบปัญหา ก็จะได้แนะนำแก้ไขต่อไป
(ไม่ไช่ตำรา)
(ไม่รับถอดแต้มให้ อาจให้คำปรึกษาบ้างตามความเหมาะสม)
สำหรับผู้สนใจที่จะเรียน ซึงจะมีฝีมือหลายระดับ ในช่วงแรกคงต้องเรียนร่วมกันไปก่อน
และผมจะวิเคราะห็แยกกลุ่มเพื่อความเหมาะสม(หากท่านยืนยันจะอยู่ในกลุ่มใด ก็อณุโลมให้อยู่ในกล่มนั้นๆ)
สำหรับการสอน จะเริ่มสอนสับดาห์แรก วันแรกคือ วันพุธที่ 2 และวันเสาร์ที่ 5 เวลา 20.30น ถึง 21.30น
และสัปดาห์ต่อไป จะเป็นทุกวันจันทร์ และวันพฤหัสบดี
สำหรับวันเวลาการสอน ผู้รับการสอนหากมีความสะดวกและเหมาะสมกันวันเวลาใด ขอให้แจ้งให้ทราบ
หากจัดให้ได้จะได้แก้ไจต่อไป
สำหรับ การสอน คิดค่าบริการเดือนละ 2,000. บาท และจ่ายให้กับทางเวป
โดยติดต่อกับทางเวปตามที่ประกาศ
ขอขอบคุณทุกๆท่านที่สนใจ

โดย : *นคร Member - Դ : 0819369002 -  [ 28/11/2009, 07:28:30 ]

40

จากวันนั้น (30 พ.ย.2552) ถึงวันนี้ สมาชิกหมากรุก ขาดหายไปจากเวปบอร์ด จังไม่ทราบว่า
ผลการสอนทางเวป ท่านได้รับรู้เพียงใด การสอนจะต้องปรับปรุงอย่างไร เพื่อผูเรียนจะได้ประโยชน์สูงสุด
แต่บางอย่างผมก็ยอมรับว่า การจะเจาะแต้มใดแต้มหนึ่งเป็นเรื่องยากต้องใช้เวลามาก จึงได้แจ้งไว้ว่า
ไม่รับถอดแต้มให้ แต่ก็จะให้แนวทางเพื่อค้นคว้าในจุดนั้นๆต่อไป
เจตนาของผม ต้องการส่งเสริมให้มีความรู้ความเข้าใจ และมีความสามารถก้าวไปได้ด้วยตัวเอง
แต่ทั้งนี้ก็ต้องฝึกฝนด้วย โดยเฉพาะเพื่อให้วงการเฟื่องฟู ก็ต้องได้รับความร่วมมือจากท่านทั้งหลาย
ที่จะต้องมีความจริงใจ ซื่อสัตย์ และสุภาพ และผมได้คุยกับู้สนับสนุน ก็ต้องการให้พัฒนาคนรุ่นใหม่ๆ
ให้มีความรู้ความสามารถ เพื่อสร้างความรุ่งเรืองต่อวงการหมากรุก ต่อไป
การเรียน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคุยกันในแต่ละแง่ แต่ละมุม และนำไปทดลองใช้เพื่อพัฒนาฝีมือ
ระยะการเรียนเริ่มแรก จำเป็นต้องฝึก ความคิด และสร้างพื้นฐาน
ก่อนที่จะก้าวไปถึงจุดที่สามารถค้นคว้าได้ด้วยตนเอง ระยะเวลา อาจจะใช้ 1 - 2 ปี
แต่การเรียนก็สามารถประเมินความรู้ความสามารถได้ เมื่อผ่านการเรียนและฝึกฝน 2 - 3 เดือน เพราะ 1
เดือนอาจประเมินความก้าวหน้าไม่เด่นชัด เหตุที่ต้องเน้นการคิดและปรับพื้นฐาน เพราะเท่าที่เห็นการเล่น
การคิดยังไม่ค่อยดี โดยเฉพาะแง่มุมต่างๆ ที่ควรรู้ โดยเฉพาะการไล่หนี รูปหมากบังคับจนในแบบต่างๆ
หากยังเห็นว่ากระทู้นี้ มีความสำคัญ และคงอยู่ ก็อยู่ที่นักหมากรุก
ได้แสดงความคิดเห็นและแสดงออกแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อกัน

โดย : *นคร Member - Դ : 0819369002 -  [ 09/12/2009, 10:16:48 ]

41

คำ่ว่า "เก่ง" นี้ คงต้องมาสรุปก่อนว่าเมื่อเปรียบเทีัยบกับอะไรหรือกับใคร เช่น
เก่งในหมู่เพื่อนฝูง เก่งในในหมู่บ้าน กระทั่งเก่งระดับประเทศ

หากโดยแนวคิดพื้นฐานแล้ว การจะกล่าวว่าเก่งหรือเก่งกว่า
ควรเป็นการเปรียบเทียบในระดับที่เท่ากันหรือใกล้เคียงกัน เช่น เด็กจะให้เก่งเหมือนผู้ใหญ่คงไม่ได้
เมื่อมองว่าขึ้นอยู่กับประสบการณ์หรือเวลาเป็นสำคัญอย่างหนึ่ง ก็จึงอาจแบ่งโดยระดับอายุ

แต่หากเป็นแบบเปิด คือโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุ ก็อาจมีข้อจำกัดอื่นๆ เช่น
คนที่เล่นหมากรุกสากลเก่งที่สุดของไทย ก็อาจเป็นเพียงผู้เล่นพื้นๆในระดับโลก อย่างนี้จะนับว่าเก่งไหม?

เมื่อได้เห็นอาจารย์นครเปิดสอนหมากรุกไทย รู้สึกดีใจมาก
เพราะเ็ป็นผู้ที่มีความเหมาะสมมากที่สุดท่านหนึ่ง
เหตุผลสำคัญคืออาจารย์ไม่ได้ลงร่วมการแข่งขันทั่วไปแล้ว
การสอนจึงไม่มีเหตุที่จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจในการปิดบังความรู้
และเชื่อว่ามีแต่จะส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รับความรู้เต็มที่ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นคู่แข่งในอนาคต
ซึ่งในส่วนความรู้นั้น
ก็คงไม่มีข้อให้สงสัยจากการประสบความสำเร็จเป็นแชมป์ประเทศไทยตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา และอื่นๆ
อีกหลายรายการ

การเรียนหมากรุกไทยกับอาจารย์นครจึงจะทำให้ผู้เรียนเก่งได้อย่างแน่นอน หากขยายความก็คือฝีมือจะพัฒนาขึ้น
เก่งขึ้น แต่จะถึงระดับใดนั้น ขึ้นอยู่กับความตั้งใจและการปฏิบัติว่าจะมีมากน้อยเพียงใด


ด้วยความขอบพระคุณในน้ำใจของอาจารย์นคร ตรีสอาดที่มีให้มาโดยตลอด

โดย : ทรงพล1 Member   [ 09/12/2009, 10:33:47 ]

42

ขอยคุณ คุณทรงพล1 ที่ให้ความสนใจและติชมมา เรื่องการเล่นหมากรุกไทย ปัจจุบันนี้
นักหมากรุกได้พัฒนาฝีมือดีขึ้นจากสมัยก่อนมาก โดยอาศัยจาการจัดแข่งขัน และมีเกมการแข่งขันจำหน่าย
ทั้งมีตำราออกมาหลายเล่ม ตลอดจนมีการฝึกสอน ดังจะเห็นได้ว่า ผู้ที่เล่นเก่ง อายุน้อย มีมากมาย
แม้จะไม่ถึงระดับสุดยอดเซยน
ผมได้ดูจากการเล่นทั่วไป ตลอดจนการเล่นในเวป พบว่า ส่วนมากรู้จัดรูปหมาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง
ทำให้การเดินง่ายและมีระบบ ทำให้พัฒนาเก่งขึ้นรวดเร็ว(ในระดับหนึ่ง)
แต่เกมการเล่นในช่วงกลางกระดานและปลายกระดานไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งนี้เพราะขาดการฝึก ความคิด
ขาดรูปแบบของหมากปลายกระดาน โดยเฉพาะจังหวะการเดิน อันเป็นส่วนที่ยากที่สุด
เพราะประกอบด้วนความคิดและประสพการณ์
การสอนหมากรุกนั้น ปัจจุบัน ผมเห็นว่า จะทำให้การพัฒนาฝีมือเก่งขึ้นได้
แต่ขาดแนวทางการที่จะพัฒนาฝีมือด้วยตนเองต่อไป ทั้งนี้เพราะยังขาดพื้นฐาน
และความคิดที่ใช้ประกอบการเดินยังไม่ถูกต้องตรวเป้าของเกมในตำแหน่งนั้นๆ
เมื่อผมได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการที่จะพัฒนาฝีมือของนักหมากรุก
จึงคิดและวางแนวทางเพื่อให้ผู้เรียนได้ประโยขน์สูงสุด โดยกำหนดให้ผู้เรียนต้องส่งขื่อที่เล่นในเวป
เพื่อวิเคราะห์ความสามารถ และมีส่วนใดที่จะฝึกฝน เพื่อให้ผู้เรียนได้รับความรู้ และมีความเข้าใจ
ผู้ที่จะเรียน ก็ต้องสมัครกับทางเวป เมื่อเรียบร้อยแล้ว ทางเวป ก็จะแจ้งให้ผมทราบ
ผมก็จะต้องวิเคราะห์เกมของท่าน และกำหนดวันเวลาสอนในเวปต่อไป
วันเวลาที่เรียน ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 1 ชั่วโมง
เหตุที่กำหนดเพียง 2 วันต่อ 1 สัปดาห์ เพราะจะได้ส่งเอกสารที่ประกอยการสอน ให้ท่านฝึกฝน(เป็นประจำ)
และนำไปทดลองใช้ เมื่อเกิดปัญหาจะได้แก้ไข ทำความเข้าใจ
และเชื่อว่าแนวการสอนเช่นนี้จะเป็นแนวทางที่ผู้เรียนจะได้รับรู้และเข้าใจง่ายขึ้น
ขอบคุณทุกๆท่านที่สนใจ และผมจะหาเกม จากเวปปลายกระดานนำมาลง ให้คิดกันเล่นๆ

โดย : *นคร Member - Դ : 0819369002 -  [ 10/12/2009, 08:00:08 ]

43



ผมเห็นเกม ปลายกระดานดูเข้าที่ นำมาลงให้คิดและวิจารย์การเดินเล่นๆ ครับ เชิญผู้สนใจ
แสดงความคิดเป็นด้วยครับ (ตาหมากดำเดิน)

โดย : *นคร Member - Դ : 0819369002 -  [ 12/12/2009, 13:16:04 ]

44

ขอโทษครับ จากความเห็นที่ 43 ที่ถูก เป็นตาหมากขาวเดิน ขอโทษด้วยนะครับ ลงผิดไป

โดย : *นคร Member   [ 12/12/2009, 13:19:19 ]

45

จาก ป.ค.ห.42
หมากดำมีตาเดินที่ ม้าจ7 ไป ง5 เพื่อตีรุกที่ ข4 ซึ่งจะทำให้ขาวแพ้
กรณีที่ขาวเดินก่อนและเห็นว่าดำอาจจะเดินเช่นนี้ในตาต่อไป ควรที่จะต้องป้องไว้กันก่อนนะครับ
ซึ่งความคิดผมตาที่เป็นไปได้น่าจะเป็น เรือญ7xม้าดำจ7 ต่อไปขาวจะได้เบี้ย ฉ5 อีก 1 ตัว +
โคนขึ้นไปทำได้ครับ
ผิด-ถูก ชี้แนะด้วยนะครับ

โดย : โรบัสต้า Member   [ 13/12/2009, 13:52:50 ]

46

ขอบคุณครับ คุณโรบัสต้า
สำหรับรูปนี้ ผมอยากจะให้ดูเกมนี้ก่อน และดูมุมต่างๆที่จะแสดงความคิดเห็น ท่านมีความเห็นในเกมนี้
ต่อจากรูปนี้(ตามความเห็นที่ 43)
เป็นการเล่นของ intel เกมที่ 137 ครับ หวังว่าจะเป็นเกมที่น่าสนใจ แสดงความคิดเห็นกันมาด้วยนะครับ
(ก่อนสรุป)

โดย : *นคร Member - Դ : 0819369002 -  [ 14/12/2009, 09:57:03 ]

47

ขอบพระคุณ อ.นคร อย่างยิ่งที่ชี้ทางสว่างให้ครับ
เมื่อได้เห็นเกมส์แล้วกลับมาดูที่รูปจึงได้เห็นถึงเหตุปัจจัยที่
เกิดขึ้นและเข้าใจความหมายแท้จริงของรูปมากยิ่งขึ้นครับ

ในรูปที่เราเห็นแท้จริงแล้วต้องประเมินให้ได้ว่าใครกำลังบุก และใครกำลังรับเสียก่อน
ซึ่งรูปที่ประดุจเหมือนดำกำลังจะได้เปรียบเพราะแนวรับที่แข็งแกร่ง, คลองเรือ และแต้มศอกกลับที่อันตราย
แต่แท้ที่จริงแล้วกลับเป็นทีเดินของขาวเริ่มต้นขึ้นก่อน นั่นคือประเด็นสำคัญ
จึงกล่าวได้ว่าแต้มหมากตาต่อไปนี้จึงต้องเป็นแต้มที่ฝ่ายขาวจะสามารถบีบบังคับตาเดินของดำได้ทุกตากระทั่ง
หมดทางแก้ไข(เพราะเข้ารูปไปแล้ว)

ขอขอบพระคุณ อ.นครฯเป็นอย่างสูงอีกครั้งครับ

โดย : โรบัสต้า Member   [ 14/12/2009, 22:39:57 ]

48



ตามรูป จากความเห็นที่ 43
หมากดำเป็นต่อ ควรชนะครับ หมากขาวเดินโคนให้เบี้ยกิน หมากดำกินก็ยังไม่แพ้ครับ แต่ถ้าหากไม่กิน
ดูรูป
หมากดำเดิน ร.ข5-ข4 หมากขาวจะเดินอะไร ดูรูปต่อไป

โดย : *นคร Member - Դ : 0819369002 -  [ 15/12/2009, 08:15:53 ]

49



ตามรูป หมากขาวจะเดินอะไร (หมากดำดีกว่าครับ)
ข่วยๆกันึดหน่อยครับ

โดย : *นคร Member - Դ : 0819369002 -  [ 15/12/2009, 08:29:05 ]

50

เป็นผมจะเดินโคนกินเบี้ยค5 ก่อนครับ(เพื่อหาทางให้ยังได้บุกอยู่) และมีอีกตาหนึ่งคือตาม้า ก5
รุกฆาตแต่เป็นแต้มที่ต้องทำให้เสียเปรียบในภายหลังผมจึงคิดว่าไม่ควรเดินครับ
อนึ่ง ปัญหาส่วนตัวของผมและหลายๆคนก็เป็นอย่างนี้ครับ คือจังหวะที่เราได้บุก
จำเป็นที่จะต้องทำอย่างต่อเนื่องจนไม่ได้คิดถึงการแต่งหมาก
และได้แต่เพียงคาดหวังให้ฝ่ายตรงข้ามเดินเข้าล็อกของเรา
จึงทำให้หลายครั้งหลายหนเดินผิดตำแหน่งเพียงตาเดียวกลับถึงแพ้เพราะคู่ต่อสู้แก้ถูก

โดย : โรบัสต้า Member   [ 15/12/2009, 10:59:08 ]

51

ตามความเห็นของผมนะครับ ผมจะเดิน ค.ง4ค3 เพื่อกลับมารับขุนขาว เพราะอยู่ในตำแหน่งที่แคบ
แต่ดำเองก้มีตัวมาพัวพันเกินไป และคงต้องขอขอบคุณ อ.นครเปนอย่างมากครับที่นำเกมมาให้ลับสมองกัน
(ส่วนหมากดำคงจะง่วงจัดเลยเอาม้าไปกินม้า)

โดย : เงาอโศก Member   [ 15/12/2009, 23:37:55 ]

52

ตาม ค.ห.51 ปัญหามันอยู่ที่ม้าดำ จ7 มันจะลงมาที่ ง5 เมื่อไหร่เท่านั้นแหละครับ
(ผมคิดว่าขาวถอยคงไม่ไหว)
มีอีกแต้มที่ยังทำให้ขาวพอจะบุกได้อยู่คือ เม็ดขาวไปที่ จ5
ถ้าดำกินตอบ เรือขาว ญ7 ก็จะได้ใช้งานครับ

โดย : โรบัสต้า Member   [ 16/12/2009, 10:20:10 ]

53

เห็นแล้วครับ หมากขาวถอยม้าลงไปรับที่ ง2
แต้มนี้ถ้าเรือดำ ข3-ง3 ,โคน ง4-ค3

โดย : โรบัสต้า Member   [ 18/12/2009, 22:11:26 ]

54



รูปที่แสดงคามความเห็นที่ 49 เป็นแต้มที่คิดได้หลายทาง ซึ่งเป็นแต้มที่ยุ่งยาก ลองถอดคิดเล่นๆ
คิดไม่ออกก็ไม่เป็นไร
วันนี้ นำรูปมาลงให้คิดกันเล่นๆ ไม่ยุ่งยาก ง่ายๆครับ
หมากขาวเดินก่อน
จะเดินอย่างไรดี ผลใครเป็นต่อเป็นรอง
ลองร่วมกันคิดนะครับ

โดย : *นคร Member - Դ : 0819369002 -  [ 22/12/2009, 21:58:24 ]

55

ฝ่ายขาว # ขุน อยู่ที่ ข6
ม้า อยู่ที่ ข5
เรือ อยู่ที่ ง1
ฝ่ายดำ # ขุน อยู่ที่ ข8
เรืออยู่ที่ ค2
อยากทราบว่า จะไล่จนได้หรือไม่
โดยนับศักดิ์กระดาน ภายใน 15 ที
หมายเหตุ ฝ่ายดำนับมาถึง 49

โดย : สมฤดี Member   [ 23/12/2009, 20:39:30 ]

56

เรือขาว ง7xง5 รุก ครับ
ชอบรูปที่ อ.นคร นำมาลงมากๆครับ

โดย : โรบัสต้า Member   [ 23/12/2009, 22:28:28 ]

57

ค.ห.ที่55 เรียนท่านสมฤดี รูปที่ท่านให้มาผมคิดว่าถ้าขาวเดินก่อน 8 ตาก็น่าจะจนนะครับ(คห.ส่วนตัว)

โดย : โรบัสต้า Member   [ 23/12/2009, 22:43:09 ]

58

รบกวนถามอาจารย์ครับ หรือเพื่อนๆ ThaiBG ผมไม่เคยลงแข่งขันหมากรุกไทยอย่างเป็นทางการสักที
จึงไม่ทราบเรื่อง กติกา รบกวนถามกติกาว่า ทีฝ่ายเป็นต่อขอเสมอได้ก่อนเวลา 5
นาทีสุดท้ายของฝ่ายเป็นต่อหมด แล้วถ้าเกิดฝ่ายที่เป็นรองไม่ให้เสมอได้มั้ยครับเพื่อจะชนะเวลา
ขอเสมอจะต้องเป็นเบี้ยหงายทั้งสองฝ่ายหรือเปล่าครับ ช่วยตอบด้วยขอบพระคุณอย่างสูงครับ

โดย : คนดอย Member   [ 26/01/2010, 13:03:10 ]

59

การขอเสมอ จะขอเมื่อไรก็ได้ ถ้าอีกฝ่ายตอบรับก็จบ การขอเสมอก่อน 5 นาที อาจให้กรรมการวินิจฉัยได้
หากหลัง 5 นาที กรรมการไม่วินิจฉัยให้
เมื่อขอเสมอ อีกฝ่ายไม่ยมอ และไม่มีเบี้ยคว่ำ ฝ่ายเป็นรองก็มีสิทธิขอนับศักดิ์กระดานได้ครับ
หากผูได้หมดเวลา อีกฝ่ายต้องมีตัวหมากที่สามาระเอาชนะได้(ตังหมากของเราไม่เกี่ยว)
หากมีตัวหมากไม่พอ เฃ่น มีโคน 1 ตัว ก็ปรับเป็นเสมอกรับ
สุดท้าย ก่อนแข่ง ควรสอบถามกติกาจากกรรมการ อีกทีนะครับ

โดย : *นคร Member   [ 26/01/2010, 18:14:27 ]

60

รบกวนถามอาจารย์ อีกนิดครับว่า
1.ถ้าอีกฝ่ายทีเหลืองเวลาเยอะกว่าแต่หมากเป็นรองโดยที่ทั้งสองฝ่ายไม่มีเบี้ยควําไม่ยอมเมอให้
ฝ่ายที่เหลืองเวลาน้อยกว่าแต่หมากเป็นต่อมีสิทธิ์ นับศักด์กระดานใช่มั้ยครับ ตามที่อาจารย์อธิบาย
2.ตามที่อาจารย์อธิบาย
และตามที่ผมเข้าใจนะครับทีว่าหลังจากที่เรานับศักดิ์กระดานกรณีฝ่ายเป็นรองไม่ยอมเมอให้เมื่อเรานับไปแล้ว
แต่ยังไม่ครบศักดิ์กระดาน แต่เวลาเราหมดก่อน แต่หมากของทั้งสองฝ่ายยังเหลืองเยอะอยู่
แต่หมากของฝ่ายที่เป็นรองดูยังไงก็ไม่สามารถชนะได้
ยังงี้ฝ่ายที่หมดเวลาถือว่าแพ้เรื่องเวลาหรือเปล่าครับ รบกวนอาจารย์ช่วยตอบด้วยครับ
ขอบพระคุณอย่างสูงครับ

โดย : คนดอย Member   [ 27/01/2010, 13:37:06 ]

61

กรณีที่เราเดินและหมดเวลา อีกฝ่ายจะต้องมีมัวหมากที่สามารถชนะได้ จึงจะถือว่าชนะ
แต่ตัวหมากไม่พอชนะก็ถือว่าเสมอกัน การพิจารณาตัวหมาก จะพิจารณาเฉพาฝ่ายที่ยังมีเวลา และตัวหมากที่พอชนะ
เช่น เบี้ย 3 เบี้ย (หากหงายแล้วจะเป็นเบี้ยเทียม) ม้า เบี้ย เป็นต้น หากตัวน้อยกว่านี้
หรือไม่อาจไล่ให้จนได้ เช่น 2 ม้า (ต้องดูกติกาผมจำไม่ได้แน่) หรือโคน 1 ตัว หรือ 2 เบี้ย
ถือว่าเสมอครับ จะไม่พิจารณาว่าตัวหมากฝ่ายไล่ เช่น ฝ่ายไล่ มี ม้า เม็ด ฝ่ายหนีมี 2 เรือ 1 ม้า
แต่หมดเวลา ก็ปรับแพ้ครับ
การนับ เราก็มีสิทะกลับชนะได้นะครับ เมื่อถึงตาเราเดิน
จะต้องบอกว่า ผมไม่นับแล้ว (จะเอาชนะ) แล้วจึงเดิน
ก็สามารถชนะได้ และหากต่อมาเห็นท่าไม่ดี จะขอนับใหม่อีก ก็ได้ แต่ต้องเริ่มจาก 1 นับต่อไม่ได้ครับ
สนใจอยากเรียนรู้ ก็สมัครได้ครับ ตามรายละเอียดที่แจ้งไว้

โดย : *นคร Member   [ 27/01/2010, 21:55:47 ]

62

ตอบ ความคิดเห็นที่ 57 ท่าน โรบัสต้า
ที่ว่า 8 ตา ไล่จนนั้น ไล่ให้ดูหน่อย โทรมา 085-6767-055 เขาไล่กัน ยังไม่ค่อยจะจนเลย ไล่จนได้ 8 ตา
ให้ หมื่นนึง ไม่โกหก โทรมา จะไปดูไล่หน่อย พูดมั่วๆ น่ะ ใครๆก็พูดกันได้

โดย : หนูแส้ม Member   [ 15/02/2010, 18:39:06 ]

63

จากความเห็นที่ 62
ไล่จนครับ แต่ 8 ตาคงไม่จน อิอิ

โดย : ปีเตอร์อิอิ Member   [ 18/02/2010, 19:02:12 ]

64



รูปตามความเห็นที่ 55 ดูเป็นเรื่องยาก ผมลงรูปตามความเห็นที่ 55 ให้ดู
รูปหมากเบื้องต้นต้องแก้ที จะเป็นดังรูปในความเห็นต่อไป ลองคิดแก้ทีดูนะครับ

โดย : *นคร Member - Դ : 0819369002 -  [ 20/02/2010, 08:59:04 ]

65



ภาพจากการแก้ทีจากรูป ตามความเห็นที่ 64

โดย : *นคร Member - Դ : 0819369002 -  [ 20/02/2010, 09:01:34 ]

66



ดูและคิดจากภาพไปอีกภาพหนึ่งได้หรือป่าวครับ

โดย : *นคร Member - Դ : 0819369002 -  [ 20/02/2010, 09:04:02 ]

67



ภาพที่ลง เฉลยการไล่ รวม 3 ภาพ หวังว่า คงไล่จนนะครับ จะเป็นกี่ที ก็ลองนับกันเองครับ
ขอความร่วมือเฉลยด้วย เผื่อเพื่อนๆที่คิดไม่ออก

โดย : *นคร Member - Դ : 0819369002 -  [ 20/02/2010, 09:09:45 ]

68

ขอบคุณอ.นครฯมากๆครับ ขออภัยท่านหนูแส้มด้วยนะครับ(เกิน 8 ทีครับอิอิ)
แต่ถ้าไม่โยนกระเบื้องจะได้หยกมาหรือเปล่าครับ

โดย : โรบัสต้า Member   [ 20/02/2010, 09:58:37 ]

69

ตามความเห็นที่ 62 ไล่จนแน่นอนครับ แต่เกิน 8 ถ้าหนีผิดก็ไม่ถึง จึงเป็นความเห็นส่วนตัวครับ
เป็นหมากต่อเสมอ เป็นแพ้ ไม่กำหนดที เพราะดำยอมให้รุกคาดนับ 16 ก็ได้ แต่แพ้แน่นอน

โดย : กระทิงป่า Member   [ 31/03/2010, 15:00:13 ]

70

น้องแป๊ว เด็กอนุบาล 3-4 ขวบ โรงเรียนไหนครับไล่รูปนี้จน จะส่งลูกไปเรียน

โดย : ทะยาน Member   [ 25/04/2010, 07:42:28 ]

71

โดย : minnuk Member   [ 25/04/2010, 15:21:28 ]
 
  E-mail: webmaster@thaibg.com Copyright 2002-2024@www.ThaiBG.com (Thailand), All Rights Reserved  
 
  Sponsors