รายละเอียด

: มติชนรายวัน อังคารที่ 6 ตุลาคม 2552


นายสันต์ พงษ์เกียรติศักดิ์ กรรมการบริหารสมาคมหมากรุกสากลแห่งประเทศไทย
เปิดเผยถึงความพร้อมของนักกีฬาหมากรุกสากลในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 3 ที่เวียตนาม
ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม - 8 พฤศจิกายน ว่า ส่งนักกีฬาร่วมแข่งขันทั้ง 4 คน
แต่ตอนนี้ติดปัญหาโค้ชชาวโคเอเชียที่ดูแลนักกีฬาเดินทางกลับบ้านเกิดได้ระยะหนึ่ง
และโค้ชชาวเยอรมันที่สมาคมเคยจ้างให้มาติวเข้มนักกีฬาได้หมดสัญญาไปแล้ว
ทำให้นักกีฬาหมากรุกสากลทีมชาติไทยต้องฝึกซ้อมผ่านอินเตอร์เน็ตกับผู้เล่นในทวีปยุโรปและอเมริกา
เพราะผู้เล่นเหล่านี้มีฝีมือดี และมีประโยชน์กว่าที่นักกีฬาไทยจะซ้อมกันเอง
ประกอบกับการที่เจ้าภาพกำหนดแข่งขันแบบเร็ว คือ 5 นาที และ 25 นาที แต่ปกติหมากรุกสากลจะใช้เวลาเล่น 1
ชั่วโมงครึ่ง - 2 ชั่วโมง ทำให้นักกีฬาไม่ค่อยคุ้นชินนัก ส่วนความหวังในการแข่งขันครั้งนี้
คงไม่ได้เหรียญแน่นอน เพราะนักกีฬาไทยยังอยู่ในช่วงพัฒนาฝึมือ

ความคิดเห็นที่ : 1

http://www.naewna.com/news.asp?ID=183060
จาก แนวหน้า 14 ตุลาคม 2552

http://www.siamrath.co.th/uifont/NewsDetail.aspx?cid=84&nid=48347
สยามรัฐรายวัน 14 ตุลาคม 2552
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01spo12141052&sectionid=0114&day=200
9-10-14
มติชนรายวัน 14 ตุลาคม 2552

http://www.thairath.co.th/content/sport/39451
ไทยรัฐ 14 ตุลาคม 2552

ความคิดเห็นที่ : 2

เป็นข่าวเกี่ยวกับหมากรุกสากลที่ห้ความรู้สึกดีๆ

1. "ส่วนความหวังในการแข่งขันครั้งนี้
คงไม่ได้เหรียญแน่นอน เพราะนักกีฬาไทยยังอยู่ในช่วงพัฒนาฝึมือ" นี่เป็นคำพูดที่ต้องใช้ความจริงใจ
และกล้าหาญมาก และเป็นความจริงสุดๆ เราต้องบนโลกแห่งความเป็นจริง ยอมรับ เพื่อที่เราจะได้ปรับปรุง
วางแผน และก้าวเดินกันต่อไป

2. แม้เราคาดว่าจะไม่ได้เหรียญใดๆ จากการแข่งขันครั้งนี้ แต่ผู้ไปแข่งไปในนามทีมชาติ
ก็น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้สนใจและเล่นหมากรุกสากลได้พัฒนาตนเพื่อโอกาสในการติดทีมชาติ
ซึ่งต้องนับเป็นเกียรติที่น่าภาคภูมิใจทั้งต่อตนเองและครอบครัว

3. หลังจากการแข่งรายการซีเกมส์ที่เวียตนามเป็นเจ้าภาพซึ่งเป็นครั้งแรกแล้ว
เราก็งดการส่งเข้าร่วมรายการซีเกมส์มาตลอดทั้งที่ฟิลิปปินส์ กระทั่งเมื่อเราเป็นเจ้าภาพเอง เราก็งดจัด
โดยส่วนตัวแล้วก็เห็นใจทุกฝ่าย ทางสมาคมฯก็ต้องการเข้าร่วมทุกครั้ง
แต่ในระดับนโยบายก็มองในแง่ความสัมฤทธิ์ผลคือการได้เหรียญเป็นสำคัญ
ด้วยอาจมองว่านั่นคือความสำเร็จของการทำงาน ซึ่งผมก็เคยคิดว่าดีเหมือนกัน เพราะในการเข้าร่วมแข่งขัน
แม้เราจะได้ประโยชน์มาบ้าง แต่ก็ดูจะเล็กน้อยจนเกินไป
เพราะเราก็จะยังห่างจากชาติที่เหนือกว่าเราเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

แต่เมื่อเห็นว่าวงการหมากรุกสากลเราเริ่มพัฒนามากขึ้น การมีองค์กรรับผิดชอบ ทำงานที่มองเห็นได้
จับต้องไ้ด้ มีงบประมาณพอสมควร ไม่เหมือนในอดีตที่ต้องควักเงินกันเอง
หรือบากหน้าหาสปอนเซอร์ที่แสนยากและน้อยนิด และการเริ่มจ้างโค้ชต่างประเทศเข้ามาสอน ฯลฯ เหล่านี้
ก็ทำให้เห็นว่าหมากรุกสากลเรามีอนาคต อาจจะขาดอะไรไปบ้าง อาจจะช้าบ้าง
แต่ก็มั่นใจว่าสักวันเราคงจะพอทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ได้ อย่างน้อยก็ชาติในอาเซียนด้วยกัน

ฝันว่าสักวัน หมากรุกสากลของเราจะคว้าเหรียญในซีเกมส์ได้

เอาใจช่วยสมาคมหมากรุกสากล กรรมการ และนักหมากรุกสากลทุกท่านครับ


ขอบคุณเป็นพิเศษแด่ขุนสันต์

ความคิดเห็นที่ : 3

The Qatari squad will include Mohammad Al Modahki, Mohammad Nasser, Hussein Aziz, Zhou Chen, Aysha
Al Khulaifi, Rim Balan

ทีมQatar

อ่านข่าวทั้งหมดได้ที่
http://www.olympic.qa/topics/index.asp?g=%7BD714141F-C3AE-489B-8AF6-0DF607445214%7D

รายละเอียดการแข่งครั้งที่ 2 ที่ มาเก๊า

http://www.olimpbase.org/2007ai/2007in.html

ความคิดเห็นที่ : 4

Koneru Humpy pulls out of Asian Indoor Games

อ่านข่าวได้ที่http://www.hinduonnet.com/2009/10/23/stories/2009102361131700.htm

ข่าวจากhttp://english.vietnamnet.vn/sports/200910/SPORTS-IN-BRIEF-21/10-874701/
Chess event draws strong rivals



High-ranking chess masters are set for a showdown at the Asian Indoor Games’ chess competition.

The Games’ organisers announced the participation of 19 delegations, including chess masters from
China, India and the Philippines, who will be up against Vietnamese masters Nguyen Ngoc Truong Son,
Le Quang Liem, Dao Thien Hai and Nguyen Anh Dung.

The Vietnamese team, including four other female masters, is one of the favourites of the
tournament, which is scheduled to be held from October 31 to November 7 at the Quang Ninh provincial
Gymnasium.

The competition will feature blitz and rapid chess events organised for both men’s and women’s
individual and team categories.

ความคิดเห็นที่ : 5

นายกฯ ให้กำลังใจนักกีฬาชุดเอเชียน อินดอร์เกมส์
กรุงเทพฯ 19 ต.ค. - นายกรัฐมนตรีอวยพรให้นักกีฬาชุดเอเชียน อินดอร์เกมส์
ประสบความสำเร็จในการแข่งขันที่เวียดนาม ปลายเดือนนี้

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย นำนักกีฬาไทยชุดเอเชียน อินดอร์เกม
ที่จะแข่งขันในระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม - 8 พฤศจิกายนนี้ ที่ประเทศเวียดนาม เข้าพบ นายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อขอพรและกำลังใจในการแข่งขัน โดยมีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 392 คน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
นักกีฬาทุกคนเป็นเสมือนทูตวัฒนธรรมของไทยที่จะนำเอกลักษณ์ของประเทศไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน
กีฬาเป็นเรื่องของวินัย และความสัมพันธ์อันดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และอวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จ
.-สำนักข่าวไทย
ชมคลิปข่าวนี้ได้ที่
ช่อง 9

http://news.mcot.net/sport/inside.php?value=bmlkPTM3NzcxJm50eXBlPWNsaXA=

ช่อง 7

http://www.ch7.com/news/news_sports_detail.aspx?c=4&p=20&d=53605

ความคิดเห็นที่ : 6

ทัพไทยแป้กวืดทองศึกเอเชียนอินดอร์เกมส์

http://www.siamsport.co.th/Sport_Other/091103_237.html

สรุปผลการแข่งขันประจำวัน (ไม่มีเกี่ยวกับหมากรุกสากล)

กกท. เตรียมผลักดันอี-สปอร์ต โกอินเตอร์

http://www.thairath.co.th/content/sport/44326

อี-สปอร์ต จากคอลัมน์เรียงหน้าชน ไทยรัฐ 4 พ.ย. 2552

http://www.thairath.co.th/column/sport/crash/44195

ความคิดเห็นที่ : 7

จะเรียกว่าประชุมก็ไม่ถูก เพราะเป็นการเรียกเข้าไปคุยทีละสมาคม
โดยมีผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและเจ้าหน้าที่คอยจดหนึ่งคน นั้นเลยเป็นเหตุผลที่ต้องใช้เวลารอนาน
บางสมาคมก็กลับไปก่อน ซึ่งตัวผมพอรับได้เพราะมีประสบการณ์จากพาราเกมส์มาแล้วและเจอกันทุกคน
ทางฝ่ายกีฬาเป็นเลิศก็ใช่จะสบาย แกยังเคยนัดผมมาเรื่องพิจารณางบอุปกรณ์ฝึกซ้อมพาราเกมตอนหกโมงเย็นเลย

เนื้อหาเท่าที่ผมจำได้ก็เป็นการพิจารณาแผนการเก็บตัว การจ้างโค้ชต่างประเทศ ที่พี่หมอธีระพงศ์เป็นคนทำ
เพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบของกกท. ระหว่างสอบถามผมพยายามถามหลายจังหวะว่าเราจะได้ไปหรือ ไม่มีคำตอบ?
การตอบของผมก็เลยไม่เกรงใจกันละ ด้วยความคิดในใจที่ว่าเอาอีกแล้ว
เป็นการมาช่วยเขาทำงานเอกสารให้เรียบร้อยอีกครั้งละมั่ง
โค้ชต่างชาติไม่เอาได้ไหม.....โค้ชคนไทยไม่มีครับ
เงินเดือนโค้ชที่ทางสมาคมแจ้งเกินขั้นสูงสุดของระเบียบกกท.....เอาเท่าที่ได้
เพราะสมาคมขอเก็บตัวไปแค่เดือนเดียว แล้วติดต่อใครไว้หรือยัง.....ยังครับ
ด้วยเงินจำนวนนี้คงสามารถหาโค้ชชาติย่านๆนี้ได้ครับ แกทำหน้างงนิดๆ ผมก็ไม่รู้งงอะไร
ยังมีเรื่องอื่นๆอีก แต่จำไม่ได้แล้ว ที่นี่ถึงตาผมถามบ้าง
ไม่ทราบว่าทางเวียดนามส่งรายละเอี่ยดการแข่งขันมาหรือยัง รูปแบบการแข่งขันเป็นอย่างไร
เพราะในเอเชี่ยนเกมส์แข่งแบบทีมประกอบด้วยชายสองหญิงสอง โควต้าที่ได้สี่คนจะต้องส่งแบบไหน
เจ้าหน้าที่คนที่นั่งอยู่ก็ย้อนถามทางสมาคมน่าจะได้รับแจ้ง มีบ้างไหม.....ไม่มีเลย(ในใจเอจะมีเปล่าหว่า
ข้อมูลเรามีแค่กระดาษแผ่นเดียว เลยต้องยันไม่มีอย่างเดียว)
ท่านผอ.เลยสั่งเจ้าหน้าที่คนนั้นไปติดตามเรื่องนี้ด้วย มองเห็นอาการเซ็งของเจ้าหน้าที่คนนี้ได้เลย

ความคิดเห็นที่ : 8

กกท.ชี้บางกีฬาเปลืองงบ

นายสกล กล่าวต่อว่า กกท.กำลังพิจารณาหลายกีฬาในเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ครั้งนี้ บางประเภทแข่งขันเพียง 3
ชาติ แม้จะได้อันดับสุดท้ายก็ยังได้เหรียญทองแดง แถมยังได้เงินรางวัล ขณะที่บางกีฬาส่งมาก็แพ้เละเทะ
โดยบอกว่าเป็นการมาหาประสบการณ์ และดึง ดันจะส่งมาให้ได้ กกท.จะกลับไปสังคายนาใหม่
จะต้องมีความเข้มข้นในการเตรียมนักกีฬามากกว่านี้

ข่าวสด 5 พศจิกายน 2552

ความคิดเห็นที่ : 9

แล้วก็มาถึงการประชุมใหญ่ครั้งแรก เป็นการประชุมกับทางกกท.ครั้งที่น่าจะยิ่งใหญ่สุดสำหรับผม
ที่นั่งของเหล่าสมาคมเล็กๆถูกบีบให้เหมือนกับเด็กๆนั่งติวในโรงเรียนกวดวิชา เข้ามานั่งแล้วห้ามออก
ตัวแทนจากสมาคมหมากรุกจีนก็นั่งอยู่ห่างไปสองสมาคม แต่สองสมาคมนั้นมีหนึ่งสมาคมไม่เข้าร่วมประชุม
หรืออาจไปนั่งที่อื่นก็ไม่ทราบ สาระเป็นการพิจารณางบเตรียมทีมและอุปกรณ์ของเอเชี่ยนอินดอร์
การจัดแข่งเอเชี่ยนมาร์เชียลอาร์ต และการส่งนักกีฬาเข้าแข่งเอเชี่ยนพาราเกมส์
เนื่องจากมีเรื่องสำคัญหลายเรื่อง
ตัวแทนจากหลายสมาคมและผู้หลักผู้ใหญ่ฝ่ายโอลิมปิกหลายท่านก็ได้เข้าร่วมประชุม
เมื่อการประชุมดำเนินมาถึงวาระของการพิจารณาตัดงบของเอเชี่ยนอินดอ โดยพิจารณาทีละสมาคม
เริ่มไปได้สามสี่สมาคม ก็ทำท่าจะไม่จบง่ายๆ เสียแล้ว กกท.ก็อยากลด สมาคมก็สู้
จนท่านจารึกแนะนำว่าแต่ละสมาคมก็มีเหตุผลและลูกเล่นแพรวพราว ฝีมือขั้นเซียนทั้งนั้น
จะไปตัดงบเขาไม่ง่ายหรอก เลยขอให้ทางกกท.ยอมผ่าน
ในส่วนของหมากรุกสากลนั้นไม่ได้ของบอุปกรณ์เลยจึงไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการพิจารณาครั้งนี้มาฟังอย่างเด
ียว การประชุมไปจบที่เรื่องเอเชี่ยนพาราเกมส์ซึ่งมีรื่องประท้วงการคัดตัวเป็นประเด็นร้อน
แต่ทางกกท.ขอไปรวมในการประชุมอีกสองวันข้างหน้าเฉพาะเอเชี่ยนพาราเกมส์
การประชุมในวันนั้นผมรู้สึกได้ถึงความขัดแย้งของทางกกท.กับโอลิมปิกที่กำลังเป็นข่าวได้พอสมควร
ได้เห็นเทคนิคชมก่อนตำหนิทีหลัง องครักษ์พิทักษ์นาย
จบการประชุมความรู้สึกมั่นใจว่าโอลิมปิกยอมส่งหมากรุกสากลไปแน่ งานเข้าแล้วเรา
รีบคิดถึงปัญหาที่จะตามมา เตรียมคำถามไปถามเจ้าหน้าที่กกท.
มองไปก็เห็นแต่เจ้าหน้าที่คนเดิมที่นั่งจดข้อมูลตอนพิจารณาแผนเตรียมทีมครั้งที่แล้ว
นึกได้ก็เดินไปหาทันที แต่ยังช้ากว่าอีกหลายสมาคม หนึ่งในนั้นก็หมากรุกจีนที่มากันสามท่าน
อาวุโสทั้งนั้น ซึ่งเป็นคิวรองสุดท้ายแต่ใช้เวลาคุยนานสุด คงเพราะสมาคมเพิ่งมาเข้าสังกัดกกท.
ระหว่างคุยก็พูดจากันดี แล้วก็มาถึงผมคิวสุดท้าย ลงไปนั่งแบบเข่าแตะพื้นข้างตั้งข้าง
จริงๆอยากนั่งคุกเข่าไปเลยจะสะดวกกว่า
ที่ตอนแรกขอโค้ชต่างชาติไปขอเปลี่ยนกับเป็นโค้ชคนไทยได้ไหมครับ
(เพราะตอนนั้นไม่อยากให้สมาคมต้องจ่ายเงินเพิ่ม เลยลองถามดู).........ก็ทำจดหมายมาได้ ฯลฯ
บรรยากาศแปลกๆไม่เห็นเหมือนที่สนทนากับตัวแทนหมากรุกจีนเลย

เออคือหมากรุกมันไม่เหมือนกีฬาชนิดอื่น
(ผมพยายามจะบอกข้อแตกต่างบางอย่างที่ทำให้การเตรียมทีมหมากรุกนั้นยากกว่าอย่างเช่นเวลาที่ใช้ในการฝึกซ้อ
มแต่ละวัน ฯลฯ).......ก็ยากเหมือนกันทุกชนิดกีฬาแหละ พร้อมกับสีหน้าออกอาการเซ็ง (
คิดในใจเออถูกของเขาแหละ)
แล้วก็ตามด้วยประโยคไคลแม็กซ์ ถ้าสมาคมรู้สึกว่าไม่พร้อมก็ทำเรื่องเข้ามาขอสละสิทธิ์ได้ (โดนครับ
โดนเต็มๆ
ถึงเจ็บจี๊ดอย่างไร แต่เอก็ถูกของเขาอีกแหละ ความคิดนี้ก็เข้าที ต้องนำเข้าที่ประชุมสมาคม)
และนั้นรู้สึกเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมไปขอความช่วยเหลือจากท่านนี้
...ต่อไปนี้นะ...จะไม่มาวุ่นวาย.... ไม่มารบกวน...... แต่ยังคงต้องมาให้เห็นหน้ากันอยู่ เรื่อยๆ
ในฐานะที่ผมเป็นกรรมการเดินเอกสารอันดับหนึ่งของสมาคม

ความคิดเห็นที่ : 10

ถึงเวลาจะผ่านไปหลายปีแล้ว แต่การสนทนากับเจ้าหน้าที่กกท ท่านนั้น ก็ยังทำให้ผมอดคิดถึงไม่ได้
แม้ว่าปัจจุบันจะไม่ได้พบกันแล้ว
เพราะเจ้าหน้าที่ท่านนี้คงย้ายตามผู้อำนวยการฝ่ายไปอยู่ฝ่ายอื่นซึ่งผมไม่รู้ว่าใหญ่ขึ้นหรือเปล่า
ถึงผมจะรุ้สึกว่าเราอาจมีอคติต่อกัน
จนบางครั้งไม่สามารถแยกออกว่าสิ่งที่เขาพูดมีความหมายอื่นซ่อนอยู่หรือไม่หรือเขามีความเป็นมืออาชีพแค่ไห
น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะสิ่งที่เขาพูดก็เป็นเรื่องจริง การสนทนาในความเห็นที่ 17
ผมลืมไปว่าเมื่อเขาพูดเชิงตัดบทว่าถ้าสมาคมเห็นว่าไม่พร้อมก็ทำหนังสือขอสละสิทธิ์มาได้
เขายังพูดต่อในเชิงว่าเมื่อคิดจะส่งแล้วก็เดินหน้าให้เต็มที่อย่าคิดถอยหลัง
ซึ่งในตอนนั้นผมก็รู้สึกอยากอธิบายต่อถึงปัญหาในสมาคมผม แต่ก็เข้าใจว่างานเขายุ่ง
ผมในสายตาเขาคงแย่ทีเดียว

ความคิดเห็นที่ : 11

แต่ครั้งสุดท้ายที่ผมมีโอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่กกท.ท่านนี้เป็นช่วงการพิจารณาชนิดกีฬาที่จะเข้าร่วมเอเชี่
ยนเกมส์กวางโจว ผมต้องเข้าไปติดต่อเรื่องเอกสารกับฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ
เผอิญมีข้อสงสัยที่หนังสือพิมพ์บางฉบับลงเหมือนกับหมากรุกได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วม(ซึ่งที่จริงเป็นหม
ากล้อม เนื่องจากเจ้าภาพนำหมากล้อมไปบรรจุไว้ในกีฬาหมากรุกเพื่อไม่ให้ชนิดกีฬามีมากเกินไป)
ผมถามเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเอกสารสมาคมหมากรุก เขาก็เลยถามต่อกัฐเจ้าหน้าที่ท่านนั้น
ซึ่งกำลังยุ่งอยู่กับงานตัวเอง ใจผมตอนนั้นเอาอีกแล้ว อุตส่าห์ไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว
เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็ละจากงานด้วยสีหน้าเหนื่อยๆ พร้อมกับ บอกว่า ถ้าอยากส่งก็ทำเรื่องเข้ามา
ผมก็ตอบว่าสมาคมไม่ได้คิดจะส่งแต่เห็นหนังสือพิมพ์บางฉบับลง
แล้วผมจะอธิบายให้คนในสมาคมเข้าใจเองเพราะมีบางคนอยากส่ง แล้วก็ลากลับ
(ใจผมตอนนั้นก็มีทัศนคติที่ดีขึ้นกับเจ้าหน้าที่ท่านนี้ นึกว่าจะโดนด่าซะแ้ว)
ต่อมาผมกับสหพล(เลขาฯสมาคมในขณะนั้น)ได้มีโอกาสไปรับเกียรติบัตรของผู้เข้าร่วมเอเชี่ยนอินดอเกมส์ด้วยกัน
ที่โอลิมปิกไทยแถวเทเวศน์
เจ้าหน้าที่โอลิมปิกก็พูดขึ้นว่าไม่เห็นมีเอกสารของสมาคมหมากรุกเรื่องเอเชี่ยนเกมส์กว่างโจวเลย
ไม่ส่งหรือทำไมไม่รักษาสิทธิ์ละ ทางเราก็บอกว่าไม่มีหวังเหรียญ
เขาก็บอกว่าให้เอาผลงานเก่าๆเสนอขึ้นมาซิ เหมือนจุดประกายความหวังให้ทางสหพล
ส่วนผมก็คิดในใจงานเข้าแล้ว จะอธิบายยังไงดี ก็ได้แต่เกริ่นเรื่องของสมาคมอื่นให้ฟัง
ยังดีหลังจากนั้นศักหนึ่งสัปดาห์ สหพลก็โทรมาคุยว่าไม่ทำเรื่องแล้ว
เพราะลองไปค้นๆหาผลงานก่อนหน้านั้นดูก็คิดว่าโอกาสผ่านมีน้อยมาก ผมก็โล่งอกไปเลย

กลับมาที่เรื่องเอเชี่ยนอินดอเกมส์ที่เวียดนาม
ในครั้งนั้นดูเหมือนว่าจะมีผมเพียงคนเดียวที่คัดค้านการส่งแข่ง เพราะผมเห็นว่า
เอเชี่ยนเกมส์ที่กว่างโจวน่าจะน่าสนใจกว่าทั้งในเรื่องความสำคัญ,ความยิ่งใหญ่และงบประมาณ
เราคงต้องเลือกรายการใดรายการหนึ่ง
ผมอยากเสี่ยงเลือกเอเชี่ยนเกมส์โดยสละสิทธิ์เอเชี่ยนอินดอเกมส์ที่เวียดนามไป
แต่พี่ธีระพงศ์คิดว่าเราควรเลือกสิ่งที่ใกล้ตัวและเป็นไปได้มากกว่า คงไม่มีทางรู้ว่าใครถูกใครผิด
แต่ที่ถูกคือเราสามารถเลือกได้รายการใดรายการหนึ่งเพียงรายการเดียว
ตราบเท่าที่เรายังไม่สามารถสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ได้
ดังนั้นทัศนคติที่ว่ากกท.หรือโอลิมปิกเป็นผู้ตัดโอกาสเราควรจะเปลี่ยนได้แล้ว
เพราะเขาให้โอกาสเราก็หลายครั้งแล้ว ที่เราไม่ได้สิทธิ์ก็เพราะตัวพวกเราเอง