[ กลับหน้าหลัก ]


เรื่องขำๆ

สวัสดีครับเพื่อนๆที่รัก

สาเหตุของการเขียนกระทู้นี้เพราะว่าผมชอบเข้ามาอ่านในนี้ประจำแต่พักหลังๆรู้สึกว่านักเขียนมือดีทั้งหลาย
ห่างหายไป
เกิดรูสึกคิดถึงและเสียดายเลยตั้งกระทู้นี้มากระตุ้นต่อมเขียนของยอดฝีมือทั้งหลาย
ประมาณว่าโยนกระเบื้องล่อหยกไง
กระทู้นี้เป็นเรื่องตลกให้เพื่อนอ่านขำๆคลายเครียด

หนุ่มนักศึกษาจบใหม่ไปสมัครงานในบริษัทแห่งหนึ่ง

ด้วยความที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงเท่าไหร่
เขาจึงมีปัญหากับการกรอกใบสมัครที่มีข้อความบางส่วนเป็นภาษาอังกฤษ

เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลเดินมาเจอตอนที่เขากำลังกรอกข้อความ "อาทิตย์ละ2-3ครั้ง" ลงในช่อง
"SEX" พอดี

"ไม่ใช่อย่างง้าน..." เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหัวเราะก๊าก "เอาแค่ว่าชายหรือหญิงก็พอ"

ไอ้หนุ่มยิ้มเขินๆก่อนขีดฆ่าข้อความเดิมแล้วเขียนลงไปใหม่ว่า "ไม่เกี่ยง"


นักลงทุนคนหนึ่งกำลังเดินชมโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ยางแห่งหนึ่ง

ที่สายการผลิตแห่งแรก เป็นสายการผลิตจุกยางขวดนม เสียงเครื่องจักรดัง ฟี้ดดดดด ปุ ฟี้ดดดดด ปุ ฟี้ดดดดด
ปุ ... อยู่ตลอดเวลา

"เสียงที่ได้ยิน ฟี้ดดดดด นี่เป็นเสียงยางถูกฉีดเข้าไปในแม่พิมพ์ครับ" ผู้จัดการโรงงานบรรยาย
"ส่วนเสียง ปุ เป็นเสียงเครื่องเจาะรูตรงหัวจุกนม"

สักครูต่อมา ผู้จัดการก็พามาถึงสายการผลิตถุงยางอนามัย เสียงเครื่องจักรทำงานดัง ฟี้ดดดดด ฟี้ดดดดด
ฟี้ดดดดด ฟี้ดดดดด ปุ ฟี้ดดดดด ฟี้ดดดดด ฟี้ดดดดด ฟี้ดดดดด ปุ ...

"เอ... ทำไมเสียงเครื่องจักรมันเป็นยังงั้นล่ะครับ" นักลงทุนข้องใจ "ทำไมต้องมีเสียง ปุ
นั่นด้วย?"
"เครื่องจักรนี้ก็ทำงานเหมือนกับเครื่องผลิตจุกนมแหละครับ" ผู้จัดการชี้แจง "เสียง ปุ
นั่นคือเสียงเครื่องเจาะถุงยางอนามัยทุกๆอันที่ 4"
"เฮ้ย... นั่นไม่เข้าท่าเลยนะสำหรับธุรกิจถุงยางน่ะ" นักลงทุนชักเป็นกังวล
"ก็ใช่แหละครับ" ผู้จัดการโรงงานยอมรับ "แต่ผมว่ามันดีสำหรับธุรกิจจุกนมนะครับ"



ถึง:ผู้จัดการฝ่ายบุคคล
เรื่อง:รายงานการประเมินผลงานนายวันเฉลิม

ในช่วงระหว่างทดลองงาน นายวันเฉลิมเป็นพนักงานที่เอาแต่
ทำงาน เขาสามารถทำงานอย่างมีความรับผิดชอบ ไม่เคย
ใช้เวลางานไปทำเรื่องส่วนตัวและพูดคุยโทรศัพท์ เขาไม่เคย
ลังเลที่จะช่วยเหลืองานเพื่อนร่วมงาน ในขณะที่ยังสามารถ
ทำงานที่ตนเองได้รับมอบหมายได้ทันเวลา เขาจะใช้เวลาเกินเวลา
งานเพื่อทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จสิ้น โดยถึงกับจะไม่ไป
พักทานข้าวกลางวันอยู่บ่อยครั้ง นายวันเฉลิมเป็นพนักงานที่ไม่มี
ความเย่อหยิ่งถือตัว ถึงแม้ว่าเขาจะมีมาตรฐานที่สูงมากใน
ความรู้ในสาขาที่เขาได้ร่ำเรียนมา ผมเชื่อว่านายวันเฉลิมไม่มี
จุดด้อยใดๆ บุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเช่นนี้จะเป็น
ประโยชน์ต่อบริษัทของเรา ผมขอแนะนำว่าเราควรจะ
เลื่อนขั้นให้เขาเป็นผู้บริหาร ทั้งนี้การดำเนินการนั้น ควร
จัดการให้เร็วที่สุดครับ


--------------------------------------------------------------------------------

ถึง:ผู้จัดการฝ่ายบุคคล
เรื่อง:รายงานการประเมินผลงานนายวันเฉลิม(เพิ่มเติม)

ตอนผมเขียนรายงานการประเมิน นายวันเฉลิมมายืนอยู่หลังผม ไล่ยังไงก็ไม่ไป
รายงานการประเมินขอให้อ่านเฉพาะบรรทัดเว้นบรรทัดนะครับ



เรื่องของปัจจัยในความสำเร็จในการงานนั้นเป็นที่โต้เถียงกันมานานว่าอะไรสำคัญกว่ากัน
แต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเอง แต่ก็ยากที่จะหาสูตรสำเร็จมาชี้วัดได้อย่างเป็นรูปธรรม
จนกระทั่งได้มีการพัฒนาวิธีการพิเศษที่จะพิสูจน์กันอย่างง่ายๆให้ดูกัน

หลักการคือการกำหนดให้ตัวอักษรแต่ละตัว
A B C D E F G H I J K L M N O P Q R S T U V W X Y Z
แทนค่าตัวเลข
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเราจะเอามาใช้เป็นดัชนีชี้เงื่อนไขของความสำเร็จแต่ละอย่าง

ความรู้ KNOWLEDGE = 11+14+15+23+12+5+4+7+5 = 96
การทุ่มเท HARDWORK = 8+1+18+4+23+15+18+11 = 98
ทัศนคติ ATTITUDE = 1+20+20+9+20+21+4+5 = 100

ซึ่งจะได้ผลสรุปว่าทัศนคติที่ดีนั้นมีความหมายมากกว่าความรู้หรือการทุ่มเท

แต่ยังก่อน!!!

ยังมีปัจจัยอื่นที่น่าสนใจอยู่อีก นั่นคือ
ตอแหล BULLSHIT = 21+12+12+19+8+9+20 = 103
และ
เลีย ASS KISSING = 1+19+19+11+9+19+19+9+14+7 = 118!!!

คิดเอาเองละกัน



ภาษาอังกฤษวันละสองสามคำ

bus station แปลว่า แปลว่าสถานีรถบัส เป็นที่หยุดรถบัส
train station แปลว่าสถานีรถไฟ เป็นที่หยุดรถไฟ
แล้วลองมองบนโต๊ะทำงาน คุณจะพบคอมพิวเตอร์ที่เป็น work station
ลองแปลดูซิ...


คนส่วนมากจะรู้จักอียิปต์โบราณว่าเป็นพวกที่ขึ้นชื่อมากในเรื่องคำสาปที่แสนจะน่าสะพรึงกลัว
แต่คนส่วนน้อยจะรู้จักถึงด้านอื่นๆของศาสตร์อันลี้ลับอันอื่นๆ
โดยเฉพาะเรื่องการทำนายนิสัยคนจากเรื่อง"ตด"
คนชอบอั้นตดไปปล่อยที่บ้าน ท่านว่าเป็นคนขี้เกรงใจหรือม่ายก็ขี้งก
คนชอบตดเสียงดังแต่ไร้กลิ่น ท่านว่าเป็นคนขี้โม้ ดีแต่พูด
คนตดไร้เสียงแต่กลิ่นมหากาฬ ท่านว่าให้ระวังให้จงหนัก เพราะคนเช่นนี้อำมหิตนักแลฯ
คนตดทีละนิดๆ ท่านว่าเป็นเป็นคนรอบคอบ ไม่ผลีผลาม
คนตดพร้อมกับไอกระแอม ท่านว่าคนเช่นนี้เจ้าเล่ห์นักเชียว
คนตดไปเคาะโต๊ะไปแต่ดันผิดจังหวะ ท่านว่าเป็นคนโชคร้ายสุดๆ
คนตดแล้วดันมองหน้าคนข้างๆ ท่านว่าคนเช่นนี้คบไม่ได้
.
.
.
แม่นมั้ย?



ชนเผ่าหนึ่งในอาฟริกาประสบปัญหาอาหารขาดแคลนอย่างหนักจนหัวหน้าเผ่าคนเก่าอยู่ไม่ได้
ต้องลาออกเพื่อให้ชาวบ้านได้เลือกหัวหน้าใหม่
"ตูข้าจะติดต่อไปที่ไทยแลนด์ บอกว่าเราต้องการความช่วยเหลือ พวกเขาใจดีมาก
มั่นใจว่าจะต้องส่งข้าวมาให้เรา แถมเมล็ดพืชและพันธุ์สัตว์
แล้วเอาผู้เชี่ยวชาญมาสอนเราซักห้าสิบคนด้วย" ผู้สมัครรายหนึ่งประกาศบนเวทีหาเสียง
"อือ" ชาวบ้านที่มาฟังการปราศัยพยักหน้าหงึกๆแต่ยังลังเลใจอยู่
"แล้วตูข้าจะติดต่อไปที่อเมริกาบอกว่าไทยแลนด์กำลังจะช่วยเรา อเมริกาไม่ยอมเสียหน้าแน่
พวกเขาจะส่งทุกอย่างมาให้เรามากเป็นสองเท่าของที่ไทยแลนด์มอบให้เราอย่างแน่นอน"
ผู้สมัครเสนอไอเดียต่อ
"อือ อือ" คราวนี้คนดูบางส่วนชักเห็นดีด้วย พวกเขาเริ่มโต้เถียงกันเซ็งแซ่
"แล้วทีนี้..." ผู้ปราศัยประกาศลั่นกลบเสียงของคนดู "พอพวกนั้นมาถึง
เราจะจับผู้เชี่ยวชาญกินให้หมดเลย"
"เฮ...." เสียงคนดูตะโกนโห่ร้องอย่างถูกใจสุดๆ


เคล็ดลับของความสัมพันธ์ที่ดี
1.คุณต้องหาผู้หญิงที่เป็นแม่บ้านแม่เรือน งานบ้านงานเรือนห้ามขาดตกบกพร่อง
2.คุณต้องหาผู้หญิงที่เป็นคนทำงาน หาเงินเก่ง จะได้ร่วมกันสร้างฐานะ
3.คุณต้องหาผู้หญิงที่ใจรักเรื่องการมุ้ง ชีวิตรักจะได้ราบรื่น
4.คุณต้องระวังอย่าให้ผู้หญิงทั้งสามคนนี้เจอกันเด็ดขาดเชียวนะเฟ้ย ไม่งั้นยุ่งแน่!!!


ขอให้เพื่อนๆนักอ่านทุกคนมีความสุขมากๆครับ
ขอคุณที่แวะเข้ามาอ่านครับ

อ๋าม้าคู่

โดย : อ๋าม้าคู่ Member - Դ : 0869949358 [ 25/09/2007, 00:15:17 ]

1

เรื่องตด ตลกดี ว่าแต่ถ้าอยู่ที่ไหนก็ตดไปทั่วแสดงว่าเป็นคนมีน้ำใจใช่ปะจะได้ดมกันทั่วหน้า 555

โดย : ลูกทักษิณ1 Member   [ 25/09/2007, 07:45:34 ]

2

อ่านแล้ว ตลกดี เข้าจายหาข้อความมาให้เพื่อน ๆ ในเวฟนี้
อ่านนะ ยังไง ก็ขอให้คนเขียนกระทู้ ได้พบได้เจอ ผู้หญิง
ที่เป็นแม่ศรีเรือนด้วยหล่ะกาน สักวันท่านต้องได้เจอ ทำความดี
ยังไง ๆ ก็ต้องมีคนเห็น ขอให้คนเขียนกระทู้ โชคดีนะจ๊ะ

โดย : นกแอร์จ๊ะ Member   [ 25/09/2007, 18:51:11 ]

3

ของขวัญให้คุณครู

ครั้งหนึ่งในวันครู เด็กนักเรียนอนุบาลโรงเรียนหนึ่งจัดหาของขวัญมาให้คุณครูที่รักของพวกเขา

เด็กคนแรกเป็นลูกสาวร้านดอกไม้เธอเอาของขวัญใส่กล่องมาให้ครู
"ครูว่าต้องเป็นดอกไม้แน่ๆเลย" คุณครูว่า
"คุณครูเก่งจังค่ะ รู้ได้ยังไงคะ" หนูน้อยแปลกใจ
"ครูเดาเอาน่ะจ้ะ" คุณครูอมยิ้ม

เด็กคนที่สองเป็นลูกคนขายขนม
"ครูว่าต้องเป็นขนมแน่ๆเลย" คุณครูบอก
"คุณครูเก่งจังเลยค่ะ" หนูน้อยช่างซื่อซะจริงๆ
เช่นเคยคุณครูตอบว่า
"ครูเดาเอาน่ะจ้ะ"

เด็กคนที่สามเป็นลูกชายร้านขายเหล้านอก เขาเอากล่องของขวัญกล่องใหญ่ น้ำหนักก็ไม่ใช่น้อย
คุณครูสังเกตเห็นตรงมุมกล่องมีน้ำซึมเปียกอยู่ด้วย
"ต้องเป็นไวน์แน่ๆเลย" ครูเดา
"ไม่ใช่ครับ" ไอ้หนูยิ้มอย่างภูมิใจที่ครูเดาใจเขาไม่ถูก
ครูเอานิ้วแตะน้ำที่ซึมตรงมุมกล่องขึ้นมาชิมดูแล้วเดาใหม่
"แชมเปญเอ้า!"
"ฮี่ฮี่ ไม่ถูกอยู่ดีครับ" ไอ้หนูชอบใจ
"ครูยอมดีกว่าจ้ะ อะไรอยู่ในกล่องจ๊ะ" ครูสาวยอมแพ้เพราะเธอไม่สันทัดเรื่องเมรัย
"ขอเฉลยว่า..." ไอ้หนูทำท่าภูมิอกภูมิใจในชัยชนะ "ลูกหมาครับ!!!"

หมานำทาง

ชายสองคน(ถูกเมียบังคับให้)จูงหมาไปเดินเล่น คนนึงจูงอัลเซเชี่ยน อีกคนจูงชิทสุ
พวกเขาเดินเรื่อยเปื่อยทะลุไปถึง RCA
"เขาไปหาเหล้ากินในผับดีกว่าว่ะ" คนที่จูงอัลเซเชี่ยนชวน
"เฮ้ย... แล้วหมาล่ะ จะทำไง" คนที่จูงชิทสุห่วงหมา
"เอาน่า... ไม่ต้องห่วง ตามอั๊วมาละกัน" คนจูงอัลเซเชี่ยนว่า

ชายเจ้าของอัลเซเชี่ยนควักแว่นกันแดดขึ้นมาใส่แล้วเดินตรงเข้าไปที่ประตูผับ
"พาสุนัขเข้าไปไม่ได้นะครับ" รปภ.รีบห้าม
"เอ้อ.. นี่หมานำทางของผมนะครับ" ชายเจ้าของอัลเซเชี่ยนตีขลุมเป็นคนตาบอด
"เจ้าอัลเซเชี่ยนนี่น่ะหรือครับ..." รปภ.ลังเล
"ใช่สิ มันนำทางเก่งมากเลยนะคู๊ณณณณ" ชายเจ้าของอัลเซเชี่ยนยืนยัน
"ถ้างั้นก็เข้าได้ครับ" รปภ.อนุญาต

ชายเจ้าของชิทสุแอบมองอยู่พลางชมเชยแผนของเพื่อน เขาควักแว่นกันแดดขึ้นมาใส่แล้วเดินเข้าไปที่ผับมั่ง
"พาสุนัขเข้าไปไม่ได้นะครับ" รปภ.รีบห้ามเหมือนเดิม
"นี่หมานำทางของผมนะครับ" ชายเจ้าของชิทสุเอามั่ง
"ทำเป็นเล่นไปน่ะคุณ นี่มันชิทสุนะครับ" รปภ.แค่นหัวเราะ
"จิ๊บป๋าย" เจ้าของชิทสุสบถ "มันเอาชิทสุมาเป็นหมานำทางให้ผมหรือวะเนี่ย!!!"

หมาพูดได้

ชายคนหนึ่งพยายามขายหมาของเขาให้กับเพื่อนบ้าน
"นี่เป็นหมาพูดได้นะครับ" เขาโฆษณา "ผมขายให้คุณร้อยบาทเท่านั้นแหละ"
"พูดเป็นเล่นไปได้น่ะ" เพื่อนบ้านไม่เชื่อ "ของอย่างนี้มันมีที่ไหน"
ทันใดนั้นเอง เจ้าหมาน้อยก็มองจ้องเขาน้ำตาคลอหน่วย
"ช่วยซื้อผมไปทีสิครับ" เจ้าหมาน้อยพูด "เจ้านายผมเป็นคนโหดร้ายมาก ไม่เคยให้อาหารผมกิน
น้ำก็ไม่อาบ ไม่เคยพาไปเดินเล่นด้วย ผมเคยเป็นหมาที่ดังที่สุดในโลก
แสดงโชว์ต่อหน้าผู้นำประเทศมาแล้วหลายครั้ง เคยรับราชการทหาร
ได้เหรียญกล้าหาญมาตั้งเจ็ดครั้งแน่ะครับ"
"เฮ้ย..." ชายเพื่อนบ้านตกใจ "หมาคุณพูดได้จริงๆหรือวะนี่
แล้วคุณคิดยังไงถึงจะขายแค่ร้อยเดียว?"
"ผมเบื่อมันน่ะ.." ชายเจ้าของหมาบอก "มันชอบตอแหล..."

คู่แต่งงานใหม่สดๆซิงๆด้วยกันทั้งคู่ เข้าห้องหอในคืนแต่งงานแบบคนตาบอด นึกไม่ออกว่าจะเริ่มต้นยังไง
ในที่สุดเจ้าบ่าวตัดสินใจโทรไปขอคำปรึกษาจากพ่อ
“พ่อครับ ผมไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง”
“ไม่เห็นจะยาก” พ่อว่า “แก้ผ้า แล้วขึ้นไปนอนบนเตียงซีวะ”
เจ้าบ่าวทำตามคำแนะนำ
ส่วนเจ้าสาวเมื่อเห็นเจ้าบ่าวทำอย่างนั้นเธอก็ตกใจ รีบโทรไปปรึกษาแม่บ้าง
“แม่ขา เค้าแก้ผ้านอนอยู่บนเตียงน่ะค่ะ”
“เอ้อ แปลกคนจังลูกคนนี้” แม่บ่น “หนูก็แก้ผ้ามั่ง แล้วก็ขึ้นไปนอนบนเตียงกับเค้าสิ”
สาวเจ้าทำตามคำแนะนำ
เวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง ทั้งสองคนนอนนิ่งกันอยู่บนเตียง ไอ้หนุ่มทนไม่ไหว หมุนโทรศัพท์หาพ่ออีก
“เมียแกถอดเสื้อผ้าแล้วใช่มั้ย” พ่อพูดเซ็งๆ “ทีนี้แกก็เอาส่วนที่แข็งที่สุดของแกไปใส่ในที่ๆเธอฉี่ซะ”
ไอ้หนุ่มวางหูแล้วทำตามคำแนะนำ
ทีนี้เจ้าสาวก็โทรหาแม่บ้าง
“แม่คะ หนูทำยังไงต่อดีคะ” เธอถาม
“แล้วทำอะไรกันไปถึงไหนล่ะ” แม่ถาม
“เค้าอยู่ในห้องน้ำ เอาหัวมุดชักโครกอยู่ค่ะ”


อมยิ้ม

เสียงกริ่งพักกลางวันดังขึ้นที่โรงเรียน ไอ้หนู 5 คนวิ่งกรูกันเข้าไปที่ร้านขายขนม
เจ้าของร้านถามไอ้หนูคนแรกในแถวว่าจะซื้อขนมแบบไหน
“เอาอมยิ้มสองอันครับ” ไอ้หนูตอบ
เจ้าของร้านเก็บอมยิ้มไว้ที่ชั้นบนสุดของตู้ เขาจึงไปลากบันไดมา แล้วปีนขึ้นไปหยิบโหลใส่อมยิ้ม
หยิบอมยิ้มสองอันยื่นให้ไอ้หนู แล้วเก็บโหลอมยิ้มกลับเข้าที่เดิม
หลังจากเอาบันไดไปเก็บเขาก็กลับมาที่ไอ้หนูคนที่สอง
“แล้วเธอล่ะจะเอาอะไร” เขาถาม
“ผมก็เอาอมยิ้มสองอันเหมือนกันครับ” ไอ้หนูตอบ
เจ้าของร้านจึงต้องไปลากบันไดมาปีนเอาโหลอมยิ้มอีกครั้ง เขาทำเหมือนเดิม หยิบอมยิ้มออกมาจากขวดโหล 2 อัน
แล้วเก็บโหลเข้าที่เดิม และลากบันไดไปเก็บ
หลังจากนั้นเจ้าของร้านก็ต้องออกกำลังกายอย่างเดิมอีกสองครั้งเพราะไอ้หนูสองคนถัดมาก็อยากได้อมยิ้ม 2
อันเหมือนๆกัน
คราวนี้เจ้าของร้านเริ่มเข้าใจชิวิต ก่อนเขาเอาโหลอมยิ้มไปเก็บ เขาก็ถามไอ้หนูคนสุดท้าย
“แล้วเธอล่ะ ต้องการอมยิ้ม 2 อันด้วยหรือเปล่า”
“เปล่าครับ” ไอ้หนูส่ายหน้า
เขาจึงเอาขวดโหลอมยิ้มขึ้นไปเก็บบนชั้น แล้วเอาบันไดไปเก็บ
“เอาล่ะ” เจ้าของร้านคุยกับไอ้หนูตัวเปี๊ยกคนสุดท้าย “ทีนี้มาดูกันว่าเธออยากได้อะไร”
ไอ้หนูตอบด้วยแววตาใสซื่อบริสุทธิ์
“ผมเอาอมยิ้มอันนึงฮับ”

อ้อมๆ หน่อยนะ

ไรอันอายุครบกำหนด ต้องไปรับใช้ชาติโดยเป็นทหารเกณฑ์
หลังจากฝึกอยู่ได้ 1 เดือนพ่อเขาก็ตาย
ผู้กองจึงสั่งให้ครูฝึกไปแจ้งข่าวร้ายแก่ไรอัน
"จ่าไปบอกไรอันมันดีๆนะ อย่าให้มันเสียใจมาก" ผู้กองกำชับ
"ครับพ้ม" ครูฝึกรับคำสั่ง "พ้มรู้ดีครับว่าจะต้องทำยังไง"
เมื่อครูฝึกไปถึงแถวทหาร
"พลทหารไรอัน ออกมา" ครูฝึกสั่ง
"มีข่าวจากทางบ้าน พ่อนายตายแล้ว!"
ไรอันเสียใจมาก ร้องไห้อยู่ร่วมเดือน
หลังจากนั้นราวสามเดือน แม่ของไรอันก็ตาย
คราวนี้ผู้กองคิดว่าจะไปบอกข่าวกับไรอันเอง แต่ครูฝึกก็ยืนยันว่าจะไปแจ้งข่าวกับไรอันให้
หลังจากลังเลอยู่สักพักผู้กองก็ยอม
"ก็ได้ แต่คราวนี้จ่าต้องพูดให้มันทำใจได้หน่อยนะ อย่าไปบอกมันตรงๆแบบคราวที่แล้ว"
ผู้กองกลัวพลาดอีก
"ครับพ้ม" ครูฝึกรับคำสั่ง "ไม่ต้องห่วงครับ พ้มมีประสบการณ์แล้วครับ"
เมื่อครูฝึกไปถึงแถวทหาร
"ใครที่แม่ยังไม่ตาย ให้ก้าวออกมา 2 ก้าว"
"เฮ้ย พลทหารไรอันออกมาทำไม"


หกล้ม

บาทหลวงผู้เบื่อหน่ายกับชาวเมืองที่คบชู้สู่ชายมั่วกันอุตลุต
ประกาศว่าถ้ามีใครอีกแม้แต่คนเดียวมาสารภาพบาปเรื่องนี้อีก
ท่านจะขอลาออกไม่ยุ่งเกี่ยวกับชาวเมืองนี้อีกต่อไป

ชาวเมืองรักบาทหลวงผู้นี้มาก ไม่อยากให้ท่านจากไป จึงตกลงกันว่าจะใช้รหัสลับในการสารภาพบาปว่า
"หกล้ม"

บาทหลวงดูจะพอใจในการเลี่ยงบาลีของชาวบ้าน ท่านไม่ปริปากบ่นในอีกหลายปีต่อมาจนท่านถึงแก่กรรมไปในที่สุด

บาทหลวงคนใหม่มาประจำที่โบสถ์นี้ ท่านย้ายมาจากต่างเมืองและยังไม่เข้าใจรหัสลับนี้
เพียงเดือนเดียวท่านก็อดรนทนไม่ไหว ขอพบกับนายกเทศมนตรีเพื่อปรึกษาเรื่องนี้

"ท่านนายกฯครับ พ่อว่าท่านน่าจะปรับปรุงทางเท้าในเมืองเสียใหม่นะ
ชาวบ้านเขาหกล้มกันบ่อยมากทีเดียว" ท่านว่า

ท่านนายกฯงุนงงในชั้นต้น แต่พอนึกขึ้นมาได้ว่าเรื่องมันเป็นไงมาไงก็หัวเราะก๊าก

"ไม่เป็นไรหรอกครับหลวงพ่อ ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก" ท่านนายกฯบอก

"ท่านไม่น่าเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อยเลย" บาทหลวงใหม่ตำหนิ
"สัปดาห์นี้ภรรยาท่านเองก็หกล้มไปตั้ง 3 ครั้งแล้ว!!!"


ไอ้หนุ่มคนนึงเมาแอ๋กลับบ้านเอาตอนเช้า
"ไปไหนมา???" ภรรยาถามกะเอาตาย
"บาร์ทองคำน่ะที่รัก ใจเย็นๆสิจ๊ะ" หนุ่มขี้เมาหายเมาเป็นปลิดทิ้ง
"บาร์ทองคำบ้าบอคอแตกมีที่ไหนกัน หา??? อย่ามาโกหกชั้นนะ" ภรรยารุกไล่
"บาร์ทองคำจริงๆจ้ะที่รัก เก้าอี้ทองคำ แก้วทองคำ กระทั่งโถฉี่ก็ทองคำจ้ะ"
ไอ้หนุ่มแก้ตัวพัลวัน
เมียรักยากจะทำใจให้เชื่อได้เลยขอเบอร์โทรไปพิสูจน์
"บาร์ทองคำครับ" เสียงจากปลายสายบอก
"สามีชั้นอ้างว่าไปเที่ยวที่นั่นเมื่อคืน ขอตรวจสอบหน่อยนะคะ ที่นั่นมีเก้าอี้ทองคำมั้ยคะ"
คำถามแรกถูกส่งไปตรงเป้าไม่อ้อมค้อม
"มีครับ" พนักงานยืนยัน
"แล้วแก้วทองคำล่ะคะ" คำถามที่สองตามไปติดๆ
"มีครับ" คำตอบเหมือนเดิม
"เอ้อ... แล้วโถฉี่ทองคำล่ะคะ" สาวเจ้าเริ่มเสียงอ่อน
"โถฉี่ทองคำ?" พนักงานทวนคำถามแล้วอึ้งไปพักนึง ก่อนจะมีเสียงแว่วเข้าหูโทรศัพท์มา
"พี่โก้... ผมว่าผมเจอตัวคนฉี่ใส่แซกโซโฟนของพี่เมื่อคืนนี้แล้วนะ!!!"


หนุ่มสองคนเข้าป่าล่าสัตว์ด้วยกัน คนหนึ่งเป็นพรานมือเก่าประสบการณ์สูง
ในขณะที่อีกคนเป็นพรานมือใหม่เพิ่งจะเข้าป่าเป็นครั้งแรก

"เอ็งรออยู่ที่นี่นะ" พรานมือเก่าสั่ง "อยู่เงียบๆอย่าทำเสียงดังเด็ดขาด
ข้าจะตามรอยเจ้ากวางตัวนี้ดูสักหน่อย"

พรานมือเก่าแกะย่องตามกวางมาได้สักครึ่งชั่วโมงก็ได้ยินเสียงร้องโวยวายลั่นป่า
ไม่ต้องสงสัยว่ากวางตัวเป้าหมายเผ่นแน่บไปเรียบร้อย เขาวิ่งกลับไปที่เพื่อนอย่างฉุนจัด

"ข้าบอกให้เอ็งอยู่เงียบๆไม่ใช่หรือวะ แล้วเอ็งเป็นบ้าอะไรถึงได้ร้องโวยวายซะขนาดนี้"

"ข้าก็พยายามอยู่เงียบๆแล้วว่ะ" พรานมือใหม่พูดเสียงอ่อย
"ตอนงูตัวนึงเลื้อยขึ้นมาบนหัวข้า ข้ากลัวแทบตายแต่ก็ไม่ได้ร้องสักแอะ
ตอนที่หมีอีกตัวมายืนดมฟุดฟิดอยู่ตรงหน้าข้า ข้าก็พยายามทนอยู่เงียบๆ
แต่พอกระรอกสองตัวมันมุดเข้ามาในกางเกงข้า แล้วมันคุยกันว่า จะกินตรงนี้เลยหรือเอากลับบ้านดีวะ
ข้าก็ร้องป่าแตกเลย"


ขบขันวันละนิด จิตแจ่มใสครับ

ขอให้มีความสุข ในการเล่นหมากกระดานกันทุกคนนะครับ

โดย : ซึซึอิ Member   [ 26/09/2007, 14:13:30 ]

4



ฮากระจายเลยครับพี่น้อง

โดย : มดดำ887 Member   [ 27/09/2007, 01:46:04 ]

 
  E-mail: webmaster@thaibg.com Copyright 2002-2024@www.ThaiBG.com (Thailand), All Rights Reserved  
 
  Sponsors