| |
 |
[ กลับหน้าหลัก ]
"ม้าอุปการ"สุดยอดหมากเด็ดยุคนี้จริงหรือ?
|
1
http://www.thaibg.com/TChess/viewgame.php?id=52508743
บันทึกเกมการแข่งหมากรุกชิงแชมป์ประเทศไทยขุนทองคำครั้งที่ 5 รอบชิงชนะเลิศ เกมที่ 2 ระหว่าง
เซียนป่อง กับ หนูทอง
สุชาติ "เซียนป่อง" เป็นฝ่ายเปิดหมากก่อนบ้าง เลือกใช้ "ม้าอุปการซ้าย"
ผสมกับเม็ดไขว้ซ้าย เลือกจุ่โจมปีกซ้ายอย่างรุนแรง ส่วน
วีระพล "หนูทอง" ตั้งรับด้วยม้าผูกมาตรฐาน ตีปีกซ้ายของตนเอง เช่นกัน พร้อมกันนั้น
ได้แปรรูปหมากเป็น ม้าผูกขุนพล เกมในกลางกระดานเซียนป่องเปิดเกมบุกตลุย แนวกลางกระดานอย่างไม่ยั้ง
และเปิดช่องโหว่ที่เบี้ย ช3 ส่วนหนูทองกลับแปรรูปหมากพลาดในตาที่ 18-19 เป็นเหตุให้ม้าทั้ง 2
ตัวอยู่ในวงแคบ จนถูกบีบจนขุนติดกระดาน และในตาที่ 24 เซียนป่องเดินม้า จ2-ง4! ทำให้หมากเป็นต่อถึงชนะ
ในปลายกระดานนั้นหมากของเซียนป่องเป็นต่อได้ไล่ศักดิ์กระดานมี ขุน 1,เรือ1,โคน1,และเม็ด1
ส่วนหนูทองเหลือ ขุน 1 และเรือ1และจนในตาที่ 126
|
โดย : เซียน_พงษ์  [ 06/09/2007, 22:53:02 ] |
|
2
http://www.thaibg.com/TChess/viewgame.php?id=52513197
การแข่งขันหมากรุกชิงแชมป์ประเทศไทยขุนทองคำครั้งที่ 5 รอบรองชนะเลิศ เกมที่ 2 ระหว่าง
"เซียนป่อง" อ.สุชาติ ชัยวิชิตกับ "สิงห์ร้ายแปดริ้ว" อ.สุรศักดิ์ เชื้อชวลิต
สุชาติ "เซียนป่อง" เปิดหมากก่อนด้วย "ม้าอุปการซ้าย" นำม้าเข้าโพรงที่ ข5
ส่วน สุรศักดิ์ "สิงห์ร้ายแปดริ้ว" รับด้วย "ม้าผูกนอกแบบ" นำโคนมาไล่ม้าที่ ข5
ทำให้โคนผิดจังหวะ และถูกเซียนป่องตีรุกรานได้ตลอดเวลา ในปลายกระดานหมากของทั้งคู่ออกมาในรูปเสมอ คือ
ขุน 1 เรือ 1 โคน 1 เบี้ยหงาย 1 ซึ่งเซียนป่องมีเบี้ยคว่ำมากกว่า 1 ตัว รุกไล่อยู่
แต่สุรศักดิ์เผลอใช้เวลาคิดนานเกินไป จนในตาที่ 72 สุรศักดิ์พ่ายเวลา
|
โดย : เซียน_พงษ์ -  [ 07/09/2007, 11:04:48 ] |
|
3
ต้องก๊อปข้อความและแต้มการแข่งขันไว้อ่านเป็นการส่วนตัว นะครับ
ได้ความรู้มาก มีอะไร อะไร เล่าสู่กันฟังด้วยนะครับ ขอบคุณ |
| โดย : hakgingmai [ 07/09/2007, 11:18:59 ] |
|
4
http://www.thaibg.com/TChess/viewgame.php?id=52516025
บันทึก เกมการแข่งขันหมากรุกชิงแชมป์ประเทศไทยขุนทองคำครั้งที่ 5 รอบรองชนะเลิศ เกมที่ 3 ระหว่าง
"เซียนป่อง" อ.สุชาติ ชัยวิชิต พบกับ "สิงห์ร้ายจากแปดริ้ว" อ.สุรศักดิ์
เชื้อชวลิต
เกม 3 สุชาติ "เซียนป่อง"เปิดเกมนี้ด้วย "ม้าอุปการซ้าย" ตีปีกซ้าย โดยนำเรือ
ก1-ข1ช่วย ส่วนสุรศักดิ์ "สิงห์ร้ายจากแปดริ้ว" รับด้วย "ม้าผูกขุนพล" ตีโต้ได้ดี
เกมในกลางกระดาน เซียนป่องถูกรุกด้วยม้าที่ ข4 แต่ถูกจู่โจมอย่างไม่ต่อเนื่อง และสุรศักดิ์
กลับไม่คาดคิดว่า ตาที่ 13 การเดินเบี้ย ช5 จะเป็นจุดให้ถูกจู่โจมถึงแพ้ได้
และในปลายกระดานเซียนป่องดันโคนขึ้นสูง พร้อมกับ กันขุนดำให้อยู่ในตาที่จะถูกเบี้ยคว่ำหงายรุก
จนทำให้สุรศักดิ์ ต้องยอมแพ้ไปในตาที่ 50
|
| โดย : เซียน_พงษ์ - [ 07/09/2007, 14:28:56 ] |
|
7
ตอบท่าน สปาร์ตาคัส
ภาพการเปิดหมากม้าอุปการ นะครับ ก็อยู่ในบันทึกหมากในความคิดเห็นที่ 1,2,4 ที่ผมได้นำเอาเกมในอดีต
ของ "เซียนป่อง" อ.สุชาติ ชัยวิชิต ที่มีการเปิดหมากด้วยม้าอุปการซ้าย มาลงไว้ให้ชมกัน
ยังไงก็ลองเปิดดู นะครับ
การเปิดหมากม้าอุปการนั้น ก็คือ ม้าจะอยู่ข้างกระดานที่ตำแหน่ง ก3 ,ญ3 หรือ ก6,ญ6
มีทั้งม้าอุปการซ้าย ม้าอุปการขวา แต่ว่าตำแหน่งโคนนั้น ยังไม่ได้มีการศึกษาอย่างแน่นอน
ว่าตำแหน่งที่ถูกต้องอยู่ตรงไหน ข้อนี้ก็ต้องช่วยกันศึกษาช่วยกันเล่นดูนะครับ ต้องอาศัยประสบการณ์
โดยการเล่นรูปม้าอุปการกันเยอะๆ นะครับ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ - [ 07/09/2007, 23:31:42 ] |
|
12
http://www.thaibg.com/TChess/viewgame.php?id=52563061
บันทึกเกมการแข่งขันหมากรุกชิงแชมป์ประเทศไทยขุนทองคำครั้งที่ 5 รอบ 8 เซียน เกมที่ 2 ระหว่าง
"เซียนป่อง" อ.สุชาติ ชัยวิชิต กับ "เซียนหงอก" อ.เกียรติ ฟูเฟื่องมงคลกิจ
สุชาติ "เซียนป่อง" เปิดเกมในกระดานนี้ด้วย "ม้าอุปการซ้าย"
รอจังหวะนำม้าเข้าไปในโพรงตำแหน่ง ข5 ส่วนเกียรติ "เซียนหงอก" รับด้วย
"ม้าผูกนอกแบบ" นำโคนมาไล่ม้าที่ ข5 ได้สำเร็จ พร้อมทั้งยกหมากตีโต้ติดตามได้ดี จน เซียนป่อง
ต้องต่อหมากหาเสมอ ซึ่งเซียนหงอกทำแต้มหาชนะได้ไม่เด็ดขาด รูปหมากจึงเสมอกันไปในตาที่ 56
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 10/09/2007, 21:02:12 ] |
|
13
ขอบคุณเซียนพงษ์ มีอะไร อะไร มาเล่าสู่กันฟังเสมอ
|
| โดย : hakgingmai [ 11/09/2007, 11:11:09 ] |
|
17
หมากรูปนี้ พี่ช่วยอธิบายให้พีคทราบได้ไหมคะ
ว่าข้อดีของการนำม้ามาข้างกระดานจะใช้ประโยชน์ได้อย่างไรมีจุดหมายการเดินอย่างไรคะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะพี่พงษ์ |
| โดย : น้องพีคค่ะ [ 12/09/2007, 02:35:24 ] |
|
18
ตอบคำถาม "น้องพีค" ที่ว่าข้อดีของการนำม้ามาข้างกระดานจะใช้ประโยชน์ได้อย่างไร
มีจุดมุ่งหมายการเดินอย่างไร?
จากการวิเคราะห์ของ อ.เซียนป่อง สุชาติ ชัยวิชิต
เคยวิเคราะห์หมากม้าอุปการไว้ในสมัยขุนทองคำครั้งที่ 5 ว่า "ม้าอุปการ" หรือ ม้าปืนกำแพงนี้
ผมได้ใช้เวลาศึกษามานานพอสมควร ก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องนำมาใช้ในเกมการแข่งขัน
แต่หลังจากได้ศึกษาจุดบกพร่องต่างๆ แล้ว ก็มั่นใจว่าเป้นรูปบุกที่รุนแรงรูปหนึ่ง
ซึ่งม้าสามารถก้าวไปได้หลายตำแหน่ง
และหลักสำคัญของหมากรูปนี้อยู่ที่การเริ่มต้นเดินหมากก่อนนั้นเอง"
ดังนั้นรูป "ม้าอุปการ"
ดังกล่าวจึงเป็นแต้มหมากที่ท้าทายคู่ต่อสู้ให้หันมาทำศึกกันซึ่งเป็นหมากที่บุกจู่โจมคู่ต่อสู้ได้อย่างรว
ดเร็ว
จากการวิเคราะห์ของบรรดาปรมาจารย์เซียนหมากรุกของไทยต่างชี้วิจารณ์จุดเด่นของ"ม้าอุปการ"
ของเซียนป่องว่า
เซียนป่องได้ใช้ยุทธวิธีการเล่นหมากรุกไทยได้ถูกหลักเกณฑ์มากที่สุด กล่าวคือ
เขาเลือกใช้ม้าอุปการทางด้านซ้ายมือที่เข้าตามหลักการณ์ของหมากรุกไทยที่ว่า
"ซ้ายของตัวเองมักจะได้เปรียบฝ่ายตรงข้ามเสมอ" หมายถึง
การบุกจู่โจมของหมากไทยจำเป็นต้องบุกจู่โจมทางด้านซ้ายมือของตัวเองเสมอ
ซึ่งไม่มีรูปหมากใดจะต้านการบุกทางด้านซ้ายของฝ่ายตรงข้ามได้
อีกประการหนึ่งนั้น ม้าอุปการ สามารถทำโพรงม้าที่ตำแหน่ง ข5 ได้
พร้อมกันนั้นยังสมารถนำกลับมายืนที่ตำแหน่ง ค2 ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นแต้มที่รุกและรับได้ดีที่สุดรูปหนึ่ง
จุดเด่นที่สำคัญของ "ม้าอุปการ" ของเซียนป่อง ก็คือ เป็นรูปหมากที่ทำลาย
"ม้าโยงขวา" โดยเฉพาะ เนื่องจากเบี้ยที่ตำแหน่ง ข5
เป็นเบี้ยที่มีอานุภาพทำลายม้าสูงตัวขวามือ ซึ่งมีวิธีแก้วิธีเดียวก็คือ
ต้องนำหมากโคนมารับและผันรูปหมากเป็นม้าเทียมแทน
เป็นการบังคับหมากเซียนให้ฝืนรูปหรืออีกนัยหนึ่งก็คือเป็นการเอาชนะด้วยการไม่ชำนาญหมากรูปอื่นของฝ่ายตรง
ข้ามนั่นเอง
************************
จากการที่ผมได้ลองนำหมากรูป "ม้าอุปการ" ไปเล่นดู ก็ทำให้ทราบข้อดีของม้าตำแหน่ง ก3
มากขึ้น
ข้อดี 1.เมื่อเราเดินเบี้ย ก3-ก4 แล้วคู่ต่อสู้เดินเบี้ย ก6-ก5 ก็จาทำให้ตำแหน่ง ข5 เป็นโพรงม้าอุปการ
ซึ่งเมื่อได้จังหวะเราก็จาเดินม้าจากตำแหน่ง ก3 ไปสู่โพรงม้าที่ตำแหน่ง ข5 เพื่อยึดจับหมากฝ่ายตรงข้าม
และจ้องจะรุกฆาต และถ้าคู่ต่อสู้คิดจะหาวิธีให้ม้าตัวนี้หนีไปจากตำแหน่ง ข5 ก็จะหาวิธีเอาม้ามาต่อ หรือ
เอาโคนมาไล่ ซึ่งทำให้เสียทีเดินหลายที แล้วฝ่ายม้าอุปการก็แค่ถอยม้ากลับมาที่ตำแหน่งเดิม ที่ ก3 หรือ
ตำแหน่งอื่นที่คิดว่าดีกว่าครับ ก็เป็นต่อทีเดิน และเมื่อตำแหน่ง พอได้จังหวะดีๆ เราก็นำม้าเข้าไปโพรง
ข5 ใหม่ เพื่อก่อกวน หรือ เอาเปรียบต่อไป 555+
2.ตำแหน่งที่ม้า ก3 สามารถเดินได้อีก ก็คือ ตำแหน่ง ค4 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดีมาก
ในการจ้องบุกคู่ต่อสู้ และจ้องจับกินหมากคู่ต่อสู้ หรือ จ้องรุกฆาต
3.เมื่อตำแหน่งม้า ก3 ใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้ว เราก็สามารนำม้าลงมาที่ตำแหน่ง ค2
เพื่อช่วยรับหมากให้เหนียวแน่น และ ถ้าได้จังหวะดีๆ ก็ทะยานเข้าสู่ตำแหน่งกลางกระดานต่อไป
และถ้าการนำม้าลงมาตำแหน่ง ค2 แล้ว ไม่มีประโยชน์ในการใช้งาน เราก็เปลี่ยนจากจากเดินเดิน ม้า ก3 -ค2
เป็น ม้า ก3- ข1 เพื่อนำกลับมาอยู่ตำแหน่ง ง2 เพื่อที่จาได้นำม้าตัวนี้ไปใช้ประโยชน์ต่อไปครับ
************************
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 12/09/2007, 12:45:37 ] |
|
19
ขอบคุณพี่พงษ์มากๆเลยที่ให้ความรู้และตอบได้ละเอียดมากๆค่ะ
จะลองไปศึกษาดูนะคะจะได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นหากมีอะไรสงสัยจะมารบกวนถามอีกนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ |
| โดย : น้องพีคค่ะ [ 12/09/2007, 12:52:46 ] |
|
22
ติดตามอยู่นะครับ อิอิ ขอบคุณเซียนพงษ์ |
| โดย : hakgingmai [ 13/09/2007, 08:51:56 ] |
|
27
ขอบคุณครับ ไว้จะลองฝึกดูครับ  |
| โดย : ปี้คนแพ้ [ 17/09/2007, 16:57:40 ] |
|
30
คิดถึงน้องพงษ์จัง พี่ยังไม่ลืมนะที่ติดค้างพงษ์ไว้ เอาเบอร์พี่ไปละกัน ว่างๆก็โทรหาพี่มั่งล่ะ
0853913133 สู้ๆนะ 555  |
| โดย : ทิดกู้No2 [ 18/09/2007, 01:26:26 ] |
|
32
อึม................ เซียน_พงษ์ (ปลากระพง) สู้ๆๆๆ |
| โดย : hakgingmai [ 18/09/2007, 21:50:35 ] |
|
37
ก็เวลาเล่นลองเปิดหมากให้เป็นรองซิแล้วดูว่าจะโดน ไล่ตายห่ามั้ย |
| โดย : EE_R [ 25/09/2007, 21:35:02 ] |
|
38
ขอถามเซียน_พงษ์ครับ ถ้าเราใช้ม้าอุปการซ้าย แล้วอีกฝ่ายใช้ม้าผูกบรรลือโลก เราควรเดินตาไหน
หรือใช้กลยุทใดถล่มได้บ้าง แฮะๆ..ที่ผมถามเพราะผมใช้ม้าอุปการสู้กับเพื่อนแล้ว
เพื่อนผมมันเลยม้าผูกบรรลือโลก ผมเลยแพ้3กระดานรวดเลย เจ็บใจจริง  |
| โดย : Por_ทฤษฎี [ 25/09/2007, 21:55:21 ] |
|
39
อย่ายึดติดรูปหมากครับ
..ตอบแทนซะเลย(เสือก)
เขากันตาขึ้นเรา จนเราหาทางบุกไม่ได้ ต้องปรับรูปไม่ใช่ฝืนขึ้นรูปอย่างเดียว
เว้นแต่อยากฝึกรูปหมากจึงลองฝืนได้ แต่ต้องรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ครับ |
| โดย : mgso4 [ 25/09/2007, 22:16:05 ] |
|
40
ขอตอบแทนครับ(เสือกเช่นกัน)
ผมคิดว่าคงบุกไม่ได้หรอกครับเพราะมันผูกเชื่อมโยงกันหมดแล้ว สูตรแก้คือรอให้คู่แข่งเดินพลาดครับ
|
| โดย : มดดำ887 [ 26/09/2007, 00:46:14 ] |
|
44
ประวัติการแข่งขันในอดีตของท่าน อ.วีระพล สุนทรพงษาธร ปรมาจารย์ หมากรุกไทย-สากล ผู้ยิ่งยง
ผู้ซึ่งล่วงลับไปแล้ว แต่อยู่ในใจของนักหมากรุกไทยทุกคน
วีระพล สุนทรพงษาธร "หนูทอง"
"หนูทอง" นับเป็นเซียนหนุ่มที่จัดได้ว่าประสบความสำเร็จมากกว่าใคร
โดยสามารถเป็นแชมป์กาญจนบุรีและแชมป์เขต 7 ในขุนทองคำครั้งที่ 2 ในขณะที่ตัวเองอายุได้เพียง 22 ปี
และในขุนทองคำครั้งที่ 2 นั้น หนูทองกลับไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากจับสลากพบกับเซียนป่องในรอบแรก
และบังเอิญต้องมาพบกับเซียนป่องในรอบต่อมาอีก ซึ่งเป็นการแข่งขัน
ซึ่งเป็นการแข่งขันแบบดับเบิ้ลน็อกเอ้าท์ และในการแข่งขันขุนทองคำครั้งที่ 3
ต้องโคจรมาตัดเชือกกับเซียนป่อง ทำให้ได้เพียงตำแหน่งที่ 3 ในปีนั้น
ในการแข่งขันขุนทองคำครั้งที่ 4 นับว่าเป็นปีที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของเขา
ที่สามรถขึ้นครองแชมป์ประเทสไทยอย่างภาคภูมิด้วยการพิชิต "แดง ขอนแก่น" อ.สาธิต เกษตรชล
หลังจากที่ต้องโขกกันนานร่วม 10 ชั่วโมง และยิ่งไปกว่านั้น "หนูทอง" ยังสามารถเอาชนะ
"เซียนป่อง" อ.สุชาติ ชัยวิชิต ในรอบ แชมป์ชิงแชมป์ และกลายเป็นเซียนที่เป็นบิ๊กแชมป์
เพียงคนเดียวในครั้งนั้น ต่อมาในขุนทองคำครั้งที่ 5 "หนูทอง"ก็สามารถฟันฟ่าเซียนชื่อดังต่าง ๆ
จนเข้าชิงชนะเลศได้อีกครั้ง แต่กลับพลาดท่าพ่าย"เซียนป่อง"
เลยได้ไปเพียงรองแชมป์ประเทศไทย...
...มีสุภาษิตจีนบทหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า "คลื่นลูกหลัง ไล่คลื่นลูกแรกเสมอ"
ซึ่งเป็นคำเปรียบเทียบที่มีความหมายว่า
คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถจนก้าวขึ้นมาแทนคนรุ่นเก่าที่กำลังโรยราลงไป เหมือนดัง
นักหมากรุกไทยคนหนึ่งที่ใช้ความสามารถเล่นหมากรุกไทยตั้งแต่อายุน้อย ๆ
ไต่เต้าเดินสายเล่นกับเซียนที่มีฝีมือจนมีฝีมือกล้าแข็งขึ้น
และสามารถที่จะลงแข่งขันกับนักหมากรุกชั้นปรมาจารย์ จนในที่สุดก็สามารถครองตำแหน่งแชมป์ประเทศไทยได้
แม้ว่าตัวเองยังมีอายุน้อยอยู่ เขาก็คือ วีระพล สุนทรพงษาธร หรือวงการหมากรุกไทยตั้งฉายาให้กับเขาว่า
"หนูทอง" แชมป์หมากรุกไทยประจำปี 2532
...ของฝากจาก เซียน "หนูทอง"
มีวีธีการฝึกหมากรุกอย่างไรถึงเก่งจนเป็นเซียนทั้ง ๆ ที่อายุยังน้อยอยู่
...เล่นบ่อย ๆ เล่นกับคนที่เก่งกว่าเสมอจะช่วยให้เป็นเร็ว
อีกอย่างต้องมีความเชื่อมั่นและมีความรอบคอบเสมอ คิดก่อนที่จะเดิน
และก็ต้องหมั่นหาประสบการณ์จากที่อื่นด้วย เพราะจะทำให้ความรู้ไม่ตันง่าย ๆ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ - [ 21/10/2007, 01:38:53 ] |
|
45
"หมากรุก หมากชีวิต"
http://www.moralcenter.or.th/web/moral/th/advertise/detail.php?SystemModuleKey=28&GroupID=&P
ageShow=1&searchKey=&searchFrom=&searchTo=&GoodVote=&BadVote=&AdID=53&PH
PSESSID=2b1599af095703cb3b340f22691adb07
...๏ ผังตารางชีวิตลิขิตไว้
จงก้าวไปข้างหน้าตามหาฝัน
เช่นหมากรุกจงคิดพินิจพลัน
ล้วนต้องหมั่นใช้ปัญญาคราจับวาง
หกสิบสี่ช่องกระดานดังการศึก
เล่ห์เหลี่ยมลึกตรึกตรองมองแบบอย่าง
หลากหลายแผนลึกล้ำล้วนอำพราง
ยุทธการวางหมากนั้นมั่นเอาชัย
อุปโลกน์ตัวเอกเฉกขุนศึก
เดินคล่องคึกทั่วทิศคิดการใหญ่
บงการทัพเดินทางอย่างเกรียงไกร
หลักพิชัยสงครามตามตำรา
มีกองเรือยกทัพจับศึกด้วย
สองลำช่วยยุทธวิธีที่หนักหนา
ต่างรีบรุดสี่ทิศฤทธิ์เดชา
ลอยลำมาเพื่อช่วยอำนวยทัพ
มีนายพันทหารม้าขนาบข้าง
เชี่ยวชาญทางฟาดฟันมั่นแตกดับ
ช่วงชิงชัยชั้นเชิงอย่างทั้งรุกรับ
คราวโขกขยับกระโจนไปไร้กังวล
ยังมองเห็นตัวม้ามายืนเรียง
สองตาตรงหนึ่งเฉียงเยี่ยงสับสน
แผลงกว่าพวกเดินแปลกแผกพิกล
ดั่งตัวคนคิดตะแบงดุจแล้งใจ
มีโคนคู่เคียงข้างอย่างองอาจ
เดินประกาศศักดาห้าแฉกได้
แต่มิอาจถอยหลังได้อย่างใจ
กลับหลังไปทางตรงคงผิดการ
หนึ่งตัวเม็ดเดชเลื่องกระเดื่องภพ
ต่างเจนจบการศึกคึกห้าวหาญ
เดินเฉียงไปจตุรทิศคิดรอนราญ
เพื่อล้างผลาญไพรีพ่ายได้แยบยล
แปดตัวเบี้ยประจันบานร่วมการรบ
มาสมทบกองทัพอันสับสน
แรกยังคว่ำเดินได้คล้ายเร่งพล
เดินหน้าจนมุ่งประจันมั่นราวี
หากพบปะข้าศึกนึกฉงน
ดูสับสนเหลือใจไม่หลบหนี
กำจัดมวลศัตรูผู้มากมี
แล้วแทนที่หน้าเฉียงเยี่ยงเหิมเกริม
เร่งเดินหน้าทันใดไม่กลับหลัง
ยังมุ่งหวังเลื่อนขั้นชั้นยศเพิ่ม
ถึงเขตแดนศัตรูดูคระเมิม*
ยศขั้นเพิ่มศักดินาสามตาท้าย
จึงเดินเฉียงหน้าหลังดังใจนึก
ร่วมการศึกคึกคนองมองผึ่งผาย
ดั่งตัวเม็ดเดชเดื่องเฟื่องกำจาย
โอ้เบี้ยหงายน่าอัศจรรย์ในชั้นเชิง
ขุน,โคน,เรือ,เม็ด,ม้า,เบี้ยน่ามอง
ให้ไตร่ตรองมองหมากหลักยุ่งเหยิง
หลากเล่ห์ล้ำเหลี่ยมลึกศึกกำเกิง
อย่าหลงระเริงฤๅโศกสลดปรากฏมี
เดินหมากรุกจงฉุกคิดความผิดถูก
เชื่อมโยงผูกเล่ห์อุบายหลากหลายที่
เพ่งพินิจไตร่ตรองมองให้ดี
ประโยชน์มีมากมายในกระดาน
ตัวหมากรุกยึกยักขยักขย่อน
ความยอกย้อนแจ้งชัดประหัดประหาร
บ้างสุขสงบบ้างท่วงทีตะลีตะลาน
แล้วแต่การเดินที่พิถีพิถัน
หนึ่งชีวิตลิขิตได้ดังใจหวัง
อย่าหยุดยั้งอ่อนล้าตามหาฝัน
แม้พ่ายแพ้จงเข้มแข็งกล้าแกร่งพลัน
คงมีวันถึงเส้นชัยที่หมายปอง ๚ะ๛
"หมากรุกคน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย"
http://www.utcc.ac.th/thaiculture/activity/Chess/Chess.htm
|
| โดย : เซียน_พงษ์ - [ 21/10/2007, 12:23:25 ] |
|
46
บอกได้ไหมว่าทำไมถึง ได้รับฉายาว่า "หนูทอง"
...ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ไม่ใช่ชื่อเล่นผมหรอก
พวกเซียนที่ตั้งฉายานี้ให้คงเป็นเพราะตอนที่ผมออกไปเดินสายเล่นที่ซุ้มศรีย่านครั้งแรก
ซึ่งตอนนั้นอายุแค่ 17 ปี ดูแล้วเหมือนเด็กมากมั้งครับ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 21/10/2007, 16:42:23 ] |
|
47
มีชื่อจริง ๆ ไหม
...เรื่องนี้ขออุบไว้ได้ไหมครับ เดี๋ยวคนอื่นเขารู้เข้าเรียกแต่ชื่อเล่น ไม่เรียกหนูทอง
ผมว่าเรียกหนูทอง ดีแล้วล่ะครับ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 21/10/2007, 16:45:49 ] |
|
48
เริ่มหัดเล่นหมากรุกไทยตั้งแต่เมื่อไหร่
...ประมาณ 8-9 ปีมาแล้ว เมื่อก่อนบ้านผมอยู่แถววัดโพธิ์นิมิตร ฝั่งธน เห็นเขาเล่นกันเยอะก็ชักสน
เลิกเรียนที่ไรต้องแวะมาโขกสักกระดานนึง กลับเข้าบ้านแล้วสบายใจ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 21/10/2007, 16:49:47 ] |
|
49
ช่วงที่หัดเล่นใหม่ๆ มีคนชี้แนะแต้มหมากให้รึเปล่าครับ
...ก็พอมีเหมือนกันครับ แกชื่อเนี้ยวใหญ่ อยู่ซุ้มวัดโพธิ์แถวบ้านเก่า
ซึ่งผมก็ถือว่าแกเป็นอาจารย์ของผมคนหนึ่งเหมือนกัน เพราะว่าตอนนั้นผมยังเล่นไม่ค่อยเก่ง
เขาก็ซ้อมให้ผมเป็นประจำ แต่ก็มีเดิมพันเล็กๆ น้อยๆ แพ้เลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำครับ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 21/10/2007, 16:55:57 ] |
|
50
มีพี่น้องกี่คน ที่บ้านมีใครเล่นหมากรุกเป็นบ้าง
...ผมเป็นลูกคนสุดท้อง มีพี่ชาย 2 คน แต่เขาเล่นหมากรุกไม่เป็นเลย
ที่บ้านก็มีผมนี่แหละที่ชอบเล่นหมากรุกอยู่คนเดียว
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 21/10/2007, 16:59:01 ] |
|
51
เริ่มออกเดินสายเล่นเมื่อไหร่
...จำไม่ค่อยได้แล้ว ตอนอายุ 17 ปี มั้งครับ ช่วงนั้นเพิ่งเรียนจบ ม.ศ.5
ยังตกงานอยู่ก็ไปดูเค้าเล่นหมากรุกตามซุ้มโน้นซุ้มนี้ตามเรื่อง
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 21/10/2007, 17:01:53 ] |
|
52
ซุ้มแรกที่ไปอยู่แถวไหน
...นอกจากซุ้มวัดโพธิ์แล้ว ก็ไปเล่นที่ซุ้มศรีย่าน ก็ที่ซุ้มศรีย่านนี่แหละครับที่มีเซียนตั้งฉายาให้ว่า
"หนูทอง" จนนักหมากรุกเรียกชื่อนี้จนติดปาก
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 21/10/2007, 17:05:15 ] |
|
53
มีใครพาไปเดินสายเล่นที่อื่นไหม
...เคยไปเล่นที่ต่างจังหวัดบ้างเหมือนกัน แต่จำไม่ได้แล้วครับว่าไปเล่นที่ไหนบ้าง เพราะหลายจังหวัด
ตอนนั้นที่ซุ้มศรีย่านคนเริ่มรู้จักและหาคนเล่นด้วยไม่ได้ ถ้าจะเล่นก็ต้องเป็นมือที่เหนือกว่าจริง ๆ
พอดีเซียนซ้ง (วิรัช เลิศมวลมิตร) ชวนผมไปเล่นที่ต่างจังหวัดก็ตามไป สนุกดีครับ
ได้รู้จักคนเยอะแยะและสร้างประสบการณ์ให้กับตนเองด้วย
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 22/10/2007, 09:22:28 ] |
|
54
ลงแข่งหมากรุกครั้งแรกเมื่อปีอะไร
...ถ้าลงแข่งอย่างเป็นทางการจริง ๆ ก็ขุนทองคำครั้งที่ 2 เมื่อปี 2530 ซึ่งตอนนั้นผมได้เป็นตัวแทนเขต 7
กาญจนบุรี ช่วงนั้นผมรู้ตัวครับว่ายังเดินไม่ค่อยดี ประสบการณ์ยังน้อยอยู่สู้ระดับมือใหญ่ ๆ ไม่ได้
แต่ตอนนั้นผมก็ภูมิใจครับที่ได้เป็นถึงระดับตัวแทนเขตทั้ง ๆ ที่อายุแค่ 18 ปี
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 22/10/2007, 09:30:14 ] |
|
55
จำได้ไหมขุนทองคำครั้งที่ 2 แพ้ใคร
...รู้สึกว่ารอบ 10 เซียน ตัวแทนเขตมีแต่มือระดับใหญ่ ๆ ทั้งนั้น ผมเองตอนนั้นยังเด็กอยู่
ประสบการณ์สู้ไม่ได้จริง ๆ และอีกอย่างผมว่า เรื่องโชคก็สำคัญ
เพราะตั้งแต่ผมลงแข่งหมากรุกชิงแชมป์ขุนทองคำมาผมจับสลากประกบคู่ทีไรเจอกับเซียนป่องทุกที เซียนทุกคน
ไม่มีใครอยากเจอกับเซียนป่องกันทั้งนั้นหรอกครับ ขุนทองคำครั้งที่ 2 ที่แพ้ก็แพ้เซียนป่องแหละครับ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 22/10/2007, 09:35:22 ] |
|
56
ขุนทองคำครั้งที่ 3 ล่ะ
...(หัวเราะ) ได้แค่ที่ 3 ครับบังเอิญต้องมาตัดเชือกกับเซียนป่อง (สุชาติ ชัยวิชิต )
แต่ปีนี้ผมก็รู้ว่าฝีมือเริ่มดีขึ้นมามากแล้ว ความมั่นใจผมมีมากขึ้น ในตอนชิงที่ 3 กับต๋อย ศรีย่าน
(วิโรจน์ โรจน์ประภายนต์ ) สามารถเอาชนะเขาได้จึงเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองยิ่งขึ้น
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 22/10/2007, 09:40:29 ] |
|
57
เคยคิดบ้างไหมว่าจะได้แชมป์ประเทศไทย ในขุนทองคำครั้งที่ 4
...ไม่เคยคิดเลยครับ เพราะการชิงแชมป์คราวนี้มีนักหมากรุกมือดี ๆ หลายคน แต่กว่าจะได้แชมป์คราวนี้
ผมยอมรับว่า เป็นการแข่งขันหมากรุกที่เหนื่อยที่สุด ที่เคยเล่นมาทีเดียว เจอแต่มือระดับพระกาฬทั้งนั้น
ตั้งแต่รอบ 16 เซยน ก็เจอเซียนบัง (ไพศาล ศัพท์หงส์) ที่มีรูปหมากแปลก ๆ รอบ 8 เซียนก็เจอเซียนแหว่ง
(บุญสืบ แซ่เฮง) ที่เป็นมือ 2 รองจาก เซียนป่อง ในซุ้มดินแดง พอมารอบตัดเชือกก็เจอกับเซียนซ้ง (วิรัช
เลิศมวลมิตร) ที่เคยเป็นแชมป์ประเทศไทยมาและมีศักดิ์เสมือนอาจารย์ผมคนหนึ่งเหมือนกัน แต้มหมากต่าง ๆ
เขารู้ดีหมด และยิ่งตอนชิงชนะเลิศกับแดง ขอนแก่น (สาธิต เกษตรชล) ผมยอมรับว่าเหนื่อยที่สุดในชีวิต
กว่าที่ผมจะเอาชนะเขาได้ สมองผมล้าไปมากเล่นไป 6 กระดาน ประมาณ 12 ชั่วโมง เห็นจะได้
กลับไปบ้านมองอะไรเป็นม้าเป็นเรือไปหมด แดง ขอนแก่น เขาพัฒนาฝีมือขึ้นมามากว่าแต่ก่อนเยอะทีเดียว
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 22/10/2007, 09:51:46 ] |
|
58
รอบแชมป์ชิงแชมป์กับเซียนป่องล่ะ คิดว่าสู้เซียนป่องได้หรือเปล่า
...ผมกับเซียนป่องเหมือนคู่ปรับกันเลยก็ว่าได้ เพราะ เคยแพ้เขามาตลอด ตอนลงโขกแชมป์ชิงแชมป์ก็หวั่น ๆ
อยู่เหมือนกัน แต่พอดีมีข่าวเรื่องเซียนป่องป่วยว่าปวดฟันหรือยังไงเนี่ย ก็เลยใจชื้นขึ้นมาหน่อยนึง
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 23/10/2007, 17:02:44 ] |
|
59
มีเซียนลือว่ารอบแชมป์ชิงแชมป์เอาหมากของ แดง ขอนแก่น มาเล่นกับเซียนป่อง ใช่ไหม
...ไม่หรอกครับ การเล่นหมากรุกเป็นเกมที่ไม่สามารถกำหนดตายตัวเหมือนหมากฮอส
ตาไหนดีที่สุดผมก็เลือกเดินตานั้น บางทีอาจจะไปซ้ำของคนอื่นบ้างก็เท่านั้น ผมยกตัวอย่าง
อย่างเซียนป่องเชี่ยวชาญม้าโยงขวา ว่าเคยศึกษาว่าม้าโยงขวาขึ้นแล้วดีที่สุดผมก็เล่นแต้มนี้
ถ้าไปเล่นรูปอื่นอาจไม่ถนัดก็แพ้ไปเลย
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 23/10/2007, 17:09:31 ] |
|
60
ดีใจไหมที่ล้มเซียนป่องได้ในรอบ "แชมป์ชิงแชมป์"
...โถ ถามได้ใครจะไม่ดีใจล่ะครับ เซียนป่องเป็นแชมป์หมากรุกไทยมา 3 สมัย และยังไม่เคยมีใครเอาชนะได้
ใครชนะได้ก็ต้องภูมิใจ
***(3 รูปนี้ของผมเองนะครับ ชื่อนายสระพงษ์ หาญสิงห์ ชื่อเล่น พงษ์
2 รูปแรก สมัยอยู่ ม.2 ส่วนรูปที่ 3 เป็นรูปที่แข่งขันกับ "เซียนแหว่ง" อ.บุญสืบ แซ่เฮง
ในรายการหมากรุกไทย ซุ้มบางกอกเชสคลับ ผลเสมอกัน )
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 23/10/2007, 17:23:52 ] |
|
61
ได้เห็นรูปเก่าๆ สมัยชิงขุนทองคำครั้งที่4 กับ หนูทอง แค่คิดก็รู้สึกเหนื่อย หมากรุกมาราธอน 6 กระดาน
เหนื่อยจริงๆ กลับบ้าน สลบเลย หนูทอง เก่งจริง เป็นหนึ่งในเซียนหมากรุกที่ผมยอมรับว่า
สุดยอดอย่างแท้จริง เป็นคนที่ผมเข้าชิงขุนทองคำด้วยถึง 3 ครั้ง (ผมแพ้ 2 ชนะ 1) ถ้าเจ้าหนู ยังอยู่
การแข่งขันชิงแชมป์ต่างๆ จะเข้มข้นขึ้นอีกเยอะทีเดียว......
ส่วนเรื่อง ม้าอุปการ หรือม้าริมกระดานนั้น ในความเห็นของผมก็เป็นรูปที่พอเล่นได้รูปหนึ่ง
แต่หากจะใช้คำว่าสุดยอด คงไม่ถึงขั้นนั้น แต่ก็มีตำแหน่งที่ยืนทรง วางตัวหมากต่างๆ
ให้สู้กับรูปหมากอื่นๆได้อย่างไม่เป็นรอง ถือเป็นรูปมาตรฐาน รูปหนึ่ง
(นี่เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ)
แดง ขอนแก่น |
| โดย : เปี่ยมเพชร [ 24/10/2007, 22:49:18 ] |
|
62
ขอบพระคุณอาจารย์ แดง ขอนแก่น มากๆ ครับ ที่เข้ามาเยี่ยมชมกระทู้นี้
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 25/10/2007, 10:15:30 ] |
|
67
พี่พงษ์ กระทู้นี้ดีมีสาระ =.,=
|
| โดย : รู้กันในใจ [ 28/10/2007, 18:51:09 ] |
|
68
...เกมการแข่งขันในอดีต จริง ๆ แล้วไม่เคยจากเราไปไหน
มันอาจจะซุกอยู่ที่ซอกใดซอกหนึ่งในลิ้นชักความทรงจำ ถ้าเราไม่คุ้ยมันออกมา
ก็จะไม่รู้ว่ามันอยู่อย่างนั้นมาตลอด...
7. ขาว:จำรัส vs ดำ:จำเนียร สิงหะผลิน (สนามหลวง กทม. ๑๓ เม.ย. ๒๕๐๖) ผล : หมากขาวชนะ
http://www.thaibg.com/TChess/viewgame.php?id=53291103
8. ขาว :สม บรมสุข vs ดำ:จำเนียร สิงหะผลิน (สนามหลวง กทม. ๑ มกราคม ๒๕๐๘) ผล : หมากดำชนะ
http://www.thaibg.com/TChess/viewgame.php?id=53291673
.....ของฝากจากสุดยอดเซียนปรมาจารย์หมากรุกไทย-สากลผู้ยิ่งยง "เซียนป่อง" อาจารย์สุชาติ
ชัยวิชิต
"เบสิกพื้นฐานหมากรุกไทย"ในตำรา "เส้นทางสู่แชมป์"
ก่อนที่ท่านจะเริ่มเล่นเกมหมากรุกไทย ในหนังสือเล่มนี้
ผมอยากให้ท่านศึกษาและสำรวจถึงความคิดเห็นและความสำคัญในการเลือกเดินหมาก ซึ่งการเปิดหมาก
หมากรุกไทยในตาแรก หรือ ระยะต้นๆ กระดานมีให้เลือกหลายวิธี
แต่จะมีตาไหนบ้างที่เป็นตาเดินที่ดีเมื่อได้เปิดหมากก่อน
นักหมากรุกพึงระลึกไว้เสมอว่า ทุกแต้มที่เราเดินนั้น มีจุดอ่อนทั้งสิ้น ต้องระวังไว้ล่วงหน้าเสมอ
แต้มพลาดที่ปรากฏขึ้นบางครั้งหมากเป็นต่อกลายเป็นรอง หมากเสมอกลายเป็นแพ้
หรือแม้กระทั้งหมากไล่ที่มีสิทธิ์ชนะก็ยังมีสิทธิ์เสมอไล่ไม่จนเช่นกัน
ดังนั้นผมจึงขอสรุปว่า การเดินหมากรุกทุกแต้มเราจะพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด
เมื่อคู่ต่อสู้เพลี่ยงพล้ำต้องทำให้ขาด เมื่อหมากออกเสมอ อย่าฝืนรูปหรือเล่นแต้มเสี่ยงเกินไป
เมื่อนักหมากรุกฝึกหลักการเบื้ยงต้นเหล่านี้ได้ พื้นฐานหมากรุกไทยในชั้นต้นจะเก่งขึ้น
***นอกจากนี้ การเดินหมากรุกให้เก่งต้องฝึกเดินหมากคนเดียวให้เป็น
ซึ่งกฎการเดินหมากรุกคนเดียวมีอยู่ว่า
1.ใครเดินหมากรุกคนเดียวไม่เป็น เป็นแชมป์ไม่ได้
2.เดินคนเดียวต้องสวมวิญญาณเป็นผู้เล่นทั้ง 2 ข้าง
3.ต้องคิดอยู่ตลอดเวลาว่าฝ่ายคู่ต่อสู้เดินแต้มไหน เพื่อป้องกันเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า
ซึ่งบางครั้งต้องถอยหมากบางตัวเตรียมผูกหมากเอาไว้ให้เรียบร้อย
4.หากคิดจะจำแต่สูตร จะไม่มีความก้าวหน้าในความห็น
ซึ่งการเล่นหมากรุกอาศัยความคิดเห็นของตนเองเป็นหลักในการเอาชนะคู่ต่อสู้ เพราะไม่มีใครสามารถช่วยเหลือ
ช่วยเราคิดระหว่างแข่งขันได้
"เซียนป่อง"
|
| โดย : oปลากะพงo - [ 31/10/2007, 13:31:01 ] |
|
69
"รวมภาพ...หมากรุกไทย...จากอดีต - ปัจจุบัน"
...ภาพในอดีต จริง ๆ แล้วไม่เคยจากเราไปไหน
มันอาจจะซุกอยู่ที่ซอกใดซอกหนึ่ง ในลิ้นชักความทรงจำ ถ้าเราไม่คุ้ยมันออกมา
ก็จะไม่รู้ว่ามันอยู่อย่างนั้นมาตลอด...
จาก...แฟนChess แด่ความทรงจำในลิ้นชัก.
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:00:43 ] |
|
70
ภาพ...การแข่งขันหมากรุกชิงแชมป์ขุนทองคำครั้งที่ 1 ณ สวนลุมพินี 13 เม.ย. 27 ระหว่าง
"เซียนป่อง"อาจารย์สุชาติ ชัยวิชิต
กับ "เซียนดอน หนวดเฟิ้ม" อาจารย์มติรักษ์ จิตรักษ์สวนะ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:08:23 ] |
|
71
ภาพ...การแข่งขันหมากรุกชิงแชมป์ขุนทองคำครั้งที่ 1 ณ สวนลุมพินี 13 เม.ย. 27
ระหว่าง"เซียนป่อง"อาจารย์สุชาติ ชัยวิชิต
กับ "เซียนดอน หนวดเฟิ้ม" อาจารย์มติรักษ์ จิตรักษ์สวนะ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:11:21 ] |
|
72
ภาพ "เซียนหนูเพชร" อาจารย์วิษุวัติ ธีรภาพไพสิฐ สมัยเรียนมหาวิทยาลัย
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:16:55 ] |
|
73
ภาพ "เซียนหนูทอง" อาจารย์วีรพล สุนทรพงษาธร แข่งกับ "เซียนซ้ง"อาจารย์วิรัช
เลิศมวลมิตร
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:21:24 ] |
|
74
ภาพ "เซียนป่อง" อาจารย์สุชาติ ชัยวิชิต แข่งกับ "เซียนสิงห์ร้ายจากแปดริ้ว"
อาจารย์ สุรศักดิ์ เชื้อชวลิต
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:25:30 ] |
|
75
ภาพ "เซียนหงอก" อาจารย์ เกียรติ ฟูเฟื่องมงคงกิจ ขณะแข่งหมากรุกขุนทองคำ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:33:01 ] |
|
76
ภาพ "เซียนทนายนักโขก" อาจารย์นคร ตรีสะอาด ขณะแข่งหมากรุกขุนทองคำ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:35:26 ] |
|
77
ภาพ ซุ้มหมากรุกไทยในอดีต
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:37:28 ] |
|
78
ภาพ "เซียนโคนสุรการ" อาจารย์ สุรการ วงษ์นิล ขณะแข่งหมากรุกไทยขุนทองคำ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:40:06 ] |
|
79
ภาพ "เซียนป่อง" อาจารย์ สุชาติ ชัยวิชิต ขณะแข่งหมากรุกไทยขุนทองคำ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:42:00 ] |
|
80
ภาพ "เซียนป่อง" อาจารย์สุชาติ ชัยวิชิต ขณะแข่งหมากรุกไทยขุนทองคำ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:44:05 ] |
|
81
ภาพ "เซียนป่อง" อาจารย์สุชาติ ชัยวิชิต
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:45:50 ] |
|
82
ภาพ "เซียนซ้ง" อาจารย์วิรัช เลิศมวลมิตร
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:47:57 ] |
|
83
ภาพ "เซียนหนูทอง" อาจารย์วีรพล สุนทรพงษาธร
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:49:47 ] |
|
84
ภาพ "เซียนครูฮวด" อาจารย์ มนัส วัยพินิฐพงศ์
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:52:31 ] |
|
85
ภาพ "เซียนหงอก" อาจารย์ เกียรติ ฟูเฟื่องมงคลกิจ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:54:21 ] |
|
86
ภาพ "เซียนโคนสุรการ"อาจารย์ สุรการ วงษ์นิล
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:56:14 ] |
|
87
ภาพ "เซียนน้อยลาดพร้าว" อาจารย์ บุญเลิศ เสมสวัสดิ์
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 15:58:46 ] |
|
88
ภาพ "เซียนแหว่ง" อาจารย์บุญสืบ แซ่เฮง
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 16:00:10 ] |
|
89
ภาพ "เซียนหมอดินแดง" อาจารย์ สุรินทร์ รัตนวิจิตร
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 16:01:54 ] |
|
90
ภาพ "เซียนแดงขอนแก่น" อาจารย์ สาธิต เกษตรชล
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 16:03:34 ] |
|
91
ภาพ "เซียน ต๋อยศรีย่าน" อาจารย์ วิโรจน์ โรจน์ประภายนต์
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 16:05:22 ] |
|
92
ภาพ "เซียน สิงห์ร้ายจากแปดริ้ว" อาจารย์ สุรศักดิ์ เชื้อชวลิต
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 16:06:58 ] |
|
93
ภาพ "เซียนหนูทอง" อาจารย์ วีรพล สุนทรพงษาธร
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 16:08:50 ] |
|
94
ภาพ "เซียนป่อง" แข่งกับ "เซียนหนูทอง"
ต้องขอประทานโทษด้วยนะครับ ภาพอาจไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่ก็เป็นภาพแห่งความทรงจำในอดีตของใครหลายๆ
คนที่ชื่นชอบหมากรุกไทยครับ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 16:28:36 ] |
|
95
ภาพ "เซียนแดงขอนแก่น" จับมือ แสดงความยินดี กับ"เซียนหนูทอง"
ที่คว้าแชมป์ขุนทองคำครั้งที่ 4 ได้สำเร็จ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 16:31:44 ] |
|
96
ภาพ "เซียนน้อยลาดพร้าว แข่งกับ "เซียน ดร.โน"
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 16:33:44 ] |
|
97
ภาพ การซ้อมหมากรุกไทยตามซุ้มในอดีต
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 16:36:16 ] |
|
98
ภาพ "เซียนป่อง" ถ่ายรูปคู่กับ "เซียน โคนสุรการ" ขณะรับรางวัล
ในหมากรุกขุนทองคำครั้งที่ 2
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 16:38:37 ] |
|
99
ภาพ "เซียนครูฮวด" แข่งกับ "เซียนป่อง" ในหมากรุกไทยชิงขุนทองคำครั้งที่ 3
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 16:40:30 ] |
|
100
ภาพ "เซียน แดง ขอนแก่น" แข่งกับ "เซียนหนูทอง" ในหมากรุกไทยชิงขุนทองคำครั้งที่ 4
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 16:42:10 ] |
|
101
ภาพ "เซียนป่อง" แข่งกับ "เซียนหนูทอง" ในหมากรุกไทยชิงขุนทองคำครั้งที่ 5
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 16:43:38 ] |
|
102
ภาพ การจับมือแสดงมิตรภาพ ระหว่าง "เซียนป่อง" กับ "เซียนหนูทอง"
หลังจากการแข่งขันหมากรุกไทยจบลง
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 02/11/2007, 16:47:36 ] |
|
103
คารวะๆ อาจารย์พี่พงษ์ ^^'
ปล. รูปสวยยยยยยยยยย คุๆ = =' |
| โดย : รู้กันในใจ [ 02/11/2007, 19:19:03 ] |
|
105
ค้นหนังสือหมากรุกเก่า ๆ พบบทสัมภาษณ์ของหนูทองน่าสนใจ
ก็ขอนำมาให้ได้อ่านย้อนกลับไปสู่ช่วงที่หนูทองเริ่มประสบความสำเร็จระดับประเทศ
ทั้งหมด เป็นอดีตที่ทิ้งไว้ให้ญาติมิตรได้ระลึกถึง และเป็นแนวคิดพื่อการศึกษาสำหรับผู้เล่นรุ่นหลัง
----------------------
30 คำถามกับหนูทอง
จาก หนังสือหมากรุกไทย บริษัท สุรามหาราษฎร จำกัด (มหาชน)
และกลุ่มบริษัทสุราทิพย์
สัมภาษณ์โดย ขุนก้อง
มีสุภาษิตจีนบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า "คลื่นลูกหลังไล่คลื่นลูกแรกเสมอ"
จึงเป็นคำเปรียบเทียบที่มีความหมายว่า คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถจนก้าวขึ้นมาแทนคนรุ่นเก่าที่กำลังโรยรา
เหมือนดังนักหมากรุกไทยคนหนึ่งที่ใช้ความสามารถเล่นหากรุกไทยตั้งแต่อายุน้อยๆ
ไต่เต้าเดินสายเล่นกับเซียนที่มีฝีมือจนมีฝีมือกล้าแข็งขึ้น
และสามารถที่จะลงแข่งขันกับนักหมากรุกชั้นปรมาจารย์ จนในที่สุดก็สามารถครองตำแหน่งแชมป์ประเทศไทย
แม้ว่าตัวเองยังมีอายุน้อยอยู่ เขาก็คือ วีระพล สุนทรพงษาธร หรือวงการหมากรุกไทยตั้งฉายาให้กับเขาว่า
"หนูทอง" แชมป์หมากรุกไทยประจำปี 2532
-----------------
บอกได้ไหมว่าทำไมถึงได้รับฉายาว่า "หนูทอง"
.... ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ไม่ใช่ชื่อเล่นผมหรอก
พวกเซียนที่ตั้งฉายาใน้ให้คงเป็นเพราะตอนที่ผมออกไปเดินสายเล่นที่ซุ้มศรีย่านครั้งแรก
ซึ่งตอนนั้นผมอายุแค่ 17 ปี ดูแล้วเหมือนเด็กมากมั้งครับ
มีชื่อเล่นจริง ๆ ไหม
.... เรื่องนี้ขออุบไว้ได้ไหมครับ เดี๋ยวคนอื่นรู้เข้าเรียกแต่ชื่อเล่น ไม่เรียกหนูทอง
ผมว่าเรียกหนูทองดีแล้วล่ะครับ
เริ่มหัดเล่นหมากรุกไทยตั้งแต่เมื่อไหร่
.... ประมาณ 8-9 ปีแล้ว เมื่อก่อนบ้านผมอยู่แถววัดโพธิ์นิมิตร ฝั่งธนฯ เห็นเขาเล่นกันเยอะก็ชักสน
เลิกเรียนทีไรต้องแวะมาโขกสักกระดานนึง กลับเข้าบ้านแล้วสบายใจ
ช่วงที่หัดเล่นใหม่ๆ มีคนชี้แนะแต้มหมากให้รึเปล่าครับ
.... ก็พอมีเหมือนกันครับ แกชื่อเนี้ยวใหญ่ อยู่ซุ้มวัดโพธิ์แถวบ้านเก่า
ซึ่งผมก็ถือว่าแกเป็นอาจารย์ของผมคนหนึ่งเหมือนกัน เพราะว่าตอนนั้นผมเล่นไม่ค่อยเก่ง
เขาก็ซ้อมให้ผมเป็นประจำ แต่ก็มีเดิมพันเล็กๆน้อยๆ แพ้เลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำครับ
มีพี่น้องกี่คน ที่บ้านมีใครเล่นหมากรุกเป็นบ้าง
.... ผมเป็นลูกคนสุดท้อง มีพี่ชาย 2 คน แต่เขาเล่นหมากรุกไม่เป็นเลย
ที่บ้านก็มีผมนี่แหละที่ชอบเล่นหมากรุกอยู่คนเดียว
เริ่มออกเดินสายเล่นเมื่อไหร่
.... จำไม่ค่อยได้แล้ว ตอนอายุ 17 ปี มั้งครับ ช่วงนั้นเพิ่งเรียนจบ ม.ศ.5
ยังตกงานอยู่ก็ไปดูเค้าเล่นหมากรุกตามซุ้มโน้นซุ้มนี้ตามเรื่อง
ซุ้มแรกที่ไปอยู่แถวไหน
.... นอกจากซุ้มวัดโพธิ์แล้ว ก็ไปเล่นที่ซุ้มศรีย่าน ก็ที่ซุ้มศรีย่านนี่แหละที่มีเซียนตั้งฉายาให้ว่า
"หนูทอง" จนนักหมากรุกเรียกชื่อนี้จนติดปาก
มีใครพาไปเดินสายเล่นที่อื่นไหม
.... เคยไปเล่นที่ต่างจังหวัดบ้างเหมือนกัน แต่จำไม่ได้แล้วครับว่าไปเล่นที่ไหนมาบ้าง เพราะหลายจังหวัด
ตอนนั้นที่ซุ้มศรีย่านคนเริ่มรู้จักและหาคนเล่นด้วยไม่ได้ ถ้าจะเล่นก็ต้องเป็นที่เหนื่อกว่าจริง ๆ
พอดีเซียนซ้ง (วิรัช เลิศมวลมิตร) ชวนผมไปเล่นทีต่างจังหวัด ก็ตามไป สนุกดีครับ
ได้รู้จักคนเยอะแยะและสร้างประสบการณ์ให้กับตนเองด้วย
ลงแข่งหมากรุกครั้งแรกเมื่อปีอะไร
.... ถ้าลงแข่งอย่างเป็นทางการจริงๆ ก็ขุนทองคำครั้งที่ 2 เมื่อปี 2530 ซึ่งตอนนั้นผมได้เป็นตัวแทนเขต 7
กาญจนบุรี ช่วงนั้นผมรู้ตัวครับว่ายังเดินไม่ค่อยดี ประสบการณ์ย้งน้อยอยู่ สู้ระดับมือใหญ่ ๆ ไม่ได้
แต่ตอนนั้นก็ภูมิใจครับที่ได้เป็นถึงระดับตัวแทนเขตทั้ง ๆ ที่อายุแค่ 18 ปีเอง
จำได้ไหมขุนทองคำครั้งที่ 2 แพ้ใคร
.... รู้สึกว่ารอบ 10 เซียน ตัวแทนเขตมีแต่มือระดับใหญ่ ๆ ทั้งนั้น ผมเองตอนนั้นยังเด็กอยู่
ประสบการณ์สู้ไม่ได้จริง ๆ และอีกผมว่าเรื่องโชคก็สำคัญ เพราะตั้งแต่ผมลงแข่วหมากรุกชิงแชมป์ขุนทองคำมา
ผมจับฉลากประกบคู่ทีไรเจอกับเซียนป่องทุกที เซียนทุกคนไม่มีใครอยากเจอกับเซียนป่องกันทั้งนั้นหรอกครับ
ขุนทองคำครั้งที่ 2 ที่แพ้ก็แพ้เซียนป่องแหละครับ
ขุนทองคำครั้งที่ 3 ล่ะ
.... (หัวเราะ) ได้แค่ที่ 3 ครับ บังเอิญต้องมาตัดเชือกกับเซียนป่อง (สุชาติ ชัยวิชิต)
แต่ปีนี้ผมก็รู้ว่าฝีมื เริ่มดีขึ้นมากแล้ว ความมั่นใจผมมีมากขึ้น ในตอนชิงที่ 3 กับ ต๋อย ศรีย่าน
(วิโรจน์ โรจน์ประภายนต์) สามารถเอาชนะเขาได้จึงเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองมากขึ้น
เคยคิดบ้างไหมว่าจะได้แชมป์ประเทศไทย ในขุนทองคำครั้งที่ 4
.... ไม่เคยคิดเลยครับ เพราะการชิงแชปมป์คราวนี้มีนักหมากรุกมือดี ๆ หลายคน แต่กว่าจะได้แชมป์คราวนี้
ผมยอมรับว่าเป็นการแข่งขันหมากรุกที่เหนื่อยที่สุดที่เคยเล่นมาเลยทีเดียว เจอแต่มือระดับพระกาฬทั้งนั้น
ตั้งแต่รอบ 16 เซียนก็เจอเซียนบัง (ไพศาล ศัพท์หงส์) ที่มีรูปหมากแปลก ๆ รอบ 8 เซียนก็เจอกับเซียนแหว่ง
(บุญสืบ แซ่เฮง) ที่เป็นมือ 2 รองจากเซียนป่องในซุ้มดินแดง พอมารอบตัดเชือกก็เจอกับเซียนซ้ง (วิรัช
เลิศมวลมิตร) ที่เคยเป็นแชมป์ประเทศไทยมาและมีศักดิ์เสมือนอาจานย์ผมคนหนึ่งเหมือนกัน แต้มหมากต่าง ๆ
เขารู้ดีหมด และยิ่งตอนที่ชิงชนะเลิศกับแดงขอนแก่น (สาธิต เกษตรชล)
ผมยอมรับว่าเหนื่อยที่สุดในชีวิตกว่าที่จะเอาชนะเขาได้สมองผมล้าไปมาก เล่นไป 6 กระดาน ประมาณ 12
ชั่วโมงเห็นจะได้ กลับไปบ้านมองอะไรเป็นม้าเป็นเรือไปหมด แดง ขอนแก่น
เขาพัฒนาฝีมือขึ้นมามากกว่าแต่ก่อนเยอะทีเดียว
รอบแชมป์ชิงแชมป์กับเซียนป่องล่ะ คิดว่าสู้เซียนป่องได้รึเปล่า
.... ผมกับเซียนป่องเหมือนคู่ปรับกันเลยก็ว่าได้ เพราะเคยแพ้เขามาตลอด
ตอนลงโขกชิงแชมป์ก็หวั่นๆอยู่เหมือนกัน แต่พอดีมีข่าวเรื่องเซียนป่องปวดฟันหรืองไงเนี่ย
ก็เลยใจชื้นขึ้นมาหน่อยนึง
มีเซียนลือว่รอบแชมป์ชิงแชมป์เอาหมากของแดงขอนแก่น มาเล่นกับเซียนป่องใช่ไหม
.... ไม่หรอกครับ การเล่นหมากรุกไทยเป็นเกมที่ไม่สามารถกำหนดตายตัวเหมือนหมากฮอส
ตาไหนดีที่สุดผมก็เลือกเดินตานั้น บางทีอาจจะไปซ้ำของคนอื่นบ้างก็เท่านั้น ผมยกตัวอย่าง
อย่างเซียนป่องเชี่ยวชาญม้าโยงขวา ผมศึกษาว่าม้าโยงขวาขึ้นแล้วดีที่สุดผมก็เล่นแต้มนี้
ถ้าไปเล่นรูปอื่นอาจไม่ถนัดและแพ้ไปเลย
ดีใจไหมที่ล้มเซียนป่องได้ในรอบ "แชมป์ชิงแชมป์"
.... โถ ถามได้ใครจะไม่ดีใจล่ะครับ เซียนป่องเป็แชมป์หมากรุกไทยมา 3 สมัย และยังไม่เคยมีใครเอาชนะได้
ใครชนะได้ก็ต้องภูมิใจ
"ขุนทองคำครั้งที่ 5" พลาดท่าพ่ายเซียนป่องยังไง
.... ไม่รู้เหมือนกัน หมากรุกมีแพ้มีชนะ บางทีเราเองก็ฝ่อศักดิ์ศรีเหมือนกันกระดานที่ 2 ผมพลาด
ผมรู้ตัวว่าหมดสิทธิ์ที่จะแก้คืนได้ จึงต้องยอมเสี่ยงเล่นหมากตะลุย
เซียนคนไหนที่ถือว่าเป็นนักหมากรุกที่น่ากลัวที่สุด
.... ก็ต้องยกให้เซียนป่องเพียงคนเดียวครับ เซียนป่องเป็นเซียนที่มีประสบการณ์สูงมาก
ประกอบกับเขามีความสุขุมรอบคอบมาก เรียกได้ว่าในบรรดานักหมากรุก เซียนป่องมีความละเอียดที่สุด
ทุกแต้มที่เขาเดินมักจะไม่เคยพลาด แต่หมากรุกนี่มันอยู่ที่การเดินผิดพลาด ผลแพ้ชนะจึงเกิด
อยู่ที่ว่าในเกมการแข่งขันเราสามารถคิดแต้มออกมาได้ถูกต้องหรือไม่
ผมว่าที่เอาชนะได้ก็เพราะหลักการนี้มั้งครับ
รูปหมากรุกสมัยนี้กับสมัยก่อนแตกต่างกันมากกน้อยแค่ไหน
.... หมากรุกสมัยนี้ดีกว่าเยอะครับ มีรูปหมากใหม่ ๆ เกิดขขึ้นหลายรูป
พวกเซียนต้องพยายามค้นคว้าแต้มหมากเด็ดเก็บไว้เป็นความลับ บางทีก็เอาหมากเก่า ๆ
มาศึกษาหาจุดอ่อนเพื่อให้หมากของตนสมบูรณ์ที่สุด
ทำให้หมากรุกสมัยนี้แพ้ชนะกันลำบากเหมือนกับว่ารู้เขารู้เราทำนองนี้ เล่นไปเล่นมาจะออกเสมอกันหมด
ผมว่าหมากรุกตอนนี้อยู่ที่ว่าใครสามารถจำหมากได้มากกว่าก็ได้เปรียบคู่ต่อเสู้เยอะทีเดียว
นอกจากหมากรุกไทยแล้ว เล่นหมากกระดานประเภทอื่นหรือไม่
.... จริงๆ แล้วผม่ชอบหมากรุกสากลพอ ๆ กับหมากรุกไทย
เพราะเกมของหมากรุกสากลเป็นเกมที่ซับซ้อนลึกซึ้งกว่าหมากรุกไทย ผมว่าเล่นหมากรุกสากลมันเร้าใจดี
ตัวหมากแต่ละตัวมีอานุภาพมากกว่าหมากรุกไทยแม้ลักษณะการเดินจะคล้ายกันก็ตาม
และหมากรุกสากลนี่แหละครับที่ช่วยพัฒนาแต้มในหมากรุกไทยให้ผมขึ้นเยอะ
แต่เราต้องนำมาประยุกต์เล่นกับหมากรุกไทยให้ถูกวิธีเท่านั้น
หมากรุกสากลเคยลงแข่งขันไหม
.... ลงแข่งเป็นประจำทุกปีเลยครับ เมื่อปี 2530 ผมก็ได้เป็นแชมป์ประเทศไทย และ ปี 2531
ผมก็ได้เดินทางไปแข่งขันหมากรุกสากลกัลนักหมากรุกคนอื่น ๆ อีก 5 คนที่ประเทศกรีซ
ซึ่งตอนนั้นพวกที่ไปกับผมก็มี เซียนป่อง (สุชาติ ชัยวิชิต), คุณปรีชา สินประยูร, คุณนคร ตรีสอาด,
คุณเกียรติ ฟูเฟื่องมงคลกิจ, คุณอโนทัย ฤทธิ์ปัญญาวงศ์ ตอนนั้นมีเซียนป่องที่ได้เหรียญทองบอร์ด 4
กลับมาคนเดียว ตอนนั้นยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าไร เพราะผมไม่มีเทคนิคใหม่ ๆ ที่ช่วยพัฒนาแต้มหมาก
อย่างหมากรุกสากลนี่เขามีตำราออกมาปีหนึ่งหลายๆ เล่ม เราไม่เคยศึกษามาก่อน
พอลงไปเล่นก็เป็นหมูให้เขาเชือด
ปัจจุบันเคารพใครเป็นอาจารย์
.... คุณปรีชา สินประยูร หรือที่พวกเซียนเรียกว่า "ม้าปรีชา" เป็นคนที่ผมเคารพมากที่สุด
ท่านเป็นคนที่เหตุผลและเป็นผ้คอยชี้แนะแต้มหมากต่าง ๆ ให้ผมมากทีเดียว นอกจากนั้น
ท่านยังได้ให้ความรู้และหลักการต่าง ๆ ที่มีประโยชน์แก่ผม แต่ช่วงนี้ผมไม่ได้พบกับท่านนานแล้ว
ซึ่งท่านเป็นคนที่ไม่ได้อยู่เป็นที่
เล่นหมากรุกมานานแล้ว พอจะบอกได้ไหมว่าเกมการแข่งขันกับเกมเล่นในซุ้มแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน
.... เกมการแข่งขันอย่างเป็นทางการ เล่นยากกว่ามากทีเดียว
เราจะต้องเดินพลาดจนแพ้ไม่ได้เลยซักกระดานเดียว เพราะโอกาสที่จะหาทางชนะกลับมีน้อย
ผมว่าข้อแตกต่างอยู่ที่การเล่นในซุ้มไม่บีบหัวใจมากเพราะถ้าเล่นแพ้ไปก็สามารถตั้งกระดานเล่นใหม่
เล่นเสียไป เดี๋ยวก็ได้คืนมา จะเล่นกี่ประดานก็ได้ไม่มีกฎบังคับเหมือนเกมการแข่งขัน
เมื่อก่อนกฎการแข่งขันหมากรุกไทย "ขุนทองคำ" ให้ใช้การคิดในการเดินหมากแต่ละแต้ม 2 นาที
แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้นาฬิกาหยุดเวลาแทน อย่างไหนจะดีกว่ากัน
.... ใช้นาฬิการหยุดเวลาดีกว่าครับ เพราะว่าเราสามารถควคุมการเล่นให้เป็นของตนเองได้ ซึ่งการคิดแต้มละ 2
นาที มันจะยุ่งยากตรงที่กรรมการจะคอยเตือนอยู่เสมอว่าเวลาะหมดแล้ว ทำให้จิตใจเราว่อกแว่ก
อีกอย่างหนึ่งการใช้นาฬิกาหยุดเวลาเป็นกฎการแข่งขันของหมากรุกทั่วโลกใช้แข่งขัน
ไม่ว่าจะเป็นหมากรุกสากลหรือหมากรุกจีน เขาก็ใช้นาฬิกาหยุดเวลาควบคุมเกมการแข่งขันกันทั้งนั้น
กฎการแข่งขันหมากรุกอย่างเก็บคะแนนสะสมกับแพ้คัดออกอย่างไรจะดีกว่ากัน
.... แพ้คัดออกจะดีกว่าเล็กน้อยตรงที่เป็นการวัดฝีมือของเซียนจริง ๆ เลยว่าเก่งแค่ไหน
เพราะถ้าแพ้ก็จะร่วงทันที และอีกอย่างหนึ่งจะไม่มีการเทคะแนนให้คนอื่นเข้ารอบได้
แต่มีข้อเสียอยู่ที่เราจะเดินพลาดไม่ได้เลย ทำให้เป็นรองคนที่ฝีมือด้อยกว่า
เพราะจะหาโอกาสเล่นดึงเสมอเพื่อหาทางจับฉลากเข้ารอบ
มีวิธีฝึกหมากรุกอย่างไรจึงเก่งจนเป็นเซียน ทั้ง ๆ ที่อายุยังน้อยอยู่
.... เล่นบ่อย ๆ เล่นกังคนที่เก่งกว่าเสมอจะช่วยให้เป็นเร็ว
อีกอย่างต้องมีความเชื่อมั่นและมีความรอบคอบเสมอ คิดก่อนที่จะเดิน
และก็ต้องหมั่นหาประสบการณ์จากที่อื่นด้วย เพราะจะทำให้ความรู้ไม่ตันง่าย ๆ
เป็นแชมป์ประเทศไทยแล้ว ทำไมไม่ทำตำรามาขายมั่งล่ะ
.... มีคนถามผมเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่ผมคงไม่มีเวลาหรอกครับ
เพราะการทำตำราหมากรุกเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากเหมือนกัน ซึ่งจะต้องมีผู้ช่วยที่ดี
และมีเวลาทำอย่างจริงจัง จริง ๆ ผมเองก็อยากให้วงการหมากรุกเจริญขึ้น
และมีคนเล่นกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นอยู่แล้ว
คิดว่าใครที่มีส่วนผลักดันให้มาถึงจุด ๆ นี้ได้
.... คงเป็นเซียนซ้ง (วิรัช เลิศมวลมิตร) ครับ เพราะช่วงที่ผมเริ่มเล่นหมากรุกอย่างจริงจัง
เซียนซ้งเป็นผู้พาผมไปหาประสบการณ์ตามซุ้มต่าง ๆ
และทำให้ชื่อเสียงเริ่มดังขึ้นมาในหมู่เซียนนักหมากรุกด้วยกัน
ภูมิใจอะรไมากที่สุด
.... ถึงตอนนี้ก็ต้องภูมิใจที่ภรรยาผมเพิ่งคลอดลูกสาวคนแรก หลังจากที่ผมได้แชมป์ประเทศไทยไม่นาน
ผมคิดว่าเพราะลูกสาวคนนี้แหละครับที่ทำให้มีกำลังใจที่จะเล่นหมากรุกจนสามารถคว้าแชมป์มาได้แม้ว่าจะลำบาก
อย่างยิ่งก็ตาม
อยากให้วงการหมากรุกไทยในอนาคตเป็นอย่างไร
.... ถ้ามีคนหันมาในใจเล่นกันมาก ๆ คงจะดีไม่น้อย และยิ่งเป็นสูตรการศึกษาด้วยเหมือนต่างประเทศก็จะดีมาก
เชื่อว่าอีกหน่อยหมากรุกไทยคงจะเจริญขึ้นอย่างแน่นอนครับ
ลงแข่งหมากรุกไทยอีกกี่ปีถึงจะอำลาวงการ
.... เรื่องนี้ตอบยากมากครับ ตราบใดที่มีการแข่งขันอย่าง "ขุนทองคำ" ผมก็จะลงโขกกับเขาด้วย
บางทีอาจจะเล่นถึง "ขุนทองคำครั้งที่ 50" ก็ได้นะ (หัวเราะ)
ตราบใดที่ยังมีการแข่งขันหมากรุกไทยชิงแชมป์ประเทศไทยอย่าง "ขุนทองคำ"
ให้เซียนได้พิสูจน์ฝีมืออยู่ทุก ๆ ปีแล้ว
หนูทองก็คงต้องเล่นต้องโขกกับเซียนที่เป็นทั้งมือเก่าและมือใหม่อยู่ร่ำไป
เพราะชีวิตของเขานั้นเกิดมาเพื่อเป็นนักหมากรุกอาชีพโดยแท้
โดย : หมูหมู [ 19/05/2005, 08:40:37 ]
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 11:56:07 ] |
|
110
ภาพ อ.หนูทอง แข่งหมากรุกสากล กับ อ.บุญสืบครับ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 12:30:48 ] |
|
111
อ.หนูทอง กำลังคบคิดแต้มหมากเด็ดๆ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 12:33:22 ] |
|
112
รูปถ่ายคุณหนูทองจากสหายในวงการหมากกระดาน
เพื่อรำลึกถึงคุณหนูทองผู้จากไป
โดย : ป้าอรฯ [ 17/03/2004 , 02:04:24 ]
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 12:34:56 ] |
|
113
...กลับมาเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างนะครับ
ผมมีภาพตอนแข่งหมากรุกไทยของตัวผมเองตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมโรงเรียนวัดบวรนิเวศ กทม.จนถึงปัจจุบันเรียน
ม.รามคำแหง กทม. มาให้ชมกันครับ ภาพอาจไม่ค่อยชัดเท่าไรนะครับ
...นำมาชมเพื่อความบันเทิงน่ะครับ ไม่ได้ต้องการอวดอ้างว่าตนเองเก่งกาจอะไรมาก
เพราะผมก็เป็นลูกชาวนา มาพักอยู่วัดกับพระพี่ชาย แต่มีใจชื่นชอบในกีฬาหมากรุกไทยครับ
...ภาพ นี้ เป็นภาพการแข่งครั้งแรกในชีวิตของผมครับ ตอนนั้นอยู่ ม.4 เทอม 2 ในรายการแสงโสมหมากรุกเยาวชน
2546 ณ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า
...คู่ที่ดีที่สุดประจำทัวนาเม้นท์
นี่คือ คู่สุดยอดของทัวนาเม้นท์นี้ครับ และน่าจะเป็นคู่ชิงชนะเลิศด้วย
แต่น่าเสียดายที่ทั้งคู่ต้องโคจรมาพบกันในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งเป็นการพบกันก่อนเวลาอันควร
การพบกันระหว่าง อริยะ ตั้งสุนทรธรรม (เสื้อขาว) กับ สระพงษ์ หาญสิงห์ (เสื้อเหลือง) การแข่ง 3
กระดานแรก เล่นกันได้สูสีมาก ปรากฏว่าเสมอกันทั้ง 3 กระดาน โดยเฉพาะกระดานที่ 3 เป็นเกมที่พลิกไปพลิกมา
เมื่ออริยะ เป็นต่อ ม้าสู้โคน แต่กลับพลาดท่าโดนรุกเสียม้าฟรี ถึงตอนนี้ สระพงษ์ เป็นต่อโคนหนึ่งตัว
น่าจะชนะแล้ว แต่ในช่วงท้ายกระดาน ก็เกิดการพลิกล็อคอีกจนได้ เมื่อ สระพงษ์ เดินขุนพลาดมาตากดของเรือ
อริยะ แทงเบี้ยหงาย เข้าไล่เม็ด ได้กินเม็ดฟรีหนึ่งตัว กลับกลายเป็นหมากเสมอ !!!
กรรมการตัดสินให้ทั้งคู่เล่นกระดานที่สี่ ในระบบหมากป้อง ซึ่งหลังเล่นกันอย่างยาวนานกว่า 2
ชั่วโมง อริยะ ก็บุกแลกเบี้ยหน้าขุน พร้อมที่จะนำม้าเข้ารุกขุนของ สระพงษ์ (แพ้ตามกติกาหมากป้อง)
เป็นแต้มหมากที่แก้ไขไม่ได้ สระพงษ์ เลยตัดสินใจยกธงขาวยอมแพ้ไป ต้องไปชิงอันดับที่ 3 แทน
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 12:52:52 ] |
|
114
คู่ชิงอันดับที่ 3
สระพงษ์ หาญสิงห์ (เสื้อเหลือง) พบกับ วสันต์ คล้ายสำเนียง (เสื้อขาว) คู่นี้เป็นศึกสายเลือดของ
โรงเรียนวัดบวรนิเวศ ครับผม เพราะทั้งคู่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน แถมยังเป็นเพื่อนกันอีกด้วย
การแข่งขันจึงเป็นไปอย่างสบาย ๆ ไม่เคร่งเครียด ซึ่งผลการแข่งขันปรากฎว่า สระพงษ์ เอาชนะไปได้ 2
กระดานรวด คว้าอันดับที่ 3 ไปครองเป็นรางวัลปลอบใจ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 12:57:15 ] |
|
115
วันเสาร์ที่ 12 และวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ.2546
หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม (19 คน) เรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงการแข่งขันในรอบ 8
เซียน(น้อย) ซึ่งต้องนำผู้ผ่านเข้ารอบมาจับสลากประกบคู่กันใหม่หมดครับ
และผู้แพ้ในรอบนี้ก็ไม่ได้ตกรอบเสียทีเดียว แต่จะต้องไปแข่งเพื่อจัดอันดับที่ 5-8 ภาพข้างล่างนี้
ผู้ผ่านเข้ารอบทั้ง 8 คน ถ่ายรูปร่วมกันครับ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 12:59:41 ] |
|
116
พิธีมอบรางวัล
...ทางเว็บ ThaiBG.com ได้รับเกียรติจาก น.อ.บุญแสง มาลามาศ เป็นผู้มอบรางวัล
...นาย สระพงษ์ หาญสิงห์ จากโรงเรียนวัดบวรนิเวศ รับรางวัลที่ 3
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 13:03:15 ] |
|
117
ดูชัด ๆ อีกครั้ง ครับ สำหรับ ผู้ได้รับรางวัลที่ 1-3
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 13:04:52 ] |
|
118
ภาพนี้ ขณะแข่งหมากรุกไทยใน มหกรรมหมากรุกไทย 2548 ซึ่งจัดโดยตลาดทรัพย์แห่งประเทศไทย
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 13:08:03 ] |
|
119
ภาพ ตอนซ้อมแต้มกับน้าทนายมือเก๋าโคราช
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 13:19:43 ] |
|
120
ภาพ ผู้ที่ได้รับรางวัลถ่ายรูปร่วมกันครับ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 13:22:04 ] |
|
121
ภาพ ตอนแข่งหมากรุกไทยระดับอุดมศึกษา ในมหกรรมหมากรุกไทย 2549 ครับ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 13:24:33 ] |
|
122
ต้องขออภัยด้วยนะครับผม ภาพไม่ค่อยชัดเท่าไร
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 13:26:25 ] |
|
123
ภาพ ถือถ้วยรางวัลแชมป์อุดมศึกษา ในมหกรรมหมากรุกไทย 2550
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 13:30:46 ] |
|
124
ภาพ ยิ้มหน่อยครับ...แต่ว่าภาพไม่ค่อยชัดเท่าไร
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 13:32:30 ] |
|
125
ภาพ แข่งหมากรุกไทยประเภททีม ผมอยู่ทีมมหาวิทยาลัยรามคำแหงครับ ขณะแข่งกับทีมหมากรุกไทยนนทบุรี
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 13:36:14 ] |
|
126
แข่งกับ "เซียนหมอวัฒน์" ครับ อดีต 16 ขุนทองคำหลายสมัย
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 13:39:39 ] |
|
127
เกมนี้ผมกัดฟันสู้...จนผมเอาชนะไปได้ครับ...แต่ว่าเพื่อนอีก 2คนแพ้รวด 555+ เลยแพ้ทีมนนท์ไป
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 13:43:33 ] |
|
128
ภาพนี้...ผมภูมิใจที่สุดในชีวิตเลยครับ ทีได้แข่งกับ อ.บุญสืบ แซ่เฮง "เซียนแหว่ง"
แชมป์ประเทศไทยคนปํจจุบัน
ในรายการหมากรุกไทยซุ้มบางอกเชสคลับ ผลการแข่งขันนั้นเสมอกันแบบผมเป็นรองตำแหน่งครับ
แต่ว่าถึงท่านเสมอท่านก็คว้าแชมป์ครับ ท่านก็เลยยอมเสมอกับผม แล้วผมก็ได้ตำแหน่งที่ 5 ไปครองครับ
ขอบพระคุณมากครับอาจารย์
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 13:53:42 ] |
|
129
อีกหนึ่งภาพที่น่าประทับใจมากๆสำหรับผมครับ
ตอนแข่งหมากรุกไทยสนามหลวงปี 2550 รอบ 32 คน แข่งกับพี่ "เซียนหน่อยปิ่นเกล้า" เกมที่
1,2 เสมอกัน เกมที่ 3 พี่หน่อยชนะหมากรุกป้อง เป็นหมากรุกป้องที่เร้าใจมาก ๆ ครับ
และต้องขอบคุณแฟน ๆ หมากรุกที่มานั่งชม ยืนชมกันด้วยน่ะครับ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 14:02:40 ] |
|
131
ภาพ แข่งหมากรุกสากลคัดเลือกทีมชาติ ครั้งแรกในชีวิตของผมครับ แข่งกับ พี่ "เซียนนกกระจิบ"
หรือ อ.อวยชัย กองสี ผลการแข่งพี่นกกระจิบชนะไปครับ
...ผมพึ่งฝึกเล่นหมากรุกสากลได้ 2 ปีเองครับ และหมากรุกสากลทำให้เดินหมากรุกไทยได้ดีขึ้นครับ
ทำให้มองเกมได้ไกลขึ้น มีความอดทนมากขึ้น เพราะอาวุธแต่ละตัวของหมากรุกสากลอย่างกับระเบิดนิวเคลียร์
เบี้ยหรือพอนแค่ตัวเดียวก็เอาชนะกันได้ครับ...เพราะฉะนั้นใครอยากเล่นหมากรุกไทยเก่งขึ้น
ก็อย่าลืมมาหัดเล่นหมากรุกสากลด้วยน่ะครับ
|
| โดย : เซียน_พงษ์ [ 03/11/2007, 14:14:08 ] |
|
| |
| |
E-mail: webmaster@thaibg.com |
Copyright 2002-2024@www.ThaiBG.com (Thailand), All Rights Reserved |
|
|
| |
|
[ 17/09/2007, 17:15:14 ]
