|
|
[ กลับหน้าหลัก ]
Chess ในเอเชี่ยนเกมส์ 2010 ที่กวางโจว
http://www.fide.com/news.asp?id=1427
คณะกรรมการจัดการแข่งขัน เอเชี่ยนเกมส์ครั้งหน้าที่กวางโจว ได้บรรจุ chess ไว้เรียบร้อยแล้ว
แต่โอลิมปิกไทยคงไม่ส่งเข้าแข่งขันอีก เนื่องจากเป็นกีฬาไม่มีความหวังเหรียญ |
โดย : MaxEuwe [ 09/08/2007, 19:12:08 ] |
1
Cricket, dragon boating and Weiqi: the 2010 Guangzhou Asian Games promises to be a sports fiesta
with a difference following the announcement of the event line-up.
According to organizers, the 2010 Asian Games will be the largest of its kind in history featuring
42 sports, three more than that in Doha last year.
................
http://www.chinadaily.com.cn/2008/2007-07/03/content_908806.htm |
โดย : ขุนสันต์ [ 14/08/2007, 08:09:45 ] |
2
ครับไม่ส่งก็ไม่เป็นไรครับ อยากให้เพื่อนๆน้องๆพี่ๆ ขอให้
ก้มหน้าก้มตาศึกษา และฝึกซ้อมกันต่อไป ครับก็อย่างที่
เราทราบกันดี สรรพสิ่งจะสมหวังได้ ก็ต้องอาศัยความเพียร
เป็นพื้นฐานครับ เหตุผลของการไม่ส่งก็เพราะเขามองว่า
เรายังไม่มีความหวังที่จะได้เหรียญ ดังนั้นเราก็ต้องมา
หาจุดอ่อนและทำการแก้ใขกันจะดีกว่าครับ แม้จะต้องใช้เวลานานสักเท่าไหร่ก็ต้องทำ
เพื่อวงการหมากรุกอันเป็นที่รักของเราทุกคน จะได้มีโอกาสขึ้นไปสูดอากาศของท้องฟ้ากะเขาบ้าง
อยู่บนดินมานานแล้ว อิอิ ผมไม่ทราบว่า
หมากรุกสากลได้เข้ามาเผยแผ่ ในบ้านเรานานแค่ใหนแล้ว
(ผมหัดเล่นก็ตอนที่หนูทองกำลังเป็นมือหนึ่ง ซึ่งบังเอิญ
เดินเข้าไปเห็นเขาแข่งก็เลยดูๆๆๆๆๆๆๆๆแล้วก็หัด)
สิ่งที่จะทำให้วงการของเราพัฒนาขึ้นไป น่าจะเกี่ยวข้องกับ
องค์ประกอบ 4 ส่วนดังนี้ครับ
1 สมาคม และ เจ้าหน้าที่ทุกๆท่าน
2 นักหมากรุก
3 ผู้สนับสนุน (สปอนเซอร์)
4 เวลา
องค์ประกอบ ข้อที่ 1
ผมมองว่ามีทีมงานที่เข้มแข็งครับ ทีมงานนี้ทำงานด้วยใจและเสียสละ เป็นคนหนุ่มไฟแรงครับ
องค์ประกอบ ข้อที่ 2 นักหมากรุกนี้ผมว่ายังมีส่วนที่ต้อง
ปรับปรุงก็คือ เวลาสมาคมจัดการแข่งขันมักไปแข่งกันน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
(หากท่านติดธุระสำคัญก็ไม่ว่ากันครับ)
สาเหตุเพราะอาจจะกลัวแพ้เลยไม่ไปแข่ง
หรือกลัวว่าจะเจอมือแข็งๆแล้วจะแพ้ ซึ่ง ทัศนคติของนักหมากรุกแบบนี้เป็นทัศนคติที่ผิดมากครับ
แต่ไม่ต้องตกใจ มีข้อแนะนำครับ ผมเคยอ่านบทสัมภาษณ์
ของ Kasparov มีวลีหนึ่งที่ผมประทับใจมากเขาพูดว่า
"การจะเป็นนักหมากรุกที่ดีนั้นคุณจะต้องมีจิตใจเป็นนักสู้
และความเป็นนักสู้นั้นมันจะต้องอยู่ในสายเลือดของคุณเลยทีเดียว" อ่านแล้วเป็นงัยครับ
ผมว่าเป็นความคิดที่ดีมากครับ ผมขอขยายความเพื่อให้เกิดความเข้าเพิ่มขึ้นนะครับ
วลีนี้น่าจะหมายความว่าเราต้องหมั่นศึกษาและฝึกซ้อมครับ
การศึกษาก็น่าจะเป็นการศึกษาวิธีการเดินหมากที่ถูกต้อง
เวลาที่ท่านศึกษาเกมส์ของ GM ท่านควรหาเหตุผลว่าทำไมเขาจึงเดินแบบนั้น
เราต้องคิดหาข้อสรุปของเราเองว่าทำไม แต้มนั้นดีอย่างไร ไม่ดีอย่างไร มันเป็นเหตุผลของเราเอง
ไม่จำเป็นจะต้องเหมือนใคร เพราะเป็นเหตุผลที่เราเข้าใจ แล้วลองมานำแต้มนั้นมาใช้ในการฝึกซ้อมแล้วดูว่า
ได้ผลมากน้อยแค่ใหน หากแพ้นั้นแสดงว่าเราก็ต้องปรับเหตุผลให้มากขึ้น จนได้ข้อสรุปว่าแต้มนั้นดีจริงๆ
หรือดีแต่ก็ยังมีจุดอ่อน อะไรประมาณนั้น ลองนำวิธีนี้ไปปรับแต่งให้เหมาะสมกับตัวท่าน
ผมว่าจะทำให้ท่านเดินหมากได้ดีขึนครับ ผมเองก็ใช้วิธีนี้ครับ แต่ยังต้องปรับปรุงอีกมาก
อีกส่วนหนึ่ง ท่านอาจกลัวแพ้เวลาที่จะต้องแข่งซึ่งอาจจะได้แข่งกับคนที่เก่ง ๆ ของบ้านเรา
ซึ่งตรงนี้เราต้องปรับความรู้สึกเสียใหม่ว่า
การแข่งขันนั้นมันเป็นเส้นทางที่เราจะต้องเจออยู่แล้วและการที่เราจะต้องเจอกับคนเก่งนั้นก็แสดงว่าเป็นโอ
กาสที่ดีที่เราจะได้นำความรู้ที่เราได้ศึกษา
และฝึกซ้อมนั้นมาทำการทดสอบว่าได้ผลมากน้อยแค่ใหน
ท่านอาจแพ้ แต่อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ
ท่านต้องกลับไปทบทวนดูว่าที่เราแพ้นั้นแพ้ในช่วงใหนของเกมส์แพ้แต้มอะไร
แล้วสิ่งที่ท่านเดินนั้นได้ผลมากน้อยแค่ใหน
เหมือนนักวิ่งครับ แพ้ ห่างกันแค่เสี้ยววินาที กับ แพ้ห่างกันหลายเมตร แพ้เหมือนกันแต่
จะต่างกันที่ความรู้สึก
ท่านแพ้ก็จริงแต่เป็นการแพ้ที่น่ายกย่องเพราะท่านได้สู้เต็มความสามารถแล้วอย่างที่เรียกว่า
ถึงจะแพ้ก็แพ้อย่างเซียน
มีวลี อีกประโยคที่น่าจะเป็นประโยชน์ เป็นของ Lance Amstrong เขาเป็นนักขี่จักรยานที่ยิ่งใหญ่มาก
หลายคนคงทราบดี เขาเป็นมะเร็งที่อัณฑะ ต้องต่อสู้กับมะเร็งอย่างทรหด และกลับมาขี่จักรยานได้อีกครั้ง
ได้แชมป์ ตูร์ เดอร์ ฟลองด์ 5 สมัย (เป็นถ้วยรางวัลที่นักปั่นทั่วโลกอยากได้)
เขามีคำพูดที่อยู่ในใจเสมอคือ "สักวันเราจะต้องเป็นผู้ชนะ"
ครับมันเป็นวลีสั้นๆ แต่มีพลังเหลือเกิน ลองเอาไปปรับใช้กับตัวท่านเองได้ครับ
และยังสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตการทำงานก็ได้เช่นกัน วันนี้คงต้องพอก่อนอีก 2
ข้อที่เหลือค่อยมาว่ากันอีกทีตอนนี้ง่วงจัง ไม่รู้พิมพ์อะไรไปบ้างแล้วเจอกันใหม่ครับ
ZzzzZZzzz...............zzZZZ
|
โดย : คลองผดุง [ 17/08/2007, 01:13:00 ] |
4
การจะให้คนไทยเราไปสู้ต่างชาติได้ต้องเตรียมระบบสนับสนุนฝึกสอนกันเป็น10ปี
จีนและเวียดนามไม่ได้เก่งในชั่วข้ามคืน เขามีการฝึกกันอย่างเป็นระบบ และยาวนาน
ถ้าจะให้เยาวชนคนไทยพัฒนาขึ้นไปสู้กับเขาได้ ต้องเริ่มพัฒนานับหนึ่งกันตั้งแต่วันนี้
เท่าที่ดูผลงานของทีมต่างๆในเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ชาติที่น่าสนใจคือ Japan
นักกีฬาคือของเขายันเสมอGMได้หลายเกมส์ ถอยไปปีนึงญี่ปุ่นยังด้อยกว่าไทย ผ่านมาปีนึง
เขาได้แซงหน้าไปแล้ว ถ้าไม่การก้าวเดินก็ไม่มีทางถึงจุดหมาย
นักกีฬาไทยชุดปัจจุบันก็เล่นไปวันๆรอเด็กชุดใหม่ก้าวแทนขึ้นมา ซึ่งก็ดูแล้วอีกนานแสนนาน... |
โดย : จันทรานคร [ 30/10/2007, 00:07:12 ] |
5
ส่วนเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 3 ที่เวียดนาม จะเป็นเจ้าภาพในปี 2009 นั้น เบื้องต้นกำหนดจัดแข่งขัน
21 ชนิดกีฬา ได้แก่ กรีฑาในร่ม, ว่ายน้ำระยะสั้น, ฟินสวิ่มมิ่ง, ลีลาศ, ยิงธนู, เปตองในร่ม,
ศิลปะป้องกันตัวสตรี (ซานซู), มวยสากล (หญิง), เซปักตะกร้อ, ชัตเติ้ลค็อก, สปอร์ตแอโรบิก, ปัญจักสีลัต,
หมากรุก (จีน-สากล), คูราช, ฟุตซอล, มวยไทย, โววีนั่ม, คิวสปอร์ต, เชิดสิงโต-มังกร,
คิ๊กบ็อกซิ่ง, ยูยิตซู และ โบว์ลิ่ง โดยมี ไก่พื้นเมืองพันธุ์ โฮ เป็น มัสคอต หรือ สัตว์นำโชค
สื่อถึงความกระตือรือร้นที่จะตื่นขึ้นรับแสงอาทิตย์ยามเช้าตรู่ เปรียบเหมือนกับวงการกีฬาของเวียดนาม
ที่กำลังพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
จากเดลินิวส์ 5 พฤศจิกายน 2550 |
โดย : ขุนสันต์ [ 05/11/2007, 22:05:19 ] |
6
ถึงไม่มีโอกาสได้เหรียญ ท่านผู้ใหญ่น่าจะให้โอกาสไปสมผัส
บรรยากาศการแข่งขันบ้างเพื่อแรงบรรดาใจให้คนรุ่นหลัง
พยายามต่อไปเพื่อเกียรติยศให้ประเทสชาติเพราะนานมาก
ที่ทางโอลิมปิกจะเปิดการแข่งขันชิงเหรียญ...ขอร้องเถอะ
ให้โอกาสนักกีฬาหมากรุกสากลทีมชาติไทย .ใช้เวลาบ้างเถอะคับ |
โดย : เห่าดุกัด [ 01/02/2008, 14:58:41 ] |
7
"จะเดินทางหมื่นลี้ ก็ต้องมีก้าวแรก" เห็นด้วยครับผม |
โดย : คลองผดุง [ 01/02/2008, 23:36:17 ] |
8
ผู้ใหญ่ในบ้านเราใจแคบ |
โดย : ก๋งก๋ง [ 02/02/2008, 18:28:41 ] |
9
ม้าแก่ใจทะยานไปพันลี้ แต่..ยังมีความมุ่งมั่นที่แท้จริงหรือไม่
ถ้าถึงทางตันก๊ต้องเปลี่ยน..เปลี่ยนเท่าที่จะเปลี่ยนได้ |
โดย : กะปอม11 - Դ : 0427116159 - [ 04/02/2008, 14:10:16 ] |
10
แม้นทะยานมาใกลตั้งพันลี้
ฤ จะหนีหนทางอย่าสงสัย
แม้ต้องยากลำบากอีกตั้งใกล
ก็จะไปให้ถึงซึ่งสุดทาง
.....ด้วยจิตคาระวะ......
|
โดย : คลองผดุง [ 04/02/2008, 15:57:20 ] |
11
ผู้ใหญ่ในวงการกีฬาไม่ได้ใจแคบอย่างที่เข้าใจนะครับ
อย่าไปมองเพียงด้านเดียวแล้วสรุปแบบนั้น
เขาได้ตั้งเงื่อนไข และแจ้งให้สมาคมทราบแล้ว
ซึ่งเงื่อนไขนี้ ก็เป็นอันเดียวกันกับสมาคมกีฬาอื่นๆ
สมาคมใดที่ทำได้ ก็จะมีโอกาสได้เข้าแข่งขัน
ส่วนสมาคมใดที่ทำไม่ได้ ก็อดไป เท่านั้นเอง
และผมคิดว่าคงไม่มีวันที่เขาจะลำเอียง ให้กับ Chess เป็นพิเศษ หรอกครับ
ดังนั้นถ้าอยากจะไป ก็ต้องตีโจทย์ให้แตก
และทำให้ได้ก่อน
ส่วนบรรยากาศการแข่งขัน ที่จะสร้างแรงจูงใจให้เด็กๆ นั้น
ผมก็เห็น ว่า Chess มีส่งแข่งต่างประเทศกันอยู่เป็นประจำ
แต่ทีมชาติ ก็ยังมีแต่เซียนคนเดิมๆ
ยังหาน้องๆรุ่นใหม่ ที่ฝีมือถึงขั้น
เบียดขึ้นมาต่อกรกับเซียนใหญ่เหล่านี้ไม่ได้เลย
|
โดย : ซึซึอิ [ 04/02/2008, 17:33:02 ] |
12
ดูอย่างประเทศเพื่อนบ้านเขายังสนับสนุนกีฬาบ้านเขาเลย
เช่นกีฬาตี่จับของอีนเของเรายังส่งไปแข่งให้เปลืองงบประมาณและรู้สีกจะจัดในกีฬาแห่งชาติหรือเยาวชนด้วยทำ
ไมไม่เริ่มปูพื้นฐานกีฬาหมากกระดานเหมือนกับกีฬาของมหาลัยหรือของกีฬาสาธิตบ้างหรือเขากลัวเยาวชนของชาตฺจ
ะฉลาดเกินไปทำให้หลอกได้ยาก |
โดย : ก๋งก๋ง [ 04/02/2008, 20:54:05 ] |
13
แนะลูกหนังตั้งเป้าสูง
บิ๊กอ๊อด พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ
เป็นประธานในพิธีลงนามการเป็นผู้สนับสนุนนักกีฬาทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการของ บริษัท นู สกิน
เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ที่ห้องประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคฯ เมื่อ 24 ธ.ค. โดยมี พล.ต.จารึก
อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคฯ และ นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ผู้จัดการทั่วไป
บริษัท นู สกินฯ และคณะกรรมการฯ ร่วมเป็นสักขีพยาน
นางภคพรรณ กล่าวว่า บริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในภารกิจของคณะกรรมการโอลิมปิคฯ
ในการพัฒนาวงการกีฬาของประเทศและมีความตั้งใจที่จะสานต่อเจตนารมณ์ดังกล่าวและจะให้การสนับสนุนหลักนักกีฬ
าทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการ โดยได้มอบเงินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไลฟ์แพ็กมูลค่ารวม 16 ล้านบาท
แบ่งเป็นในรูปแบบของเงินสด 1 ล้านบาท และรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไลฟ์แพ็ก จำนวน 4 พันกล่อง
เพื่อบำรุงร่างกายนักกีฬาไทยให้แข็งแรง รวมมูลค่า 15 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 2 ปี
ขณะที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า
รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ภาคเอกชนหันมาให้ความสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาการกีฬาของไทย
เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้คณะนักกีฬา ผู้ฝึกสอน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี
ในส่วนของการเตรียมทีมนักกีฬาไทยไปสู้ศึกระดับนานาชาติในปี 2553 นั้น คณะกรรมการโอลิมปิคฯ
จะแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกนักกีฬาและเจ้าหน้าที่โดยเร็วที่สุด โดยมี พล.ต.จารึก เป็นประธานเหมือนเดิม
ส่วนตัวแล้วยังพุ่งเป้าไปที่กีฬา เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 กว่างโจวเกมส์ ที่นครกว่างโจว ประเทศจีน
ระหว่างวันที่ 12-27 พ.ย. 53 เป็นหลัก ซึ่งครั้งนี้จะมีการชิงชัยมากที่สุดในประวัติศาสตร์รวม 43
ชนิดกีฬา อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการโอลิมปิคฯ
จะไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมทุกชนิดกีฬาเพราะว่าบางกีฬายังไม่มีสมาคมรับรองหรือเป็นกีฬาพื้นบ้าน
แต่จะเน้นส่งที่มีความหวังเหรียญรางวัลเท่านั้น เพราะจะได้ไม่เป็นการสูญเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์
บิ๊กอ๊อด กล่าวอีกว่า สำหรับมุมมองส่วนตัวเชื่อว่ากีฬาที่จะนำเหรียญทองมาให้ประเทศไทย
ส่วนใหญ่จะเป็นกีฬาประเภทบุคคล เช่น มวยสากลสมัครเล่น, เทควันโด, ยกน้ำหนัก และกรีฑา เป็นต้น
ส่วนฟุตบอลชาย ที่เป็นกีฬายอดฮิตนั้น แม้ว่าในซีเกมส์ ครั้งที่ 25 จะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
แต่ก็อยากให้สมาคมฟุตบอลฯ, นักกีฬา, ผู้ฝึกสอน ตลอดจนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมพลังสู้กันใหม่
โดยเฉพาะเรื่องของเป้าหมาย หากเราต้องการไปแข่งขันฟุตบอลโลกแล้ว ในระดับเอเชี่ยนเกมส์
ฟุตบอลก็ต้องตั้งเป้าคว้าเหรียญ ใดเหรียญหนึ่งไว้ด้วย แม้ว่าจะมียักษ์ใหญ่ อย่าง ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้,
จีน และชาติในตะวันออกกลาง เป็นกระดูกชิ้นโตคอยขวางทางอยู่ก็อย่าไปกลัว ทั้งนี้
การที่เราตั้งเป้าคว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่งไม่ใช่เป้าที่สูงจนเกินไป
แต่เป็นการตั้งความหวังเพื่อที่เราจะพยายามไปให้ถึงจุดนั้นให้ได้
แต่ถ้าได้ทำจนสุดความสามารถแล้วไม่ได้จริง ๆ ก็ไม่เป็นไร.
จาก เดลินิวส์ 25 ธันวาคม 2552 |
โดย : ขุนสันต์ [ 25/12/2009, 14:12:13 ] |
14
พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ เผย เตรียมเรียกการกีฬาแห่งประเทศไทย หารือเตรียมความพร้อม สำหรับการแข่งขัน
3รายการใหญ่ โดยเฉพาะ เอเชี่ยนเกมส์ ซึ่งจะคัดเฉพาะกีฬาความหวังส่งเข้าแข่งขัน..
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ
เปิดเผยว่า คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ได้เตรียมประชุมรือร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศไทย ในวันที่ 5
ม.ค. เพื่อเตรียมความพร้อมนักกีฬาไทยเข้าร่วมในมหกรรมกีฬา 3 รายการใหญ่ในรอบปี 2553 ซึ่งประกอบไปด้วย
การแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครัั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 14-26 ส.ค. ที่ประเทศสิงคโปร์,
การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 12-27 พ.ย. ที่เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน
และการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 8-16 ธ.ค. ที่กรุงมัสกัต ประเทศโอมาน
เพื่อวางกรอบการเตรียมนักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขันให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ก้าวขึ้นสู่ความเป็นเลิศอย่างสมศักดิ์ศรี
รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ กล่าวต่อว่า สำหรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์
ครั้งที่ 16 ถือเป็นเกมที่หนักมาก เนื่องจากเป็นมหกรรมยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย
ดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมนักกีฬาให้มีความพร้อมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ไม่เช่นนั้นก็ยากที่จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย
โดยส่วนตัวคิดว่า การคัดเลือกนักกีฬาเข้าแข่งขันจะต้องเน้นกีฬาที่เป็นความหวัง และมีโอกาสเท่านั้น
กีฬาประเภทที่ไม่มีความหวังไม่สมควรส่งไปให้เปลืองงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ บิ๊กจา กล่าวในตอนท้่าย
ด้าน บิ๊กหนุ่ม นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า
ได้นัดหมายกับทางคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว ในวันที่ 5 ม.ค.นี้
โดยเตรียมฝ่ายกีฬาความเป็นเลิศไปร่วมหารือด้วย ทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทย
และคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ต้องทำงานหนักเพื่อให้การเตรียมนักกีฬามีความพร้อมที่สุด.
จากไทยรัฐ 4 มกราคม 2552
กนกพันธ์ จุลเกษม ผู้ว่าฯ กกท. เผย ที่ประชุมเตรียมงบกว่า 280ล้านบาท สำหรับเก็บตัวนักกีฬาแข่ง 4รายการ
ตลอดปี53 โดยจะเรียกเก็บตัวซ้อมตั้งแต่ต้นปี
คณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทย เลือกส่ง 35ชนิดกีฬา ไปทำศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่
16เดือนพ.ย.ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน จากที่มีชิงชัยทั้งหมด 42 ชนิดกีฬา ฟุตบอล ไร้ปัญหาได้ร่วมฟาดแข้ง
รวมเก็บตัว 9เดือน ออกสตาร์ทวันที่ 1ก.พ. ส่วนยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 1 เดือนส.ค. ที่สิงคโปร์
นักกีฬาเยาวชนไทยได้สิทธิ์ไปร่วมแข่งแล้ว 14คน จาก 6สมาคมกีฬา คาดมีเพิ่มอีก ด้านเอเชี่ยนบีชเกมส์
ครั้งที่ 2เดือนธ.ค. ที่โอมาน ไทยเลือกส่ง 10ชนิดกีฬา จากทั้งหมด 12ชนิดกีฬา เบ็ดเสร็จ 4เกม
รวมเอเชี่ยนพาราเกมส์ ครั้งที่ 10เดือนธ.ค. ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าไปด้วย ใช้งบเตรียมในปี
2553เบ็ดเสร็จกว่า 280ล้านบาท
เมื่อวันที่ 6 ม.ค. นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.)
ในฐานะประธานคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทยเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ ปี พ.ศ.2553
เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ พร้อมด้วยพล.ต.จารึก อารีราชการัณย์
รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะประธานคัดเลือกนักกีฬา
โดยผู้มีแทนสมาคมกีฬา ร่วมประชุมด้วย ที่ห้องประชุม 217ราชมังคลากีฬาสถาน กกท. หัวหมาก เมื่อวันที่ 5
ธ.ค.
สำหรับการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 1ระหว่างวันที่ 14-26ส.ค. ที่ประเทศสิงคโปร์
มีการชิงชัยทั้งหมด 26ชนิดกีฬา ที่ประชุมได้มีการสอบถามผู้แทนสมาคมกีฬา ปรากฏว่า
มีนักกีฬาเยาวชนไทยที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมแล้ว 14คน แยกเป็นชาย 7คน หญิง 7คน จาก 6สมาคมกีฬา ประกอบด้วย
ว่ายน้ำ ชาย 4คน(ณัฐพงษ์ เกษอินทร์, อาคม อนุชิตโอฬาร, พุฒิพงษ์ หิรัญวิจิตร, ปัญญาวีร์ สนทนา) หญิง
1คน(ภัทรวดี กิตติยะ), แคนู-คยัค หญิง 1คน, ยิงปืน หญิง 1คน, เรือใบ ชาย 1คน หญิง 1คน, เทเบิลเทนนิส
หญิง 1คน(สุธาสินี เสวตรบุตร) และยกน้ำหนัก ชาย 2คน หญิง 2คน ส่วนสมาคมกีฬาอื่น ๆ
อยู่ระหว่างเตรียมเข้าร่วมคัดเลือก มีโอกาสที่จะได้นักกีฬาเพิ่มอีก
ส่วนการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16ระหว่างวันที่ 11-27พ.ย. ที่เมืองกวางโจว
สาธารณรัฐประชาชนจีน จากการที่มีการชิงชัยทั้งหมด 42ชนิดกีฬา
ที่ประชุมได้พิจารณาแล้วเห็นว่าจะส่งนักกีฬาไปเข้าร่วม 35ชนิดกีฬา จากกีฬาทางน้ำ(ว่ายน้ำ), กรีฑา,
แบดมินตัน, เบสบอล, บาสเกตบอล(ทีมหญิง), โบว์ลิ่ง, มวยสากลสมัครเล่น, เรือคายัค, หมากรุก(หมากล้อม),
คริกเก็ต(ทีมหญิง), คิวสปอร์ต, จักรยาน, ลีลาศ, เรือมังกร(หญิง), ขี่ม้า, ฟันดาบ, ฟุตบอล, กอล์ฟ,
ยิมนาสติก, แฮนด์บอล(ทีมหญิง), ฮอกกี้(ทีมหญิง), ยูโด, กาบัดดี้, โรเลอร์สปอร์ต(ชาย), เรือพาย,
รักบี้ฟุตบอล, เรือใบ, ตะกร้อ, ยิงปืน, เทเบิลเทนสนิส, เทควันโด, เทนนิส, วอลเลย์บอล(ในร่ม-ชายหาด),
ยกน้ำหนัก และมวยปล้ำ ขณะที่กีฬาที่ถูกตัดออกไป และรอการพิจารณาผลงานอีกครั้ง ได้แก่
กีฬาทางน้ำ(กระโดดน้ำ, ระบำใต้น้ำ และโปโลน้ำ), ยิงธนู, คาราเต้โด, ปัญจกีฬาสมัยใหม่, ซอฟท์บอล, สควอช,
ไตรกีฬา และวูซู
ในส่วนของการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 8-16ธ.ค. ที่กรุงมัสกัต ประเทศโอมาน
จากที่มีการชิงชัยทั้งหมด 12ชนิดกีฬา ที่ประชุมเลือกส่งไป 10ชนิดกีฬา จากกาบัดดี้, เจ็ตสกี, ตะกร้อ,
ไตรกีฬา, เพาะกาย, ฟุตบอล, วินด์เซิร์ฟ, วอลเลย์บอลชายหาด, วู๊ดบอล และแฮนด์บอล ยกเว้นว่ายน้ำมาราธอน
และขี่ม้าเก็บสิ่งของ
จากนั้นที่ประชุมได้แจ้งถึงระยะเวลาในการเก็บตัว โดยกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 1
จะเริ่มเก็บตัวฝึกซ้อม 7เดือน ระหว่างวันที่ 15ม.ค.-10ส.ค. ใช้งบในปีงบประมาณ 2553 จำนวน 88,810,000บาท
ส่วนกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 จะเก็บตัว 9เดือน ระหว่างวันที่ 1ก.พ.-7พ.ย. ใช้งบ 118,107,200บาท
ขณะที่กีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ ครั้งที่ 2 จะเก็บตัว 6เดือน ระหว่างวันที่ 1มิ.ย.-5ธ.ค. ใช้งบ
38,830,000บาท และกีฬาเอเชี่ยนพาราเกมส์ ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 12-19ธ.ค. ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน
จะเก็บตัวระหว่างวันที่ 1มิ.ย.-8ธ.ค. ใช้งบ 34,787,440บาท รวม 4เกมดังกล่าวใช้งบ 280,534,640บาท
จาก ไทยรัฐ ออนไลน์ http://www.thairath.co.th/content/sport/57112 |
โดย : ขุนสันต์ [ 06/01/2010, 13:09:52 ] |
15
ส่วนการเตรียมนักกีฬาเพื่อเข้าแข่งขัน กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 นั้น ที่ประชุมได้มีการสรุปว่า
จะอนุมัติให้สมาคมกีฬาไหน ได้ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน จะดูจากผลงานของนักกีฬาและการทำงานของสมาคมที่ผ่านมา
สมาคมไหนทำงานไม่ดี ไม่มีผลงาน จะไม่ให้ เก็บตัว ไม่ส่งเข้าแข่งขัน
จะได้นำงบประมาณไปให้กับกีฬาที่ไม่มีความหวัง
หากต้องการจะเก็บเกี่ยวหาประสบการณ์ให้ส่งไปแข่งขันรายการอื่นแทน
อย่างไรก็ตามพอเอาเข้าจริง ๆ ที่ประชุมไม่สามารถตัดกีฬาที่ไม่มีความหวังออกไปได้หมด จะมีเพียงแค่
กระโดดน้ำ, โปโลน้ำ ที่ถูกตัดออกไป แต่กีฬายิงธนู, สควอช, คาราเต้, วูซู, ไตรกีฬา
ให้เสนอแผนงานเข้ามาพิจารณาใหม่ เนื่องจากผู้บริหารสมาคมไม่ได้เข้าร่วมประชุม
และผลงานที่ผ่านมายังไม่มีอะไรที่เข้าตา ขณะที่ บาสเกตบอล ที่ไม่มีผลงานอะไรโดดเด่น
ยังมีการอนุมัติให้ส่งทีมหญิงเข้าแข่งขัน สำหรับกีฬาอื่น ๆ
ยังได้รับการเห็นชอบให้เริ่มทำการเก็บตัวนักกีฬาได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. โดยมีงบประมาณ
จากเดลินิวส์ 6 มกราคม 2552
|
โดย : ขุนสันต์ [ 07/01/2010, 00:35:50 ] |
17
ไตรกีฬาโวยกกท. ขอความเป็นธรรม
.......สำหรับในเรื่องนี้ ตนจะได้เชิญอีก 18 สมาคมกีฬา ที่ได้รับการประเมินจาก กกท.
ให้อยู่ในกลุ่มที่ต้องปรับปรุงผลงาน ซึ่งมีแนวคิดเดียวกัน มาหารือร่วมกันเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
ทั้งนี้ไม่อยากให้ผู้บริหารของกกท. เอาเรื่องเหรียญทอง มาเป็นที่ตั้งเพียงอย่างเดียว
เพราะการบริหารงานของแต่ละสมาคมไม่เหมือนกัน ที่สำคัญงบประมาณที่ได้รับก็ไม่เท่ากัน อยากให้ กกท.
มองที่ตัวของนักกีฬาเป็นที่ตั้ง เพราะนักกีฬาทีมชาติทุกคนล้วนแต่ทุ่มเทและตั้งใจอย่างมาก
นายกสมาคมไตรกีฬาฯ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่า กกท.
จะอนุมัติงบเตรียมทีมนักกีฬาให้กับสมาคมฯหรือไม่ แต่ส่วนตัวไม่ได้สนใจเรื่องนี้
จะสอบถามไปยังคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ที่มีหน้าที่คัดเลือกตัวนักกีฬาและเจ้าหน้าที่
ส่งเข้าร่วมการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 เดือน พ.ย.นี้ ที่จีน ว่า จะให้โอกาสนักกีฬาไตรกีฬา
เข้าร่วมชิงชัยหรือไม่ หากคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ อนุมัติ
ตนก็จะใช้งบประมาณส่วนตัวส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันเอง
นอกจากนี้ยังได้รับความช่วยเหลือจากสหพันธ์ไตรกีฬาแห่งเอเชีย ที่มีความสนิทสนมกันมาช่วยสนับสนุนด้วย.
จากไทยรัฐออนไลน์ http://www.thairath.co.th/content/sport/57825
ปล. สมาคมหมากรุกสากลถูกจัดอยู่ในกลุ่มต้องปรับปรุง และถูกตัดงบ 5 %
อำนาจการตัดสินใจว่าจะส่งไปแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์อยู่ที่คณะกรรมการโอลิมปิค
การใช้งบประมาณส่วนตัวส่งแข่งขันโดยโอลิมปิคไม่รับรองไม่สามารถทำได้ แต่โอลิมปิครับรอง
แล้วต้องใช้งบประมาณส่วนใหญ่เป็นของตัวเองเข้าแข่งขันเห็นจะมีก็แต่หมากล้อมคราวจัดเป็นกีฬาสาธิตในซีเกมส
์ที่โคราชเท่านั้น |
โดย : ขุนสันต์ [ 10/01/2010, 07:54:35 ] |
18
คาราเต้มีดิ้น ลุ้นแข่งเอเชี่ยนเกมส์
"ผมเชื่อว่านี่เป็นเพียงแค่ยกแรก คือจากการพิจารณาเบื้องต้นของทาง กกท. ว่าจะไม่ส่งคาราเต้-โด
เข้าแข่งขัน แต่จากที่ผู้ใหญ่ของสมาคมได้หารือกับพล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ เลขาธิการโอลิมปิกไทย
ซึ่งเป็นประธานคัดเลือกตัวนักกีฬา ได้รับคำแนะนำให้สมาคมส่งแผนงานการเตรียมนักกีฬาไปให้กกท.
พิจารณาอีกครั้ง แต่ให้มีความรอบคอบ เลือกส่งเฉพาะที่มีความหวัง
ไม่ใช่จะส่งใครก็ได้เหมือนครั้งซีเกมส์ที่ผ่านมา"
โค้ชเด่น เผยอีกว่า จากผลงานในกีฬาเอเชี่ยนมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ ที่คาราเต้-โด ทำได้ 2 เหรียญทองแดง
ทำให้ได้สิทธิส่งนักกีฬาร่วมแข่งเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 รวม 2 คน
ซึ่งทำให้สมาคมน่าจะเสนอแผนงานขอส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันรวม 3 คน คือ นอกจาก 2
คนที่ได้เหรียญจากมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์แล้ว ยังจะขอโควตาพิเศษให้ "น้องปุ้ย" ญาณิศา
ต่อรัตนวัฒนา ซึ่งเป็นนักกีฬาที่อยู่ในระดับแถวหน้าของเอเชีย แต่ไม่ได้เหรียญจากมาเชี่ยลอาร์ท
เนื่องจากป่วยเป็นไข้หวัด 2009 ในช่วงเวลาดังกล่าวพอดี
รายงานข่าวระบุเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 31 มกราคมนี้ สมาคมคาราเต้-โด
จะมีการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่แทนที่ พล.อ.ภัทรวิทย์ หงส์ประภาส ที่หมดวาระการบริหารงาน
ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.อ.ภัทรวิทย์ ออกมาประกาศแล้วว่า จะไม่ขอรับตำแหน่งต่ออย่างแน่นอน
โดยแหล่งข่าวระบุเพิ่มเติมว่า มีผู้ที่สนใจเสนอตัวเข้าชิงตำแหน่งนี้อย่างน้อย 2 คน คือมาจากหน่วยงานทหาร
1 คน และเป็นนักธุรกิจชื่อดังอีก 1 คน
จาก คมชัดลึก 7 มกราคม 2552
ปล. ถ้าจำไม่ผิด
ก่อนสิ้นปีมีข่าวว่าทางกกท.ได้เข้าประชุมหารือกับสำนักงบประมาณขออนุมัติจำนวนนักกีฬาเข้าแข่งขันเป็นที่เ
รียบร้อยแล้ว ซึ่งพอๆกับเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่แล้ว(โดฮาเกมส์)
แต่ครั้งนี้มีการอนุมัติชนิดกีฬาเพิ่มขึ้น จำนวนนักกีฬาเกินแน่นอน คงเป็นดังที่โค้ชเด่นว่า
นี่เป็นเพียงแค่ยกแรก !!!!!!!
เจ้าภาพจีนแก้ปัญหาจำนวนชนิดกีฬาที่มีมาก โดยการนำหมากล้อมมาบรรจุไว้เป็นหนึ่งในประเภทกีฬาหมากรุก |
โดย : ขุนสันต์ [ 10/01/2010, 08:27:16 ] |
19
"ส่วนบรรยากาศการแข่งขัน ที่จะสร้างแรงจูงใจให้เด็กๆ นั้น
ผมก็เห็น ว่า Chess มีส่งแข่งต่างประเทศกันอยู่เป็นประจำ
แต่ทีมชาติ ก็ยังมีแต่เซียนคนเดิมๆ
ยังหาน้องๆรุ่นใหม่ ที่ฝีมือถึงขั้น
เบียดขึ้นมาต่อกรกับเซียนใหญ่เหล่านี้ไม่ได้เลย"
จากความเห็นที่ 11 ของซึซึอิ ที่ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง แต่ไหนตอนนั้นผมคิดว่ายังไม่อยากขยายความ
เพราะอยู่ในช่วงปะทะกันระหว่างสองวงการ ผมรู้สึกว่ามันมีความหมายอื่นซ่อนอยู่ หรือมีวาระซ้อนเร้นอยู่
รอเวลาที่เหมาะสมเพื่อนำขึ้นมาให้พิจารณากัน
กลับมาที่เรื่องเอเชี่ยนเกมส์กวางโจว ที่จบลงไปเกือบ 2 ปีแล้ว ซึ่งสุดท้ายเราก็ไม่ได้เข้าร่วม
เริ่มแรกเราไม่ได้ทำเรื่องเข้าไปและกกท.ก็ไม่เรียกเราเข้าไป
มีอยู่ช่วงหนึ่งใกล้เส้นตายการพิจารณาข่าวหนังสือพิมพ์บางเล่มลงให้สับสน
เหมือนกับหมากรุกได้รับการพิจารณาให้ส่งด้วย ทั้งๆที่ทางเราไม่ได้ดำเนินการใดๆ
เผอิญผมต้องเข้าไปฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ ก็เลยถามเขา เขาก็บอกว่าถ้าอยากส่งก็ทำเรื่องเข้ามา
ผมก็เลยบอกเขาว่าทางสมาคมไม่ได้คิดจะส่ง แต่อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์
แต่ก็มีบางคนในสมาคม(สหพล)คิดจะส่ง ผมจะอธิบายให้เขาเข้าใจเอง
มีอีกเรื่องที่ผมยังไม่ได้สรุปไว้ เอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้นอกจากสมาคมหมากรุกสากล
แล้วยังมีอีกหนึ่งสมาคมที่ไม่ได้ไปคือสมาคมไตรกีฬา ถ้าเราอ่านข่าวที่ผมนำมารวมไว้ในกระทู้นี้
จะเห็นขั้นตอนบางส่วนของวิธีการพิจารณาการส่งเข้าแข่งขัน แต่ละสมาคมก็มีวิธีการตัดสินใจไม่เหมือนกัน
ในส่วนของสมาคมไตรกีฬา
เลือกวิธีขอโอกาสด้วยการใช้ผลงานของนักกีฬาของสมาคมในรายการนานาชาติระดับเอเซียรายการหนึ่งเป็นตัวตัดสิน
ซึ่งในภายหลังผลงานนักกีฬาของสมาคมไปไม่ถึงเกณฑ์ที่สมาคมตั้งไว้ จึงขอสละสิทธิ์ไม่ส่งเข้าร่วม
ผมว่าเป็นวิธีที่น่าสนใจวิธีหนึ่ง
ทำให้ตัวนักกีฬาไม่สามารถกล่าวอ้างว่าโอลิมปิกเป็นผู้ตัดสิทธิ์ตนในการเข้าร่วม |
โดย : ขุนสันต์ [ 15/08/2012, 18:39:33 ] |
|
|
|
E-mail: webmaster@thaibg.com |
Copyright 2002-2024@www.ThaiBG.com (Thailand), All Rights Reserved |
|
|
|
|