[ กลับหน้าหลัก ]


เรื่องสั้น CHESS โดย ดุลยเทพ

เรื่องสั้น CHESS โดย ดุลยเทพจาก http://www.winbookclub.com/viewanswer.php?qid=3951

ผมนั่งอยู่ในรถตู้เชฟโรเลต ตบแต่งเป็นพิเศษ เก้าอี้นวมตัวเขื่องในรถนุ่มสบาย
เบื้องหน้า มีโต๊ะตัวเล็กๆ ตั้งอยู่ มีกระดานหมากรุกขนาดเล็กแบบพกพา
เรียงรายไปด้วยตัวหมากรุก ที่ใต้ตัวหมากมีแถบแม่เหล็กติดอยู่
เพื่อยึดกับพื้นกระดาน ที่เป็นโลหะ

ด้านตรงข้ามเป็นเด็กหนุ่มอายุประมาณ 16-17 ปี คนหนึ่งเล่นหมากรุกอยู่กับผม
เด็กคนนี้ฝีมือดีทีเดียว ลำเลียงหมากบุกที่มั่นของผมอย่างน่ากลัว
ตัวม้าที่คอยโดดก่อกวนไปทั้งกระดาน
การผูกหมากที่ซับซ้อน การหนุนเสริมของตัวหมากแต่ละตัวบนหระดาน
ทำให้ผมต้องตั้งรับอยู่อย่างเดียว อย่างน้อยก็ในเวลานี้

ผมผูกหมากเป็นปราการ ป้องกันไม่ให้เรือของฝ่ายตรงข้าม
เข้ามาในแดนของผมได้ แม้ว่าเรื่องฝ่ายนั้นจะยึดคลอง*ได้ก่อนก็เถอะ
แต่ผมก็วางหมากให้เรือไม่สามารถจะล่วงเข้ามาในแดนผมได้เลย
เพื่อใม่ให้ถูกตลบหลัง หลังการแลกหมากกลางกระดานอย่างดุเดือด
ขุนของเด้กหนุ่มพร้อมกับหมากตัวอื่น ที่ผูกกันไว้อย่างรัดกุม
เข้ามาประชิดกับปราการผมสร้างขึ้นไว้กันขุนของผมเอง
เหมือนเมืองของผม กำลังโดนกองทัพ เข้ามาประชิดกำแพงเมือง


บ้าฉิบ.. ผมรำพึงในใจ เมื่อเบี้ยตัวหนึ่งไม่มีตัวผูกอยู่ทางแถวที่ 2จากทางซ้ายของกระดาน
แต่เด้กหนุ่มไม่สนใจ เพราะหากเสียเวลาไปกินเบี้ยตัวนั้น จะทำให้การจัดรูปขบวนมาโจมตี
ป้อมปราการของผม ต้องเสียเวลาไปอีก อย่างน้อย 2 - 3 ตา
เด้กหนุ่มไม่สนใจเบี้ยตัวน้อย ทุ่มกำลังโจมตีป้อมปราการผมทันที .......


หลังจากการแลกหมากอย่างดุเดือด ตัวหมากเหลือน้อยลงๆ
เด็กหนุ่มกลับเป็นรอง เพราะการคำนวณการตัดหมากยังเป็นรอง
เขาเริ่มเสียขบวน ต้องถอยร่นไป
ผมตามตีทันที ม้า,โคน,ขุน และเรือ ดาหน้าเข้าไป ตัดกำลังรบเขาออกไปที่ละตัวๆ


จนสุดท้าย เขาเหลือเพียง โคน 1 เม็ด 1 ขณะที่ผมเหลือ โคน 1 เม็ด 1 เบี้ยหงาย 2
เรือ 1 ม้า 1 และ เจ้าเบี้ยหงายผู้โชคดีตัวนั้น ผมเอาม้าที่เคยกู้สภานการณ์ให้ผม
แลกกับโคนเพื่อตัดหมากเขาออกไปปลายกระดานแบบนี้ ม้ามีประโยชน์น้อยมาก
ในการสู้กันระยะประชิด แม้ว่ามันจะใช้รุกกินเปล่าวให้ผมหลายหนก็เถอะนะ

ผมต้อนขุนของเขาด้วยเรือและ ขุนของผมเอง ปลายกระดานแบบนี้
ขุนและโคนจะปิดทางได้ดีมาก ในที่สุดเขาก็โดนผมล้อมไว้ที่มุมซ้ายของกระดาน
แถวที่สองจากล่างสุดในแดนของเขาเอง
ผมเอารือไปปิดไม่ให้เขาลงจนสุดกระดานได้ เอาเบี้ยหงาย1 ตัวไปผูกไว้อีกชั้น
บีบเขาเข้ามาที่ละนิดๆ ขุนของเขาได้แต่หนีวนไปมา ตามตาที่ผมบังคับ
เขาเงยหน้ามาสบตาผม เป็นเชิงถามเล็กๆ ที่ผมไม่ยอมหงายเบี้ยที่คว่ำอยู่
เพื่อที่จะนับศักดิ์หมาก แถมผมสามารถไล่ให้จนได้
ก่อนที่เขาจะหนีได้ครบตามศักดิ์หมากด้วยซ้ำ


ผมยังไล่ต้อนขุนของเขาอย่างสบายใจ

ผ่านไปสักพัก เขาก็รู้จุดประสงค์ของผม เขาถูกต้อนไปยังตำแหน่งที่ผมต้องการ
และเบี้ยคว่ำนั้นถูกดันเข้าไปในแดนของเขา กลายเป้นเบี้ยหงายและ
"รุก" เสียงผมเอ่ยขึ้นอีกครั้งหลังจาก แต่ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย

"ผมยอมแพ้ครับ"เสียงเด็กหนุ่มเอ่ย "ผมจนกระดานแล้ว" แล้วก็ก้มหน้าลงไป

"เจ็บใจหรือเอก ที่อาเอาเบี้ยคว่ำเข้าไปหงายและรุกเอกจน"

"มิได้ครับอา ผมมิบังอาจ" เด้กหนุ่มรีบตอบ

"รู้ไหม หมากกระดานที่แล้ว เอกมีโอกาสชนะ "
เขาเงยหน้าขึ้นมามองผม อย่างสงสัย

"ถ้าเอกกินเบี้ยตัวที่ ลอยอยู่ตัวนี้ไป
จะสามาถดันเรืออีกตัวเข้ามาเสริมแนวบุกของเอกได้อีกชั้นหนึ่ง"

"หมายความว่า เป็นเพราะผมประมาท จ้องแจ่จะเอาชนะ โดยไม่ดุสถานการณ์รอบข้างให้ถ่องแท้เสียก่อน
จึงทำให้ผมแพ้ใช่ไหมครับ"

"ฉลาดมาก นีสิหลานของอา "ผมยิ้มพลางตบบ่าของเด็กหนุ่มอย่างยินดี

"นายครับ เรียบร้อยแล้วครับ"
ลูกน้องผมเข้ามารายงานสิ่งที่ผมรอคอย
"ไปด้วยกัน ..เอก"
ผมและหลานชายเดินเข้าไปใน โกดังสินค้าย่านชานเมือง
มีชายกลางคนถูกมัดมือมัดเท้า นั่งอยู่บนเก้าอี้ โดยมีคนถือปืนคุมเชิงอยุ่รายรอบ

"สวัสดี พ่อเลี้ยงสมชาย ไม่นึกสินะว่าจะมีวันนี้"

"ถุย ไอ้สัตว์ ทีของมึงแล้วนี่ จะเอายังไงก็เอา แต่อย่าให้กูรอดไปได้นะมึง"

เสียง รำร้องตะโกนออกมาจากปากของชายที่เคยเป็นผู้มีอิทธิพลระดับประเทศคนหนึ่ง
ที่กำลังตกอับ

"ผมทำแน่ครับ และผมทำมานานตั้งแต่ผมรอดชีวิตจากการตามฆ่าล้างตระกูลของผมมา 10 ปีแล้ว"
ผมหัวเราะหึๆ พลางตบบ่าหลานชายของผม

"พ่อเลี้ยงคงนึกไม่ถึงนะครับว่า เด็กอายุ 6 ขวบที่เสี้ยปล่อยเอาไว้ ไม่ฆ่าทิ้ง
เพราะเห็นเป็นเพียงเบี้ยตัวเล็กๆ ไม่มีความหมายอะไรจะช่วยชีวิตผมไว้ได้หวุดหวิด
ไม่ได้ตายตามครอบครัวของผม และครอบครัวของเขาไปด้วย"
พ่อเลี้ยงสมชายเงยหน้ามามองเอกอย่างไม่เชื่อสายตา
เอกมอง คนที่จ่อยิงพ่อกับแม่ที่กำลังท้องแก่ของเขาด้วยตัวเองอย่างเคียดแค้น ไม่แพ้กัน

"อีกอย่าง คนที่ ฮุบกิจการต่างๆ รวมทั้งอิทธิพลของพ่อเลี้ยงมาตลอดนั้นนั้น เป็นผมเอง
และเมือ่ถึงเวลา ผมก็ขอทวงหนี้ครั้งนั้นคืนแบบนี้ละ ความรู้สึกเหมือนหนูที่ถูกตามล่า
จนต้องเข้ามาซ่อนที่โกดังเก่าๆ แห่งนี้ มีรสชาติเป็นอย่างไรบ้างละ"

"ไอ้เหี้ย มึงคิดหรือว่า จะไม่มีคนมาล้างแค้นให้กู"

"อ๋อ พวกท่านนายพล และ ท่าน รมต นะหรือครับ ผมตกลงกับพวกนั้นได้เมือเดือนก่อน
นะครับ ก่อนที่จะเปิดฉากตามล่าพ่อเลี้ยงเสียอีก"

ผมก้มตัวไปใกล้ๆ เอามือล้วงกระเป๋าเสื้อนอก เอ่ยเสียงเบาพอได้ยินกันสองคนว่า
"ลูกและเมียของเสี่ย ผมหาตัวเจอได้ 3 วันแล้ว ผมจับขังอยุ่ในรถตู้นอกโกดังนะ
ไม่ต้องห่วงรถคันนั้นเป้นรถของพ่อเลี้ยง ที่มักจะเอาคนหรือศพที่โดนพ่อเลี้ยงสั่งฆ่า
ไปทิ้งเสมอๆ นั่นละครับ "

"ไอ้.... อักส์" ก่อนที่พ่อเสี้ยงจะพูดอะไรมาก ผมก็ชกเปรี้ยงไปที่กรามของเขา
เสี่ยงที่ดังออกมา ทำให้รุ้ว่าขากรรไกร คงจะหักแน่นอน ผมเก็บสนับมืออย่างหนา
ที่แอบสวมเอาไว้ตอนเอามือล้วงกระเป๋า เข้าที่เดิม

"เอก.. ทวงหนี้ให้พ่อและแม่ของเธอซะ "ผมเอาปืนยัดใส่มือให้เอก
"ครับ คุณอา พ่อกับแม่คงรอวันนี้มานาน" เอกพูดทั้งน้ำตา และรับปืนไป

กระสุนดังขึ้น 3 นัด
แต่ละนัดแทนชีวิตของคนในครอบครัวของเขาที่สูญเสียไป


เบี้ยตัวนี้ กลายเป็นเบี้ยหงายไปแล้ว

ผมพาเอกเดินกลับไปขึ้นรถ และคงจะทำเรื่องส่งเขาไปเรียนเมืองนอก
ก่อนจะให้กลับมาช่วยกิจการของผมต่อไป
เอกขึ้นรถไปสงบสติอารมณ์แล้ว ผมยังยืนอยู่นอกรถ ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว

ผมมองไปยังรถตู้เก่าๆ อีกคัน ที่ติดฟิล์มกรองแสงจนทึบ
ในนั้นมีภรรยาและลูก 3 คนของพ่อเลี้ยงสมชาย คนชายคนโต 18 ปี
ลูกสาวคนรอง 16 ปี และ ลูกสาวคนเล็ก เพิ่งจะ 3 ขวบ
"เอาไงกับตัวประกันดีครับนาย"


เข็นรถเข้าไปในโกดัง ราดน้ำมัน จุดไฟเผา และวางระเบิดเอาไว้ด้วย
เราไม่ต้องการที่จะเหลือหลักฐานอะไรไว้



ผมสั่งก่อนจะขึ้นไปนั่งบนรถ

กระดานหมากรุกที่เพิ่งเล่นจบไป ยังตั้งอยู่เหมือนเดิม
......................

ดุลยเทพ
Uncensor Team

โดย : เห็นมา Member [ 20/05/2007, 12:51:25 ]

 
  E-mail: webmaster@thaibg.com Copyright 2002-2024@www.ThaiBG.com (Thailand), All Rights Reserved  
 
  Sponsors