|  | 
          
            |  |  
            | [ กลับหน้าหลัก ] 
 ขอเชิญร่วมรับชม ชมรมโอเทลโล่ในรายการกระจกหกด้าน
 
 
 
 
        | 
        2 
         http://www.tv4kids.org/autopage/show_page.php?t=32&s_id=56&d_id=56
 เจาะใจ สุชาดี มณีวงศ์
 คุ้ยที่มา กระจกหกด้าน
 คู่จอ ช่อง 7 ยืนยง 23 ปี
 
 หากพูดถึงรายการสารคดีทางทีวีที่มีอายุการออกอากาศยาวนาน และได้รับความนิยมสูง เชื่อว่าหลาย ๆ
 คนคงต้องคิดถึงรายการที่มีชื่อว่า กระจกหกด้าน
 ด้วยเสียงเพลงเปิดรายการที่คุ้นหูและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ นุภาพ สวันตรัจ
 กับคำสอนของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่แช่ภาพไว้นานพอให้อ่านได้ว่า
 คนเราทุกวันนี้ดีแต่ส่องกระจกด้านหน้าแต่เพียงด้านเดียว ให้เอากระจกหกด้านมาส่องเสียบ้าง
 แล้วจะเห็นเอง  รายการสารคดีเปี่ยมคุณภาพซึ่งผลิตโดยคนไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526
 โดยความริเริ่มของคุณสุชาดี
 มณีวงศ์และคณะซึ่งฟันฝ่าอุปสรรคพร้อมกับสั่งสมประสบการณ์มาอย่างโชกโชนจนกระทั่งครบ 23 ปีในปีนี้
 tv4kids.org ได้เจาะลึกเรื่องราวของ  กระจกหกด้าน ผ่านการพูดคุยกับคุณสุชาดี มณีวงศ์
 เจ้าของรายการและเจ้าของเสียงพากย์ มาให้ผู้รับชมเว็บไซต์ tv4kids.org ได้รับทราบกันค่ะ
 
 ความเป็นมาของรายการกระจกหกด้าน
 เมื่อ 23 ปีที่แล้ว รายการโทรทัศน์บ้านเรายังไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ชมมากนัก
 ส่วนใหญ่มักจะเป็นรายการประเภทบันเทิง เช่น ละคร ภาพยนตร์ไทย ภาพยนตร์ต่างประเทศ รายการดนตรีต่าง ๆ
 ส่วนรายการสารคดีที่มีอยู่ในตอนนั้น 7-8 รายการก็เป็นของต่างประเทศเอามาพากย์ไทยเกือบทั้งหมด
 ส่วนรายการที่ทำโดยคนไทยก็มีคุณภาพค่อนข้างต่ำ ทั้ง ๆ
 ที่ก่อนหน้านั้นเมืองไทยเคยมีนักทำสารคดีมือฉกาจอยู่หลายคน
 แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบที่ทำให้นักสร้างสารคดีเหล่านั้นทิ้งช่องว่างค้างเอาไว้บนจอทีวี
 พร้อมกับความกังขาของผู้ชมว่า นักผลิตรายการสารคดีทางโทรทัศน์ดี ๆ ในแผ่นดินนี้หาไม่ได้อีกแล้วหรือ
 คณะทำงาน กระจกหกด้าน จึงรวบรวมพลังทุ่มเทจิตใจ โดยพลังอุดหนุนอันน้อยนิด
 เอาความตั้งใจดีเป็นเชื้อเพลิงเผาผลาญให้เกิดแรงทำงานอย่างใจรัก
 เช่นเดียวกับกลุ่มคนอีกไม่กี่คณะที่ตั้งความปรารถนาอยากเห็นสารคดีทีวีดี ๆ ฝีมือคนไทย
 
 เริ่มออกอากาศครั้งแรกเมื่อไหร่ จนถึงปัจจุบันนี้มีทั้งหมดกี่ตอนแล้วคะ
 กระจกหกด้านถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2526 ซึ่งมาจากคำสั่งสอนของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต
 พรหมรังสี) ที่เตือนให้ทุก
 
 คนรู้จักส่องกระจกรอบด้านไม่ใช่ส่องกระจกด้านหน้าเพียงด้านเดียว
 เพื่อชี้ให้เห็นความจริงของชีวิตที่ว่าควรปฏิบัติอย่างเหมาะสมต่อคนรอบข้างรวมทั้งตนอย่างไร
 ถึงวันนี้กระจกหกด้านก็มีอายุรายการถึง 23 ปี และกว่า 8 พันตอนที่นำเสนอผ่านสายตาผู้ชม
 
 รูปแบบของรายการและกลุ่มเป้าหมายหลัก
 กระจกหกด้านเป็นรายการสารคดีที่ไม่เหมือนกับรายการสารคดีทั่ว ๆ ไป ซึ่งนำเสนอความจริงหรือเหตุการณ์
 สภาวะที่เป็นอยู่ของสิ่งหนึ่งสิ่งใดตามธรรมชาติ และพัฒนาการทางสังคมตลอดจนวัฒนธรรมประเพณีเท่านั้น
 หากแต่ทางรายการยังต้องการสะท้อนมุมอันหลากหลาย ซึ่งรายการสารคดีอื่น ๆ ไม่คิดจะนำเสนออีกถึง 5
 ด้านด้วยกันเพื่อเป็นสาระและคติสำหรับผู้ชมให้ได้เกิดความคิดต่อเนื่องไปอย่างไม่รู้ที่สิ้นสุด
 ส่วนกลุ่มเป้าหมายหลักของรายการไม่มี ขึ้นอยู่กับความรู้และประสบการณ์ของแต่ละคนเป็นหลักเพราะรายการ
 กระจกหกด้าน คือรายการ สาระคติ ที่ให้ สาระ เป็นประโยชน์เชิงความรู้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
 และในเวลาเดียวกันก็ให้คติ เป็นประโยชน์เชิงความคิด
 แม้ผู้ที่มิได้ตั้งใจดูรายการก็ยังถูกสะกิดใจโดยไม่รู้ตัว
 
 คิดว่าเพราะอะไร กระจกหกด้านจึงสามารถครองใจคนดูมาได้ 23 ปี
 คิดว่าเป็นเพราะจุดยืน คุณภาพ และ อุดมการณ์ ของรายการ เราอยู่ได้นานเพราะเราไม่ใช่ไดโนเสาร์
 หรือในความเป็นไดโนเสาร์เราก็เป็นคอมพิวเตอร์ เป็นแอนนิเมชันนะ ไม่ใช่ไดโนเสาร์ธรรมดา
 
 แล้วในเรื่องของขั้นตอนการผลิตรายการมีอะไรบ้างคะ
 เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง เป็นสุภาษิตที่ใช้ได้เสมอกับทุกวงการ ไม่ใช่แต่เฉพาะทีมงาน
 
 กระจกหกด้าน สคริปต์หรือบท (คำบรรยายรวมทั้งการกำหนดภาพ)
 จะต้องผ่านการตรวจสอบอย่างพิถีพิถันว่าไม่มีความผิดพลาดทางข้อมูล
 มีความไม่เหมือนใครซ่อนอยู่อย่างน้อยหนึ่งประเด็น เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกเรื่อง การหาข้อมูล
 การเขียนบทบรรยายต้องไม่เยิ่นเย้อ ใช้ถ้อยคำกะทัดรัด มีสาระและคติรวมทั้งให้แง่คิดในตัว
 จากนั้นบทจะถูกส่งผ่านไปยังฝ่ายผลิตซึ่งจะศึกษาความเป็นไปได้ในการถ่ายภาพ
 เพื่อให้การเดินเรื่องมีชีวิตชีวา ก่อนการถ่ายทำต้องมีการนัดหมายทุกอย่างเอาไว้ล่วงหน้า
 หรือมีการเตรียมการไว้แล้วเป็นอย่างดี
 ส่วนการถ่ายทำจะขึ้นอยู่กับจินตนาการของช่างภาพสืบสานความคิดจากผู้เขียนบท
 เติมชีวิตตัวหนังสือให้กระโดดโลดเต้นเป็นภาพเคลื่อนไหวตรึงตาตรึงใจผู้ชม เนื่องจาก กระจกหกด้าน
 มีเวลาออกอากาศ 15 นาที แบ่งออกเป็น 2 ช่วง แต่ละช่วงมีความยาวประมาณ 4.30 นาที
 แต่ต้องใช้เทปบันทึกภาพด้วยความยาวประมาณ 150 นาที
 เป็นวัตถุดิบเพื่อใช้ตัดต่อเพื่อที่รายการจะได้คุณภาพมาตรฐาน ยิ่งสต๊อกมาก
 ยิ่งทำให้ได้เปรียบในการใช้ภาพต่างมุมต่างอิริยาบถ ลำดับเดินเรื่องได้ไม่น่าเบื่อ
 หลังจากการลำดับภาพเสร็จสิ้น จะเป็นหน้าที่ของผู้บันทึกเสียงประกอบ
 เพื่อให้ผลงานออกมาสมบูรณ์เปี่ยมด้วยคุณภาพ
 เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบต้องเป็นคนมีประสบการณ์ทั้งทางด้านเสียงเพลงและดนตรี
 รวมทั้งซาวน์เอ๊ฟเฟ๊กต์เป็นอย่างดี จึงจะสามารถใช้เสียงประกอบช่วยให้รายการมีเสน่ห์ชวนดู ชวนฟัง
 และชวนติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ
 
 การคัดเลือกเรื่องที่จะมานำเสนอในแต่ละตอน
 การคัดเลือกหัวข้อที่จะนำมาทำแต่ละตอนนั้น เราจะจัดการประชุมล่วงหน้า
 เพื่อกำหนดหัวข้อเรื่องแต่ละตอนทุกเดือน โดยให้ผู้เขียนบทเป็นผู้เสนอตามแนวถนัด
 ที่ประชุมจะลงมติเห็นด้วยในขั้นสุดทาย หากเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่เคยมีใครทำมาก่อนหรือหาก
 มีการทำมาแล้วเราก็จะนำเสนอในแง่มุมใหม่ ๆ บางครั้งอาจเป็นเรื่องพื้น ๆ ที่ คนอื่น ๆ มองข้าม
 บางทีเป็นเรื่องที่คนทั่วไปไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีอยู่
 การตัดสินใจโดยมติของที่ประชุมถือเป็นหลักพิจารณาพื้นฐานแต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ถ้าเกิดเหตุการณ์พิเศษ
 และคระทำงานเห็นสมควรนำเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นไปที่ไม่ใช่เพียงข่าวความเคลื่อนไหวออกเสนอ
 เพื่อคนทั่วไปได้รู้เพิ่มเติมจากสื่อธรรมดา
 
 ทำไมในปัจจุบันรายการกระจกหกด้านจึงเหลือเวลาออกอากาศเพียง 15 นาที คะ
 เรื่องของเวลาออกอากาศ ทางสถานีโทรทัศน์เป็นผู้กำหนด
 ซึ่งขึ้นอยู่กับเหตุผลในเรื่องของการแข่งขันทางธุรกิจด้วย แต่ถึงแม้ว่าจะมีเวลาออกอากาศ 15 นาที
 แต่รายการก็สามารถเก็บภาพได้อย่างกระชับและต่อเนื่อง
 ซึ่งตรงจุดนี้เป็นผลมาจากการทำงานเป็นหมู่คณะอย่างสัมพันธ์กัน บทเขียนดี กำหนดภาพชนิดเป็นไปได้
 ตากล้องมีจินตนาการและใช้สายตาสร้างองค์ประกอบของภาพอย่างมีศิลป์ ถ่ายได้ชัดเจน และที่สำคัญที่สุดคือ
 ผู้ตัดต่อ-ลำดับภาพ
 รู้จักเลือกใช้มุมต่าง ๆ แต่ละช๊อตซึ่งช่างภาพบรรจงถ่ายมาแล้ว
 มาลำดับตัดต่อสื่อถึงความรู้สึกของบทบรรยายได้กระชับ ปัจจัยสำคัญอีกประการคือ สต๊อกภาพเก่า ๆ
 
 ทางรายการเคยขอเวลาเพิ่มจากทางสถานีหรือเปล่า
 ไม่เคยขอ เพราะเราทำรายการกับช่อง 7 มานานแล้ว หากว่ามีเวลาที่เหมาะสมทางสถานีโทรทัศน์ก็จะเสนอมาเอง
 
 ตลอดระยะเวลา 23  ปีพบปัญหาหรืออุปสรรคอะไรบ้าง ผ่านมาได้อย่างไรคะ
 ถ้าหากจะบอกว่าไม่มีอุปสรรคเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ ดังประโยคหนึ่งที่ว่า ถนนที่ไปสู่ความสำเร็จ
 ไม่เคยปูด้วยกลีบกุหลาบ แต่เพราะกำลังใจจากแฟน ๆ รายการจึงทำให้เรามีแรงสู้ต่อ
 และฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้นมาได้จนถึงทุกวันนี้
 
 ต่อจากนี้ กระจกหกด้าน จะดำเนินต่อไปนานแค่ไหน
 คงจะผลิตรายการต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะทำไม่ไหว หรือทางสถานีไม่ให้ผลิตรายการแล้ว
 
 นอกจากรายการกระจกหกด้านแล้ว ทางบริษัทยังมีรายการอะไรอีกหรือเปล่า
 แค่ทำ กระจกหกด้าน ออกอากาศทุกวัน ก็เปรียบเสมือนทำหนังสือพิมพ์รายวันออกขายทุกวันนั่นเอง
 หนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ ไม่ได้มีสปอนเซอร์มากมาย
 ต้องคิดแล้วคิดอีกว่าจะออกหนังสือพิมพ์รายวันน้องใหม่อีกฉบับด้วยความยุ่งยากใจฉันใด
 กระจกหกด้านก็ประสบภาวะฉันนั้น
 
 คิดว่าในปัจจุบันนี้รายการทีวีบ้านเรามีรายการเพื่อเด็กและเยาวชนที่แท้จริงน้อยลงไหม เพราะว่าอะไร
 เป็นเพราะการแข่งขันกันทางธุรกิจของสถานีโทรทัศน์บ้านเรา
 
 สุดท้ายนี้มีข้อคิดอะไรดี ๆ จะฝากถึงผู้ผลิตรายการหน้าใหม่บ้างไหมคะ เกี่ยวกับการผลิตรายการเพื่อสังคม
 คงไม่ฝาก เพราะคิดว่าคนที่จะทำรายการเพื่อสังคมก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าควรทำอย่างไร
 
 ตลอดระยะเวลา 23 ปีที่ผ่านมา และกว่า 8,000 ตอนของรายการ "กระจกหกด้าน"
 นำเสนอผ่านสายตาท่านผู้ชม และรางวัลจากสถาบันต่างๆ ที่มอบให้
 เป็นบทพิสูจน์ถึงการต้อนรับของประชาชนอย่างดี มีรายการที่มอบสาระความรู้อยู่คู่หน้าจอเช่นนี้
 ผู้ปกครองคงไม่ละเลยที่จะแนะนำให้ลูกหลานเยาวชนรับชมแน่นอนใช่หรือเปล่าคะ
 
 
 เรื่อง : จุฑามาศ มูฮำหมัด
 ภาพ : www.sarakadee.com, www.google.co.th, ทีมงาน TV4Kids
 วันที่ : 31 พฤษภาคม 2549
 |  | โดย : ลอกมา  [ 19/02/2007, 09:44:00 ] |  
 
 
 
        | 
        5 
         เห็นแต่หน้าเซนคนเดียวคนอื่นไม่เห็นเลย  |  | โดย : นนท์012  [ 20/02/2007, 03:20:52 ] |  
 
 
        | 
        7 
         ว้าววววว มือพี่นนท์ เท่จังเลย 555+ |  | โดย : Viewzilla  [ 20/02/2007, 07:09:17 ] |  
 
        | 
        8 
         วันนี้ได้ดูรายการกระจกหกด้านแล้วค่ะ  เห็นลูกเขยนนท์  น้องต้อง  เซน  แล้วก็ ชาย  ทำไม ไม่มีใครยิ้มเลยอะ????
  คราวหน้าจะไปออกทีวี  ช่องไหนอีกป่ะคะ  ลูกเขย ได้ค่าตัวเท่าไหร่มาแบ่งพ่อตามั่งจิ
 |  | โดย : Blue_Jazz  [ 20/02/2007, 18:18:51 ] |  
 |  
|  |  
            | 
              
                |  | E-mail: webmaster@thaibg.com | Copyright 2002-2025@www.ThaiBG.com (Thailand), All Rights Reserved |  |  |  
            |  |  |