[ กลับหน้าหลัก ]


หมากรุกการเมือง "ตีปลาหน้าไซ"

มิได้มีจิตใจฝักใฝ่ในเรื่องการเมือง
และมิได้ต้องการให้คล้อยตาม
แต่เห็นเป็นเรื่องการเมือง
ที่นำเอาหมากรกไปเปรียบเทียบ
และเหตุการณ์ล้วนผ่านไปแล้ว
น่าจะพอให้อ่านกันเพลินๆ
หมากรุกเรื่องสนุก
อย่าเอาการเมืองมาเป็นทุกข์กันเลย

-เห็นมา
- - - - - - - - - - - - - - - - - -

-- แก้เกม ตีปลาหน้าไซ--
วันที่คุณสนธิ กับคุณสุริยะใส ออกมาท้าเหย็งๆ
และสรุปเสร็จสรรพว่า
1. มีโม่ง
2. โม่ง คือ สามีแม่พลอย

ผมก็ร้องบอกกับตัวเอง ว่า
ตายละตู ทำไม พันธมิตรถึงได้ติดเบ็ดง่ายดายอะไรปานนั้น ?

เย็นวันนั้น มีคนถามผมว่า แกนนำพันธมิตร ออกอาการมาในรูปแบบนี้
เผลอเปิดคางเข้าให้แล้ว จะแก้หมากอย่างไร ?

ผมก็ตอบเขาไปว่า -- งานนี้เหลือหนทางอยู่ทางเดียว คือ พันธมิตรต้องเล่นตามน้ำ ตกกระไดพลอยโจน
เพราะถอยไม่ได้ เผลอไปเอ่ยชื่อสามีแม่พลอยเข้าให้แล้ว

งานนี้ ผมว่า ท่านคงชำเลืองมองแบบเคืองๆ
ท่าที่เอียงคอนิดๆ มุมปากแย้มเหมือนจะยิ้มหน่อยๆ
แต่ในดวงตานั้นคง ซ่อนแวว ดุ แบบว่า เหมือนกับอยากถามพันธมิตร
-- ทำอะไรออกไป ? หา ? ทำอะไรออกไป ! ?

หมากรุก เมื่อเสียโคนไปตัวหนึ่ง เพราะเผลอเดินไปในตาที่เขาเรียกว่า
“สาลิกาป้อนเหยื่อ” (เซียนหมากรุก อย่าง เซียนป่อง หรือ ม้าปรีชา รู้จักดี)
การแก้เกม คือ ต้องตามด้วยการหักขยี้ แบบแลกกันแรงๆ ให้รู้ดีรู้ชั่ว

พันธมิตรจึงหยิบตัวหมากแต่ละตัว ขึ้นมาโขกใส่กระดาน
โป๊ก ๆๆ ให้เสียงดังสนั่นหวั่นไหว เป็นการ ข่มขวัญ คู่ต่อสู้ ว่า
ที่นายกทักษิณเล่นกล สาลิกาป้อนเหยื่อ มานั้น พันธมิตรรู้ทางอยู่แล้ว
ไม่ได้หลงกลแต่ประการใด
หนำซ้ำการที่รุก โป้ง ๆ ๆ เสียงลั่นกระดาน
นอกจากเป็นการปลอบใจพวกกันเอง ยังอาจได้ผล
ที่ ประดาหมากตัวอื่นๆของนายกไม่ว่าจะเป็น เบี้ย โคน ม้า เรือ
อาจขวัญอ่อนตกใจ จนเสียขบวนก็ได้

พันธมิตร ปล่อยเบี้ยหงาย ออกมาสามตัว คือ สตรี ผู้ สูญศักดิ์ ออกมาก่อน
“เบี้ยหงาย” เป็นเบี้ยที่ มีความรุนแรงหากสองตัวเป็นเบี้ยเทียมคู่หนึ่งและอีกเบี้ยหงายเป็นเบี้ยผูก

แต่เจ้ากรรมสตรีผู้สูญศํกดิ์ เบี้ยหงาย ทั้งสามตัว เป็นเบี้ยผูก !
ความรุนแรงที่จะไปจับตาหมากกดดันจึงไม่มีพลัง
เพียงแค่ฝ่ายรักษาประชาธิปไตยขยับหมากหลบตากินทะแยงของเบี้ย
เบี้ยหงายก็ทำได้เพียงเดินวนผูกกันเป็นสาละวันรำวง รอบกระดานหมากรุก ทำอะไรไม่ได้
นั่นละ คือที่มาของเสียง โห่ ฮา เป่าปากเปี๊ยว
ของกองเชียร์ ฝ่ายประชาธิปไตย

เบี้ยหงาย สตรีผู้ สูญศักดิ์ ก็เลยกลายเป็น
เบี้ย หงอย !

แต่ไม่รู้อีท่าไหน เขากำลังซัดกันหน้ากระดานหมากรุก หน้าดำคร่ำเครียด
จู่ๆ
มีชัย ม. 8
นั่งดูอยู่ริมกระดาน ดันออกมาวิจารณ์ แบบมันปาก
เหมือนอยากจะมานั่งหน้ากระดานเสียเอง
แต่ที่ไหนได้ แค่ ออกมาอธิบายเรื่อง ม.8 ปล่อยไก่ออกมาเต็มรัก เพราะ
ประโยคที่บอกว่า นายกงักษิณ พูดออกมาห้วนๆ แค่ “ประชาธิปไตย”เฉยๆ
ไม่มี ภายใต้. . .“ . . . . . . . . .” . . . นั้น
มือกฎหมายอย่าง มีชัย ม.8 อ่านพลาด
เพราะ นายกทักษิณพูดถึงระบอบประชาธิปไตย อันมี . . .“ . . . .”เป็นประมุข
และจะยอมตายเพื่อรักษา ฯ ไว้ชัดเจน

และแล้ว ก็เป็น ทางสุดท้าย
ทางสุดท้าย
ที่พันธมิตร ไม่อยากเล่นแก้กลหมากแบบนี้เลย คือ
การออกมาประกาศว่า จะระดมกำลังชุมนุมใหญ่อีกครั้ง

สถานการณ์เปลี่ยนไป ทั้งแผ่นดินกำลังมีความสุขกับ ความเหลืองอร่าม
และ กำลังทุน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อกลุ่มคนชั้นกลาง นายทุน เจ้าของโรงงาน
เจ้าของกิจการ
เริ่มรู้สึกตัวว่า ธุรกิจของตน อันเกี่ยวพันกับสถานการณ์การเมือง ตอนนี้กำลังจะดิ่งลงเหว เหมือนจะเป็น
ยุค เปิดท้ายขายของอีกครั้ง
แต่คราวนี้ไม่ใช่การโจมตีค่าเงินบาท
แต่มันเกิดจาก ศึกในประเทศเอง !

แล้วไหนยังคดีความ ที่คราวนี้ ไม่มีการถอนฟ้อง
ทำเป็นอารยะขัดขืน ไม่เข้ามารับข้อกล่าวหา ก็จะโดนหมายจับ


สถานการณ์ จึงบีบรัดลงไป ให้เหลืออยู่ทางเดียว
ต้องออกมาแลกกันแบบ เอาหมากแลกหมาก
แลกทั้งๆที่รู้ว่า เอาหมากตัวที่ศักดิ์ใหญ่กว่า ไปแลกหมากศักดิ์รอง
แลกแบบ เลือดเข้าตา !

พันธมิตรต้องออกมาเล่นแบบนี้ ทั้งๆที่รู้ว่า ในที่สุด จำเป็นต้องโดน
ไล่นับ
ศักดิ์กระดาน

จึงไม่แปลกใจ ที่สุริยะใส ออกมาประกาศ ชุมนุมใหญ่อีกครั้ง

ความน่ากลัว คือ คราวนี้
กลิ่นคาวโลหิต !
เพราะ ไหนๆ ก็ตัวจะจนแต้ม

เล่นกันให้ได้แผลไปเลย !

โดย จิตสงบ ( Post วันที่ 2006-07-06 08:04:18
จาก หนังสือพิมพ์เชียงใหม่นิวส์ออนไลน์
http://www.chiangmainews.co.th/wb_view.php?qid=905

โดย : เห็นมา Member [ 15/01/2007, 08:09:22 ]

 
  E-mail: webmaster@thaibg.com Copyright 2002-2024@www.ThaiBG.com (Thailand), All Rights Reserved  
 
  Sponsors