รายละเอียด

โครงการนี้เป็นโครงการที่รัฐบาลชุดที่แล้วได้ดำเนินการไปได้ระยะหนึ่งแต่ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้วแต่มีข้อ
มูลที่น่าสนใจดังนี้

สมาคมบริดจ์แห่งประเทศไทย งบประมาณที่ขอ
2548 2,569,920
2549 2,689,920
2550 2,569,920
2551 2,689,920
รวม 10,519,680

สมาคมหมากล้อมแห่งประเทศไทย งบประมาณที่ขอ
2548 19,984,000
2549 22,934,000
2550 25,880,000
2551 28,580,000
รวม 97,378,000

สมาคมกีฬาไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (รวมหมากรุกไทย หมากฮอสไทย …)
รวม 4 ปี 0 บาท

แม้โครงการนี้จะไปไม่ถึงฝันด้วยความผกผันทางการเมือง แต่เมื่อดูข้อมูลที่ถูกนำเสนอก็อดคิดไม่ได้ว่า
ผู้บริหารสมาคมหมากฮอสไทย หรือหมากรุกไทย ทั่นทั้งหลายกำลังทำอะไรอยู่
ในเมื่อมีช่องทางในการขอการสนับสนุนจากภาครัฐแต่ก็มิได้ทำการขอ หากว่าขอแล้วไม่ได้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แม้จะช้าไปนิดแต่หากกลับลำได้ทันก็ไม่มีอะไรที่สายเกินไป…

ความคิดเห็นที่ : 1

คงหมายถึงโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายๆโครงการของการกีฬาฯ
ก็มีสมาคมนำร่องจำนวนหนึ่ง
สมาคมที่จะเพิ่มเติมจำนวนหนึ่ง
หมากกระดานไม่ต้องเสนอเข้าไปหรอก
เสียเวลา เสียความรู้สึกเปล่าๆ
เลิกคิดได้เลย ดูรายละเอียดที่มาที่ไปและแนวคิดรวมถึงผลที่ทำกันเป็นอย่างไร
สไตล์การเมืองจ๋าของสุวัฒน์และชัยวัฒน์
รัฐวิสาหกิจไหนอยากจะเอาเงินมาให้ประดาหมากกระดาน
คนของการกีฬาฯมองว่าหมากกระดานเป็นกีฬาหรือยัง?
ซีเกมที่เวียตนามหมากรุกสากลล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
ซีเกมที่ฟิลิปปินส์เราก็ไม่ส่งหมากรุกสากล
ซีเกมที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ ก็ไม่มีหมากรุกสากล
แล้วยังจะไปคาดหวังอะไรได้
สมาคมดังและเป็นข่าวเรื่อยๆอย่างฟุตบอล จะได้เงินจากโครงการต่างๆ ปีละร่วม100ล้านบาท
ที่ผ่านมาก็ได้มากมายมาตลอดแต่ลองมองโครงการอย่างบอลไทยสู่บอลโลกแล้ว ล้มเหลวทั้งวิธีการและผล
มุ่งเน้นแต่ทีมชาติอย่างเดียว ลีกอาชีพเละเทอะ พอพลาดจากการคัดเลือกก็มาเริ่มกันใหม่ทุกครั้ง
วาดฝันกันใหม่เป็นวัฎจักรซ้ำซาก
หมากกระดานมีหลายประเภท มีที่กล่าวได้ว่าประสบความสำเร็จก็มี(ขึ้นอยู่กับว่าตั้งเป้าหมายไว้อย่างไร)
พายเรือในอ่างก็มาก
การจะพัฒนาคงต้องเริ่มจากคนในประเภทนั้นๆ คุณภาพของคนในประเภทนั้นๆ
ไอ้ประเภทที่มัวแต่ว่าคนอื่นไม่ทำอะไร ก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าคอยว่าคนอื่น แต่ไม่คิดจะลงมือทำ

ความคิดเห็นที่ : 2

เพิ่มเติมอีกหน่อยว่า ต้องขอชื่นชมสมาคมโกะ ที่มีความตั้งใจที่จะทำงาน ขอการสนับสนุนในทุกโอกาส
(จะได้ไม่ได้อีกเรื่อง)

ความคิดเห็นที่ : 3

ผู้ว่า กกท.คนใหม่ประกาศ หาเงินสนับสนุนสมาคมกีฬาปีละ 1 ล้านบาท ขอปรบมือให้ในความพยายาม
แม้จะได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้แต่อย่างน้อยก็ดีกว่า ผู้ว่าคนก่อนๆ ที่มีเงินเท่าไรก็ให้เท่านั้น
ไม่มีความมุ่งมั่นที่จะหาให้ได้ตามเป้าหมาย


วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10533

ผุดสปอร์ตคอมเพล็กซ์2พันล.ที่หัวหมาก!



นายสุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
มอบนโยบายสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยและประชุมแนวทางการดำเนินงานระหว่างการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)
กับสมาคมกีฬา ที่โรงแรมเรดิสัน เมื่อวันที่ 10 มกราคม

นายสุวิทย์กล่าวว่า การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 15 ที่ประเทศกาตาร์ และเฟสปิคเกมส์ ครั้งที่ 9
ที่ประเทศมาเลเซีย นักกีฬาไทยทำผลงานได้ดีมาก ครองอันดับที่ 5 และที่ 2 ตามลำดับ
โดยกระทรวงมีนโยบายให้การสนับสนุนนักกีฬาสู่ความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในระยะใกล้คือ
การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 24 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ
มีเป้าหมายครองความเป็นเจ้าเหรียญทองทั้งสองรายการ และเพื่อให้สมาคมกีฬามีการเตรียมการพร้อมที่สุด
ขอให้สมาคมกีฬาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องทำแผนงานเพื่อสู่เป้าหมายเสนอให้ กกท.ภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้
และนอกจากเสนอแผนงานและงบประมาณแล้ว ขอให้แจ้งรายรับที่สมาคมกีฬาหาได้เองควบคู่กันมาด้วย
จะได้พิจารณาจัดสรรให้อย่างเหมาะสม

"กกท.วางแผนก่อสร้างไทยแลนด์ สปอร์ตคอมเพล็กซ์ ที่ กกท.หัวหมาก จะเป็นอาคารที่มีความพร้อมในทุกๆ
ด้าน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ทำการของสมาคมกีฬาที่มาอยู่รวมกัน ห้องประชุม ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา
ขณะนี้ได้งบประมาณในการออกแบบก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว"

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า
แม้ว่าทัพนักกีฬาไทยจะได้อันดับ 5 ในเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 15 ด้วยการคว้ามาได้ 13 เหรียญทอง
แต่ถ้ามองให้ลึกในรายละเอียดจะพบว่านักกีฬาในอาเซียนพัฒนาผลงานดีขึ้นมาก โดยเฉพาะเวียดนาม
ซึ่งไทยควรจะมีเจ้าภาพรับผิดชอบในการวิเคราะห์ วางแผนจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
มิฉะนั้นความหวังในการเป็นเจ้าเหรียญทองอาจมีปัญหา

นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ กกท. กล่าวถึงนโยบายการทำงานว่า
1.ปรับปรุงและพัฒนาการประสานกับสมาคมกีฬาด้วยการแก้ปัญหาแบบทีเดียวจบ
โดยการตั้งศูนย์แก้ปัญหาแบบครบวงจรให้สมาคมกีฬา และจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ระดับ 7
กกท.รับผิดชอบดูแลสมาคมกีฬาคนละ 3-5 สมาคมกีฬา
2.ให้การสนับสนุนงบฯแก่สมาคมกีฬานอกเหนือจากที่ได้รับจากงบฯประจำปีคือ กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติที่ในปี
พ.ศ.2550 ได้เพิ่มจาก 120 ล้านบาท เป็น 250 ล้านบาท และจากงบฯพัฒนาบุคลากรกีฬา
3.ปรับปรุงระบบสิทธิประโยชน์ของ กกท.เพื่อให้บริษัทห้างร้านต่างๆ เข้ามาให้การสนับสนุนมากยิ่งขึ้น
ด้วยการนำเอาสมาคมกีฬาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการหาผู้สนับสนุน 4.ให้การสนับสนุนวิทยาศาสตร์การกีฬา

สำหรับโครงการก่อสร้างไทยแลนด์ สปอร์ตคอมเพล็กซ์นั้น ได้รับงบประมาณในการออกแบบแล้ว 30 ล้านบาท
โดยจะรื้อศูนย์ฝึกกีฬาในร่มและสปอร์ตคอมเพล็กซ์ขึ้นมาแทนในวงเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท
โดยจะของบฯการก่อสร้างในปีงบประมาณ 2551 ถ้าได้รับการอนุมัติคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนตุลาคม 2551
ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี

"เบื้องต้นสปอร์ตคอมเพล็กซ์จะมีอย่างน้อย 12 ชั้น ประกอบด้วย
ที่ทำการของสมาคมกีฬาที่จะมาอยู่รวมกัน, ห้องประชุม, ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา
และสนามฝึกซ้อมของนักกีฬาชนิดต่างๆ จะเปิดให้สมาคมกีฬาต่างๆ
เสนอความต้องการมาด้วยว่าในสปอร์ตคอมเพล็กซ์ควรจะมีอะไรบ้าง"

ตัวแทนสมาคมกีฬาที่เข้าร่วมประชุมได้แสดงความคิดเห็นถึงปัญหา
อุปสรรคในการบริหารงานและแนวทางในการแก้ปัญหา โดยปัญหาอุปสรรคหลักๆ ของสมาคมกีฬาคือ
ได้รับการสนับสนุนงบฯจาก กกท.น้อยเกินไป, ไม่มีสนามแข่งขันและฝึกซ้อมเป็นของตัวเอง และขอให้
กกท.สนับสนุนงบฯอย่างเป็นธรรมและทั่วถึงทุกสมาคมกีฬา

************************************
************************************
นายกนกพันธุ์กล่าวว่า ในส่วนของงบฯสนับสนุนสมาคมกีฬานั้น
ในปีนี้จะพยายามจัดสรรงบฯให้กับสมาคมกีฬามากกว่าปีที่ผ่านมาให้ได้
เนื่องจากเข้าใจถึงความสำคัญเป็นอย่างดี โดยมุ่งมั่นจะทำให้ได้อย่างน้อยสมาคมกีฬาละ 1 ล้านบาท
*************************************
**********************************

ความคิดเห็นที่ : 4

หมากรุกไทย..หมากฮอส ยังไม่ได้เป็นสมาคม ปัจจุบรร ขึ้นกับสมาคมกีฬาไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
(ใช้งบของ กทม. จัดที่สนามหลวงเป็นหลัก ) ที่ผ่านมา ..เจ้าหน้าที่ เเละ ผู้ดำเนินการ.. ยึดหลัก
....อนุรักษ์....( ไม่สนคำว่า ส่งเสริม - เผยเเพร่ )