[ กลับหน้าหลัก ]


วิธีคิดและการใช้ชีวิตของเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก

มติชนรายสัปดาห์
ฉบับวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 26 ฉบับที่ 1350

คลุกวงใน

วิธีคิดและการใช้ชีวิตของเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก
โดย พิษณุ นิลกลัด

บิลล์ เกตส์ ออกมาประกาศว่าภายในปี 2551 จะค่อยๆ วางมือและถ่ายโอนอำนาจบางส่วนจากการเป็นประธานบริษัทไมโครซอฟต์ โดยจะเริ่มอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้

เกตส์บอกว่าเขาไม่ได้คิดที่จะเกษียณหรือลาออกจากตำแหน่งประธาน แต่ต้องการจัดลำดับความสำคัญเรื่องส่วนตัวซะใหม่

เรื่องส่วนตัวที่สำคัญของเกตส์นั้นคือการดูแลมูลนิธิ Bill & Melinda Gates Foundation ที่ร่วมกันก่อตั้งกับเมลินด้าภรรยาเมื่อปี 2543 มูลนิธิมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อบริจาคทุนการศึกษาแก่สถาบันการศึกษาทั่วโลกที่ขาดแคลนเงิน และตั้งทุนวิจัยเพื่อป้องกันและรักษาโรคเอดส์

เพียงแค่ 6 ปีมูลนิธิของเกตส์และภรรยาบริจาคเงินช่วยเหลือคนทั่วโลกไปแล้วกว่า 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ1 ล้านล้านบาท มากเป็นที่ 2 รองจากมูลนิธิ Stichting INGKA Foundation ก่อตั้งโดย อิงก์วาร์ คามพราด มหาเศรษฐีใจบุญชาวสวีเดน เจ้าของห้างขายเฟอร์นิเจอร์ไอเคีย (IKEA) ที่ตั้งมูลนิธินี้ขึ้นเพื่อส่งเสริมการประดิษฐ์คิดค้นงานด้านสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายใน ที่ผ่านมาได้บริจาคเงินช่วยเหลือไปแล้ว 36,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.4 ล้านล้านบาท

แต่ในอนาคตเชื่อว่ามูลนิธิของเกตส์และภรรยาจะเป็นมูลนิธิที่บริจาคเงินช่วยเหลือสังคมสูงที่สุดในโลก เพราะ วอร์เรน บัฟเฟ็ทท์ มหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเพิ่งออกมาประกาศว่า จะบริจาคเงินจำนวน 37,000 ล้านดอลลาร์เข้ามูลนิธิ Bill & Melinda Gates Foundation

นิตยสารฟอร์บ จัดอันดับให้ อิงก์วาร์ คามพราด เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 4 ของโลก มีทรัพย์สิน 28,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.1 ล้านล้านบาท

บิลล์ เกตส์ และ อิงก์วาร์ คามพราด นอกจากจะร่ำรวยและใจบุญเหมือนกันแล้ว ยังมีอีกอย่างที่เหมือนกันคือเป็นคนประหยัด

เกตส์ยังชอบทานฟาสต์ฟู้ดราคาถูก เวลาออกรอบเล่นกอล์ฟกับ วอร์เร็น บัฟเฟ็ทท์ เพื่อนร่วมก๊วนขาประจำ ทั้งคู่เล่นพนันกันหลุมละ 1 ดอลลาร์

ส่วนคามพราด วัย 80 ปีประหยัดยิ่งกว่าเกตส์ เมื่อเดือนมีนาคม เพิ่งให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วยความภาคภูมิใจในความประหยัดและอยากให้พนักงานร้านไอเคีย 90,000 คน จาก 202 ร้านใน 32 ประเทศทั่วโลกถือเป็นแบบอย่าง

คามพราดบอกว่าเขายังขับรถวอลโว่คันเก่าที่ใช้มา 15 ปี นั่งเครื่องบินชั้นประหยัด และแนะนำให้พนักงานของไอเคียใช้กระดาษทั้ง 2 หน้า ไม่ใช่พิมพ์หรือเขียนหน้าเดียวแล้วทิ้ง

แม้เกตส์และคามพราดจะเข้าข่ายมหาเศรษฐีขี้เหนียว แต่ทั้งคู่ก็ประหยัดเฉพาะเรื่องการใช้จ่ายส่วนตัว ไม่ขี้เหนียวในการช่วยเหลือสังคม เงินที่เกตส์บริจาคผ่านทางมูลนิธิของเขาคิดเป็น 52% ของทรัพย์สินที่เขามี แม้บางคนจะมองว่าทั้งสองคนตั้งมูลนิธิเพื่อเลี่ยงภาษีและสร้างภาพ แต่ยังไงซะก็ดีกว่าการหลบเลี่ยงภาษี

ปัจจุบัน บิลล์ เกตส์ มีทรัพย์สินมากกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยก็เฉียดๆ 2 ล้านล้านบาท แต่เขาบอกว่าจะไม่ยกเงินทั้งหมดที่มีให้กับลูกทั้ง 3 คน แต่จะยกให้คนละประมาณ 20 ล้านดอลลาร์ หรือ 790 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 95% จะยกให้กับมูลนิธิ

มีคนเคยถามเกตส์ว่าทำไมถึงไม่ยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้กับลูกทั้ง 3 คน

เกตส์ตอบว่าเงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้หากยกให้ลูกจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์แก่สังคมและกับลูกทั้งสาม เพราะปรัชญาในการดำรงชีวิตของเขาก็คือนำทรัพย์สมบัติที่มีคืนให้กับสังคม

ได้ฟังแง่คิดในการดำรงชีวิตของ บิลล์ เกตส์ แล้วทำให้ไม่แปลกใจที่เขาเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกที่ไม่เคยมีใครพูดถึงเขาในทางไม่ดี หรือพูดถึงด้วยความหมั่นไส้อิจฉา

โดย : เห็นมา Member [ 11/11/2006, 13:02:24 ]

1

( * _ *) ดีจังค่ะ

โดย : องหงิญน้อย Member   [ 11/11/2006, 13:24:20 ]

 
  E-mail: webmaster@thaibg.com Copyright 2002-2024@www.ThaiBG.com (Thailand), All Rights Reserved  
 
  Sponsors