เห็นมาว่ามั่วมาก
หลากตัวอักษรที่ย้อนไปมาแล้ว ..............มึนตึ๊บ
------------------
จาก ผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9490000045788
เดินหมาก 下棋
โดย สุขสันต์ วิเวกเมธากร 9 เมษายน 2549 12:36 น.
หมาก เป็นการละเล่นอย่างหนึ่ง ซึ่งมีมานานในสังคมไทย จีน และสากล ฯลฯ
ปัจจุบันได้พัฒนามากขึ้นจนถือว่าเป็นกีฬาอย่างหนึ่ง
ซึ่งจัดให้มีการแข่งขันกันจัดอยู่ในประเภทกีฬาในร่ม โดยมีการแข่งขันกันทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ
กระทั่งถึงระดับโลก
การเล่นหรือแข่งขันมีตั้งแต่ หมากซึ่งมีกติกาง่ายๆ เล่นกันตามประสาเด็กๆ
ไปจนถึงการแข่งขันที่มีกติกาสลับซ้อนซ่อนเงื่อนอย่างที่เรียก หมากกล
ชาวไทยเรามีการเล่นหมากตั้งแต่สมัยใด กระผมยังไม่ทราบประวัติแน่ชัดเพราะไม่ค่อยสนใจมากนัก
เนื่องจากเห็นว่าการเล่นหมากต้องใช้เวลาค่อนข้างมากซึ่งจะแย่งเวลาการอ่านและเขียนหนังสือไปเปล่าๆ
แต่วันนี้ ต้องขอเขียนเรื่องหมากสักหน่อยหนึ่ง
เพราะมีเรื่องบางอย่างชวนให้เขียนโดยนำไปเปรียบเทียบกับการแข่งขันหมาก
โดยปกติ การเล่นหมาก ไม่ว่าจะเป็นหมากง่ายๆ ระดับเด็กๆ เล่นกัน หรือ
เป็นหมากที่มีการใช้ความคิดสลับซับซ้อนมากขึ้น
ข้อสำคัญของการเล่นหรือแข่งขันกันย่อมอยู่ที่กติกาซึ่งชัดเจนและเป็นธรรม
โดยไม่ให้ผู้เล่นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบ บางครั้งฝ่ายที่มีข้อได้เปรียบมากกว่าอีกฝ่าย
มักมีการต่อให้อีกฝ่าย
โดยฝ่ายที่เหนือกว่าจะลดหมากของตนเองไปตัวหนึ่งหรือสองตัวแล้วแต่ว่ามีฝีมือเหนือกว่ากันแค่ไหน มิฉะนั้น
ย่อมจะหาผู้ที่จะมาเล่นด้วยยาก
การเล่นหมากทุกระดับถ้าให้สนุกต้องมีคนดูเป็นกองเชียร์
เมื่อเป็นเช่นนี้เรื่องน้ำใจย่อมเป็นสิ่งสำคัญ
บางทีคนดูมักเอาใจช่วยฝ่ายอ่อนกว่าเพราะอยากเห็นเรื่องพลิกล็อก การเห็นแต่ผู้ชนะคนเดิมๆ หน้าเดิมๆ
เหมือนอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมย่อมเกิดความรู้สึกเฉยๆ ไม่ตื่นเต้น สิ่งที่ผู้ดูผู้ชมไม่อยากเห็นที่สุดคือ
ผู้เล่นที่ได้เปรียบเหนือกว่าแล้วยังโกงอีกฝ่ายหนึ่งนั้น ย่อมเป็นที่รังเกียจของคนดู
ถึงชนะก็ไม่มีใครนิยมชมชอบ
บางทีโกงแบบไม่ตั้งใจก็ยังพอให้อภัยกันได้ เพราะเห็นว่าเป็นความบกพร่องโดยสุจริต
แต่ถ้าโกงอย่างหน้าด้านๆ แบบคนเหลี่ยมจัดย่อมเป็นเรื่องยากที่จะให้อภัยหรือทำใจให้ยอมรับ
คนดูส่วนใหญ่มาดูกีฬาหรือการแข่งขัน เพราะต้องการดูการแข่งขันที่เป็นธรรมและมีน้ำใจ
คงมีผู้คนไม่มากนักที่อยากมาดูการแข่งขันซึ่งรู้ๆ
อยู่ว่าใครจะได้เป็นผู้ชนะและยังต้องการชนะแบบถล่มทลายด้วยการโกงกันวินาศสันตะโรด้วย
โดยอ้างหน้าตาเฉยว่า ทำตามกติกา ทั้งที่ควรจะเรียกว่า กติแร้ง มากกว่าเป็นกติกา
และไม่ใช่เป็นแค่แร้งตัวเดียวเท่านั้น แต่เป็นแร้งลงทั้งฝูง
ซึ่งรุมทึ้งรุมกินทุกอย่างแบบตะกรุมตะกรามโดยไม่ต้องมีความตะขิดตะขวงใจแม้แต่น้อย
การแข่งขันระดับชาติที่เกิดขึ้นหมาดๆ
ซึ่งน่าจะเป็นการละเล่นขำขันระดับอภิมหาสภาโจ๊กแต่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณมหาศาลจากภาษีอากรของประชาชนในก
ารให้คนดูคนชมด้วยความกระอักกระอ่วนเพื่อไปทำหน้าที่เป็นผงซักฟอกให้ผู้คนเพียงบางคน
จึงมีผู้ชมบางคนประท้วงถึงกับฉีกบัตรผ่านประตูเพราะไม่อยากดูปาหี่ตบตาและมีผู้คนอีกจำนวนมากเลือกเล่น
หมากเก็บ อยู่กับบ้านเพราะไม่อยากไปดูให้เสียเวลา
การละเล่นแบบนี้ นับเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำอย่างที่คนโบราณว่าไว้
แต่ผลเสียยังมีตามมาอย่างไม่รู้ว่ามากมายสักแค่ไหน เพราะน้ำพริกก็กินไม่ได้แถมทำให้น้ำเน่าเหม็นไปอีกนาน
ทั้งยังทำให้กุ้งหอยปูปลาทั้งหลายต้องผจญกับมลภาวะไปอีกนานเท่าไรก็ไม่รู้
น่าเป็นห่วงว่า
หมากที่เล่นกันด้วยกติแร้งคราวนี้จะทำให้เกิดเรื่องบานปลายถึงขั้นแจกหมากปากเปรอะติดตามมา
ถ้าคุมเกมไม่ดีอาจถึงขั้นมีการล้มกระดานไม่ต้องมีการเล่นการแข่งขันไปอีกนานซึ่งเป็นวงจรอุบาทว์ที่เคยมีม
าแล้วหลายครั้งหลายครา
ผู้เล่นหมากซึ่งน่ารำคาญอีกแบบหนึ่งคือ พวกชอบเล่นหมากยึกยักชักเข้าชักออกไม่อยู่กับร่องกับรอย
โกงเล็กโกงน้อยขอให้ได้โกงเพื่อรักษาบุคลิกประจำตัว โดยไม่คิดสักนิดว่า
การเล่นหมากแบบนี้จะทำให้เสียหมดสิ้นในที่สุดเพราะขาดความน่าเชื่อถือ
ชาวจีนมีคำกล่าวตักเตือนไว้ว่า
举棋不定,输得干&
;#24178;净净。
จวี่ย์ ฉี ปู้ ติ้ง, ซู เตอ กาน กาน จิ้ง จิ้ง jǔ qí bù
dìng , shū de gān gān jìng jìng.
เดินหมากยึกยัก แพ้หมดหน้าตักจริงๆ
ใครเล่นหมากตามกติกาแจ้งชัด ถึงจะแพ้ก็มีคนเห็นใจและยังมีคนเชียร์ให้ไปฝึกฝีมือเพื่อกลับมาแก้ตัว
แต่ถ้าเล่นเอาแต่ชนะด้วยกลโกงมากมายหลายร้อย ๘๘๘
อย่างที่มีให้เห็นในวันละเล่น..เอ๊ย..วันแข่งขันระดับชาติซึ่งตอนแรกคิดว่าไม่มี
เพราะบอกว่าต้องรอให้ถึงชาติหน้า แต่ครั้นแล้วชาติหน้าก็มาถึงอย่างรวดเร็วเพราะเป็น ชาติหน้าเหลี่ยม
อย่างไรก็ตามจะเล่นหมากอะไร ขอร้องว่าอย่าเล่นกันเลยเถิดถึงขั้นเป็นการเล่นหมากฮอสส์ แบบ Iron
Horse ซึ่งต้องมีเสียงเพลงปลุกใจดังระงมทุกสถานี และที่น่ากลัวกว่านั้นคือการเล่น หมากเก็บ
แบบผู้เล่นอีกฝ่ายหายไปเฉยๆ.