ผู้เขียน หัวข้อ: 'รุกฆาต' -๑๐- สูญญตาจารย์
ธุลีดิน
'รุกฆาต' -๑๐- สูญญตาจารย์
เมื่อ: 2006-03-03 21:22:52
เช้าวันต่อมา.....
จอมลา ราศีมีน ออกเดินทางแต่เช้า
ลำแสงแรกแห่งวัน กำลังแทรกตัวผ่านม่านเมฆ
หมอกยามเช้า...ทอดตัวอ้อยอิ่ง อยู่บนพรมหญ้า
จอมเร่งฝีเท้าขณะที่แดดยังไม่รุนแรง
สาย ๆ ก็ถึงเขตหมู่บ้าน
จอมแวะเข้าไปหาอาหารรับประทาน
ระหว่างกำลังรับประทานอาหาร ได้ยินโต๊ะข้าง ๆ สนทนา
ข้าได้ยินว่า เมฆาล่องลอย จะผ่านมาทางนี้ เรื่องนี้เจ้าคิดว่าจริงหรือไม่?
เป็นความจริง อีกคนโต้ตอบ ข่าวนี้ข้าได้มาจาก ทำเนียบเซียน เมฆาล่องลอย จะมาคารวะท่านสูญญตาจารย์
เช่นนั้นเราก็ดักคอยท่านอยู่ที่นี่เป็นไง เผื่อจะได้ขอคำชี้แนะสักกระดานสองกระดาน
อืม อีกคนเห็นด้วย
เป็นเหล่านักเดินหมากนั่นเอง
มีคนจากทำเนียบเซียนจะไปคารวะท่านสูญญตาจารย์ด้วยหรือนี่....จอมคิด
จ่ายค่าอาหารเสร็จจอมกำลังจะออกจากร้าน ก็มีชายคนหนึ่งเข้ามาทักทาย
ท่าน เมฆาล่องลอย ข้าพเจ้ามาคอยท่านอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อวาน หวังจะขอคำชี้แนะจากท่านสักกระดาน?
พอได้ยินคำ เมฆาล่องลอย ผู้คนพลันลุกจากเก้าอี้เข้ามารายล้อม
ท่านหมายถึงข้าพเจ้าหรือ
ใช่ท่าน ข้าพเจ้าจำท่านได้ ข้าพเจ้าก็เป็นผู้หนึ่งที่ร่วมชมท่านทำศึกลือลั่นกับ อสูรหล็กไฟ
สะท้านไปทั้งวงการเซียน
ไยเรียกข้าพเจ้าว่า เมฆาล่องลอย
เป็นฉายาที่เหล่าเซียนตั้งให้ท่าน ท่านไม่ทราบหรือ?
ข้าพเจ้ามิทราบ
รบกวนท่านแนะนำข้าสักกระดานเถอะ
กระดานหมากพร้อมชุดหมากรุก ถูกจัดวางบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว ผู้คนรายล้อมเข้าทักทาย
จอมอยากไปให้ถึงสูญญตารามโดยเร็วกลัวจะค่ำ แต่ไม่สามารถปฏิเสธเหล่านักเดินหมาก
จึงร่วมเดินหมากกับพวกเขาหลายกระดาน
ทุกคนช่วยกันออกความเห็นเอาจริงเอาจัง ส่งเสียงดังวิจารย์หมากอย่างออกรสชาติ
คนแล้วคนเล่าผลัดกันเข้ามา แค่ขอให้ได้เดินหมากกับ ระดับเทพ ที่พวกเขาชื่นชม
จนเที่ยงวันจอมเกรงจะมืดค่ำระหว่างทาง จึงขอลาบรรดาเซียนหมาก
มีผู้ต้องการเดินไปส่งจอมให้ถึงสูญญตาราม แต่จอมเกรงจะรบกวน ความสงบของสถานที่
ทั้งหมดเห็นด้วยจึงร่ำลากันที่หมู่บ้าน...พวกเขาบอกว่าจะนัดเจอกันอีกทีวันชิง 'ยอดเซียน'
เพื่อไปให้กำลังใจจอม
จอมถึงสำนักสูญญตาราม ตอนโพล้เพล้
สูญญตาราม เป็นสำนักสงฆ์ แบบวัดป่า รายล้อมด้วยแมกไม้น้อยใหญ่
ยามอาทิตย์อัสดง เสียงจั๊กจั่น ร้องระงม
บรรยากาศยิ่ง สงบ วังเวง
จอมเดินเรื่อย ๆ เข้าไปในเขตสำนักสงฆ์ สองข้างทางครื้มด้วยเงาไม้สูงใหญ่
ยินเสียงพระสวดมนต์ทำวัตรเย็น แว่วมากับเสียงจั๊กจั่นเรไร
จนถึงลานดินกว้าง
มีพระสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา นั่งรายล้อมต้นโพธิใหญ่
จอมขยับเข้าไปนั่งพนมมือสดับเสียงเพลงแห่งพุทธมนต์
จนเสียงสวดเงียบเสียงลง
จอมคลานเข้าไปบอกอุบาสกผู้หนึ่งว่า มาขอพบท่านสูญญตาจารย์
ชายผู้นั้นจึงนำไปหาท่าน
สูญญตาจารย์ เป็นพระสงฆ์ชราที่ผู้คนเคารพนับถือในวัตรปฏิบัติ
ท่านเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการเซียน ด้วยชมชอบเดินหมากมากกว่าท่องบ่นพระคัมภีร์
คัมภีร์สูญญตา ที่ท่านรจนา
ผู้คนกลับคิดว่าท่านซุกซ่อน กลหมากรุก ไว้ในปริศนาธรรม
จนบัดนี้ หามีผู้ใดสามารถเปิดอ่าน
เพราะท่านปิดผนึกไว้ด้วยกลหมากรุกลึกล้ำ หามีผู้ใดสามารถแก้ได้จนทุกวัน
ยิ่งก่อความอยากรู้อยากเห็นให้แก่บรรดานักเดินหมาก
สูญญตารามจึงเป็นเหมือนสถานที่ที่นักเดินหมากใช้ฝึกสมาธิจิตภาวนา
และ มุ่งมาหมายแก้หมากกลของสูญญตาจารย์หวังครอบครอง คัมภีร์สูญญตา
จอมกราบคารวะท่าน แล้วยื่นห่อผ้าให้
ภายในเป็นจดหมายและตัวม้าหมากรุก ที่เทพนิรนามฝากมา
ท่านแก้ห่อผ้า หยิบม้ามาพินิจแล้วยิ้มอ่อนโยน
เจ้าก็คือ เมฆาล่องลอย ที่ผู้คนร่ำลือสินะ
เอ่อ.....ขอรับ จอมรับ ถึงจะเป็นชื่อไม่เคยคุ้น
เทพนิรนามเขาสบายดี?
สบายดีขอรับ
อืม....ได้รู้ข่าวคราวอาตมาก็หายห่วง ตามอาตมาไปที่กุฏิ
เดินทางมาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนก่อน
ขอรับ
สุญญตาจารย์เดินนำจอมฝ่าไปในความมืดเลือนลางของค่ำคืนเดือนแรม
....................................................................................................
......
จ ง ใ ช้ ส า มั ญ สำ นึ ก . . . อ ย่ า ใ ช้ ห ลั ก ก า ร
...........................................................................................เทพประจิม
(ยังมีต่อ)
2006-03-03 21:22:52/ธุลีดิน
ที่มา + อ่านเพิ่มเติม : http://www.winbookclub.com/viewanswer.php?qid=3143