|
|
[ กลับหน้าหลัก ]
กระตุ้นสมองแบบง่ายๆ เพื่อให้ "ฉลาดเลิศ"
กระตุ้นสมองแบบง่ายๆ เพื่อให้ "ฉลาดเลิศ"
http://www.kunkroo.com/brain.html
เราเคยเป็นอย่างนี้กันมาบ้างแล้ว ประเภทลืมส่งการ์ดอวยพรวันเกิดเพื่อน หรือจู่ ๆ ก็เกิดจำ
รหัสกดเงินด่วนไม่ได้ตอนต้องการใช้เงินพอดี ไม่ก็เคยเดินวนเกือบ ทุกชั้นของ ลานจอดรถ
พยายามนึกว่าตัวเองจอดไว้โซน F หรือ G เอ..มาคิดอีกที อาจจะเป็น H หรือไงนะ
ข่าวดีข่าวด่วน นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าเราจะ ฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ ได้ถ้ากระตุ้นสมองถูกวิธี
มาดูกันซิว่าทำอย่างไร
อาการเผลอไผลได้นู่นลืมนี่เป็นที่พูดกันทีเล่นทีจริงว่าก็เซลล์สมองมันเก็บเสื้อผ้ายัด ใส่กระเป๋าทิ้งเรา
ไปแล้วตั้งเยอะ เลยเป็นแบบนี้ ประมาณว่าแก่แล้วเป๋อเหลอนั่นเอง ทฤษฎีที่ว่าเราสูญเสียเซลล์สมอง
หลายร้อยเซลล์ในแต่ละ วันเป็นเรื่อง ที่เรารู้กัน มานาน หลายปี
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเรา จะโทษธรรมชาติไม่ได้อีกแล้ว เพราะนักวิทยาศาสตร์ หลายคนโดดออกมาประกาศก้องว่า
ทฤษฎีเก่าที่ว่าเมื่ออายุ มากขึ้น ศักยภาพของ สมองมนุษย์ ์จะลดลง เป็นความคิดล้าสมัย ความจริงคือ
ตรงกันข้ามสิไม่ว่า
นักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์ความจริงว่าไม่เพียงแต่เราจะไม่สูญเสีย เซลล์สมองเมื่อ สูงวัยขึ้น เท่านั้น
แต่ถ้ามีการกระตุ้นที่ถูกต้อง เราสามารถพัฒนาสมองให้ ฉลาดและคิดได้เร็วขึ้น เราอาจจะ
กลายเป็นนักเขียนและเกิดไอเดียแปลกใหม่ มากขึ้นเมื่อแก่ตัวลง ทุกอย่างอยู่ที่ว่า จะ สร้างเซลล
์สมองได้อย่างไร
เซลล์แต่ละเซลล์ทำงานเป็นระบบโดยตัวมันเอง แต่ก็ พยายามเพิ่ม ศักยภาพ ของตัวเอง ด้วยการเชื่อมต่อ
กับเซลล์ข้างเคียง โดยแตกกิ่งก้าน สาขาออกไปรอบ ด้านเหมือนเครือข่าย ซึ่งการเชื่อมต่อนี้เรียกกันว่า
synapses และจะโยงใย ไปยังเซลล์อื่น ๆ จุดเชื่อมต่อแต่ละจุดมีลักษณะเหมือน ปากปลาหมึก ทำหน้าที่จูจุ๊บ
ข้างในบรรจุด้วยสารเคมีต่าง ๆ หลายพันตัว
เมื่อเราคิดหรือทำอะไร จะทำให้เกิดการกระตุ้นสารเคมีเหล่านี้ ที่มีภาวะแบบ แม่เหล็กไฟฟ้า
การกระตุ้นดังกล่าวจะส่งผ่านไปยังจุดเชื่อมต่อของเซลล์ใดเซลล์หนึ่ง และส่งสารข้ามไปยังจุดเชื่อมต่อ
ของเซลล์ข้างเคียงที่ใช้ปากจูจุ๊บรับข่าวสารไป
เคยคิดกันว่าความสามารถของสมองคนเราถูกกำหนดมาตั้งแต่เกิด จะฉลาดหรือ โง่แต่เกิด ก็แล้วแต่
แต่การค้นพบล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ยิ่งกระตุ้นสมองมากเท่าไหร่ จุดเชื่อมต่อ ของเซลล์ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
ซึ่งหมายถึงแต่ละเซลล์จะสามารถประมวล สัญญาณหรือ ส่งซิกแนลได้หลายทิศทางมากขึ้น และรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
การกระตุ้น สมอง ยังให้ผลข้างเคียงในทางบวกอีกด้วย และส่งผลกระทบ ต่อชีวิตด้านอื่น ๆ ของคุณได้
เพราะเซลล์สมองทำงานร่วมกัน
การกระตุ้นเซลล์บางเซลล์ให้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ช่วยให้สมองทำงานเร็วขึ้น
ดังนั้นการฝึกเล่นเปียโนหรือเริ่มหัดกอล์ฟ อาจทำให ้คุณคิดคำศัพท์เร็วขึ้น เวลาเล่นเกมอักษรไขว้
หรือพูดต่อหน้าผู้คน หรือแม้แต่กระทบ ทักษะด้านอื่น ๆ ที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกันเลย
ออกกำลังบำรุงสมองได้อย่างไร
ไม่เพียงต้องบริหารจิตใจเพื่อให้สมองเฉียบคมเสมอเท่านั้น การออกกำลังทาง ร่างกายก็สำคัญไม่แพ้กัน
แพทย์พบว่าคนที่ออกกำลังสม่ำเสมอจะทำคะแนน ได้ดีในการทดสอบจิตใจ สมองก็คือกล้ามเนื้อส่วนหนึ่ง
เมื่อคุณออกกำลังก็ทำให้ สมองสามารถจัดการปัญหาซับซ้อนและทำงานได้มากขึ้น อาจเป็นเพราะว่าการ
ออกกำลังอย่างต่อเนื่องเพิ่มประสิทธิภาพการส่งผ่านออกซิเจนไปทั่วร่างกาย นอกจากนี้ร่างกายท
ี่ออกกำลังเป็นประจำ จะมีปริมาณเลือดมากกว่า ปกติครึ่งลิตร สำหรับช่วยขัดหาออกซิเจนเพื่อทำงาน
การออกกำลังสม่ำเสมอจึงช่วยได้ดี
กระตุ้นสมองแบบง่ายๆ เพื่อให้ "ฉลาดเลิศ
โมสาร์ทเพิ่มไอคิวให้คุณได้อย่างไร
นักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อกันแล้วว่า การฟังดนตรีบางชนิด สามารถทำให้ เราฉลาดขึ้นได้
นักฟิสิกส์ได้ทำการศึกษาปฏิกิริยาตอบโต้ ของสมองระหว่าง ทำงานที่ให้เหตุผลทางนามธรรม
และพบรูปแบบของปฏิกิริยาที่คล้ายกับดนตรี เขาทดลองต่อไปว่าหาก จัดการฝึกฝน ด้านดนตรี เขาทดลองต่อไปว่า
หากจัดการ ฝึกฝนด้านดนตรีแก่เด็ก ๆ จะปรับปรุง ทักษะการให้เหตุผลของพวกเขา ได้หรือเปล่า
ผลเบื้องต้นออกมาทางบวก คือหลังจาก 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน ของการเล่าเรียน ทักษะ การให้เหตุผล
ของเด็กพัฒนาขึ้นมาก จากผลที่ได้นี้ นักวิจัยตัดสินใจ วิเคราะห์ว่า จะเกิดอะไรขึ้น
กับผู้ใหญ่เมื่อได้ฟังดนตรี นักวิจัยขอให้อาสาสมัคร ฟังบทเพลง 2 ชิ้น คือโซนาต้าบรรเลงเปียโนของโมสาร์ท
และเทปเพลงฟังสบาย ๆ สร้างบรรยากาศอีกม้วน กับให้นั่งอยู่ในความเงียบ จากนั้นให้ อาสาสมัคร
ทำแบบทดสอบการ ให้เหตุผล ผลที่ได้ระบุว่าเพลงของโมสาร์ท ช่วยให้พวกเขา คิดถูก ต้องและรวดเร็วขึ้น
และการทดสอบอีกหลายชิ้นที่แสดง ให้เห็นว่าเพลงของโมสาร์ทมีผลกระทบที่ดีที่สุด ต่อทักษะการให้เหตุผล
โดยนักวิทยาศาสตร์อ้างว่าเราเกิดมาพร้อม รูปแบบของ ธรรมชาติ
บางอย่างในสมองของเราที่สามารถรู้สึกตื่นเต้นได้ และเมื่อเราได้ฟัง ดนตรีของโมสาร์ท ทำให้เราพอใจ
เพราะรูปแบบธรรมชาตินั้นรู้สึกตื่นเต้นอย ู่ในสมองของเราเมื่อเรา ได้ฟังดนตรีของเขา
ป้อนจินตนาการให้โลดแล่น
น้ำนมของมนุษย์ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของสมองทารก ส่วนน้ำนมวัวที่อุดม ด้วยโปรตีน มีไว้สำหรับร่างกาย
และเต็มไปด้วยไขมันอิ่มตัว ที่มีแต่จะทำให้น่องเรา ใหญ่และ แข็งแรง ตรงข้ามกับน้ำนมมนุษย์
ที่แม้จะมีโปรตีน และไขมันอิ่มตัวน้อยกว่า แต่ก็มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวจำนวนมาก
และกรดไขมันเหล่านี้บางตัวเมื่อรวมกับสารอื่น ๆ ที่เรียกว่า cerebroside สำหรับสร้างเนื้อเยื่อ
ของประสาทและสมอง ซึ่งร่างกายมนุษย์ต้องการ เพราะสมองของมนุษย์เติบโตต่อเนื่องตลอด 3 ปี หลังคลอด
ขณะที่สมองของวัวแทบจะไม่เปลี่ยนแปลง พูดสั้น ๆ ก็คือว่าน้ำนมมนุษย์สร้าง สมองให้ใหญ่
แต่น้ำนมวัวทำให้ร่างกายใหญ่เท่านั้น
เกร็ดความรู้ว่าด้วยสมอง
จากการวิจัยพบว่าผู้ที่มีการศึกษาสูง หรือผู้ที่ลับสมองประลอง ปัญญา ตัวเองบ่อย ๆ
จะอายุยืนกว่าผู้ด้อยการศึกษา
ในเวลาแค่ 1 นาที สมองสามารถรับความคิดได้หลายอย่าง ขณะที่เมื่อ เทียบกันแล้ว ความสามารถนั้นต้อง
อาศัยซูเปอร์ คอมพิวเตอร์ ขนาดใหญ่ยักษ์ ความสามารถเลิศล้นที่คงอีก 100 ปี จึงผลิตสำเร็จ ยินดีด้วยจ้า
จากการศึกษาทางเคมีของสมองเมื่อเร็ว ๆ นี้โดยใช้เครื่องสแกนสมอง ศึกษาผู้ร่วมทดลองอายุตั้งแต่ 21-83 ปี
พบว่าสมองของคนชรา ที่มีสุขภาพดี ยังคึกคัก และมีประสิทธิภาพเท่ากับ สมองของคนหนุ่ม ที่มีสุขภาพดี
ผลทดลองประเมินจาก การทำงานของการเปลี่ยนแปลง เซลล์สมองโดยตรง
จากการวิจัยอีกนั่นแหละ พบว่าการที่จะทำจิตใจให้เข้มแข็งได้นั้น
เราต้องกระตือรือร้นพาตัวเข้าสู่สถานการณ์ที่ไม่คุ้นชิน หรือทำอะไร ก็แล้วแต่ ที่ท้าทายสติปัญญา
จะสามารถกระตุ้นให้สมองเติบโตได้ทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม ทายปัญหา เริ่มเรียนเล่นดนตรีสักชิ้น ซ่อมอะไร สักอย่าง ลองทำงานศิลปะ เต้นรำ
ลองลงแข่งเล่นกีฬา หรือแข่ง เล่นเรือใบ และควรจำว่านักวิจัยต่างเห็นพ้องกัน ว่าไม่มีคำว่า สายเกิน ไป
ตลอดชีวิตเรา น่าจะเป็นการเรียนรู้ หาประสบการณ์เพราะ เรากำลัง ท้าทายสมองของตัวเอง และผลที่ได้คือเพิ่ม
รอยหยักให้สมองนั่นเอง
กระตุ้นสมองแบบง่ายๆ เพื่อให้ "ฉลาดเลิศ
ฝึกสมอง ลองปัญญา ฟังเพลงคลาสิก
โดยเฉพาะเพลงของโมสาร์ท เฮย์เดน บาค บีโธเฟ่น มาห์เลอร์ และสตราวินสกี้นึกฝันถึงเรื่องท้าทายแปลกใหม่
ที่เป็นจริงได้ แต่เป็นเป้าหมายที่สูงสักหน่อย สำหรับตัวเอง อาจจะเกี่ยวกับงาน อดิเรกใหม่ ๆ
หรืออาชีพใหม่ หรือหาความรู้ใหม่ ๆ ใส่ตัว และฝึกเล่นกีฬาที่ไม่เคยเล่น ลองเรียนเต้นรำ
เรียนภาษาอีกสักภาษา หรือจะเรียนระบายสีน้ำ หรืออะไรก็ได้ที่ คุณชอบ
สำคัญอยู่ที่ต้องกระตุ้นสมองคุณอย่างสร้างสรรค์
ฝึกบริหารจิตใจ
เช่น เล่นหมากรุก ไพ่ นกกระจอก เกมรูบิก หรือไพ่ เพราะช่วยฝึกสมองของคุณ ให้แก้ปัญหา
เล่นเกมใบ้คำ หรือเล่นเกมอักษรไขว้ทุกวันในหนังสือพิมพ์
กระตุ้นสมองด้วยวิธีใหม่ ๆ
เริ่มด้วยการตั้งสติพยายามจดจำชื่อของคนที่คุณเพิ่งรู้จัก พยายามเชื่อมรูปร่าง
หน้าตาของเขากับชื่อให้ได้ หรือหาจุดเด่นและส่วนที่จำง่ายของเขาไว้สัก
อย่างเพื่อช่วยให้คุณนึกชื่อเขาออก
อาหารสมองกับการออกกำลังเสริมคุณภาพ
ดื่มน้ำ 8 แก้วทุกวัน ส่วนกาแฟและดื่มชาสักหน่อยก็พอจะได้แต่ควรเลี่ยงน้ำตาล กินเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
โดยเฉพาะเครื่องใน เช่นตับและไต เพราะให้สารอาหาร พวกโปรตีน คาร์โบไฮ เดรท แร่ธาตุเหลว
วิตามันและกรดไขมันบางชนิดที่จำเป็น ต่อการฟื้นฟูสภาพของเซลล์ และการหมุนเวียนแร่ธาตุ
ถ้ากินมังสวิรัติก็ให้กินถั่ว เมล็ดข้าวไม่ขัดขาว (ข้าวซ้อมมือ) และใบผักให้มาก ๆ
เพราะอาหารเหล่านี้อุดม ด้วยกรดไขมันที่สำคัญมากมาย กินเนื้อปลา รวมทั้งเนื้อ ปลาติดมัน เช่น ปลาซาร์ดีน
ปลาทูน่า ซึ่งอุดมด้วยกรดไขมันที่ร่างกาย ต้องการ กินผักให้หลากหลาย
เพราะเป็นแหล่งอุดมด้วยวิตามินหลายชนิด รวมทั้งมีไฟเบอร์ และกรมไขมันที่ สำคัญมาก
กินไขมันอิ่มตัวให้น้อยเข้าไว้ แม้จะมีวิตามิน ให้คุณค่าและ ความเอร็ดอร่อยก็ตาม
แต่หน้าที่หลักของไขมันอิ่มตัว คือพลังงานสำหรับร่างกายล้วน ๆ เลี่ยงน้ำตาลและ อาหารสำเร็จรูป
แม้ว่าร่างกายเราจะใช้น้ำตาล (กลูโคส) เป็นพลังงาน แต่ก็ชอบ ผลิตเอาเองจากอาหารที่เรากินเข้าไปมากกว่า
ซึ่งช่วยรักษาระดับน้ำตาล ในเลือด ที่เหมาะสมไว้ด้วย
การใส่น้ำตาลเพิ่มมากเกินไปในอาหารจะทำลายกลไกนี้ ออกกำลังสม่ำเสมออย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์
ประมาณครั้งละ 10-30 นาที ถ้าเบื่อเข้ายิม ก็ลองเดินเร็ว จ็อกกิ้ง เต้นรำ ขี่จักรยาน หรือว่ายน้ำแทน
สมัคร ชมรมว่ายน้ำ หรือชมรมเทนนิส หรือจะเป็น สมาชิกศูนย์กีฬาก็ได้ เพราะการโต ้ตอบสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ
แบบทันทีทันใด ช่วยกระตุ้นสมองได้ดี สังเกตความสัมพันธ์ ระหว่างอาหารที่คุณกินกับการทำงาน
ของสมองว่าเป็นอย่างไร กินอาหารเช้าเป็น ประจำและเลี่ยงงานสังสรรค์ ที่มีของมึนเมาด้วย |
โดย : ลอกมา [ 11/08/2006, 11:00:12 ] |
1
อ่านแล้วได้ความรู้ดีจัง
ขอบคุณค่ะ
|
โดย : มาดามมักซีม [ 13/08/2006, 01:00:14 ] |
2
อัจฉริยะทารก
......เช่นเดียวกับการพัฒนาการทำงานของสมองระดับสูง ทั้งความ สร้างสรรค์ ความทรงจำ และการควบคุมตนเอง
ที่แม้จะเกิดในวัยตั้งแต่ 10 ปีเป็นต้นไป
แต่ทารกวัยละอ่อนแค่ไม่กี่เดือนสร้างรากฐานของทักษะเหล่านี้ได้อย่างน่าอัศจรรย์
อ่านทั้งหมดได้ที่
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURONWIzVXdNakF5TVRJMU5RPT0=§ionid=TURNeE1RPT0
=&day=TWpBeE1pMHhNaTB3TWc9PQ==
สมองมนุษย์จำได้อย่างไร
...........อย่างไรก็ดีความจำระยะสั้นอาจแปรเป็นความจำระยะยาวได้โดยผ่านกระบวนการทวนซ้ำและการเรียนรู้
ข้อมูลนี้ส่งผ่านไปสู่ความจำระยะยาวโดยมีโมเลกุลของสารเคมีเป็นผู้ส่งข้อมูล
โมเลกุลเหล่านี้เคลื่อนจากเซลล์สมองเซลล์หนึ่งไปสู่อีกเซลล์หนึ่ง
แต่ละโมเลกุลจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาเฉพาะอย่าง เพื่อส่งข้อมูลต่อกันไป
ดังนั้นแม้เราอาจลืมหมายเลขโทรศัพท์ที่เพิ่งทราบได้ง่ายๆ
แต่เราก็ยังเก็บมันไว้ในความทรงจำระยะยาวได้ในที่สุดหากจำเป็นต้องใช้ในอนาคต
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าความจำระยะสั้นและระยะยาวนั้นเก็บไว้ในสมองคนละส่วนกัน
ความจำระยะสั้นอยู่ในสมองส่วนกลาง แต่ความจำระยะยาวอยู่ทั่วทั้งสมองส่วนนอก
ดังนั้นหากสมองส่วนในได้รับผลกระทบจากโรคใดโรคหนึ่งหรือจากอาการเส้นเลือดสมองอุดตัน
ก็จะทำให้เกิดอาการความจำเสื่อมได้
แต่ผู้ป่วยมักจะสามารถจดจำเหตุการณ์ต่างๆที่นำไปสู่การสูญเสียความทรงจำได้
เพราะเหตุการณ์เหล่านั้นเป็นส่วนความจำระยะยาว แต่จะจำเรื่องที่เกอดขึ้นใหม่ๆไม่ได้เลย
อ่านทั้งหมดได้ที่ http://www.naewna.com/sport/32355 |
โดย : ขุนสันต์ [ 02/12/2012, 09:01:37 ] |
3
.... เรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ - การนำตัวเองเข้าไปเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ อย่างการเรียนดนตรี เรียนภาษา
หรือทำกิจกรรมใหม่ๆ จะช่วยกระตุ้นให้สมองเกิดการเรียนรู้ ช่วยให้สดชื่น ไม่แก่เร็ว
บางคนบอกว่าควรให้ผู้สูงอายุเรียนภาษาเพื่อไม่ให้ท่านมีอาการหลงลืม ส่วนบางท่านก็เลือกการท่องเที่ยว
เพราะการไปยังที่ ๆ ไม่เคยไปก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกง่าย ๆ ที่ช่วยให้สมองกระปรี้กระเปร่า
ที่เขาเรียกว่าไปพักสมอง ความจริงแล้วเป็นการชาร์จพลังให้สมองต่างหาก
ออกกำลังกายสมอง - นูโรบิคส์ คือการออกกำลังกายสมองที่เน้นการประสานการรับรู้ทั้งห้าของร่างกาย
คือตา หู จมูก ลิ้น สัมผัส และอารมณ์เข้าด้วยกันเพื่อช่วยกระตุ้นให้สมองตื่นตัวและมีการพัฒนา
สิ่งที่นักวิชาการแนะนำคือการทดลองทำสิ่งใหม่ๆ เพิ่มเข้าไปในการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น ปิดตาใส่เสื้อผ้า
รับประทานอาหารโดยไม่คุย หรือทำสิ่งที่แปลกไปจากปกติ เช่น ไปทำงานด้วยเส้นทางใหม่
รับประทานอาหารหรือจับเม้าส์คอมพิวเตอร์ด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด ช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าใหม่ที่ไม่เคยไป
เป็นต้น เพราะการทำอะไรตามความเคยชินนั้นจะทำให้สมองของเราเฉื่อยชาลงเรื่อยๆ
การอ่าน งานอดิเรก และเกมช่วยได้ - มีงานวิจัยรายงานว่าการอ่านหนังสือไม่ว่าแนวไหน
(โดยเฉพาะแนวแฟนตาซี และแนวสืบสวน) การทำงานอดิเรก และการเล่นเกมประเภทครอสเวิร์ดส ต่อคำ
จะช่วยให้ไม่หลงลืมเมื่ออายุมากได้ เนื่องจากสมองได้ทำงาน ใช้ความคิด
นอกจากนี้ยังมีการแนะนำให้ออกกำลังกายนิ้วอยู่เสมอ อาทิ การเล่นเปียโน ดีดกีตาร์
หรือบริหารนิ้วโดยพับข้อนิ้วชี้และนางพร้อมกัน สลับกับพับข้อนิ้วกลางและก้อย
เนื่องจากมือของคนเราเต็มไปด้วยเส้นประสาทและเส้นเลือดที่สัมพันธ์ไปกับการทำงานของสมอง
อ่านทั้งหมดได้ที่ http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9550000146860 |
โดย : ขุนสันต์ [ 03/12/2012, 13:48:59 ] |
|
|
|
E-mail: webmaster@thaibg.com |
Copyright 2002-2024@www.ThaiBG.com (Thailand), All Rights Reserved |
|
|
|
|