|
|
[ กลับหน้าหลัก ]
ใครที่น่าจะถือว่าเป็นคนไทยคนแรกที่เป็นเซียนchess?
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pra01220549&day=2006/05/22
อันนี้เป็นบทความในกรุงเทพธุรกิจครับ
มิติคู่ขนาน
บัญชา ธนบุญสมบัติ / buncht@mtec.or.th
ชีวิตพิสดารของคู่ขนาน อิน-จัน
คนไทยเราคุ้นกับชื่อของอิน-จัน กันพอสมควร แต่หากได้ทราบเกร็ดประวัติของแฝดสยามเพิ่มเติม
ก็อาจจะได้เรียนรู้แง่มุมการใช้ชีวิตที่น่าคิดไม่น้อยทีเดียว
พ่อของอิน-จัน ชื่อ ทีอาย เกิดที่เมืองจีนในสมัยราชวงศ์ชิง แต่อพยพเข้ามาในสมัยรัชกาลที่ 1
โดยมาตั้งหลักปักฐานประกอบอาชีพประมงและค้าขายที่ปากคลอง (แม่น้ำ) แม่กลอง จ.สมุทรสงคราม ส่วนแม่ชื่อ
นาก มีเชื้อสายจีนเพราะมีพ่อเป็นคนจีน ชื่อ นาก นี้สะกดตามจดหมายเหตุของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค)
ส่วนบันทึกของฝรั่งว่า นก (Nok)
แฝดอิน-จัน เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2354 สำหรับชื่ออินกับจันนั้น ฝรั่งมีคำอธิบายต่างกันไป
แต่บันทึกของฝ่ายไทยคือ จดหมายเหตุของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ว่าตั้งตามชื่อ ลูกอินทร์ กับ ลูกจันทร์
ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีลักษณะคล้ายกัน
แล้วทำไมฝรั่งถึงเขียนชื่อ อิน เป็น Eng (เอ็ง) และ จัน เป็น Chang (ชาง) ? ประเด็นนี้ ศาสตราจารย์
ดร.หม่อมหลวงตุ้ย ชุมสาย สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นเพราะสำเนียงจีน ซึ่งทำให้เสียงแม่กน กลายเป็นแม่กง ชื่อ
อิน จึงกลายเป็น อิง ส่วนชื่อ จัน ก็กลายเป็น จัง ฝรั่งได้ฟังก็เพี้ยนต่อไปอีก อย่างไรก็ดี
น่าสังเกตว่าในเวบไซต์ซึ่งจัดทำโดยลูกหลานของคู่แฝดระบุว่า ให้ออกเสียง Eng ว่า In (อิน) และ Chang ว่า
Chun (ชัน) คล้ายกับเสียงที่เราคนไทยเรียก
เด็กแฝดคู่นี้ซนไม่เบา เพราะชอบพากันไต่ขึ้นไปบนเนินเตี้ยๆ กอดกันแน่น กลิ้งลงมา
แล้วหัวเราะลั่นอย่างสนุกสนาน แถมยังเคยเล่นวิ่งข้ามรั้วกัน
แต่ดันมีอยู่ครั้งหนึ่งที่คนหนึ่งข้ามพ้นรั้วไปแล้ว แต่อีกคนยังไม่พ้น
แผ่นเนื้อที่เชื่อมทั้งคู่เข้าด้วยกันซึ่งอยู่แถวๆ หน้าอกส่วนล่างก็เลยพาดค้างอยู่ตรงกลางรั้ว!
อิน-จัน ฉายแววฉลาดให้เห็นบ่อยครั้ง เช่น
เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้เข้าเฝ้า
ฝาแฝดก็นำไข่เป็ดบรรทุกมาในเรือ เพื่อให้แม่ออกนำขายระหว่างที่อยู่ในกรุงเทพฯ
จะได้มีทุนซื้อสินค้าจากกรุงเทพฯ กลับไปขายที่แม่กลอง หรืออย่างตอนที่หมอบเฝ้าฯ อยู่นั้น
ก็ได้กราบบังคมทูลผ่านขุนนางด้วยคำตอบที่เฉลียวฉลาดเป็นที่สำราญพระราชหฤทัย
จนได้รับพระราชทานหีบห่อของรางวัลหลายห่อ พอกลับถึงบ้านก็กลายเป็นคงดังไปทันที
ในปี พ.ศ.2367 พ่อค้าชาวอังกฤษคนหนึ่งชื่อ นายโรเบิร์ต ฮันเตอร์ (Robert Hunter) หรือ 'นายหันแตร'
ได้ไปพบคู่แฝดเข้าระหว่างท่องเที่ยว เมื่อเห็นแฝดอิน-จัน ว่ายน้ำไปขึ้นเรือและพายเรืออย่างคล่องแคล่ว
ก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นที่สุด พร้อมๆ วาดความคิดขึ้นมาทันทีว่า นี่แหละคือ 'สินค้าตัวใหม่' จากแดนสยาม
นายฮันเตอร์เทียวไปเทียวมาเพื่อตีสนิทกับครอบครัวของอิน-จันอยู่ร่วมปี
แต่ในที่สุดด้วยกลวิธีการหว่านล้อมอันซับซ้อน และผลประโยชน์ที่ลงตัวกับนายอาเบล คอฟฟิน (Abel Coffin)
กัปตันเรือสินค้า เดอะชาเคม (The Sachem) ซึ่งขณะนั้นเป็นที่โปรดปรานของเจ้านายในวัง
เขาก็สามารถส่งตัวคู่แฝดออกจากสยามได้เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2372 ขณะนั้นอิน-จัน อายุได้ 18 ปี
การเดินทางใช้เวลาถึง 138 วัน จึงถึงเมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา และที่นี่เองที่คู่แฝดได้เริ่มเปิดตัว
ก่อนจะออกเดินทางแสดงทั่วอเมริกาอีกร่วม 10 ปี (เอกสารบางฉบับบอกว่า ไม่ได้เริ่มที่บอสตัน
แต่ไปตั้งหลักที่แคลิฟอร์เนีย) โดยสัญญาที่ทำไว้กับนายฮันเตอร์และคอฟฟินสิ้นสุดลงเมื่อทั้งคู่มีอายุครบ
20 ปีบริบูรณ์ โดยในช่วง 2 ปีแรก ทั้งคู่ก็ได้รับส่วนแบ่งค่าตอบแทน แต่เมื่อเป็นอิสระ
ทั้งคู่ก็เปิดการแสดงเอง พูดได้ว่า อิน-จัน เป็นคนไทยรุ่นแรกๆ ที่ 'โกอินเตอร์' และโด่งดังไม่แพ้ โทนี
จา + ทาทา ยัง เดี๋ยวนี้แน่
การแสดงของคู่แฝดไม่ได้มีจุดขายอยู่ที่ความแปลกประหลาด แต่อยู่ที่ความสุภาพ ความเฉลียวฉลาด
และความสามารถอันน่าทึ่งของทั้งคู่ เช่น อิน-จัน สามารถตีลังกาไปข้างหน้า-กลับหลังได้พร้อมๆ กัน
และท้าผู้ชมมาดวลหมากกระดานกันสดๆ กลางเวที แถมทั้งคู่ยังมีอารมณ์ขันแบบสุดๆ เช่น
คืนเงินครึ่งหนึ่งให้กับผู้ชมคนหนึ่ง โดยบอกว่าผู้ชมท่านนั้น ดูการแสดงด้วยตาเพียงข้างเดียว!
(ไม่รู้ว่าโฆษณาเมื่อไม่นานมานี้เลียนแบบมุกของอิน-จัน หรือเปล่า)
แฝดอิน-จัน ได้พบเห็นบ้านเมืองและภูมิประเทศต่างๆ มากมาย
พร้อมกับได้เรียนรู้ภาษาและขนบธรรมเนียมของอเมริกันชนจนเจนจบ จนเมื่ออายุได้ 28 ปี ใน พ.ศ. 2382
ทั้งคู่ก็ได้ลงหลักปักฐานที่ตำบลแทรพฮิลล์ (Traphill) อำเภอวิลคส์ (Wilkes) ในมลรัฐนอร์ท แคโรไลนา ณ
ที่แห่งนี้ ทั้งคู่ได้สร้างตำนานการใช้ชีวิตไว้แบบที่ผู้คนทั้งโลกไม่มีวันลืมเลือน
มีเกร็ดเล็กๆ เรื่องหนึ่งซึ่งเล่าว่า เมื่อครั้งที่คู่แฝดถูกถามว่า
“คุณใกล้ชิดกันแค่ไหน?” (หมายถึง สนิทสนมกันแค่ไหน)
จันก็ตอบกลับด้วยไหวพริบอันเฉียบคมทันทีว่า “ก็ราวๆ 4-5 นิ้ว”
ซึ่งหมายถึงความยาวของท่อนเอ็นที่เชื่อมทั้งคู่ไว้ด้วยกันนั่นเอง!
ไว้คราวหน้าจะมาโม้ต่อในเรื่องที่หลายคนอยากรู้ นั่นคือ ชีวิตรักของแฝดสยามคู่นี้
ประตูสู่มิติอื่น
ขอแนะนำหนังสือ คู่กันนิรันดร (Eng & Chang Bunker) เรียบเรียงโดยคุณอริยา จินตพนิชการ บริษัท
กันตนาพับลิชชิ่ง จำกัด (ISBN 974-91-6683-3) และ จิตวิทยาพาเพลิน พิมพ์ครั้งที่ 3 เขียนโดยศาสตราจารย์
ดร. หม่อมหลวงตุ้ย ชุมสาย สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ISBN 974-13-1659-3)
สำหรับเวบซึ่งจัดทำโดยผู้ที่สืบเชื้อสายโดยตรงของแฝดอิน-จัน ให้ไปที่ The Official Page Of Eng and
Chang Bunker ที่ http://engandchang.twinstuff.com/
|
โดย : ขุนสันต์ [ 22/05/2006, 10:41:06 ] |
1
บอกไปขุนสันต์ก็ไม่รู้จักหรอก .... |
โดย : จอมแซว [ 25/05/2006, 15:18:09 ] |
2
ฝีมือระดับเซียน chess
คนไทย ที่ไปแข่ง ต่างประเทศ ระดับโลก
ถือว่าเป็นเซียน
คิดเดาเอาว่า เซียนป่อง เป็นเซียนคนแรกชองไทย ครับ |
โดย : ยอย [ 29/05/2006, 13:40:28 ] |
|
|
|
E-mail: webmaster@thaibg.com |
Copyright 2002-2024@www.ThaiBG.com (Thailand), All Rights Reserved |
|
|
|
|