|
|
[ กลับหน้าหลัก ]
รู้ทันสารพัดภัยออนไลน์ "แชตรูม-เกม-ไอเอ็ม-อีเมล์-ม
1
คอลัมน์ : ชีวิตและสุขภาพ : ข้อแนะนำในการดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อม
ข้อมูลจากข่าวสารกรมสุขภาพจิต ISSN 0125-6475 แนะนำว่า สมัยเมื่ออายุ 40-50 ปี
บางคนรู้สึกว่าความจำเสื่อม พูดหูซ้ายทะลุหูขวา ฟังอะไรก็จำไม่ได้ ต้องทำซ้ำๆ บางครั้งเข้าไปในห้องนอน
ต้องออกมาเป็นรอบที่ 2 ว่าลืมอะไร คิดไม่ออกต้องใช้ระยะเวลา 40-50 นาที
เป็นไปได้ที่วัยกลางคน อาจจะมีสมองเสื่อมไม่ว่าจะจากหลอดเลือดสมองที่ทำงานไม่เต็มที่
หรือเกิดจากสื่อประสาทของสมองเสื่อมจริงๆ สุดท้ายอาจทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์
หากผู้สูงอายุในบ้านป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์และมีความจำเสื่อมอย่างรวดเร็ว
ในการดูแลเบื้องต้นซึ่งญาติอาจต้องพาไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษาและต้องทำความเข้าใจกับโรคนี้ว่า
1.ผู้ป่วยอาจเป็นผู้ที่อายุมากแล้วต้องมีปัญหาของสมอง ให้ตระหนักถึงความเสื่อมที่เปลี่ยนแปลงไป
ญาติมีความจำเป็นที่ต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิด
2.บ้านอาจเป็นบ้านชั้นเดียว หรือมีรั้วรอบขอบชิด ควรวางสิ่งของให้เป็นระเบียบ
เพื่อตัดปัญหาเรื่องการหาของใช้ไม่เจอ อาจมีนาฬิกาเรือนใหญ่ๆ ที่สามารถมองเห็นตัวเลขได้ชัดเจน
รวมทั้งปฏิทินแขวนเอาไว้ใกล้ๆ ด้วย
3.แสงสว่างภายในบ้านต้องพอเหมาะ ไม่สว่างมากเกินไปหรือมืดจนเกินไป
เวลากลางคืนควรเปิดไฟในห้องน้ำเอาไว้ตลอด เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
4.ควรมีการพูดคุยหรือเล่นเกม เล่นหมากรุก ไพ่
ในลักษณะฝึกสมองหรือเปิดเพลงที่ผู้ป่วยชอบเพื่อกระตุ้นความทรงจำ ดีกว่าการให้ดูโทรทัศน์คนเดียวนานๆ
เพราะอาจทำให้บางคนเกิดอาการจิตหลอน
5.ผู้ป่วยบางรายจะมีอาการหลงเวลา เดินออกจากบ้านคนเดียวแล้วกลับไม่ถูก หรือพูดคนเดียว
มีอาการของหูแว่ว ประสาทหลอน ซึ่งจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เรื่องการใช้ยาเพื่อรักษาทางจิตอื่นๆ ช่วยด้วย
6.การจัดการดูแลของญาติพี่น้อง ต้องพูดคุยตกลงกันในเบื้องต้นว่า
คนในบ้านมีปัญหาของโรคความจำเสื่อม ต้องปรับเปลี่ยนกันอย่างไรในการจัดการดูแล
ในการดูแลผู้ที่มีปัญหาเรื่องสมองต้องมีความอดทน
และมีความพยายามอย่างมากเพราะเขาเหล่านั้นไม่ได้เสแสร้ง หรือแกล้ง
แต่ต้องเข้าใจเสมอว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงของวัยตามกาลเวลา สมองก็ต้องเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน
การควบคุมอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญ อย่าพูดจาก้าวร้าว อย่าโต้ตอบเพราะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง
หากเมื่อเขาใจร้อนอยากจะทำอะไรให้รวดเร็ว ญาติควรให้กำลังใจพร้อมกับพูดคุยด้วยอย่างสม่ำเสมอ
เหนือสิ่งอื่นใดที่สำคัญคือไม่โกรธ ไม่ตอกย้ำการกระทำ ให้อภัย
และอธิบายให้ญาติพี่น้องผู้ใกล้ชิดเข้าใจ เพื่อช่วยกันดูแลเพราะนี่คือคนใกล้ตัวและคนที่เรารัก
น.พ.สุรพงศ์ อำพันวงษ์
จากบ้านเมือง 15 พฤษภาคม 2549
|
โดย : ขุนสันต์ [ 22/05/2006, 23:19:47 ] |
2
อวตาร" สื่ออารมณ์จำแลง
ที่มา: นิตยสาร Wired
โปรแกรมรับส่งข้อความทันใจ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า "ไอเอ็ม" (instant messaging-IM)
เป็นหนึ่งในเครื่องมือสื่อสาร ที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์หลายล้านคนทั่วโลก พากัน "ติดหนึบ"
ไปอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุที่โปรแกรมที่ว่านี้ รับส่งข้อความได้ด่วนทันใจสมชื่อ
จนแทบไม่ต่างอะไรกับการสนทนากันตัวต่อตัว
โดยจากผลการศึกษาของ คอมสกอร์ มีเดียมีทริกซ์ ระบุว่า ทุกวันนี้
มีคนใช้โปรแกรมไอเอ็มเป็นประจำสม่ำเสมออยู่กว่า 250 ล้านคน ขณะที่ทางไอดีซีก็คาดประมาณว่า ทุกๆ
วันจะมีการส่งข้อความทันใจสูงกว่า 7 ล้านครั้ง และนางคริสต้า โธมัส
ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารองค์กรของเอโอแอล ก็ช่วยยืนยันว่า โดยเฉลี่ยแล้วลูกค้าเอโอแอล
มักจะเปิดโปรแกรมแชททิ้งไว้ ราว 6 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว
เผยโฉมอวตารกราฟฟิก
แต่ปัญหาหลักของโปรแกรมตัวนี้ก็คือ จะสามารถรับส่ง "ข้อความ" ธรรมดาทั่วไป
ซึ่งอาจจะทำให้การสนทนาขาดอรรถรสไปมากพอสมควร แถมบางที ยังอาจเกิดความเข้าใจผิดขึ้นมาได้ง่ายๆ
ด้วยเหตุที่แต่ละฝ่าย ไม่รู้ว่าคู่สนทนาของตัวเอง รู้สึกอย่างไรกันแน่
ในช่วงหลังๆ จึงเริ่มมีผู้เข้ามาสร้างสีสันให้แก่บริการตัวนี้ โดยการพัฒนาเครื่องหมาย
"อิโมติคอนส์" (emoticons) หรือภาพการ์ตูนเล็กๆ จำพวกรูปหน้ายิ้ม หรือหน้าบึ้งขึ้นมา
เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสื่ออารมณ์ของตนต่อคู่สนทนาขึ้นมาได้บ้าง
แต่พัฒนาการล่าสุดของโปรแกรมไอเอ็มในขณะนี้ ได้ก้าวหน้ามาถึงการนำตัวการ์ตูนภาพกราฟฟิก หรือ
"อวตาร" เข้ามาสวมบทเป็นคู่สนทนาแต่ละฝ่ายแล้ว โดยที่เจ้าของตัวอวตาร
สามารถที่จะตกแต่งหรือดัดแปลงตัวการ์ตูนเหล่านั้น ให้เป็นไปตามที่ตนต้องการได้ทันที
สร้างคู่สนทนาเสมือนจริง
โปรแกรมสนทนาแบบอวตารในขณะนี้ เริ่มมีผู้ให้บริการกันหลายเจ้าแล้ว ตัวอย่างเช่น โปรแกรมสนทนา 3 มิติ
แบบเต็มรูปแบบ "ไอเอ็มวียู" (IMVU) และ ไอคอน "ซูเปอร์บัดดี้ 3 มิติ" (SuperBuddy)
ของเอโอแอล
บริการของ ไอเอ็มวียู ก็คือ การเปลี่ยนโปรแกรมไอเอ็มธรรมดา อย่างเอโอแอล, เอ็มเอสเอ็น, ไอซีคิว และยาฮู
ให้เป็นโปรแกรมแชทแบบอวตาร ด้วยการเปลี่ยนฉากหลังให้เป็นภาพ 3 มิติ และสร้างการ์ตูนภาพกราฟฟิก
ขึ้นมาแทนคู่สนทนาแต่ละฝ่าย ผู้ที่อยากจะลองใช้โปรแกรมตัวนี้ สามารถดาวน์โหลดอวตารตัวแรกได้ฟรี
แต่ถ้าหากอยากจะนำเสื้อผ้าใหม่ๆ เครื่องประดับ หรืออุปกรณ์ต่างๆ มาตกแต่งตัวการ์ตูนของตน
ก็จะต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อในราคาราวชิ้นละ 99 เซนต์
โดยโปรแกรมดังกล่าว จะเป็นโปรแกรมลูกข่าย ที่เข้ามารองรับแอพพลิเคชั่นไอเอ็มหลัก
ไม่ว่าจะเป็นเอ็มเอสเอ็นหรือยาฮู ต่ออีกทีหนึ่ง
"ไอเอ็มวียู ทำให้คุณรู้สึกว่า คุณกำลังอยู่ต่อหน้าคนที่คุณสนทนาด้วย คิลเลอร์ แอพพลิเคชั่นตัวนี้
ช่วยให้คุณรู้สึกว่า คุณกำลังอยู่กับคนที่สนทนาด้วยจริงๆ" นายวิลล์ ฮาร์วี่ย์
ผู้ออกแบบโปรแกรมกล่าว
เชื่อเปลี่ยนโฉมไอเอ็ม
ส่วนไอคอน 3 มิติ "ซูเปอร์บัดดี้" ของเอโอแอลนั้น เป็นหน้าต่างที่โผล่ขึ้นมาข้างๆ
หน้าต่างสนทนาปกติ ตัวอวตารบนหน้าต่าง จะแสดงอารมณ์ตามที่ผู้ใช้ออกคำสั่ง จริงๆ แล้ว
เอโอแอลเปิดให้บริการตัวนี้มาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่ก็ยังนับว่าตามหลังยาฮู และไอซีคิว อยู่ดี
"นี่คือสีสันของการสนทนา" นางดรูว์ วีเวอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดด้านการทักทายและแสดงอารมณ์
ของเอโอแอลกล่าว "โปรแกรมเหล่านี้ ช่วยเพิ่มความสนุกสนาน และการมีปฏิสัมพันธ์ให้กับบทสนทนา
โดยที่ผู้พูดไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันต่อหน้าจริงๆ"
แต่ถึงจะเป็นเพียงแค่ตัวการ์ตูน ก็นักวิเคราะห์หลายรายให้ความเห็นว่า เจ้าเทคโนโลยีตัวนี้
อาจจะมีบทบาทในการพลิกโฉมการสนทนา ผ่านโปรแกรมไอเอ็มครั้งใหญ่ก็ได้
เปิดทางรับรู้อารมณ์
"สิ่งที่สามารถสื่อสารได้ยากที่สุด ก็คือ "อารมณ์" ปัญหาของผู้ใช้ไอเอ็มส่วนใหญ่ก็คือ
พวกเขามักได้รับสารที่ไม่ชัดเจน หรือตีความหมายในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดไปผิดๆ เนื่องจากการสนทนานั้น
ไม่ได้มีภาษาท่าทางร่วมด้วย" นายเจฟฟ์ เฮสเตอร์ เจ้าของเวบไอเอ็ม บิ๊กบลูบอลล์ ดอท คอม กล่าว
"เมื่อตัวอวตารเหล่านี้ ได้รับการพัฒนาให้สามารถแสดงออกทางอารมณ์ได้ลื่นไหลมากขึ้น
รูปแบบการสนทนาในอนาคตก็จะเปลี่ยนไป"
พร้อมทั้งย้ำว่า "ภาพเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณจะปฏิบัติต่อคนอื่น เหมือนกับว่าเขาเป็นคนจริงๆ
มากกว่าการเห็นเฉพาะชื่อบนหน้าจอ" นายเจฟฟ์ เฮสเตอร์ เจ้าของเวบไอเอ็ม บิ๊กบลูบอลล์ ดอท คอม กล่าว
ขณะที่นายฮาร์วี่ย์ ผู้คิดค้น IMVU ยังเชื่อว่า โปรแกรมตัวนี้
อาจจะทำให้คู่สนทนามีมารยาทต่อกันมากขึ้นก็ได้
"ถ้าคุณเคยเล่นเกมทั่วๆ ไป บนอินเทอร์เน็ต อย่างเช่น หมากรุก หรือเกมหัวใจ คุณจะรู้ดีว่า
ผู้เล่นแต่ละฝ่ายจะรู้สึกห่างเหินกัน หรืออาจมีการแสดงความหยาบคายต่อกัน" นายฮาร์วี่ย์กล่าว
"แต่คนที่เคยพูดคุยผ่านทางโลกเสมือนจริง จะรู้ว่าเมื่อเราสื่อสารกับตัวอวตาร
เราจะทำตัวต่างออกไปจากการปฏิสัมพันธ์โดยเห็นข้อความบนหน้าจออย่างเดียว"
หวังเพิ่มมารยาทออนไลน์
ส่วนนางเยล จิวอน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของไอซีคิว กล่าวว่า ตนคงไม่ไปไกลถึงขนาดกล่าวว่า
การแชทด้วยตัวอวตารจะทำให้คนแปลกหน้ามีความเคารพต่อกันมากขึ้น แต่อย่างน้อย ก็น่าจะทำให้ผู้ใช้
ใส่ใจกับคนที่ตนเพิ่งรู้จักมากขึ้น
"ถ้ามีคนที่ไม่ได้อยู่ในบัดดี้ ลิสต์ เขียนข้อความถึงคุณ" นางจิวอนกล่าว
"ถ้าคุณเห็นตัวอวตารของเขา หรือเห็นหน้า
คุณจะเกิดความรู้สึกว่าต้องปฏิบัติต่อเขาในฐานะที่เป็นคนคนหนึ่ง
แทนที่จะเป็นการปฏิบัติต่อข้อความเฉยๆ"
และสุดท้าย ก็คงหนีไม่พ้นผลประโยชน์ทางธุรกิจ ที่ผ่านมา โปรแกรมไอเอ็มส่วนใหญ่ จะให้บริการฟรี
แต่โปรแกรมแชทระบบอวตาร ของเอโอแอล และไอเอ็มวียู
ต่างก็ตั้งเป้าจะสามารถหารายได้จากคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้ด้วย
"โมเดลธุรกิจของ ไอเอ็มวียู น่าจะสมเหตุสมผลที่สุด" นายเฮสเตอร์กล่าว
"คือให้ลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์ได้ฟรี แต่คิดเงินจากอุปกรณ์เสริมต่างๆ จากผู้ใช้ที่ต้องการตกแต่งตัวละคร
ตามที่ตัวเองต้องการ"
\จากกรุงเทพธุรกิจhttp://www.bangkokbiznews.com/scitech/2004/0904/news.php?news=column_14770512.html |
โดย : ขุนสันต์ [ 15/06/2006, 01:09:16 ] |
|
|
|
E-mail: webmaster@thaibg.com |
Copyright 2002-2024@www.ThaiBG.com (Thailand), All Rights Reserved |
|
|
|
|