[ กลับหน้าหลัก ]


คำนวณดู....



หลังจากทำงานผ่านไปได้ 2 ปี

หนุ่มคนหนึ่งก็เริ่มสงสัยว่า ทำไม๊ทำไม

เค้าไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง และไม่ได้ขึ้นเงินเดือนเลย


เช้าวันหนึ่งเค้าตัดสินใจเข้าไปพบผู้จัดการแผนกบุคคลและคุยเกี่ยวกับเรื่อง
นี้

เมื่อฝ่ายบุคคลได้ฟังข้อสงสัยของเค้า
จึงได้หัวเราะเชิญให้เค้านั่งลงและพูด
ว่า



บุคคล: นี่คุณ คุณจะให้ผมขึ้นเงินเดือนให้คุณได้ยังไง
ในเมื่อคุณไม่ได้ทำ
งานที่นี่เลยแม้แต่วันเดียว

ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็ตกใจมาก
แต่ฝ่ายบุคคลก็ยังคงใจเย็นและอธิบายต่อไป

บุคคล: ไหนคุณตอบคำถามผมหน่อยสิ ในหนึ่งปีมีกี่วัน

ชายหนุ่ม : 365 วัน และบางปีก็ 366 วันครับ

บุคคล : แล้วในหนึ่งวันมีกี่ชั่วโมง

ชายหนุ่ม : 24 ชั่วโมง

บุคคล : แล้วในหนึ่งวัน คุณทำงานกี่ชั่วโมง

ชายหนุ่ม : 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น มีพัก 1 ชั่วโมง ....... ทำ 8
ชั่วโมง
ครับ

บุคคล : อาฮะ .... แสดงว่า คุณทำงานเท่าไหร่ต่อหนึ่งวัน

ชายหนุ่ม : ก็ทำ 8/24 ชั่วโมง ก็แปลว่า 1/3 ก็คือทำงาน 1 ใน 3
ของวันครับ
ผม

บุคคล : โอเคขอบคุณมาก งั้นลองมาคิดต่อนะ คุณทำงาน 1 ใน 3 ของ 366 วัน
แสดงว่าคุณทำงานกี่วัน

ชายหนุ่ม: 1 ปี ผมทำงาน 122 วันครับ ( 366 หาร 3 = 122 วัน)

บุคคล : เอาล่ะ ปกติคุณมาทำงานวันเสาร์อาทิตย์ด้วยรึเปล่า

ชายหนุ่ม : ไม่ได้มาครับ

บุคคล : แล้วปีหนึ่งมีวันหยุดสุดสัปดาห์กี่วัน

ชายหนุ่ม : มีวันเสาร์ 52 วัน วันอาทิตย์ 52 วัน รวมเป็น 104 วันครับ

บุคคล : 1 ปี คุณว่าคุณทำงานจริง 122 วัน แต่มีเสาร์อาทิตย์อีก 104
วัน
งั้นตกลงคุณทำงานกี่วัน

ชายหนุ่ม : 122 – 104 = 18 วันครับ (เสียงเริ่มอ่อย)

บุคคล : โอเค .. ปกติผมอนุญาตให้คุณลาป่วยได้ปีละ 2 อาทิตย์ ซึ่งก็คือ
14
วัน
ตกลงตอนนี้คุณเหลือเวลาทำงานกี่วัน

ชายหนุ่ม : 18 – 14 = 4 วันครับ

บุคคล : แล้ววันปีใหม่คุณมาทำงานมั๊ย

ชายหนุ่ม : ไม่ครับ

บุคคล : วันแรงงานล่ะ

ชายหนุ่ม : ไม่ครับ

บุคคล : ตกลงเหลือกี่วัน

ชายหนุ่ม : 2 วันครับ

บุคคล : วันพ่อมาทำงานมั๊ย

ชายหนุ่ม : ไม่มาครับ

บุคคล : ตกลงเหลือกี่วันแล้ว

ชายหนุ่ม : 1 วันครับ

บุคคล : แล้ววันแม่ล่ะ หยุดมั๊ย

ชายหนุ่ม : หยุดครับ

บุคคล : ตกลงปีนึงคุณทำงานให้บริษัทกี่วันเนี๊ยะ

ชายหนุ่ม : ไม่ได้ทำเลยครับ!!!

บุคคล : อ้าว !! .. แล้วนี่คุณจะมาเรียกร้องอะไรอีกเนี๊ยะ

ชายหนุ่ม : ผมเข้าใจแล้วครับ ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าทุกวันนี้
เงินเดือน
ที่ผมได้
เหมือนกับขโมยบริษัทมาเปล่าๆเลยครับ

โดย : มาดามมักซีม Member - [ 27/12/2005, 20:51:35 ]

1

ดีดีคิดได้ไง
แบบชอบมาก

โดย : MOHO Member   [ 27/12/2005, 21:10:39 ]

2

เอา122-104ไม่ได้น่ะ
ต้องเอา366-104 ก่อน
แล้ววันหยุดก็เอามาลบไม่ได้น่ะ
เพราะอันนี้เราคิดจากเวลาทำงาน 1/3 ก็ถือว่าเต็มวันอยู่ดี
ดังนั้นจะได้366-104=262
แล้วค่อยลบวันหยุด
เสร็จแล้วถ้าอยากจะหาว่าจำนวนชั่วโมง เป็นกี่วัน
ค่อยเอา 1/3 มาคูณครับ
ปกติปีหนึ่งทำงานทุกวันเว้นเสาร์อาทิตย์ ก็จะได้
262/3 คือประมาณ 88 วันอยู่ดี

แต่ก็อ่านสนุกดีครับ

โดย : zen_ar218 Member   [ 27/12/2005, 21:22:46 ]

3



อิอิ......

ขอบคุณจ้ะท่านเซน

อิอิ

โดย : มาดามมักซีม Member   [ 27/12/2005, 21:53:39 ]

4

รู้สึกว่าจะผิดพลาดตรงที่
วันที่ทำงานคิดบวกแค่ 1 ใน 3
แต่วันหยุดจะลบไป 1 ไม่มีการหารน่ะคับ
อ่านเที่ยวแรกเล่นเอางงไปเลยเหมือนกันคับ

โดย : ดาบคลื่น Member   [ 27/12/2005, 23:21:29 ]

5

ฮาๆๆๆ มากมาย
ขออีกอ่ะ น้องมาดาม

โดย : ไร้น้ำตา Member   [ 28/12/2005, 10:39:20 ]

6

โห นายจ้างนี่หัวหมอจริงๆ แต่สงสัยจะตกวิชาเลขเลยคำนวณออกมาแบบนี้ แต่ก็ขำดี 555+

โดย : Thunder_1 Member   [ 28/12/2005, 12:27:03 ]

7



อิอิ..

เกมกลตัวเลข
คิดดีๆ จะถึงบางอ้อจ้ะ คุณเต้ย

อิอิ

โดย : มาดามมักซีม Member   [ 29/12/2005, 00:19:57 ]

8

55555โหยยยๆๆสุดยอดดคิดได้ไงค่ะ อิอิ คริคริคิ

โดย : โทปาส Member   [ 18/02/2006, 05:54:13 ]

9



สงสารพนักงานบริษันี้จริงๆ อิอิ

โดย : กิ้ม Member   [ 19/02/2006, 07:54:41 ]

10

แบบนี้ไปขายข้าวเหนียวส้มตำดีกว่ามาทำงานบริษัทแฮะ

โดย : puma_16 Member   [ 20/02/2006, 21:24:34 ]

11



น่าสงสารพนักงานจังเนอะ
เจอคนหัวหมอแบบนี้..เศร้าเลย
หุหุ

ช่างสรรค์หาจังค่ะ มาดาม

โดย : สายลม_พัด Member   [ 21/02/2006, 16:48:08 ]

12



แหะๆ

โดย : มาดามมักซีม Member   [ 26/03/2006, 23:46:17 ]

13

๕๕๕ ไหงงั้นหล่ะเพ่เซน

โดย : yaiikaew Member   [ 27/03/2006, 02:26:06 ]

14

วิชา เคมี

ความรักนั้น เหมือนเคมี ไม่มีผิด สารทุกอัน ทุกชนิด คือเหตุผล
เอา โซเดียม คลอไรด์ ลงน้ำวน คือเศษเกลือ ในสายชล ที่วนไป
แอลเอสอง โอสาม ไอ ออนิก
ซัลฟิวริก โคเวเลนต์ ไม่สงสัย
น้ำน่ะเป็น H-bond ก็แล้วไง แต่ หัวใจ ฉันไปเป็น พันธะเธอ
หนึ่งโมลนั้น มีอะตอม อยู่หลายล้าน มาประสาน กลายเป็นธาตุ หนึ่งโมลเหรอ
เธอรวมกัน กลายเป็น สิ่งฉันเจอ สมดุลความรัก เสมอภายในใจ
แอลเคนเป็น พันธะหนึ่ง อยู่เสมอ เหมือนกับชั้น รักเธอ ไม่ หวั่นไหว
แต่เธอเป็น แอลคีน มีสองใจ บางครั้งเป็น แอลไคน์ ใจสาม อัน
เธอเป็นกรด ชั้นเป็นด่าง ก็ไม่แปลก อาจแตกแยก เรื่องของค่า pH นั่น
แต่พอลอง ผสมกัน ดูซักวัน ปฏิกิริยา รักกัน เกิดทันตา
ค่าIE คือค่าที่ ดึงอิเล็กฯ Eศูยน์มา นั่งเช็ค ศักย์ไฟฟ้า
แต่ OU คือค่า อะไรหว่า อ๋อรู้แล้ว มันคือค่า Only You.
เอากระดาษ ลิตมัส ไว้ตรวจกรด ยังไม่หมด ฟินอลเรด ตรวจด่างอยู่
อินดิเคเตอร์ ตัวไหน จะตรวจรู้ เอามา ให้ ฉันเช็คดู หัวใจก่อน
กราฟอันนี้ บอกถึงการ สลายพันธะ มันต้องจะ ปฏิกิริยา ดูดความร้อน
กราฟอันนี้ บอกฉัน ใจสั่นคลอน มันยอมอ่อน ให้เธอ ในทุกที
ใส่ตัวเร่ง ให้มัน ทำเร็วขึ้น ใส่ใจจึง ให้รัก อย่างเร็ว รี่
อยากบอกเธอว่ารัก ทุกนาที คาตาเลส ที่ดี คือใส่ใจ
เธอรักัน เป็นสมดุล เลื่อนข้างหน้า ฉันกลับมา รักเธอ ย้อนกลับไหม
ค่าคงที่ สมดุล น่าพอใจ ค่าKนั้น มันคือใจ ส่งให้กัน
เอา Li ลบด้วย i ไปอีกหนึ่ง อ๊อกซิ เจน พึงเป็นO ร่วมโครงการ
วาเนเดียม ตัวV กับพลังงาน(E) รวมประสาน กลาย เป็น LOVEคือรัก เอย

โดย : มาดามมักซีม Member   [ 27/03/2006, 22:35:45 ]

15

Rich & Poor อ่านแล้วรู้สึกดีมาก ๆ



มหาเศรษฐีเกือบจะชราผู้หนึ่งสุดแสนจะภูมิใจที่ลูกชายวัยห้าขวบของเขากำลังจะได้

เข้าเรียนในโรงเรียนชื่อดัง ซึ่งระดับเศรษฐีอย่างพวกเขาเท่านั้น

จึงจะมีปัญญาส่งลูกหลานเข้าเรียนใน โรงเรียนนี้ได้

โดยส่วนตัวของเขาเองก็อยากจะสอนให้ลูกชายรู้จักกับชีวิตจริงในโลกควบคู่ไปกับ

การสอนทฤษฏีในโรงเรียน

ในวันหยุดเขาจะตระเวนพาลูกชายคนเดียวไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ

แล้ววันหนึ่งเขาก็คิดถึงหัวข้อการสอนเรื่อง ”ความยากจน”

เพราะเขามีความเชื่อว่าลูกชายของเขาคงไม่มีวันรู้จักแน่นอน

เขาจึงพอลูกชายไปเยี่ยมครอบครัวชาวนาครอบครัวหนึ่ง

และพักอยู่กับชาวนาเป็นเวลา 1 วัน 1 คืน

เมื่อกลับถึงคฤหาสน์ของเขาในวันต่อมามหาเศรษฐีก็จะทดสอบว่า

ลูกชายได้อะไรบ้างจากการไปพักแรมกับชาวนาผู้ยากจน

ลูกชายตอบคำถามผู้เป็นบิดาว่า

เขาขอขอบคุณเป็นอย่างมากที่ได้พาเขาไปพบกับชาวนา

และพักแรมที่นั่น
ซึ่งทำให้เขาได้พบว่า....ชาวนามีที่ทำงานเป็นท้องนาที่กว้างใหญ่

ในขณะที่พ่อมีเพียงห้องสี่เหลี่ยมที่ว่ากว้าง

แต่ก็ยังน้อยกว่าห้องทำงานของชาวนา

อาหารที่ชาวนารับประทานสามารถหาได้ตลอดเวลารอบๆบริเวณบ้านโดยไม่ต้องซื้อหา

ในขณะที่บ้านของเรามีตู้เย็นเท่านั้นที่เป็นที่เก็บอาหาร

เวลารับประทานอาหารก็มีเพื่อนคุยอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก

ในขณะที่ตัวเองก็ต้องนั่งทานอาหารกับโต๊ะอาหารที่ยาวเกือบสิบเมตร

และมีเก้าอี้ว่างเปล่าทั้งสองด้าน

ลูกชาวนาที่ซ้อนท้ายจักรยานของพ่อเขาต้องกอดเอวพ่อให้แน่น

เพื่อจะได้ไม่ตกจากจักรยาน

แต่เขาเองต้องนั่งในรถที่ใหญ่โตอยู่ข้างหลังเพียงลำพังโดยมีคนขับรถพาไปทุกที่

ชาวนามีแสงดาวแสงจันทร์เป็นโคมไฟส่องสว่างตลอดเวลาในเวลากลางคืนโดยไม่ขาดแคลน

แต่เขาก็มีเพียงแสงจากโคมไฟที่ต้องซื้อด้วยเงิน

.........ชาวนามีรั้วบ้านเป็นแม่น้ำภูเขาที่กว้างสุดลูกหูลูกตา

แต่เขาเองกลับมีเพียงแค่กำแพงบล๊อคในพื้นที่ไม่กี่ไร่

ลูกชาวนาได้มีเพื่อนเล่นเป็นจิ้งหรีดหิ่งห้อยนับร้อยนับพัน

แต่เขาเองกลับไม่มีใครเลย

เขาขอบคุณพ่ออีกครั้งที่ทำให้เขารู้คำตอบว่า.....จริงๆ
แล้ว.......เรายากจนกว่าชาวนามาก

โดย : มาดามมักซีม Member   [ 27/03/2006, 22:38:09 ]

16



" พระเจ้าให้มา ทำไมไม่ใช้ให้เป็นประโยชน์ "

เกือบทุกวัน ฉันจะต้องไปขึ้นรถเมล์ ที่ป้ายรถเมล์บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลพระมงกุฎ
ซึ่งเป็นป้ายรถเมล์ที่มีคนตาบอดมาใช้บริการเยอะมากๆ เห็นทุกวัน วันละหลายๆคน ซึ่งก็จะมีคนใจดี
คอยช่วยดูรถ พาขึ้นรถ และพาข้ามถนน อยู่เป็นปกติ

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 มีนา)
ด้วยความที่เป็นที่ไม่ค่อยจะมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับคนแปลก ซักเท่าไหร่
ไม่คุยก่อน ไม่สนใจ และ ฉันจะอยู่ของฉันคนเดียว คนอื่นอย่ามายุ่ง
ทุกครั้งที่ต้องใช้บริการรถสารธารณะ จะมีหูฟังติดอยู่ที่หูตลอดเวลา


เพื่อฟังเพลง - แก้เหงา - คลายเครียด และ ฟังเสียงดังมากๆนั่งรอรถเมล์ (พร้อมหูฟัง)ไปได้ซักพัก
ก้อได้ยินเสียงแว่วซ้อนกับเสียงเพลงขึ้นมา "ขอโทษนะคะ" --- "ขอโทษนะคะ" ---
"ขอโทษนะคะ" ---- "ขอโทษนะคะ" ---- "ขอโทษนะคะ" ประมาณ 5-6 ครั้ง
ถึงได้รู้สึกตัวว่า มีคนพูดกับเรา ก็เลยตกใจ แล้วรีบหันไปดู พร้อมกับพูดกับว่า " คะ? "

มีผู้หญิงคนนึงยืนอยู่ห่างจากที่ที่ก้อยนั่งไม่มากนัก
แล้วเธอก็พูดว่า " ขอโทษนะคะ ถ้ารถเมล์สาย 12 มา ช่วยบอกหน่อยได้มั๊ยคะ"

- -' พอผู้หญิงคนนั้นพูดจบ ---> ความรู้สึกตอนนั้น คิดว่า เราต่างหากที่เป็นคนพิการ ไม่ใช่เค้า
แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา :'(



-- สิ่งที่มีค่า ที่สุดของการมีชีวต คือ เกิดมาครบ 32 !! จริงมั๊ยคะ? พระเจ้าให้เราเกิดมาแบบคนปกติ -
มีอวัยวะครบ และ ใช้ได้ทุกส่วน แต่เรากลับทำให้ตัวเองกลายเป็นคนพิการ
หูที่จะได้ยิน-ฟังเสียงของผู้คนรอบข้าง ก็เอาหูฟังมาปิดไว้ --> กลายเป็นคนหูหนวก
ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นตาบอด จึงต้องพยายามเปิดหู ให้ได้มากที่สุด

ใครกัน __ ที่เป็นคนพิการ ?

---------------------------------------



แค่.. ลดโลกส่วนตัวลงซักนิด , เปิดใจ-เปิดหู รับฟังคนใกล้ตัว

และคนรอบข้างให้มากขึ้น โอกาศที่เราจะมี "ความสุขใจ" ก็มากขึ้นตามไปด้วย

ฟังเพลง ช่วยให้ คลายเครียด แต่ "ความสุขใจ" จากการได้ช่วยเหลือคนอื่น

ที่ด้อยกว่าเรา "ยิ่งใหญ่" กว่าการได้ฟังเพลงเพราะๆ มากมายนักค่ะ ^_^

ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการใช้ชีวิตนะคะ

โดย : มาดามมักซีม Member   [ 29/03/2006, 11:12:50 ]

17

อืม ดีดี อย่าทำตัวและใจให้พิการ

โดย : sale Member   [ 29/03/2006, 11:46:20 ]

18



เป็นอะไรที่แปลกมาก!
คณิตศาสตร์ง่าย ๆ แต่มันแปลกดีนะ...
แบบฝึกหัดนี้จะใช้เวลาไม่นาน.....แค่ 30 วินาที


ที่ต้องทำก็คือ ทำตามคำสั่งในที่มีอยู่ในแต่ละหน้า

อย่าขี้โกงข้ามไปข้อสุดท้ายก่อนหล่ะ หมดสนุกกันพอดี
เตรียมเครื่องคิดเลขไว้ด้วยก็ดี




1.อันดับแรก
ลองกำหนดสิว่า

คุณอยากออกไปทานข้าวนอกบ้านสัปดาห์ละกี่ครั้ง?




2. เอาจำนวนครั้งที่ได้ คูณด้วย 2




3. แล้วบวกมันด้วย 5





4. คูณมันอีกทีด้วย 50




5. ถ้าปีนี้ วันเกิดคุณผ่านไปแล้ว ให้บวกด้วย 1756

ถ้าวันเกิดคุณปีนี้ยังมาไม่ถึง ให้บวก 1755



6.ขั้นตอนสุดท้ายแล้วหล่ะ: หักปีค.ศ.ที่คุณเกิดออกจากจำนวนนั้น
เช่น ค.ศ 1941ม 1973 เป็นต้น)




ถึงตรงนี้ คุณต้องได้ตัวเลข 3 หลักใช่มั้ย?




ตัวเลขตัวแรกของเลข 3 หลักที่คุณได้:




จะคือจำนวนครั้งต่อสัปดาห์ที่คุณกำหนดไว้ตอนแรกว่าเป็น
จำนวนครั้งที่คุณอยากออกไปทานข้าวนอกบ้าน




ที่นี้ก็มาถึงส่วนที่เจ๋งที่สุดของมันแล้วหล่ะ!!!
ตัวเลข 2หลักสุดท้ายที่


เหลือ
คือ …


อายุของ
คุณ !!!!!!
ถูกมั้ย?)

ปี 2006 เป็นปีเดียวที่เจ้าแบบทดสอบนี้จะเวิร์ค

โดย : มาดามมักซีม Member   [ 01/06/2006, 22:14:31 ]

 
  E-mail: webmaster@thaibg.com Copyright 2002-2024@www.ThaiBG.com (Thailand), All Rights Reserved  
 
  Sponsors