[ กลับหน้าหลัก ]


เรื่อง: เตือนภัยสาว ๆ...แก๊งค์ฟาสท์ฟู้ด

วันนี้ขอเสนอเรื่องที่เป็นสาระหน่อยนะครับ ฝากเตื่อน ๆ กันไว้นะครับ คุณพี่ผู้ชายก็ ฝากเตือน พี่ ป้า
น้า อา น้อง แฟน ที่เป็นผู้หญิงด้วยแล้วกันนะครับ


วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ นางผาสุข อายุ๒๘ปี
เข้าไปจับจ่ายซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อรู้สึกหิว
จึงแวะรับประทานอาหารที่ศูนย์อาหารของห้าง ที่นั้นมีผู้คนพลุกพล่าน
บ้างก็มากันเป็นครอบครัว บ้างก็มากันในกลุ่มเพื่อนฝูงและบ้างก็มากันเป็นคู่
แม้ว่าเธอจะมาที่นี่เพียงลำพังคนเดียวแต่ในท่ามกลางผู้คนมากมายนั้น
ใครเลยจะนึกว่าภัยจะมาถึงตัวได้ เธอจึงไม่ทันสังเกตถึงสายตาประสงค์ร้ายสองคู่
กำลังจับจ้องตนเองอยู่ โดยมีเครื่องประดับมีค่าบนตัวเป็นเป้าหมาย

ผาสุกทิ้งอาหารไว้บนโต๊ะ ขณะที่เดินกลับไปเพื่อซื้อเครื่องดื่ม
จึงเป็นโอกาสของคนร้ายที่จะลงมือปฏิบัติการ จริยา หนึ่งในแก็งค์ฟ้าสฟู้ด
ซึ่งนั่งห่างออกไปไม่ไกลนัก รีบเดินมาที่โต๊ะของผาสุกทำทีเป็นหยิบทิชชูบนโต๊ะ
แต่ด้วยความรวดเร็วแอบเทยานอนหลับอย่างแรงใส่ลงไปในอาหารที่ผาสุกวางทิ้งไว้
แล้วทำทีเป็นเดินเลือกซื้ออาหารตามร้าน
ในขณะที่ชายร่วมแก็งค์อีกคนลุกออกจากโต๊ะไป ผาสุกกลับมาที่โต๊ะ พร้อมน้ำดื่ม
และเริ่มต้นจัดการกับอาหารตรงหน้า
ไนขณะที่จริยาก็หาที่นั่งที่ใกล้ที่สุดทำทีดื่มน้ำ


“ตอนนั้นไม่ได้สงสัยอะไรที่ผู้หญิงคนนั้นเขามานั่งใกล้ๆ
เพราะฟาสฟู้ดมันก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว
อีกอย่างเห็นว่าเขาเป็นผู้หญิงด้วยกัน” ผาสุกให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เพียงเวลาไม่นานที่ผาสุกรับประทานอาหารผสมยานอนหลับเข้าไป เธอก็เริ่มง่วง
และมึนศีรษะ และนั่นคือโอกาสของแก็งค์มิจฉาชีพ จริยาตรงรี่เข้าไปทันที
“ขอโทษนะคะ คืออยากจะถามว่าแผนกเครื่องสำอางนี่อยู่ชั้นไหน”
ผาสุกพยายามตั้งสติแต่ความง่วงมึนงงมันก่อตัวขึ้นรวดเร็วจนควบคุมไม่ได้

“คุณ เป็นอะไรไปคะ..ไม่สบายหรือคะ” จริยารีบเข้าประคองผาสุขให้ลุกขึ้น
ซึ่งเธอก็หมดแรงจะขัดขืน “ฉันจะพยุงไปนะคะ สงสัยต้องไปโรงพยาบาลแล้วล่ะค่ะ”
จริยาประคองกึ่งลากผาสุกออกไปจากบริเวณนั้น มีสายตาหลายคู่จ้องตามไป
แต่ไม่มีใครสงสัย เพราะภาพที่เห็นทำให้คิดว่า
ผู้หญิงคนหนึ่งไม่สบายและเพื่อนกำลังพาออกไปเท่านั้น
ไม่มีใครสังเกตก่อนหน้านี้ ว่าใครเป็นใคร มาคนเดียวหรือมากับใคร
นอกจากมิจฉาชีพเท่านั้น!

ผาสุกให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไปว่า “ตอนนั้นเท่าที่จำได้ก็คือ
มันรู้สึกมึนงง เวียนหัว คล้ายจะเป็นลม หนังตามันจะปิดซะให้ได้
ฉันพยายามสู้กับมัน พยายามจะไม่หลับ แต่ก็ไม่มีแรง รู้แต่ว่ามีคนประคองไป”

จริยานางนกต่อพยายามพยุงเหยื่อที่ใกล้หมดสติไปยังจุดนัดพบ ซึ่งที่นั้นไกรสร
สมาชิกร่วมแก็งค์ทำทีเป็นคนขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง คอยท่าอยู่แล้ว
ไกรสรตะโกนถาม “มอเตอร์ไซค์มั้ยพี่” จริยารีบตอบ
“ไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดนะ” เพียงเท่านี้ก็ขจัดความสงสัยของคนรอบๆไปได้
แล้วจริยาก็พยุงผาสุกขึ้นรถจักรยานยนต์ซ้อนสามไปด้วยกัน
(บางแก็งค์ก็เป็นรถโดยสารประเภทอื่น)

แน่นอน คนร้ายมิได้นำเธอส่งโรงพยาบาล แต่กลับพาไปยังบ้านพักของตนเอง
ที่ถนนลาดหญ้า เขตคลองสาน เมื่อมาถึงผาสุกพยายามลืมตามองรอบๆ
ก่อนจะอาเจียนออกมาจนหมด สองมิจฉาชีพรีบประคองผาสุกเข้าไปภายใน

มงคลหัวหน้าแก็งค์ซึ่งรออยู่แล้ว ละลายยานอนหลับให้หญิงสาวดื่มอีก
แต่คราวเธอปัดป้องจึงถูกจับกรอกแทน ทั้งคู่ช่วยกันปลดทรัพย์
จริยาหยิบกระเป๋าสตางค์ของผาสุกออกดูบัตรประชาชน “อยู่ไหน” เสียงมงคลถาม
“แถวเยาวราช” จริยาตอบ มงคลพยักเพยิดให้จริยาออกไป
แล้วจัดการปลดกระดุมเสื้อผาสุข หมายจะข่มขืน
ซึ่งพวกมันมักจะทำเป็นประจำภายหลังจากรูดทรัพย์แล้ว
แต่ครั้งนี้เหยื่อไม่มีท่าทีจะหมดสติเอาง่ายๆ

“ที่ฉันจำสถานที่ได้ เพราะฉันเคยไปมาก่อน
และคงเป็นเพราะฉันอาเจียนออกมาหมดด้วย"ผาสุกให้การต่อไป
"ตอนที่มาถึงบ้านคนร้าย ก็พยายามสำรวจว่าเราอยู่ที่ไหน
รู้สึกว่ามันปิดปกติแล้ว แต่ไม่มีแรง
พวกมันเอาน้ำมาให้กิน แต่คิดว่าเป็นยานอนหลับอีก
ไอ้คนที่เป็นหัวหน้าพยายามลวนลาม ฉันเลยรวบรวมสติ ขัดขืน มันก็คงร้อนตัว”

เมื่อเห็นว่าเหยื่อยังมีสติ คนร้ายจึงรีบร้อนพาเหยื่อออกจากบ้านโดยเร็ว
คราวนี้ด้วยรถแท๊กซี่ ซึ่งเป็นพวกเดียวกัน
นำเธอไปทิ้งไว้ไม่ไกลจากบ้านของเธอเอง

“ตอนนั้นฉันเกือบจะไม่ได้สติแล้ว แต่ยังจำได้ว่าเป็นซอยบ้าน
จึงพยายามเดินไปให้ถึง พอถึงบ้านก็หลับเป็นตายเลย” ผาสุกสรุปคำให้การ

เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง ภายหลังจากที่พยายามทบทวนเหตุการณ์อย่างหนัก
เธอก็จำได้ว่า สถานที่ที่ถูกพาไปรูดทรัพย์นั้น
ตนเองเคยไปทำธุระมาก่อนเมื่อไม่นานมานี้
เธอจึงชวนน้องสาวไปแอบดูสถานที่เพื่อความแน่ใจ “ใช่ ใช่แน่แน่
นั่นไงมอเตอร์ไซค์คันนั้น นั่นไงรอยอ้วกของพี่”

พฤติกรรมอุบาทว์ของมิจฉาชีพเหล่านี้
จะยังสามารถกระทำกับเหยื่อรายอื่นต่อไปได้อีกหลายครั้งถ้านางผาสุกไม่ตัดสินใจเข
้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ “แก็งค์คนร้ายพวกนี้ความจริง ตำรวจกำลังตามจับ
เพราะก็ได้ข้อมูลพฤติกรรมพวกนี้อยู่ แต่ที่ผ่านมาไม่มีการแจ้งความ
บางคนเป็นพยาบาล บางคนเป็นนักธุรกิจ ยิ่งถ้าโดนข่มขืนด้วยก็คงรู้สึกอับอาย
เลยไม่มาแจ้งความ” คราวนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวได้ทั้งแก็งค์ พร้อมคำสารภาพ

“ ..ผมจะคอยเฝ้าดูอยู่ที่ฟ้าสฟู้ด ตามห้างต่างๆ คอยดูคนที่มีทองเยอะๆ
ท่าทางฐานะดี”
“..ทำมาหลายครั้ง กว่า๒๐ครั้งได้ ยานอนหลับเหรอ ใช้อย่างแรงเลย
ซื้อจากร้านขายยาที่บางแค เอามาบดผสมน้ำ”
“..ที่ผ่านมามักจะเป็นผู้หญิง รูดทรัพย์แล้วก็ข่มขืนด้วย
เพื่อให้เขาไม่กล้าแจ้งความ”
“..บางคนก็อาย บางคนก็ขู่ไว้ แต่บางคนก็คือเขาจำไม่ได้หรอกว่าพาเขาไปที่ไหน”

ภายหลังที่ประกาศข่าวออกไปก็มีเจ้าทุกข์มาแจ้งความและชี้ตัวผู้ต้องหาซึ่งก็ตรงก
ันอีกห้าราย สำหรับนายมงคลเองเคยมีคดีติดตัว คือข่มขืนหลานของภรรยาอีกด้วย
แก็งค์นี้ถูกจับไปแล้ว แต่มิจฉาชีพไม่ได้มีแก็งค์เดียว

ในที่สาธารณะที่มีคนพลุกพล่านไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยไปเสียทั้งหมด
สำหรับผู้หญิงที่ไปไหนมาไหนคนเดียวต้องระวังเป็นหลายเท่า ทางที่ดี
หัดสังเกตคนรอบข้างคนที่ผ่านไปมาไว้บ้างก็จะดี
และไม่จำเป็นก็ไม่ต้องแพรวพราวอวดฐานะมากนัก
เพราะมันไม่คุ้มกับการต้องตกเป็นที่หมายตาของเหล่ามิจฉาชีพเลย

และที่สำคัญเดี๋ยวนี้มีการประกาศขายยานอนหลับอย่างแรงกันโจ๋งครึ่งในเว๊ปไซค์บาง
แห่ง ยานอนหลับยิ่งหาง่ายมากเท่าไหร่ เรายิ่งเสี่ยงอันตรายมากขึ้น
เพราะรูปแบบนั้นทำได้สารพัดวิธี และสารพัดสถานที่ ไม่เพียงในฟ้าสฟู้ดเท่านั้น.

โดย : นายนิทาน Guest [ 12/07/2005, 16:26:54 ]

 
  E-mail: webmaster@thaibg.com Copyright 2002-2024@www.ThaiBG.com (Thailand), All Rights Reserved  
 
  Sponsors