|
|
[ กลับหน้าหลัก ]
หมากรุกบนกระดานชีวิต ....... โดยคุณ The Rounder
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/I2797116/I2797116.html
..............................................................................................
Pantip Theater ..... ภูมิใจเสนอ
หมากรุกบนกระดานชีวิต.....(โดยThe Rounder จาก พันทิพย์)
.................เช้าวันอาทิตย์ที่สบายๆวันหนึ่ง หลังจากอาหารเช้าแล้ว
เล้ง..ตั้งใจจะจัดตู้หนังสือ เพื่อวางแผนในการอ่านอย่างจริงจังเสียที
หลังจากที่เขาได้ซื้อหา สะสม ตลอดจน อ่านทิ้ง อ่านขว้าง
จบบ้างไม่จบบ้างเล่มแล้วเล่มเล่า
เท่าที่เวลาจะมีและโอกาสจะอำนวย............... มาหลายปี
หมายเหตุ : (เล้ง แปลว่า มังกร ชาวจีนนิยมตั้งชื่อให้กับบุตรชาย)
เล้งกำพร้าแม่มาตั้งแต่เด็ก
แม่เขาจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนเขาอายุเพียง 2 ขวบ
ทำให้เขาเป็นลูกโทนและอาศัยอยู่กับพ่อคนเดียวมาตั้งแต่เด็ก
..... หลังจากค่อยๆ รื้อหนังสือจากชั้นวางในตู้ออกมากองบนโต๊ะและตามพื้น
สักพัก........สาย ตาของเขาก็สะดุดกับกล่องหมากรุกจีนสภาพเก่าเก็บ
ในซอกด้านในของตู้ปะปนกับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันกีฬาของเขา
เขาเพ่งมองอยู่นานด้วยความผูกพัน.... จากนั้น... ก็ค่อยๆดึงฝากล่องออก
แล้วก็พบกับกระดาษแผ่นพับสีขาวหม่นที่ตามขอบมีรอยวิ่น
พอหยิบกระดาษแผ่นพับนั้นออกมา ก็มองเห็นตัวหมากที่แกะจากไม้สีน้ำตาลอ่อนที่
ถูกคว้านผิวหน้าเป็นร่องลึกลงไป กลายเป็นตัวอักษรจีน .... ในรูปลักษณ์ต่างๆ มากมาย
ตัวหมากครึ่งหนึ่งถูกแต้มด้วย......................สีแดง
ตัวหมากอีกครึ่งหนึ่งถูกแต้มด้วย................สีเขียว
ขณะที่สายตาเขาเพ่งมองตัวหมากที่มีสภาพคล้ำหม่นนั้น.................
และแล้ว เขาก็ตกอยู่ในภวังค์
เหตุการณ์ในอดีตและภาพในปัจจุบันเกิดการทับซ้อนสลับไปสลับมา
ในห้วงความคิดคำนึงของเล้ง
ภาพความทรงจำ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงตรุษจีนเมื่อประมาณ 20
กว่าปีที่แล้ว กลับเฉิดฉายอีกครั้งเหมือนหนังกลางแปลง
เขาเห็นภาพเด็กคนหนึ่ง ซึ่งขณะนั้นยังเป็นเด็ก......แต่ในปัจจุบันนี้กำลังเข้าสู่วัยกลางคน
มองเห็นสายตาคู่หนึ่ง................ซึ่งขณะนั้นกำลังไตร่ตรองกระดานหมากรุก
แต่ปัจจุบันนี้.......กำลังตรวจตรากระดานหุ้นอิเลคทรอนิคส์
ตรุษจีนปีนั้นเป็นช่วงที่เล้งปิดเทอมแล้ว และพ่อก็หยุดทำงานเนื่องจากเทศกาลดังกล่าว
ตอนนั้นเล้งอายุได้ประมาณ 10 ขวบ
ตอนบ่าย อยู่ๆ พ่อของเล้งก็หยิบเอากล่องหมากรุกจีนมาวางบนโต๊ะ
แล้วเรียกเล้งเข้าไปหา
/ เล้ง........ อยู่ว่างๆ มาเล่นหมากรุกจีนกับป๊าหน่อย
+ เล่นไม่เป็น อั๊วเล่นเป็นแต่หมากฮอส......... ป๊าเล่นหมากฮอสกับอั๊วละกัน
/ หมากฮอสมันไม่สนุก
+ หมากรุกจีนอั๊วไม่เคยเล่นอ่ะ
/ เดี๋ยวป๊าสอนให้ ...แป๊บเดียวก็เล่นเป็น
+ ก็ได้
เล้งตอบไปแบบแกนๆ โดยภายในใจเขารู้ดีว่า เขาไม่ได้อยากเล่น
เพราะลำพังหมากรุกไทยก็ยังไม่เคยเล่นและก็ไม่เคยเห็นเพื่อนในวัยเดียวกันเล่นด้วย
เห็นแต่ผู้ใหญ่เขาเล่นกัน
นี่หมากรุกจีน มีตัวหมากเป็นภาษาจีน ที่เขาเองก็ อ่านไม่ออกสักตัว
คงจะยิ่งยากขึ้นไปอีก แต่ก็ตอบรับพ่อไปด้วยความเกรงใจ
/..... ตี่... เหมือนกับฮ่องเต้ ถูกกินเมื่อไหร่ ถือว่า แพ้ทันที
สือ... รูปเหมือน เครื่องบิน เดินทะแยงได้เฉพาะในกรอบนี้
เฉีย... หรือช้าง เดินได้เฉพาะจุดเหล่านี้
กือ... เหมือนเรือ ในหมากรุกไทย เดินตรง กินตรง
เบ้.... หรือ ม้า เหมือนในหมากรุกไทย เดินโขยกรอบตัว
เผ่า... ทำหน้าที่คล้ายปืนใหญ่ เดินตรง แต่ต้อง กินข้าม หมายถึงต้องมีตัวคั่น 1 ตัว
จุก... เหมือนพลทหาร เดินทีละก้าวห้ามถอยหลัง ข้ามฝั่งแล้วถึงเลี้ยวซ้ายขวาได้
พ่ออธิบายตัวหมากและกติกาคร่าวๆให้เล้งฟัง
+ จำยากอ่ะ....
/ ค่อยๆเล่นเดี๋ยวก็จำได้หมด
พอเริ่มเดินหมากไปไม่กี่ก้าว
/ อ้าว...ทำไมเล้งเดินกือมาตรงนี้ล่ะ.......เผ่าป๊าอยู่ตรงนี้ กือจะโดนกินฟรีนะ
+ ก็อั๊วลืมไปอ่ะ..... ว่าเผ่ามันกินข้ามตัวได้ เห็นว่ามีจุกขวางอยู่แล้ว
/ เล้ง.......เอากลับไปเดินใหม่ ลื้อต้องเรียนรู้กฏ และจดจำให้ขึ้นใจ
อีกสักพัก
/ อ้าว แล้วเดินเบ้มาเฉยๆ ทำไมตรงนี้
+ ก็ไม่รู้จะเดินตัวไหนอ่ะ
/ ลื๊อรู้ไม๊ เซียนหมากรุกที่เค้าเก่งๆน่ะ เขานับก้าวเดินกันเลยนะ
บางทีแพ้หรือชนะ เพราะเดินช้าหรือเร็วกว่ากันในหมากตัวสำคัญแค่ก้าวเดียว
เพราะฉะนั้น ลื้ออย่าเดินหมากอย่างไม่มีจุดหมาย
เล้งต้องคิดให้ดีๆ ในทุกตาที่เล้งเดิน ว่าจะเดินตัวไหน แล้วเดินเพื่ออะไร
+ ก็อั๊วไม่ใช่เซียนอ่ะ ... เล่นไม่เป็น...... ไม่เคยเล่นด้วย
แล้วสักพัก
/ ......กุน......
+ อะไรอ่ะ......ป๊า
/ กุน หมายถึง รุก.......... เล้งแพ้แล้ว.............. เล่นใหม่ ๆ
วันนั้นเล้งเล่นแพ้ติดต่อกันอีกหลายกระดาน
จู่ๆ......... น้ำตาของเด็กน้อยก็ไหลออกมา
/ เฮ้ย เล้งร้องไห้ทำไม ตรุษจีน เขาไม่ให้โศกเศร้า
+ ไม่เห็นสนุกเลย เล่นยังไงก็แพ้ตลอด...... อั๊วไม่เล่นแล้ว
พ่อของเล้งร้องเสียงหลง กับเหตุการณ์ที่เขาไม่คาดคิด แล้วเล้งก็ลุกหนีไป
ต่อมาอีกหลายสัปดาห์ พ่อก็ชวนเล้งเล่นหมากรุกจีนอีก
/ ป๊าเล่นมายี่สิบปี ก่อนที่จะหยุดเล่นไป ลื๊อเพิ่งเล่นหัดเล่นไม่กี่วัน
เล่นไปเรื่อยๆ อีกหน่อยก็เก่งกว่าป๊า
พ่อพูดให้กำลังใจเล้ง แต่เล้งตอบไปตามประสาเด็กแก่นที่เรียนเลขเก่ง
+ ป๊าไม่ต้องมาโกหกอั๊วหรอก ต่อให้อั๊วเล่นอีกสิบปี ป๊าก็เล่นไปอีกสิบปีเหมือนกัน
กลายเป็นอั๊วเล่นทั้งหมดสิบปี ป๊าเล่นทั้งหมดสามสิบปี ยังไงป๊าก็ต้องเก่งกว่าอั๊ว
แล้วพ่อก็หัวเราะในลำคอเบาๆ
/.........ลื๊อนี่........เถียงเก่งจริงๆ......
หลังจากวันนั้น พ่อของเล้งก็เอ่ยปากชวนเล้งเล่นหมากรุกจีน ทุกครั้งที่เห็นว่าเล้งอยู่ว่างๆ
เขาเริ่มรู้สึกสนุกเพิ่มขึ้นบ้าง เดินหมากได้คล่องขึ้น และแพ้ช้าลง
แต่ด้วยความเป็นเด็ก เล้งจะจดจำหมากที่เดินแพ้ได้อย่างฝังใจ
แล้วเขาจะไม่เดินหมากรูปแบบเดิม.........ในสถานการณ์เดิมๆอีก
ซึ่งก็ได้ผล เพราะเขาไม่แพ้พ่อในรูปหมากแบบเดิม
แต่เขาก็ยังแพ้พ่อในรูปแบบอื่นๆ อีก..... ไม่รู้จักจบจักสิ้น
แล้วเขาก็เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง
+ อั๊วเดินไม่ชนะป๊าซักที
/ เล้งต้องใจเย็นๆ ค่อยๆเรียนรู้ ทำอะไรก็ตาม เล้งต้องมองคนที่ทำมาก่อน
แล้วให้นึกถึงคนที่จะมาทีหลังเล้งด้วย เล้งเพิ่งหัดเล่น
แล้วถ้าวันนี้เล้งเก่งเหมือนเซียนหมากรุกที่เขาเล่นมา 20-30 ปี
มันจะเป็นไปได้เหรอ แล้วเล้งคิดดู
ถ้าวันหน้าเล้งเล่นไป20 ปี แล้วมีเด็ก 10 ขวบเพิ่งหัดเล่น
มาเล่นชนะเล้งในตอนนั้น เล้งจะรู้สึกยังไง
/ จำเอาไว้ คนที่เรียนรู้มาก่อนย่อมต้องมีอะไรที่เหนือกว่า
และคนที่ตามมาทีหลังก็ต้องบางอย่างที่ด้อยกว่า
อย่างน้อยก็คือ........................ประสบการณ์
คืนนั้นเขานอนหลับไม่สนิท ด้วยความขุ่นมัวและกระวนกระวายในจิตใจ
จากกระดานหมากรุก
เช้าวันต่อมาที่โต๊ะอาหาร
+ อั๊วว่า ที่ป๊าไม่ไปเล่นกับคนอื่น เพราะป๊ากลัวแพ้ ชอบมาเล่นกับอั๊ว
เพราะเห็นอั๊วเล่นไม่ค่อยเป็น ป๊าจะได้ชนะทุกกระดาน
/ ชนะเล้ง แล้วป๊าได้อะไร
+ ได้แกล้งอั๊ว ไม่งั้นทำไมไม่เห็นป๊าไปเล่นกับคนอื่นเลย
/ ......กินข้าวเถอะ......... เดี๋ยวกับข้าวเย็นแล้วจะไม่อร่อย
อีกสักพักหนึ่ง ซึ่งจวนจะจบมื้อเช้านี้แล้ว
+ ป๊า......อั๊วเคยอ่านหนังสือมา เขาบอกว่าคนจีนงกวิชา
ชอบเก็บความรู้ไว้คนเดียวจนบางทีตายไปกับตัว
/ ....ยังไงอีก......
+ ลูกตัวเองบางทียังไม่สอนเลย บางคนก็สอนลูกรักแค่คนเดียว ลูกที่เหลือไม่สนใจ
เลือกที่รักมักที่ชัง วิชาหลายๆอย่างก็เลยตายไปพร้อมกับคนที่รู้....
ทั้งเรื่องอาหาร....เรื่องยา..... แล้วก็อีกเยอะแยะ จริงหรือเปล่าป๊า
/ เล้ง.......สิ่งที่เล้งรับรู้มาน่ะไม่ผิด...... แต่มันไม่ถูกทั้งหมดหรอก....
บางที.......มันก็มีเหตุผลเหมือนกัน
/ คนจีนน่ะ เขาจะไม่ถ่ายทอดวิชากันง่ายๆ เพราะถ้ามันถ่ายทอดกันได้ง่ายๆ
คนที่ได้รับก็อาจไม่รู้คุณค่า
/ อีกอย่าง สมัยก่อนเมืองจีน บ้านเมืองยังไม่เป็นปึกแผ่น
ผู้คนแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า
แต่ละชนเผ่าก็มีความรู้หรือวิชาในกลุ่มของตัวเอง
เขาจะไม่ให้วิชาความรู้ของชนเผ่าตัวเองรั่วไหลไปให้คนอื่นหรอก....
เพราะบางทีมันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองได้
/ และเขาถือว่า......วิชาอะไรก็ตามที่มีคุณอนันต์ ในทางกลับกัน มันจะมีโทษมหันต์
เพราะประโยชน์หรือโทษมันไม่ได้อยู่ที่ตัววิชา.......... มันอยู่ที่ตัวคน
/ พูดง่ายๆว่า วิชาความรู้น่ะมีค่า แต่คนที่จะได้รับถ่ายทอดนั้น
มีคุณค่าเพียงพอต่อความรู้นั้นหรือเปล่า
แล้วถ้าคนได้รับการถ่ายทอดเอาไปใช้อย่างไม่เหมาะสม หรือไม่รู้คุณค่า
เจ้าของวิชานั่นแหละ...............จะมัวหมองและมีมลทิน
เล้งได้รับคำตอบ........แต่ยังไม่สบอารมณ์
+ป๊าก็เหมือนกันแหละ
/ เหมือนยังไง
+...........งกวิชา......... อั๊วเป็นลูกป๊ายังไม่ยอมสอนเลย
/ สอนอะไร
+ สอนเดินหมากรุก....... ให้อั๊วเก่งเหมือนป๊า......เป็นเซียนหมากรุก
/ ใครบอกเล้ง........ว่าป๊าเป็นเซียนหมากรุก
+ อาเจ็ก...........แต่บอกว่าป๊าเลิกเล่นมาเกือบสิบปีแล้ว........
/ ......แล้วบอกอะไรอีก
+ บอกแค่นี้แหละ.......แล้วทำไมป๊าเลิกเล่นอ่ะ
/ ....รีบกินเถอะ....... เดี๋ยวไปโรงเรียนสาย
พ่อของเล้งเลี่ยงการตอบคำถามของเขา
หลังจากที่เล้งเคยเลียบๆเคียงๆถามอยู่ 2-3 หน
จากนั้น เล้งก็ไม่ได้สนใจจะถามอีก
เขาคิดแค่ว่า........มันคงไม่มีอะไรมาก......แต่คงไม่ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเลย
แล้ว.........คืนวันก็ผันผ่าน วันแล้ว วันเล่า กระดานแล้ว กระดานเล่า
+ ทำไมอั๊วไม่เคยเดินชนะป๊าสักทีอ่ะ
/ ก็ป๊ารู้ว่าลื๊อคิดยังไง แต่เล้งรู้หรือเปล่า ว่าป๊าเดินแต่ละหมากป๊าคิดยังไง
ลื๊อจะชนะป๊าได้ จะไม่ใช่เพราะเดินหมากเก่งกว่า
แต่นั่นหมายถึงเล้งต้องอ่านเกมป๊าออก แล้วเดินในหมากที่ป๊าอ่านลื๊อไม่ออก
และอย่าลืม......ในการแข่งขัน...........ต่างคนต่างอ่านใจและหมากซึ่งกันและกัน
+ แต่ อั๊วคิดง่ายๆว่า ถ้าหมากอั๊วกินหมากป๊าได้เยอะๆ
อั๊วก็น่าจะชนะได้เหมือนกัน
/ เล้งมองตื้นๆ ป๊าเดินให้เล้งกินตั้งหลายตัว เล้งก็เห็น
สุดท้ายเล้งก็แพ้อยู่ดี
+ อั๊วคิดว่าป๊าสอนอั๊วไม่หมด....... ป๊ากลัวอั๊วเก่งกว่าป๊า
แล้วชอบเดินหมากมาหลอกให้อั๊วกิน
/ ป๊าไม่ได้หลอก เล้งเดินมากินเอง เพราะเล้งคิดอย่างที่เล้งเข้าใจ.....ไม่กินก็ไม่ชนะ
/ เล้งค่อยๆคิดดู.......จะกินหมากคู่ต่อสู้ เล้งวางแผนไว้ก่อนหรือเปล่า
ถ้าไม่ได้วางแผนไว้แล้วเล้งไปกิน มันก็มีแค่ 2 อย่าง
เล่นกับหมู ก็คือ เค้าเผลอ เล่นกับเซียน ก็คือ เค้าหลอกให้กิน มีแค่นี้แหละ
/ อั๊วสอนเล้งให้เล่นหมากรุกเป็นได้ แต่สอนให้เป็นเซียนไม่ได้ อันนั้น
เล้งต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง
/ แล้วเล้งจำไว้อย่าง. .... คำว่า.... เซียน... ไม่ใช่ให้ใครเอามาใช้เรียกตัวเอง
แล้วไม่ใช่ให้คนทั่วๆไปมายกย่องแล้วก็เป็นได้
จะได้เป็นเซียนในด้านไหน.......ต้องได้รับการยอมรับจากเซียนในวงการนั้นเท่านั้น
.........หลายเดือนต่อมา
วันนั้น เล้งเล่นแพ้ไปสัก 4-5 กระดานแล้ว และเริ่มหงุดหงิดแกมเบื่อ
+ อั๊วชักเบื่อเล่นหมากรุกกับป๊าแล้ว....... วันหลังอั๊วจะไม่เล่นอีกแล้ว
/ เล่นอีกตาๆ ........... แล้วไปกินข้าวกัน
กระดานต่อมานี้ พ่อจะดูเหมือนอ่านหมากเล้งไม่ขาด
ทั้งๆที่เล้งก็เดินหมากด้วยความมุทะลุ แต่แล้วเล้งก็ได้รุกฆาต และชนะพ่อไปแบบเฉียดฉิว
ตอนนั้นเล้งเข้าใจว่า พ่อแพ้เพราะใจพ่อไม่นิ่งหรือเผลอเรอ
เนื่องจาก เห็นความมุ่งมั่นอันตึงเครียดของเขา
/ ........ป๊าแพ้แล้ว......วันนี้พอแค่นี้ก่อน
+ ป๊าอย่าเพิ่งเลิกดิ....... อั๊วเพิ่งชนะแค่กระดานเดียวป๊าก็เลิกแล้ว
ป๊ากลัวแพ้อั๊วหลายๆกระดานอั๊วรู้
พ่อได้แต่ยิ้มน้อยๆ แล้วบอกว่า
/ ..พอแล้ว...... พอแล้ว.......... ได้เวลากินข้าวแล้ว
+ ป๊าไม่ต้องเอาเรื่องกินข้าวมาอ้าง .......ป๊ากลัวแพ้อีก.........อั๊วรู้
เหตุการณ์บนกระดานหมากรุกยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายปี
แล้วเล้งก็มักจะชนะพ่อได้ในกระดานสุดท้ายเสมอๆ
หลังจากที่แพ้มาตลอดในกระดานต้นๆ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังคงเหมือนเดิมคือ
...............คำพูดพร่ำบ่นบนกระดาน.......
ประโยคแล้ว ประโยคเล่า ประโยคเก่าๆ ความหมายเดิมๆ
วนเวียนมา แล้วเวียนวนไป ซ้ำแล้วซ้ำอีก
เขาแค่คิดว่า พ่อบ่นได้ก็บ่นไป ส่วนตัวแล้ว ไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่
เพราะเมื่อพ่อเริ่มพูดคำแรก เล้งก็นึกไล่ไปจนจบคำสุดท้ายแล้ว
ยกเว้นบางที ก็มีประโยคใหม่ๆ เริ่มแปร่งหูเข้ามาเพิ่มเติมบ้าง
+ กระดานนี้ อั๊วแพ้อีกแล้วอ่ะ ............ตั้งใหม่ๆ
/ หมากรุกแพ้ ลื้อตั้งกระดานเล่นใหม่ได้........แต่บางอย่างต้องระวัง
เพราะบางอย่างมันเริ่มต้นใหม่ไม่ได้
+ ป๊าบ่นอะไรของป๊า..............เอ้า..............ตาป๊าเดินแล้ว
จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี และหลายปีผ่านไป
เล้งก็มีโอกาสเดินหมากรุกกับพ่อ น้อยลงๆๆ
พ่อมีภาระหน้าที่การงานมากขึ้น
ส่วนเล้งก็มีกิจกรรมต่างๆมากมายที่ดึงเวลาไปในช่วงวัยรุ่น
แล้วกาลเวลาก็ทำหน้าของมัน......แปรสภาพเด็กคนนี้
จากนักเรียน...................กลายมาเป็น...........นักศึกษา
จากนักกีฬาสนาม.......... กลายมาเป็น...........นักกีฬาหมากกระดาน
และสุดท้าย
จากคนทำงาน...............กลายมาเป็น...........นักลงทุน
ในช่วงแรกที่ก้าวเข้ามาในตลาดหุ้น
เขาได้สูญเงินเป็นจำนวนมากจากการเล่นหุ้น
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรยากเย็น
คงเหมือนกับซื้อขายสินค้าทั่วๆไป
ที่เขาคุ้นเคย....ซื้อถูกมาขายแพง ตามประเพณีการค้าขาย ...
แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด
เขาตกอยู่ในภาวะเครียดจัดและได้ก็ปรึกษาเรื่องนี้กับคนรู้จักหลายคนๆ
แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น เล้งจึงได้ระบายเรื่องนี้ให้พ่อของเขาฟัง
ทั้งๆที่รู้ว่าพ่อนั้นไม่มีความรู้เรื่องหุ้นเลย
/เล้ง......ทำไมลื้อวางเดิมพันกับเกมที่ตัวเองไม่ถนัดด้วยวงเงินที่สูงอย่างนั้น
ตอนเด็ก...ป๊าเคยถามตอนเล่นหมากรุกว่า.......พนันกันด้วยเงินเท่าค่าขนมไปโรงเรียนไม๊
ถ้าแพ้เล้งอดค่าขนม ถ้าชนะป๊าให้สองเท่า....เล้งยังไม่ยอมเลย
+ ก็ตอนนั้นอั๊วรู้ว่า............กำลังเล่นกับเซียนนี่
/แล้วที่ลื้อเจออยู่นี่มันสนามแข่งหมูเหรอ...........เขาว่ามันเหมือนถ้ำเสือเชียวนา
+ แหมป๊า...........ไม่เข้าถ้ำเสือ แล้วจะได้ลูกเสือเหรอ
/ แต่ถ้าลื้อไม่รู้วิธีจับเสือ......แล้วยังไปเข้าถ้ำเสือ นอกจากไม่ได้ลูกเสือแล้ว
ลื้อยังจะถูกแม่เสือคาบไปเป็นอาหารเย็นให้ลูกเสืออีกน่ะสิ
/ ป๊าเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับเซียนในวงการหมากรุกให้เล้งฟังละกัน
แต่มันอาจไม่เหมือนกับวงการหุ้นหรอกนะ........ แต่ฝากให้ลื้อเอาไปคิดต่อเอง
/ ในวงการหมากรุก เซียนที่ รู้มือรู้เหลี่ยมกันดี ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเล่นกินกันเอง
ยิ่งในละแวกเดียวกัน ไม่ต้องพูดถึง ใครมือระดับไหน ใครเล่นกับใครได้
เล่นกับใครไม่ได้ ในถิ่นเดียวกัน............ มันรู้ถึงกันหมด
/ เซียนที่เป็นนักพนันน่ะ เขาเลยต้องออกเดินสาย ไปท้าพนันกับนักเล่นต่างถิ่น
เล่นไปไม่นาน ก็ต้องย้ายที่ไปเรื่อยๆ เพราะ ถ้าไปเจอหมู หลอกกินเขาได้ไม่นาน
เสียบ่อยๆ เขาก็เริ่มสงสัย พอรู้ว่าเป็นเซียนมาจากที่อื่น...เขาสู้ไม่ได้... เขาก็เลิกเล่นด้วย
/ แต่บางที............. เซียนเดินสาย....ดันไปเจอกับ...เซียนเหยียบเซียน
มีคนหนึ่งเป็นเซียน......ลักษณะที่ว่านี้.........อยู่แถวสวนพลู
คนนี้เหนือมาก.... ทุกตาที่เล่น ทุกก้าวที่เดิน เขาจะเดินหมากแบบชนิดที่ว่าเรียบๆ ง่ายๆ
มีแพ้บ้างชนะบ้าง สลับกันไป แต่ไม่ว่าแพ้หรือชนะ จะสูสีมาก
เฉือนกันแค่ก้าวสองก้าว หลายๆกระดานออกเสมอ
/ คนเล่นด้วยไม่ว่าใครหน้าไหน อยู่ถิ่นเดียวกันหรือมาจากต่างถิ่น
จะไม่รู้สึกเลยว่าหมอนี่เป็นเซียน แล้วจะรู้สึกเหมือนกันหมดว่า
ที่ตัวเองชนะตอนแรกมาจากฝีมือตัวเอง
แต่ที่แพ้ในกระดานหลังๆ มาจากที่ เดินไม่ระวัง
แล้วก็เสียเดิมพันเยอะหน่อย เมื่อเทียบกับกระดานต้นๆ
.. ก็แค่นั้น... ไม่เคยเสียหมดตัวแต่ก็ไม่เคยได้เงินกลับบ้าน
/..........แล้วคนนี้แหละก็คือ...............คนที่สอนป๊าเล่นหมากรุก
เขาบอกว่า หมากรุกมันเรียบง่าย แต่ความซับซ้อนมันอยู่ในจิตใจ
บังคับหมากน่ะมันง่ายๆ .......เอามือจับหมากเดินก็จบ
แต่บังคับจิตใจตัวเองนี่สิ........... ยากกว่ากันเยอะ
/ เขาสอนป๊าว่า............เซียนที่แท้น่ะ ไม่ได้เดินหมากบนกระดานนะ........
+ ตลกแล้วป๊า ....ไม่เดินหมากบนกระดาน.......แล้วไปเดินหมากบนเสื่อเหรอ
/ไม่ใช่อย่างนั้น.....เขาสอนป๊าว่า.........จะต้องเดินหมากบนหัวใจของคู่ต่อสู้
+ ไม่เข้าใจอ่ะ
/ เดินหมากในรูปแบบ....... ที่ทำให้หมากฝ่ายตรงข้ามถูกบังคับเดิน
+ ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี........หมากอีกฝ่ายก็ต้องเดินได้อย่างอิสระตามใจคนเล่นไม่ใช่เหรอ
/ นั่นแหละๆ.....การเดินหมากที่ทำให้ฝ่ายตรงข้าม คิดว่าตัวเองเดินได้อย่างอิสระ
เลือกเดิน เลือกกินตามความสมัครใจของตัวเองนี่แหละ ....ลึกซึ้งที่สุดแล้ว
/ เดินโดยไม่รู้ว่าถูกบังคับ........กินฝ่ายตรงข้ามโดยไม่รู้สึกว่าถูกหลอก
แพ้โดยที่รู้สึกแค่ว่าตัวเองเดินไม่ระวังหรือแค่เผลอไผล และไม่รู้สึกว่าคู่แข่งที่เล่นอยู่เป็นเซียน
+ อือม์.............ยังไงต่อ
/ ก็เท่านี้แหละ......เพราะป๊าเชื่อว่า.... ลื้อกำลังตกอยู่ในสถานการณ์นี้
เล้ง เก็บเอามาคิดอยู่หลายคืน... ว่าทำไมพ่อวกมาพูดเรื่องหมากรุกอีก...
ทั้งๆที่เขากำลังเครียดเรื่องหุ้น แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไร...
เพราะตัวเองก็ไม่ได้คาดหวังคำแนะนำจากพ่อในเรื่องหุ้น......ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
แต่แล้วเขาก็นำสิ่งที่พ่อพูด..................กลับมาทบทวนอีกครั้ง
ควบคู่กันกับการนึกย้อนถึง.................สิ่งที่เขาพบมาในตลาดหุ้น
นับตั้งแต่เริ่มต้น
แล้วเขาก็พบกับ...........แสงสว่าง ................จากคำพูดของพ่อ
ตอนนี้เขารู้สึกตัวแล้วว่า ...........เขากำลังตกอยู่ในวงล้อมของเซียน
เขาเห็นเซียนด้านต่างๆ ตลอดเส้นทางการเล่นหุ้นของเขา
เขาก้าวเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ด้วยความเชื่อที่มาจากการชี้นำของ
....เซียนด้านการประชาสัมพันธ์และการตลาด.....ที่คอยสร้างภาพแห่งความโปร่งใส
..... บริสุทธิ์ ยุติธรรม ให้กับการลงทุนในตลาดหุ้น
เขาอ่านงบการเงิน ที่ทำออกมาจากมือของเซียนด้านบัญชีและการเงิน
......ซึ่งแม้แต่เซียนด้วยกัน..................... บางทียังหลงกล
เขาดูกราฟและใช้เครื่องมือทางเทคนิค ต่อสู้อยู่กับ เซียนด้านเทคนิค
......ที่มีความพร้อมกว่าทั้ง เครื่องมือ โปรแกรม
และเทคนิคล่อลวงอันแพรวพราว
เขากำลังอ่านข่าวสารและรับรู้ข้อมูลที่ปล่อยออกมาจากเซียนที่ใช้สื่อเป็นอาวุธ
......ผ่านตามสื่อต่างๆ ทั้งในรูปแบบของสื่อสารมวลชนและบทวิเคราะห์ต่างๆ
เขากำลังใช้เงินทุนของตัวเองต่อสู้กับเซียนอื่นๆ
ที่มีเงินทุนอันมากมายมหาศาล
ที่สำคัญ........................
เขากำลังเผชิญหน้ากับเซียนทั้งหมดนี้พร้อมๆกัน
และ ยิ่งไปกว่านั้น ...
เซียนบางกลุ่มยังมีการร่วมมือกันในเบื้องหลังอีกด้วย
โดยทั้งหมดนี้เกิดขึ้นบน
กระดานหุ้นอิเลคทรอนิคส์.......อันพริ้วไหว......ที่อยู่ต่อหน้าเขานั่นเอง
ซึ่งเขา........................ไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลย
เขาพบแล้วว่า....กระดานหุ้นนี้มันลึกซึ้งและซับซ้อนกว่ากระดานหมากรุกที่เขาคุ้น
เคยนัก
แต่ที่ผ่านมา.......ทำไมเขาใช้เวลาในการตัดสินใจเดินหมากในกระดานหุ้น
.......รวดเร็วเหลือเกิน............ในแต่ละก้าว
เขานึกย้อนกลับไปทบทวนอีกครั้งว่า......เวลาเดินหมากรุกบนกระดานเล็กๆ
เขาใช้เวลาครุ่นคิดบางกระดาน นานนับชั่วโมง ทั้งๆที่
ก็ไม่ได้มีเดิมพันอะไร
..........มุ่งหวังที่ผล แพ้-ชนะ เท่านั้น.........
แต่กับการตัดสินใจซื้อหุ้นเต็มวงเงินของพอร์ต
เขากลับใช้เวลาคิดแค่ชั่วแล่น
ทั้งๆที่ผลของมันอาจกระทบต่อฐานะทางการเงินของเขาได้อย่างมากมาย
เขาสำนึกแล้วว่า.................เขาได้ประมาทต่อการเดินหมากบนกระดานนี้เพียงใด
อีกนานแรมปี นับจากวันนั้น
กว่าที่เขาจะสามารถปรับสมดุลของการใช้เวลา
เพื่อกลั่นกรองข้อมูลสำหรับใช้ในการตัดสินใจ
ตลอดจนพัฒนารูปแบบการเดินหมากบนกระดานหุ้น
ให้เหมาะสมและลงตัว อย่างที่เคยทำได้ในกระดานหมากรุก
เหมือนครั้งที่เป็นแชมป์กีฬามหาวิทยาลัย
หลังจากทำความสะอาดกล่องหมากรุกและนำเก็บเข้าที่เดิมแล้ว
เล้งได้ทบทวนอดีต.........นึกถึงเหตุการณ์ต่างๆที่พ่อพยายาม
ปลูก-ฝัง-เพาะ-บ่ม-อบ-รม-เคี่ยว-เข็น-ผลัก-ดัน
...................... ผ่านมาทางกระดานหมากรุก
เขาซาบซึ้งแล้วว่า......... คำพร่ำบ่นบนกระดาน.......ของพ่อมีค่าแค่ไหน
นึกถึงบางประโยคที่พ่อคอยเน้นย้ำ
เพื่อชี้นำให้ชีวิตเขาเดินมาอย่างมีทิศทาง
/ หมากรุก.........จะเดินให้ชนะ......ยังต้องคิด
...หมากชีวิต.......ถ้าไม่คิด................จะเดินให้ชนะได้อย่างไร
นึกถึงตอนเด็กที่เคยสงสัยว่า ทำไม
พ่อถึงยอมแพ้ให้เขาในกระดานสุดท้าย
นึกถึงตอนที่เขาเข้าใจสิ่งนี้ได้เอง ในอีกหลายปีต่อมา
ว่าเป็น เพราะ พ่อกลัวว่าถ้าเขาแพ้ตลอด
เขาจะเบื่อและอาจเลิกเล่นหมากรุกไปเลย
แต่ถ้าปล่อยให้เขาชนะเรื่อยๆ
มันก็ไม่มีอะไรท้าทายให้เขาเล่นต่อและจะคิดว่า
ไม่มีอะไรต้องเรียนรู้จากมันอีกแล้ว
นึกถึงพ่อของเขาที่ไม่เคยยึดติดกับสีของหมากอย่างที่เซียนหลายๆคนเป็น
เวลาเล่นกับเขาจะเลือกใช้หมาก.....สลับสี....ไปมา
บางครั้งเดินด้วยหมากสีแดง บางครั้งเดินด้วยหมากสีเขียว
ดังนั้น ภาพที่ปรากฏบนกระดานหมากรุก ที่ผ่านสายตาของเขาอย่างชินตา
ก็คือ
....เดี๋ยวหมากสีแดงก็ชนะหมากสีเขียว......เดี๋ยวหมากสีเขียวก็ชนะหมากสีแดง.....
/ เล้ง..... ตัวหมากแดงและหมากเขียวน่ะ มันไม่เคยแพ้ชนะกันเด็ดขาดหรอก
เกมหมากรุกมันไม่เคยจบ ตัวหมากทั้งสองสียังคงอยู่เหมือนเดิม
เพียงแต่คนเล่นเท่านั้นเอง...............ที่เปลี่ยนหน้าไป
บางครั้ง..........เขาเองก็ยังเคยคิดเล่นๆ ว่า......
แท้จริงแล้ว เขาเองก็เป็นหมากตัวหนึ่งบนกระดานชีวิตของพ่อ......
ที่พ่อรักและหวงแหนมาก
เดินหมากตัวนี้ด้วยความระมัดระวัง
หลังจากเคยสูญเสียหมากสำคัญไปครั้งหนึ่ง
เล้งเพิ่งทราบความจริง ในสิ่งที่เคยสงสัย จากอาของเขาเมื่อไม่กี่ปีมานี้
สำหรับเรื่องที่พ่อของเล้งเลิกเล่นหมากรุก........แล้วมาเริ่มเล่นใหม่อีกครั้งก
ับเขาเพียงคนเดียว
ทำให้เขายิ่งตระหนักว่า..............พ่อรักและหวังดีกับเขาเพียงใด
เพราะการ เดินหมากรุกแต่ละก้าวกับเขา
มันจะทำให้พ่อต้องเจ็บปวดกับอดีตที่ผุดขึ้นมาตอกย้ำ...............แต่พ่อก็ยอม
อาของเล้ง เล่าให้ฟังว่า
* เฮียเขาเป็นเซียนหมากรุก สมัยก่อน
ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องไปร้านกาแฟที่ปากซอย
เล่นหมากรุกเอาแค่ค่ากาแฟกับปาท่องโก๋
เพราะในย่านเดียวกันไม่มีใครกล้ามาพนันเงินด้วยแล้ว
* แต่มีอยู่วันหนึ่งมีเซียนต่างถิ่น มาท้าแข่ง
วางเดิมพันกันด้วย มีทั้งจับวงนอก เล่นวงในอยู่หลายกลุ่มของทั้งสองฝั่ง
ตกลงกันว่า......เล่นกระดานเดียว..... แล้วไม่จำกัดเวลา
*เฮียเขาเองเดิมพันไม่เยอะพอสนุกๆ
แต่คนอื่นที่ถือหางนี่ ทุ่มกันหนักหน่อย
เพราะเห็นว่าเล่นแค่กระดานเดียว
ตอนนั้นเจ็กอยู่ในร้านกาแฟด้วย ดูอยู่แค่ครึ่งชั่วโมง
สักพักเจ็กก็กลับมาที่ร้านแล้วขับรถไปส่งของให้ลูกค้า
* ตอนหลัง มารู้ว่า เฮียเขาเล่นติดพันอยู่สักชั่วโมงนึงได้
แล้ว อาม้าของเล้งก็มาตามให้ขับรถไปส่งของให้ลูกค้าอีกเจ้า
แต่ป๊าของเล้ง เกี่ยงว่าให้รออีกเดี๋ยว .... ขอเล่นให้จบก่อน
* รออีกครึ่งชั่วโมง อาม้าลื้อ ก็เดินออกไปอย่างเงียบๆ
อาป๊าลื้อเลยคิดว่าคงไม่มีอะไรด่วนมาก......
เลยเดินหมากต่อด้วยความเย็นใจ
แต่จริงๆแล้ว อาม้าลื้อขับรถไปส่งของเอง ทั้งๆ ที่ยังขับรถไม่แข็ง
แต่เพราะต้องการจะไปเก็บเงินค่าสินค้าเดิมที่ครบกำหนดด้วย
* พอดีลูกค้าเขาโทรมาอีกที บอกว่ารอได้ไม่นาน
เพราะตัวเถ้าแก่กับเถ้าแกเนี้ยมีธุระด่วนกำลังจะเดินทางไปต่างจังหวัดหลายวัน
อาม้าลื้อเขาห่วงว่า เดี๋ยวจะหมุนเงินในร้านไม่ทัน ก็เลยรีบไป
* หลังจากนั้นอีกครึ่งชั่วโมง เด็กที่ร้านไปกระซิบที่หู
บอกเฮียที่กำลังเดินหมากอยู่ว่า.....
......... อาซ้อขับรถชนกับรถหกล้อ.........ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล......
* ตอนนั้นหมากกำลังสูสี แต่เฮียเขาทิ้งกระดานกลางคันไม่ได้
เพราะนักพนันมันล้อมวงอยู่เต็มร้าน
แต่แล้วอีกไม่ถึง 10
นาที....เซียนฝ่ายตรงข้ามก็รุกฆาต....แล้วเฮียเขาก็แพ้
ตอนนั้นคนในวงพนันยังไม่รู้เรื่อง
บางคนยังด่าไล่หลังว่า.......ทำพวกเขาเสียเงินไปเยอะ
*แล้วเฮียเขาก็รีบไปโรงพยาบาล ... แต่ไม่ทัน......
อาม้าลื้อสิ้นลมก่อน
* ช่วงงานศพ วันทั้งวัน อาป๊าลื้อนั่งนิ่ง บางช่วงก็น้ำตาไหล
ไม่พูดจากับใคร
พึมพำอยู่แต่ว่า..............แพ้ทั้งสองกระดานๆ
*แต่ก็ไม่มีใครเข้าใจนะ เพราะคนที่อยู่ในวงพนันก็ยืนยันตรงกันว่า
เฮียเขาเล่นกับเซียนต่างถิ่นแค่......................................กระดานเดียว
เราอาจจะมีชีวิตอยู่ในวันนี้...................................
ด้วยความหวังของวันพรุ่งนี้
แต่จะไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ...............................
ท่ามกลางการแข่งขันในสังคม
..................................... Pantip Theater
ขอขอบคุณท่านผู้ชมทุกท่าน..............
........โปรดปรับสายตาให้ชินกับความสว่างก่อนเดินออกจากโรงภาพยนตร์........
ขออวยพรให้ท่านประสบความสำเร็จกับการเดินหมากในกระดานชีวิตของท่าน
...............................แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า.......................
............................................สวัสดี..........................
|
โดย : 8Thepr0 [ 06/06/2005, 10:58:15 ] |
1
น้ำตาไหลเลย
เขียนได้เข้าถึงดีจัง |
โดย : MadWall [ 06/06/2005, 11:06:00 ] |
2
เป็นเรื่องที่ดีมากครับ
ให้ข้อคิดหลายอย่าง ทีเดียว ขอบคุณผู้ post ด้วยครับ |
โดย : ไร้น้ำตา [ 06/06/2005, 12:19:58 ] |
4
ซึ้งมากๆ |
โดย : คนอ่าน [ 07/06/2005, 09:52:35 ] |
5
ซึ้งกินจัยคนวัยเรียนเลยฮะ |
โดย : เด็กสวนดุสิตปี1 [ 07/06/2005, 14:04:42 ] |
6
หุหุ |
โดย : เด็กเซียน [ 07/06/2005, 15:49:08 ] |
7
ขอบคุณที่หามาให้อ่านครับ
ได้ยิน one_nut พูดถึงเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
เข้าไปหาในเวบที่เขาบอกก็หาไม่เจอ
ขอบพระคุณมาก ๆอีกครั้งครับ... /\
|
โดย : ประชา [ 09/06/2005, 00:56:29 ] |
8
ขอวิจารณ์แบบตรงๆ...นะ ว่า
อ่านแล้วธรรมดา ไม่ต่อเนื่องทั้งเนื้อหาและการลำดับเรื่อง
(เทียบกับหมากรุกได้คือ เล่นคุมรูป..มีแต้มพื้นๆ..ทำไม่จัด)
โดยมีจุดบกพร่องตั้งแต่ต้นถึงจบเรื่อง...ดังนี้
ตรุษจีนตรงกับช่วงปิดเทอม.....จริงอะ????
ตอนเด็กวันตรุษจีนไปนั่งเล่นหมากรุก..คงไม่มีเด็กๆที่ไหนทำอย่างนั้น
อ่านเพลินๆว่า ช่วงปิดเทอม ..โผล่มา.บอกจะไปโรงเรียนสาย..???
นักหมากรุกระดับเซียนนะ...น้อยรายจะหยุดเล่น..เพราะติด..???
เอาหมากรุกไปเทียบกระดานหุ้นนะ..ไม่น่าเทียบกันได้ ยิ่งหมากเขียวหมากแดงนี่คนละเรื่องเลย...???
คิดดู..ถ้าน้ำมันขึ้นหรือเกิดสงคราม..กระดานหุ้นนะ..แดงแจ๋แหลไม่มีเขียวแน่
เพราะมันอยู่ที่ปัจจัยภายนอกมากระทบ ไม่ใช่การแข่งขัน...แล้วมันจะไปผันเป็นหมากรุกยังไง?????
เป็นงานเขียนดีอยู่เรื่องเดียวคือ......ขยันที่จะเขียนครับ
กล้าที่จะเป็นนักเขียนต้องกล้ารับคำวิจารณ์
ผมหลงเข้ามาอ่าน เลยขอวิจารณ์หน่อย
แค่นี้นะครับ...เดี๋ยวจะแรงเกินไปกว่านี้
|
โดย : คนชอบเขียนเหมือนกัน [ 09/06/2005, 14:56:05 ] |
9
คนชอบเขียนเหมือนกัน
จะวิจารณ์ทั้งทีต้องมีกึ๋นด้วยสิ
หากไม่มีความคิด ที่จะทำความเข้าใจ เหมือนเซียนชี้แต้มให้เห็น คิดไม่ออกก็บอกว่ามั่ว
เรื่องปลีกย่อยบางอย่างไม่ใช่ประเด็น ควรแยกแยะ คิดให้เป็น ....... จะดี |
โดย : 5 5 5 [ 09/06/2005, 15:07:44 ] |
10
ผมว่า ความเห็นที่ 8 วิจารณ์แรงและตรงดีนะครับ
ไม่แน่ใจ เลยกลับไปอ่านอีกรอบ
พบจุดอ่อนเยอะและก็เป็นอย่างที่เขาวิจารณ์
แม้ว่าไฮไลท์ มิได้อยู่ที่เขาตำหนิหรือวิจารณ์...
แต่ในงานเขียนนั้น ไม่ควรละเลยหรือมองข้ามจุดเล็กๆน้อยๆ ครับ.......
|
โดย : ผ่านมา [ 09/06/2005, 17:00:54 ] |
11
ความเห็นที่ 8 และ 10 นี่ เขียนเอง ยกหางตัวเองเสร็จ.....
สำนวนการเขียน คนที่เป็นอ่านก็รู้ว่าไผเป็นไผ
อย่าเว่อร์เลยหนู สำนวนส่อความรู้และความคิด ทำได้แค่นี้อย่าไปวิจารณ์ไผเขาเลย........... นะหนู
เหอ ๆ ๆ |
โดย : 5 5 5 [ 09/06/2005, 17:12:48 ] |
12
ขำเบอร์8..คนชอบเขียนเหมือนกันครับ
คุณบอกมีดีอยู่อย่างเดียว คือ ขยันที่จะเขียน ...ขำครับ นี่หรือคำวิจารณ์
คุณลองอ่านความเห็นอื่นๆสิครับ ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับงานเขียนนี้
บางทีคุณอาจไม่ทราบ ว่าเนื้อหานี้ถูกโพสในห้องสินธรที่พันทิพ
คนแต่งไม่ได้ใส่อารมณ์นักเขียน แต่ใส่อารมณ์นักเล่นหุ้นกับหมากรุกจีนครับ
ปล. ขอโทษนะครับ หากเหตุการณ์นี้เกิดเมื่อ30กว่าปีมาแล้ว สมัยคุณพ่อคุณและ
ผู้เขียนอาศัยย่านคนจีนเช่นแถวเยาวราช อาจแก้คำวิจารณ์คุณได้หมดนะครับ |
โดย : AMC [ 09/06/2005, 17:13:36 ] |
13
ตกลงใครพวกใคร ใครเชียร์ใครหว่า... |
โดย : CMA [ 09/06/2005, 17:15:57 ] |
14
ใครไม่เชียร์กะทู้นี้อยู่ข้าง ความเห็นที่ 8 และ 10 (หมากแดง)
ความเห็นที่เหลืออยู่ฝั่งตรงข้าม (หมากเขียว)
อิอิ.... |
โดย : CMA [ 09/06/2005, 17:42:44 ] |
15
อ่านดูสไตล์แล้ว ความเห็น8 กับความเห็น10 เป็นคนเดียวกันอย่างแน่นอน สำนวนเขียนถอดแบบกันเปรี๊ยะ
อาจบังเอิญได้ แต่สถานที่และเวลาที่ใกล้เคียงกันขนาดนี้ มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย
ก็เป็นประเภทอิจฉาคนอื่น และอยากอวดตัว ไม่มีอะไรต้องสนใจ นะจ๊ะ |
โดย : รู้ทัน [ 09/06/2005, 17:43:41 ] |
17
คห.ที่ 8 กะ ที่10 นั้น อย่าไปว่าเขาเลย
ก็เขามีปัญญาเท่านั้นจะไปอะไรกันนักกันหนา
ก๊าก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ (ขำกว่า) |
โดย : คนชอบขำ [ 09/06/2005, 18:39:47 ] |
18
ว่ากันตามรายละเอียดแล้ว อาจจะจริงอย่างวิจารณ์มาในบางข้อ
แต่เรื่องความกินใจของเรื่อง ผมว่ากลบข้อด้อยในเรื่องอื่นได้เลย
|
โดย : MadWall [ 09/06/2005, 20:56:27 ] |
19
ตรุษจีน ปีนั้น เป็นช่วงที่เล้งปิดเทอมแล้ว
คงบอกอะไรได้นะครับ ไม่รู้ว่าผู้เขียนใช้คำว่าปีนั้นเพื่อแสดง
ให้เห็นข้อแตกต่างจากปีอื่นๆๆเพื่ออะไร แต่น่าจะบอกได้ว่าผู้เขียน
ต้องการแยกว่าเป็นตรุษจีนที่ต่างจากปีอื่นด้วยความจงใจ ตรุษจีนสมัยก่อนบางครั้งจะเป็นกลางกุมภาพันธ์
จะมีก็แต่เด็กโรงเรียนสา
ธิตละมั่งที่ใกล้ปิดเทอม แต่ก็คงเป็นไปได้ยากแต่ผมว่ามันไม่ใช่
ประเด็นสักเท่าไร
ต่อให้เป็นงานศพแม่ถ้าผู้เป็นพ่อจะตั้งใจสอนลูกโดยใช้อะไรก็ตาม
ที่ไม่เหมาะสมผมก็ว่าไม่เห็นแปลกอะไร ยังไงก็คงต้องบังคับกัน
แม้ลูกจะไม่ยอม
ประโยค หลังจากวันนั้น พ่อของเล้งก็เอ่ยปากชวนเล้งเล่นหมากรุกจีน ทุกครั้งที่เห็นว่าเล้งอยู่ว่างๆ
คงพอสื่อได้ว่าเลยช่วงปิดเทอมแล้ว
ได้เหมือนกันนะครับ
ส่วนเซียนหมากรุกน้อยหลายจะหยุด เล่น เพราะติด
แต่ถ้าหมายความว่าพ่อของเล้งน่าจะเล่นต่อจนข้ามวันข้ามคืนแบบ
เรื่องอื่นๆที่เกี่ยวกับการพนันก็น่าจะดูโหดดี เหมือนจะย้ำให้แผลมัน
ลึกขึ้น แต่ผมว่าคุณต้องวิจาร์ณว่าถ้าลึกขนาดนั้นน่าจะเลิกเล่นไป
ตลอดชีวิตอีกแน่เลย แต่คงไม่ใช่หรอกมั่งเพราะเขากำหนดไว้ก่อน
ว่าเล่นกระดานเดียว แต่ก็ไม่แน่อีกละแล้วแต่เราจะเขียน
ส่วนเรื่องเปรียบเทียบมันของไม่มีรูปแบบจำลองไหนที่จะแทนที่ของ
จริงได้ทั้งหมดหรอกครับ รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา ผมยังไม่รู้
เลยหามเสามันชั่วตรงไหน เทียบได้ยังไง แต่จริงๆก็เข้าใจอยู่หรอก
แต่บางครั้งผมก็รักจะหามเสานะเพราะมันหนักดี
หมากรุกกับสงครามนี่คุณต้องเห็นว่าเทียบกันไม่ได้แน่ผมก็ว่างั้น
แหละ
เรื่องอารมณ์กระโดดผมก็เห็นด้วยในบางครั้ง ก็มันงานฟรีนี่ครับ
ผมไม่กล้าพูดออกมาตรงเพราะผมไม่มีปัญญาเขียนได้เท่าแม้ครึ่ง
หนึ่งของเขาเลย นับว่าเป็นบุญของผมแล้วที่ได้อ่านเรื่องที่มีหมาก
รุกเป็นแกน หายากจริงๆ
ใจผมก็พยายามหาทางดันกระทู้นี่เหมือนคุณเหมือนกัน แต่ไม่กล้า
แบบคุณมันดูแรงไป เหมือนสำเร็จได้ตามเป้าหมายและได้ตำหนิคน
ฟรี
เรื่องที่ผมอยากพูดถึงคือความรู้ในเรื่องวิธีคิดวิธีการเดินหมากรุก
ของผู้เขียนมันอยู่ในระดับเซียนจริงๆๆ แต่เป็นความรู้แบบเซียน
พนัน ไม่ใช่เซียนแข่งขัน แต่ก็ตรงตามเรื่อง ตอนแรกก็แอบลุ้นว่า
ประวัติพ่อของเล้งจะโชกโชนขนาดไหนแบบมีปู่เป็นแชมป์จากเมือง
จีนหรือเปล่า พอเปิดออกมาก็กร่อยๆๆไปนิด แต่วิธีสอนถือว่าเก่ง
กว่าฝีมือหมากรุกเสียอีก ถ้าผู้แต่งเขียนด้วยความรู้ของตัวเองฝีมือ
หมากรุกคงไม่เบาทีเดียว นึกไม่ออกจริงๆใครที่มีฝีมือหมากรุก
แล้วเขียนได้ขนาดนี้ เรื่องนี่สิ่งที่ผมทึ่งที่สุดคือวิธีคิดแบบการเดิน
หมากพนันที่ผู้เขียนถ่ายทอดออกมา สำหรับผมเรื่องนี้มันมีความหมายมากกว่าแค่ ขยันที่จะเขียนครับ
|
โดย : ขุนสันต์ [ 10/06/2005, 08:15:20 ] |
20
ขอนำความเห็นเกี่ยวกับกระทู้นี้ จากหัวข้อและเว็บฯเดียวกันครับ
- - - - - - - - - - -
ความคิดเห็นที่ 22
หัวใจดีจัง เขียนเยอะขนาดนี้ ขอบคุณมาก ใครว่าดูหุ้นจากเนตไม่ได้อะไร ผมว่าต้องดูจากห้องนี้แหละใช่เลย
จากคุณ : พีท - [ 4 พ.ค. 47 06:26:01 A:210.86.188.13 X: ]
-----------------
ความคิดเห็นที่ 23
น่าจะรวมเป็นserieเป็นเล่มหนังสือออกขายได้นะคับ
จากคุณ : Dookdig&Daddy - [ 4 พ.ค. 47 07:48:17 ]
--------------------
ความคิดเห็นที่ 24
สนุกครับ
ขอบคุณที่นำเสนอเรื่องดีๆครับ
จากคุณ : weekest - [ 4 พ.ค. 47 08:22:45 ]
---------------------
ความคิดเห็นที่ 25
ขอชื่นชมและขอบคุณค่ะ ที่ฉายหนังดีๆให้พวกเราดู
อยากดูเรื่องต่อไปนะคะ เรื่องนี้ซาบซึ้งและได้ข้อคิดดีมากค่ะ
เรื่องต่อไปจองแถวหน้าเลยนะคะ
จากคุณ : ม่ายสาว-พราวเสน่ห์ - [ 4 พ.ค. 47 08:25:43 ]
------------------
ความคิดเห็นที่ 26
แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 47 08:35:35
จากคุณ : คลาย เครียด - [ 4 พ.ค. 47 08:34:39 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 27
โหวตให้แล้วครับ
อย่าลืมคลิ๊กเก็บเข้าคลังกระทู้เก่า
เผื่อจะพิมพ์เป็นหนังสือ
จะได้รวบรวมผลงานได้ง่าย
ใครสนใจจะเล่นหมากรุกกับเล้งบ้าง
ผมจะตัดแปะให้ ฮาๆๆๆ
จากคุณ : คลาย เครียด - [ 4 พ.ค. 47 08:34:54 ]
--------------------
ความคิดเห็นที่ 28
vote ครับ vote
จากคุณ : buglife - [ 4 พ.ค. 47 08:48:25 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 29
ขอบคุณครับ สนุกมากครับ ลึกซึ้งกินใจ
โหวตให้ครับ
จากคุณ : ขุนอิน - [ 4 พ.ค. 47 09:03:08 ]
------------------------
ความคิดเห็นที่ 30
สุดยอดขอบคุณมากครับ
จากคุณ : MudleyGroup (MudleyGroup) - [ 4 พ.ค. 47 09:13:31 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 31
ขอบคุณสำหรับแง่คิดดีๆ ครับ
จากคุณ : หมูตะกายตึก - [ 4 พ.ค. 47 09:15:15 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 32
สุดยอดวิชาครับ สามารถถ่ายทอดเรื่องราวของชาวหุ้น
ผ่าน เรื่องราวของเล้งและหมากรุกจีน ได้อย่างหมดจด
มีเพียงเซียนเท่านั้น ที่เข้าใจเซียนด้วยกัน ...................
ฝากถามถึงท่านๆที่จะมาขายวิชาในนี้ด้วยว่า
ท่านคิดอย่างเซียนหรือไม่ ??? วิชาดี ไม่ขาย
จากคุณ : adrenaline - [ 4 พ.ค. 47 09:20:19 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 33
มาขอบคุณและชื่นชมด้วยคนค่ะ
จากคุณ : Thumberina - [ 4 พ.ค. 47 09:27:31 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 34
ขอบคุณมากครับ เข้าถึงก้นบึ้งในใจของคนเล่นหุ้นที่เล่นหมากรุกเลยครับ
ปล.ช่วงนี้วันหยุดดูหมากรุกได้ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์นะครับ
จากคุณ : sumaii - [ 4 พ.ค. 47 09:30:15 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 35
จากคุณ : bogey - [ 4 พ.ค. 47 09:36:38 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 36
ขอคุณมากครับ
จากคุณ : morefunthai - [ 4 พ.ค. 47 09:39:19 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 37
ขอบคุณมากครับ ลึกซึ้งครับ เรียบง่ายแต่ลึกซึ้งครับ ขอบคุณครับ
จากคุณ : NEURON - [ 4 พ.ค. 47 09:43:07 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 38
วิชาดีไม่ขาย แต่ถ่ายทอดได้ เหมือนท่าน The rounder ช่วยเตือนใจ ทั้งจิตวิญญาณและได้แนวคิดที่ดี ๆ ครับ
จะคอยติดตามต่อไป จองแถวหน้า ตรงกลางครับ
พี่อยากเชือก ท่านชอบอ่าน ก็มาแนะบ่อย ๆ นะครับ
จากคุณ : morefunthai - [ 4 พ.ค. 47 09:44:28 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 39
เยี่ยมมากๆ เลยครับ
จากคุณ : sunsetbeach - [ 4 พ.ค. 47 10:00:43 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 40
โอ้วว.....สุดยอดครับ
ขอบคุณมากๆครับ
จากคุณ : Zionism - [ 4 พ.ค. 47 10:32:30 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 41
สงสารพ่อเล้งน่ะ
จากคุณ : s_atip - [ 4 พ.ค. 47 10:35:59 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 42
ขอบคุณครับ
จากคุณ : เพื่อนพูห์ - [ 4 พ.ค. 47 10:36:26 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 43
ลึกซึ้ง ซาบซึ้ง และซึ้งมาก ขอบคุณมากครับ
จากคุณ : papum - [ 4 พ.ค. 47 11:04:40 A:203.113.41.134 X: ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 44
Thank you very much!
จากคุณ : oli (oliva) - [ 4 พ.ค. 47 11:05:06 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 45
ลึกซึ้งมากๆ อ่านจบแล้วได้แง่คิดหลายอย่างเลยครับ
ขอบคุณมากมายสำหรับ เรื่องราวที่เขียนมาครับ
จากคุณ : หนุ่มอุดรรักสาวอุบล - [ 4 พ.ค. 47 11:32:15 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 46
ง่ายๆ แต่ได้ใจความดีครับ
ขอบคุณมาก
จากคุณ : ปลายนา - [ 4 พ.ค. 47 11:57:40 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 47
อ่านจนจบ
ขนลุกเกรียว
จากคุณ : aerozer (aerozer) - [ 4 พ.ค. 47 12:09:50 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 48
ได้แง่คิดดีๆมากมาย
ขอบคุณที่มาเล่าสู่กันฟังค่ะ ^^
จากคุณ : chocolate fountain^^ - [ 4 พ.ค. 47 12:58:26 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 49
ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้อย่างยิ่ง
จากคุณ : na (naoneone) - [ 4 พ.ค. 47 13:01:11 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 50
ขอขอบคุณด้วยอีกคนค่ะ ลึกซึ้งดีค่ะ
จากคุณ : ตาล - [ 4 พ.ค. 47 13:07:15 A:202.59.255.111 X: ]
ความคิดเห็นที่ 51
สุดยอดครับ
ขอคารวะจากใจจริง
เขียนได้ดีจริงๆครับ
จากคุณ : Muffin - [ 4 พ.ค. 47 13:14:52 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 52
คมกริบ... ขอคารวะ 3 จอก
จากคุณ : -Tatsuya- - [ 4 พ.ค. 47 13:26:20 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 53
ดีจริงๆ หนังเรื่องนี้
ตอนจบน้ำตาเกือบหยดซะแล้ว ซึ้งกินใจมาก
จากคุณ : =U_U= PoRpLe - [ 4 พ.ค. 47 13:42:14 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 54
คุณ Rounder เป็นนักเขียนอยู่สำนักพิมพ์ไหนหรือเปล่าครับ สำนวนและพอตเรื่องสุดยอดทุกขบวนท่าจริง ๆ
น่าจะมีบทความแบบนี้บ่อย ๆ นะครับ สัปดาห์ล่ะครั้งก็ยังดี แล้วพอครบปีค่อยรวมเล่มนะครับ
จากคุณ : tnity - [ 4 พ.ค. 47 14:44:44 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 55
ยอดเยี่ยมจริง ๆ น่าจะมีใครสักคนรวบรวมกระทู้ดีเด่นในลักษณะแบบนี้พิมพ์รวมเล่มขายนะครับ
รายได้จะเอาไปบริจาคเพื่อการกุศลช่วยเด็กพิการปัญญาอ่อน เด็กกำพร้า หรือคนชราก็ดีครับ
จะตั้งราคาขายแพงหน่อยก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการทำบุญร่วมกัน
จากคุณ : เซียวฮง - [ 4 พ.ค. 47 15:35:22 A:10.0.18.36 X:203.144.196.34 ]
-----------------
ความคิดเห็นที่ 56
ขอบคุณครับ กับวิทยาทานที่ให้ในรูปของเรื่องเล่า น่าสนใจมากครับ
จากคุณ : อร่อยเหาะ - [ 4 พ.ค. 47 15:40:17 ]
-------------
ความคิดเห็นที่ 57
สุดยอด ขอบอก...
จากคุณ : ~ผู้พิชิตยอดดอย~ - [ 4 พ.ค. 47 16:09:41 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 58
ขอบคุณครับ จะตามอ่านเรื่อยๆครับ
จากคุณ : กบนอกกะลา (ลุงเซี้ยว) - [ 4 พ.ค. 47 16:13:44 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 59
ขอบคุณครับ
นับถือๆ
จากคุณ : มือเก่าหัดขับ - [ 4 พ.ค. 47 16:27:41 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 60
สุดยอด เซียน พันธ์แท้ ขอโหวตให้ และขอเก็บคำสั่งสอนนี้ไว้เตือนใจ
ขอบคุณค่ะ
จากคุณ : สองฝั่งเมย (สองฝั่งเมย) - [ 4 พ.ค. 47 16:27:48 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 61
สุดยอดครับ มันมาก สงสัยชีวิตผมตอนนี้คงเเพ้สองกระดานเหมือนกัน
จากคุณ : Aus Biotechnologist - [ 4 พ.ค. 47 16:47:42 ]
------------------------
ความคิดเห็นที่ 62
เยี่ยมจริงๆ ต้องมีเค้าเรื่องจริงของท่านใดแน่..
จากคุณ : มือใหม่ (Samran) - [ 4 พ.ค. 47 17:21:54 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 63
จิบชาคิดเพลินเดินหมาก
หลายหลากแต้มคูสู้ถอย
ดิ่งเหวเด้งดึ๋งติดดอย
เกลื่อนรอยซากขวางทางเซียน
มาร่วมโหวตครับ
จากคุณ : Daosaddha - [ 4 พ.ค. 47 17:32:52 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 64
ความรู้สึกเดียวกับอ่านซีไรเลยครับ
จากคุณ : LittleBroker - [ 4 พ.ค. 47 18:00:57 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 65
ขอบคุณมากครับ
vote ครับผม
จากคุณ : samsam - [ 4 พ.ค. 47 18:11:51 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 66
ไม่ธรรมดาจริงๆ
ขอบคุณครับ
จากคุณ : 2024 - [ 4 พ.ค. 47 19:07:13 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 67
เข้ามาชื่นชม....เยี่ยมครับ
อะไรที่สนุกก็ไม่ค่อยมีสาระ
ไอ้ที่มีสาระ ก็ไม่สนุก
นี่ได้ทั้งสาระและความสนุก
เขียนบ่อยๆนะครับ
จากคุณ : b n' b (K.nobody) - [ 4 พ.ค. 47 19:36:13 ]
------------------------
ความคิดเห็นที่ 68
ขอบคุณครับ อ่านแล้วนึกถึงสมัยที่เคยเล่นหมากรุกกับพ่อ
จากคุณ : ใจดีมาก - [ 4 พ.ค. 47 19:46:16 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 69
ดับเบิ้ลโหวตให้เลยครับ
โหวตที่หนึ่ง..มีสาระมาก
โหวตที่สอง...แปรสาระมาเป็นเรื่องเล่าอย่างมีอรรถรสชั้นเซียน
ถ้าออกเป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น..จะช่วยอุดหนุนครับ
จากคุณ : think_pos - [ 4 พ.ค. 47 19:53:49 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 70
ขอขอบคุณแง่คิดดี ๆ ที่มีให้ด้วยคนครับ
หนึ่งโหวตจากผมครับ
จากคุณ : มะเมี่ยมคุง - [ 4 พ.ค. 47 20:36:54 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 71
ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบเล่นหมากรุกมาก(แต่เฉพาะหมากรุกไทยเท่านั้น หมากรุกจีนเล่นไม่เป็น)
พยายามหาเว็ปเล่นเกมส์ที่เกี่ยวกับหมากรุกไทย ก็ไม่มี หาไม่เจอ และก็ไม่ทราบว่ามีหรือเปล่า
มีใครพอทราบบ้าง ช่วยแนะนำหน่อยครับ เอาเกมส์หมากรุกที่เล่นกับคอมฯ มาลง ตอนแรกๆ ก็ชนะยาก
ไม่ว่าระดับไหน แต่ตอนหลัง
ก็ชนะรวดสำหรับระดับเบื้องต้น เพราะรู้ทางแล้ว ไม่ว่าจะมาไม้ไหน
ชนะและเสมอ สำหรับระดับทั่วไป(แต่ก่อนก็ชนะยากมาก)
เสมอเป็นส่วนใหญ่ สำหรับระดับผู้เชี่ยวชาญ
เสมอเป็นส่วนใหญ่ สำหรับระดับเซียน กำลังพยายามหาทางชนะอยู่แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ
ทำได้ดีที่สุดแค่เสมอ
รู้สึกว่าหมากรุกนั้นมีประโยชน์ไม่น้อย ดังที่ท่านผู้เขียนได้เปรียบเทียบให้เห็นแล้ว
ทุกอย่างอยู่ที่ใจจริงๆ ถ้ารู้จักเอามาประยุกต์ใช้ ก็มีประโยชน์ไม่น้อย ในทุกๆด้านของการดำเนินชีวิต
เรื่องหุ้นก็ช่วยได้มาก
นับถือครับ เขียนได้ดีมากๆ
จากคุณ : 009 - [ 4 พ.ค. 47 20:52:01 A:203.118.86.109 X: ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 72
อ่านจบน้ำตาซึมค่ะ คุณเยี่ยมมากค่ะ คุณThe Rounder ขอแสดงความชื่นชมคุณค่ะ
จากคุณ : ครูนางฟ้า - [ 4 พ.ค. 47 21:47:16 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 73
Coollll....
จากคุณ : oor - [ 4 พ.ค. 47 21:51:12 A:164.115.23.210 X: ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 74
เตือนใจดีครับ
จากคุณ : somkiat@2508 - [ 4 พ.ค. 47 23:12:49 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 75
แอ็คนี้ผมให้ 20 คะแนน !!!!!
จากคุณ : อ.จตุรัส(at 10) - [ วันฉัตรมงคล 00:59:42 A:202.133.168.57 X: ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 76
-ขอบคุณมาก กินใจมากทีเดียว อ่านตอนเช้า หายอาจ(หาญ)ทีเดียว เลยหดหัวเข้ากระดองหยุดซื้อขายทั้งวันเจียว
อิ อิ...
จากคุณ : แพะโง่...นับถือ - [ วันฉัตรมงคล 02:51:03 A:203.156.8.146 X: ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 77
อ่านเสร็จ..เขียนอะไรไม่ถูก
พยายามรวบรวมความคิดที่กระจัดกระจาย
คำแรกที่รู้สึกคือ ขอบคุณมากครับ ชอบมากๆ ครับ
ความรู้สึกที่สองคือ ความอบอุ่นแบบญาติพี่น้อง ที่สอนอ้อมๆ แต่อ่านผ่านตัวละครได้อย่างสนุก มีชีวิต
และเปี่ยมประโยชน์ อ่านๆ อยู่เหมือนมีมือมาลูบหัว ตบไหล่เบาๆ
และมีเสียงกระซิบเบื้องหลังประโยคที่พี่ไม่ได้พูดตรงๆ หลายๆ อย่างแว่วอยู่ในความคิด
ถ้าใจนิ่งลงมากกว่านี้คงได้ยินชัดเจนขึ้น (เห็นทีจะต้องอ่านอีกรอบ)
ความรู้สึกสุดท้ายคือ อึ้ง อึ้งทั้งในความสามารถในการเขียนของพี่
และที่อึ้งมากที่สุดคือการได้ตระหนักว่า ที่ผ่านมา เราเดินหมากอย่างไร เดินแบบที่คิดอยากจะเดิน
หรือเดินเพราะถูกเขาล่อให้เดิน เรา
อยู่ท่ามกลางเซียนกี่คนในสถานะใด เซียนหรือหมูสนาม
ขอบคุณพี่ Rounder ที่ให้ความรู้และช่วยเตือนสติครับ
จะติดตามหนังเรื่องต่อๆ ไปครับ ขอบคุณครับ
จากคุณ : อาคิโตะ - [ วันฉัตรมงคล 06:51:45 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 78
ให้แง่คิดในหลายๆด้าน
ขอบพระคุณมากๆ ค่ะ
จากคุณ : เตียวเสี้ยน - [ วันฉัตรมงคล 09:45:08 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 79
สุดยอดครับ ทั้งสำนวน ทั้งเนื้อหา
นับถือ นับถือ
จากคุณ : เขาเรียกผมว่า (กริชชา) - [ วันฉัตรมงคล 09:55:39 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 80
ขอบคุณมาก ที่มีเรื่องดีๆ เช่นนี้มาแบ่งปันกันครับ
จากคุณ : Starfish - [ วันฉัตรมงคล 12:01:14 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 81
ขอบคุณนะคะ อ่านแล้วได้อะไรเยอะเลย
จากคุณ : PenPen (PenPen) - [ วันฉัตรมงคล 12:17:27 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 82
สุดยอดทุกกระทู้จริงๆครับ ผมไม่เคยผิดหวังเลยสักครั้งที่มีโอกาสได้เข้ามาอ่านกระทู้ของคุณ The Rounder
บทความนี้ทำให้ผมได้คิดอะไรที่ไม่เคยคิดมาก่อนได้เยอะทีเดียว ขอบคุณมากๆครับ
ถ้ามีโอกาสอยากขอเลี้ยงข้าวสักมื้อนะครับ
จากคุณ : เฮนเบะ - [ วันฉัตรมงคล 13:11:51 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 83
มาม้าดิฉันมาจากเมืองจีน สอนลูกๆให้รู้จักเล่นหมากรุกจีนตั้งแต่อายุ 4 ขวบ โดยเริ่มต้นจาก การเล่น
เลี๊ยบ ตุ่ย จนจำตัวอักษร ระดับความสำคัญได้ จึงถึงการวางหมาก
ต่อมา เศษฐกิจล่ม ปิดบริษัท เลิกเล่นกัน (หันมาเล่นหมกเก็บแบบจีน) เพราะมัวทำมาหากินกันทั้งบ้าน
เนื่องจากหมากรุก เป็นกิฬาที่ต้องใช้เวลามากๆ
จนฐานะฟื้นตัว กลับมาเล่นกันเองใหม่ เพราะเด็กบ้านอื่น เขาไม่เล่น ยิ่งรู้วิธีการเล่นของแต่ละฝ่าย
ยิ่งใช้เวลานานขึ้น ๆ ไม่รู้แพ้ รู้ชนะ ต้องมีการพักรบเป็นระยะ บางที ไปนอนก่อน ตื่นเช้ามาเล่นต่อ
พอดิฉันไปเรียนต่อต่างประเทศ ก็เลิกเล่น
ต่อมาทางบ้านมีธุรกิจกับคนฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ ญี่ปุ่นไปมาหาสู่กันทุกอาทิตย์ เขามากรุงเทพ 3 วัน 4
วัน เราไปหาเขา 3 วัน 4 วัน เรียกว่าเจอหน้ากันแทบทุกวันก็ว่าได้ โดยเฉพาะจีนฮ่องกง
เขาเล่นหม่าจกกันค่ะ ติกันงอมแงมทั้งเกาะ โดยเฉพาะพวกแม่บ้าน เล่นกัน 3 เวลาก่อนและหลังอาหาร แถมก่อนนอน
ครั้งหนึ่ง ดิฉันไปงานแต่งงานที่ฮ่องกง พอเดินเข้าไปยังไม่ถึงห้องที่จัดงาน
ได้ยินเสียงหม่าจกกระทบกันดังสนั่น ยังกะมีการแข่งขันกัน นึกว่าไปผิดงานเสียแล้ว พอดีเจ้าภาพเห็นก่อน
ไม่งั้นคงกลับแล้ว
เขาเลี้ยงโต๊ะจีน แต่บนโต๊ะ ไม่ใช่อาหาร เป็นหม่าจก เล่นกันก่อน เป็นการสมานไมตรี เรื่องกินทีหลัง
มาม้าเลยต้องหัดเล่นหม่าจก เพื่อสังคม หอบกลับเมืองไทยมาทั้งชุด แล้วจ้างน้องๆ 3 คนของดิฉันเป็นคู่ซ้อม
เพราะดิฉันงานเยอะ วิทยุยังไม่มีเวลาเปิดฟังเลย
หมากรุกเป็นการแพ้ ชนะ แบบหนึ่งต่อหนึ่ง
คนที่เพิ่งหัดเล่น ต้องโดนแพ้น้อคยกหนึ่ง ซังเผ่า กุน
แต่หุ้น เอาที่เห็นๆ คือ สองรุมหนึ่ง ประกอบด้วยผู้เล่น 3 ฝ่าย คือ กองทุน ต่างชาติ และรายย่อย
จะเรียกว่า คนที่แพ้น้อค โดนรุม ซัง เผ่า กุน ได้หรือเปล่า
จากคุณ : prettypetite - [ วันฉัตรมงคล 15:21:01 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 84
Vote ครับ สุดยอด เพิ่งแวะมาอ่าน ขอบคุณครับ
จากคุณ : sspe - [ วันฉัตรมงคล 15:53:16 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 85
กลับมาอ่านรอบสอง ครับ
สุดยอด กระทู้ จริงจริงครับ
ขอบคุณ พี่ The Rounder ที่ ตื่นขึ้นมา ตอน 04:39 เพื่อพิมพ์กระทู้ นี้ อย่างต่อเนื่อง โดยที่
ไม่ขาดตอนครับ
จากคุณ : samsam - [ วันฉัตรมงคล 16:21:08 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 86
สนุกครับ ได้ข้อคิดดีด้วย
ผมเองก็เล่นหมากรุกไทย จีน กับพ่อบ่อยๆ สมัยยังเล็ก
ทำไมถึงคิดไม่ได้ อย่างคุณเล้งบ้างนะ...
จากคุณ : TauRuZ_PaSSeRBy - [ 6 พ.ค. 47 09:16:15 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 87
โพสอีกซักสามสี่กระทู้
ผมว่า รวบรวมพิมพ์เป็นหนังสือขายได้สบายมาก
ตั้งชื่อบนปกให้ดีๆ สะดุดตา
มีโอกาสเป็นเบสเซลเลอร์
แต่ก็ไม่แน่
อาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด
คือเวลาอ่านฟรี คนอ่านจะชื่นชม
แต่เวลาจะต้องเสียเงินอ่าน
อาจจะยืนอ่านฟรีจนจบ ฮาๆๆๆ
จากคุณ : คลาย เครียด - [ 6 พ.ค. 47 11:34:20 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 88
สุดยอดครับ ขอคาราวะจากใจครับ
จากคุณ : ฟูยี - [ 6 พ.ค. 47 11:48:54 A:210.86.159.201 X: ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 89
สุดยอดครับ กินใจมากแต่งได้ไงนี่
เจ๋งจริงๆ ครับ
จากคุณ : เอกเภสัช (เอกเภสัช) - [ 6 พ.ค. 47 13:31:26 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 90
นับถือครับ
จากคุณ : จอม - [ 6 พ.ค. 47 13:44:27 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 91
โดนใจจริงๆ
จากคุณ : 999 - [ 6 พ.ค. 47 17:55:44 A:203.146.49.141 X: ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 92
ยอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่ ให้อารมณ์ในหลายมุมมองที่เป็นประโยชน์ และเตือนสติไปพร้อมๆ กัน สุดยอดครับ
จากคุณ : ผู้ร่วมทาง - [ 6 พ.ค. 47 18:30:19 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 93
มาขอบคุณทีหลังใครๆเลย
ลึกซึ้งและกินความหมายในทุกมิติค่ะ นับถือจริงๆ
ทั้งนามธรรมและรูปธรรม เตือนใจพร้อมๆกับสะกิดข้างในหัวใจด้วย
อ่านหลายรอบ แต่ละรอบได้รับมุมมองที่ต่างไปจากครั้งก่อนหน้าอย่างประหลาด
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
จากคุณ : kor_kor - [ 7 พ.ค. 47 03:19:39 A:203.113.60.73 X: ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 94
โหวตให้ด้วยคนฮะ
จากคุณ : แมงเม่าน้อย (มังกรคู่สู้แมงเม่า) - [ 8 พ.ค. 47 11:34:14 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 95
เป็นสิ่งที่ดีมากๆเลยครับ ขอบคุณมากครับ
จากคุณ : ทท (tbank) - [ 8 พ.ค. 47 11:46:18 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 96
เอาไปเลย 1 โหวต
อยากให้อยู่ตรงกระทู้แนะนำนานๆ
จากคุณ : darude - [ 9 พ.ค. 47 16:53:47 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 97
Vote, คุณทำให้ผมคิดอะไรๆถึงตอนเด็ก ที่เล่นหมากรุกจีนกับคุณพ่อ
ขอบคุณมาก
จากคุณ : S-W - [ 9 พ.ค. 47 20:26:19 A:203.113.80.15 X: ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 98
กินใจมากเลยครับ
volt ให้เลยครับ
จากคุณ : Enuj - [ 10 พ.ค. 47 12:31:51 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 99
Vote ค่ะ
ขออนุญาตส่งไปให้เพื่อนอ่านด้วยนะคะ
จากคุณ : superglist - [ 10 พ.ค. 47 12:43:45 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 100
เยี่ยมมากครับ
จากคุณ : นายเล้ง - [ 10 พ.ค. 47 14:36:30 A:203.149.39.85 X: ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 101
มาคารวะจรดพื้นเลยครับ โดยเฉพาะข้อความใน คคห ที่ 15 ทำเอามือใหม่อย่างผมตาสว่างเลยเหมือนกัน
จากคุณ : TT@BKK - [ 10 พ.ค. 47 17:14:01 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 102
สงสารป๊าอ่ะครับ......
จากคุณ : _Mosse_ - [ 12 พ.ค. 47 13:07:45 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 103
ขอขอบคุณจากใจจริงครับ
ซาบซึ้งมากที่กรุณาสละเวลามาช่วยเตือนสติและให้แนวปรัชญาชีวิตที่ผมเองก็กำลังเป็นส่วนหนึ่งในกลเกมส์นี้
ขออนุญาต Forward ไปเผยแพร่กับลูกหลาน เพื่อนฝูงต่อนะครับ
ชื่นชม.. และนับว่าคุณ The Rounder เป็นเซียนที่ไม่หวงวิชาจริงๆ ขอมอบ ให้เป็นรางวัลครับ
จากคุณ : Candor - [ 12 พ.ค. 47 22:51:20 ]
---------------------------
ความคิดเห็นที่ 104
สุดจะบรรยายครับ ขอบคุณนะครับ
จากคุณ : thana-keng - [ 14 พ.ค. 47 17:59:47 ]
--------------------------- |
โดย : เห็นมา [ 10/06/2005, 09:22:36 ] |
21
ขอบคุณไทยบีจี ที่เป็นเวบหนึ่งที่เปิดโอกาสให้มีการแสดงความเห็นกันอิสระและเต็มที่
ผมเป็นคนวิจารณ์และเป็นคนโพสคำวิจารณ์ทั้งหมดตามความคิดเห็นที่ 8
1. ผมไม่รู้จักกับกลุ่มผู้แสดงความคิดเห็นที่ 1, 2, 3, 4, 5, 7,10 ,18 และ 19
2. และกับกลุ่มความเห็นที่เหลือ
ที่สำคัญผมไม่รู้จักผู้เขียนเรื่อง
การวิจารณ์งานเขียนน่าจะเป็นการแสดงทัศนคติว่า ชอบ ไม่ชอบ ถูกใจ ไม่ถูกใจอย่างไร
น่าจะเป็นความรู้สึกที่ผู้โพสได้วิจารณ์ออกมา ต่องานเขียนที่ตัวเองอ่าน
อาจก้าวล่วงไปบ้างก็ยังถือว่าอยู่ในเกมส์ เพราะเขาได้แสดงความคิดเห็นที่มีต่องานเขียนอย่างนั้น
ซึ่งกลุ่ม 1 วิจารณ์ตามที่เขาอ่านจบ ไม่ได้ไปตำหนิหรือชมใคร....ยกเว้นผู้เขียนเรื่อง
บางคนชอบ ถูกใจ ชื่นชมและมีเหตุผลสนับสนุน ก็เขียนชมตามที่เขารู้สึก
และต้องมีบ้างบางคนที่ชอบน้อย ไม่ถูกใจ เขาก็อยากวิจารณ์และผมคงเป็นประเภทหลังนี้
สำหรับกลุ่มความเห็นที่เหลือกลุ่ม 2 ที่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่องานเขียนซึ่งตัวเองเข้ามาอ่าน
แต่กลับเขียนตำหนิหรือโจมตี....คนที่เห็นไม่ตรงหรือไม่ใช่พวกหรือไม่อยู่ข้างความคิดตัวเอง
เช่น คห.ที่ 9, 11, 12, 15, 16, และ 17
ผมอยากกลุ่มที่เข้ามาแสดงความเห็นกลุ่มนี้
กรุณาเปิดความคิด เปิดใจ และให้กลับไปอ่านเรื่องนี้ แล้วหาเหตุผลมาสนับสนุนหรือหักล้างกัน
ถ้าจะให้ดี ลองคลิกไปที่ thaiwriter.net ซึ่งเขามีงานเขียนมากมาย......
ไปทดสอบภูมิปัญญาหรือซ้อมวิจารณ์ได้
และไม่แน่ อาจจะเจอ บางโพส ที่คนเข้าไปวิจารณ์งานเขียนรุนแรงกว่าผมในกะทู้นี้
สำหรับบางความคิดเห็นที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยและหาเหตุผลมาหักล้างคำวิจารณ์ของผม
เช่น คห.10, คห.18 Madwall, คห.19 ขุนสันต์ ผมไม่รู้จักคนกลุ่มนี้
ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้
ผมขอวิจารณ์และแนะนำผู้เขียนเรื่องตามกะทู้นี้อีกนิดดังนี้
1. ตามที่ได้กำหนดธีม (Theme) โดยเปิดเรื่องจากคนที่ย้อนอดีตตอนเด็กจนเติบใหญ่
และใช้หมากรุกเป็นตัวชูโรง เป็นสิ่งที่ดี คนเขียนได้ต้องเข้าใจหมากรุก
แต่หากเขียนลงเอยหรือเติมเรื่องราวต่ออีกนิด โดยจบที่คนซึ่งเรากำหนดเป็นตัวละครและได้เปิดไว้นั้น
งานเขียนอาจจะดูสวยขึ้นกับมุมชีวิตสำเร็จที่มีความหลังปนความเศร้า อาจน่าจะสมบูรณ์กว่านี้
2. พลอต (Plot) ในการดำเนินเรื่องในบางช่วงยืดไปหน่อย โดยเฉพาะช่วงกลางของเรื่อง ทำให้เซ็งเวลาอ่าน
ผมเป็นคนจีน ที่ชื่นชอบการเขียนและการวิจารณ์
ไทยบีจี มีนักเขียนที่ผมเข้ามาอ่านแล้ว ชื่นชอบหลายคน ขอเอ่ยชื่อนะครับ...คุณรากไม้
(งานเขียนคราวเดินสายนั่งรถไฟไปโขกหมากรุก)
ขอยืนยันว่า คนที่เป็นนักเขียน สิ่งแรกที่ต้องมี คือขยันที่จะเขียนและรับคำวิจารณ์ที่หนักๆได้
|
โดย : คนชอบเขียนเหมือนกัน [ 10/06/2005, 13:13:12 ] |
22
จะตอแหลไปถึงไหนกัน
ความเห็น 8 ความเห็น 10 ความเห็น 21 นี่ตัวเดียวกัน
เขียนเองยกหางตัวเองเสร็จเรียบร้อย แค่เริ่มต้นก็แย่แล้ว
กระทู้เขาเขียนให้อ่าน ใครชอบก็เก็บเอาไปเป็นประโยชน์ ไม่ชอบก็อย่าไปยุ่งเขา เหมือนนิยาย
ร้อยคนอ่านย่อมแตกต่างความคิด ชอบ ไม่ชอบ เฉย ๆ ว่ากันไป
ว่าแต่ว่าร้อยวันพันปีไม่เคยมีการวิจารณ์กระทู้เลย แล้วไฉนอยู่ๆ กระทำตนเป็นเกจิริวิจารณ์งานผู้อื่น
การจะวิจารณ์งานก็ต้องดูความเหมาะด้วย ไม่ใช่อยู่ๆ ก็ทำ เหมือนเป็นเพียงความต้องการของตน
ถามตัวเองให้ดีอีกหนว่าทำไปทำไม
การให้ความเห็นแบบวิจารณ์อันดับแรก คนวิจารณ์ต้องมีกึ๋นอย่างที่ว่า เพราะต้องมีแง่คิดมุมมองได้หลากหลาย
ประเภทคิดทื่อๆ เห็นมุมนิดๆหน่อยๆ ก็ยกเป็นนักวิจารณ์แล้ว อ่านแล้วอายแทน
อันดับสองคือความเป็นกลางหากมีอคติเป็นที่ตั้งแค่อยากอวดภูมิ ก็ไม่ใช่แล้ว
ไอ้ที่เขียนมาจึงไม่อาจเรียกว่าการวิจารณ์ เป็นแค่การแสดงความคิดเห็นจุดๆเดียว แบบทื่อๆ |
โดย : รู้ทัน [ 10/06/2005, 18:00:34 ] |
23
.
|
โดย : 8Thepr0 [ 12/06/2005, 15:20:00 ] |
24
...เมล็ดพันธุ์กล้ามิก่อได้ วันเดียว
คงต้องแลเหลียวไปใน ภาคหน้า
...ถ้าวันนี้ไม่ลงรากกลบฝังไว้ ได้ลือ
แล้ววันหน้าจะเอาสิ่งไหน เป็นร่ม กันบัง
ด้วยความเคารพทุกท่าน
ม้าคำรณ
|
โดย : ม้าคำรณ [ 15/06/2005, 11:18:06 ] |
25
ดังเรือน้อยลอยล่องกลางสมุทร
ต้องยืดยุดฉุดมือกันให้มั่นหมาย
เป้าหมายก่อนออกจากฝั่งยังมิคลาย
ใจสลายถ้าทุกคนโดดทิ้งเรือ
ด้วยความเคารพทุกท่าน
ม้าคำรณ
|
โดย : ม้าคำรณ [ 15/06/2005, 11:24:17 ] |
26
โอยไม่ไหวแล้วอ่านครั้งเดียวสุดๆไปเลย ให้ข้อคิดเกลื่อนเลย
คนแต่งแต่งได้ดีมากๆครับขอชมเลย |
โดย : มายอีซี่ - Դ : 079338811 - [ 18/04/2006, 21:29:16 ] |
|
|
|
E-mail: webmaster@thaibg.com |
Copyright 2002-2024@www.ThaiBG.com (Thailand), All Rights Reserved |
|
|
|
|