[ กลับหน้าหลัก ]


บทความพิเศษ : จากแชมป์สนามหลวง..สู่..สุดยอดเซียน



บทความพิเศษ : จากแชมป์สนามหลวง..สู่..สุดยอดเซียน

นับเป็นเรื่องที่อยู่เหนือความคาดฝัน วงการหมากรุกไทยต้องสั่นสะเทือน
บัลลังก์สุดยอดเซียนที่เคยถูกผูกขาดโดย “5 สุดยอด” มานานนับทศวรรษ
บัดนี้เริ่มเห็นเค้าลางของความเปลี่ยนแปลง

และผู้ขึ้นมาเขย่าบัลลังก์…ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ เขาคือ ”นกกระจิบ” อวยชัย แซ่ลี้…!!

การขึ้นสู่สุดยอดเซียนของเขานับได้ว่ารวดเร็วเหลือเชื่อ
เพราะชื่อของ “นกกระจิบ” เพิ่งจะคุ้นหูของคนในวงการเมื่อ 2-3 ปีมานี้เอง
ก่อนหน้านี้แทบไม่มีใครรู้จักเขา

“นกกระจิบ” ก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?

ต่อไปนี้ คือ เรื่องราวของเขา..ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
เรื่องราวของนักโขกที่…”ฮอต”…ที่สุดในเวลานี้

โดย : ม้าเฉียว Member - [ 25/05/2005, 21:35:53 ]

1



ดาวรุ่งหน้าใหม่?

ผมพบกับนกกระจิบครั้งแรกในหมากรุกสนามหลวง พ.ศ.2546
ซึ่งปีนั้นผมไปทำหน้าที่รายงานผลการแข่งขันเหมือนทุก ๆ ปี และได้มีโอกาสสนทนากับ น.อ.บุญแสง มาลามาศ รน. ประธานผู้ตัดสิน และได้ถามทัศนะของท่านถึงผู้เป็น “ตัวเต็ง” ที่จะคว้าแชมป์ แน่นอนครับ ท่านพูดถึงนักหมากรุกชื่อดัง อาทิ เซียนแหว่ง, หนูทอง, สิงห์ร้ายแปดริ้ว, ต๋อ ปากน้ำ ฯลฯ (ปีนั้น อ.ต๋อ คว้าแชมป์จริง ๆ ด้วย)

แต่ผมมาสะดุดเอาอยู่ชื่อหนึ่ง คือ “นกกระจิบ” อวยชัย แซ่ลี้ ซึ่งเป็นชื่อที่ไม่คุ้นหูมาก่อน
ท่านบอกว่ารายนี้เป็นนักโขกดาวรุ่งที่เดินหมากได้ดีมาก อยากให้ผมจับตาดูเอาไว้

แน่นอนครับ ผมได้เริ่มจับตาดูนักโขกหนุ่มรายนี้ทันที…!!

โดย : ม้าเฉียว Member   [ 25/05/2005, 21:37:22 ]

2



(ภาพการแข่งขัน หมากรุกสนามหลวง พ.ศ.2546 ระหว่าง “นกกระจิบ” กับ “แมวเหมียว” อ.สุวิทย์ มากรอด ปรากฏว่านกกระจิบที่ยังอ่อนประสบการณ์พ่ายไป 2 กระดานรวด)


ความพ่ายแพ้…ที่ไม่น่าประทับใจ

หนทางสู่ความสำเร็จของนกกระจิบ มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
เขาต้องประสบกับความพ่ายแพ้และผิดหวังเช่นเดียวกับนักหมากรุกคนอื่น

เกมการแข่งขันระหว่าง “นกกระจิบ” กับ “แมวเหมียว” อ.สุวิทย์ มากรอด เป็นคู่แข่งขันที่ผมเฝ้าจับตามองอยู่ แม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านล่วงมา 2 ปีแล้ว แต่ผมยังจำเรื่องราวในวันนั้นได้ดี เพราะนกกระจิบแพ้ไป 2 กระดานรวด…!!

รูปเกมทั้งสองกระดานออกมาเหมือน ๆ กัน คือ นกกระจิบเปิดฉากบุกตั้งแต่เปิดเกม
เขาใช้หมากตัวใหญ่ได้ดีและบุกกดดันตลอด แต่แมวเหมียวตั้งรับอย่างใจเย็น รอเวลาที่นกกระจิบพลาด
พอได้จังหวะก็บุกโต้กลับเพียงครั้งสองครั้ง ชัยชนะก็ตกเป็นเขาทันที…!!

พูดตรง ๆ นกกระจิบ ใช้หมากตัวใหญ่ได้ดี แต่ดูเหมือนเขาจะเดินหมากใจร้อนไป
บางจังหวะยังเดินค่อนข้างเร็ว ซึ่งยังไม่ใช่ตาเดินที่ดีที่สุด

เกมในวันนั้นแทนที่ผมจะประทับใจในแต้มหมากของนกกระจิบ ผมกลับประทับใจในลีลาของแมวเหมียวแทน (อ้าว…ทำไมเป็นงั้นไปซะได้)

แต่ใครจะคาดคิดว่า…1 ปีหลังจากนั้น…ฟอร์มการเล่นของเขากลับเป็นคนละเรื่องกันเลย…!!
และใครจะคาดคิดว่า…2 ปีหลังจากนั้น…เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดเซียนคนใหม่ของเมืองไทย…!!

จากวันนั้น…ถึงวันนี้…เขาเวลาเพียง 2 ปี…!!

เขาพลิกจากความพ่ายแพ้ในวันนั้น..มาสู่ความสำเร็จ
เรื่องราวของเขา...เป็นตัวอย่างของคนสู้ชีวิตจริง ๆ

โดย : ม้าเฉียว Member   [ 25/05/2005, 21:38:36 ]

3



(ภาพ นกกระจิบกำลังแข่งขันหมากรุกสากล)


ใครกัน..ที่ติดทีมชาติ?

กลางปี พ.ศ.2546 มีการแข่งขันคัดตัวแทนหมากรุกสากลทีมชาติไทย เพื่อไปแข่งหมากรุกสากลในกีฬาซีเกมส์ 2003 ที่ประเทศเวียดนาม ผมทำหน้าที่รายงานผลการแข่งขันอีกเช่นเคย ซึ่งในวันนั้นมีนักหมากรุกไทยมาร่วมคัดตัวทีมชาติกันอย่างคับคั่ง ระหว่างนั้นมีนักหมากรุกสากลท่านหนึ่งเข้ามาถามผม

“คนนั้นน่ะใคร?” เขาถามพร้อมกับชี้ให้ดู

“อ๋อ นกกระจิบครับ เขาเป็นนักหมากรุกไทย” ผมตอบหลังจากที่ได้เห็นหน้าชัด ๆ

“ชื่อแปลกจัง อืม..นกกระจิบ? แต่เขาเดินดีนะ”

“เหรอครับ ผมไม่ยักรู้ว่าเขาเล่นสากลด้วย”

ผมรู้สึกประหลาดใจจริง ๆ นั่นแหละ เมื่อได้ทราบว่านักหมากรุกไทยอย่างเขา จะเล่นหมากรุกสากลได้ดีด้วย แต่ผมต้องประหลาดใจมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อทราบว่าผลการแข่งในรอบสุดท้าย เขาผ่านการคัดเลือกเป็นตัวแทน และได้ติดทีมชาติไทย…!!

ฉับพลันทันใด…ที่เริ่มมีการรายงานข่าวการแข่งขันผ่านเว็บไซด์ ThaiBG และ Siamboard ก็เริ่มมีคำถามขึ้นในวงการหมากรุกทันที

“ใครกันน่ะ…นกกระจิบ?”

การได้ติดทีมชาติไทยนั้น นับว่าเป็นผลดีต่อตัวของเขาอย่างใหญ่หลวงในภายหลัง เพราะว่าจะต้องมีการฝึกซ้อมแต้มหมากรุกสากล และเก็บตัวอยู่ในแค้มป์ของการกีฬาแห่งประเทศไทยนานหลายเดือน ซึ่งช่วงนี้เขาได้ซึมซับศาสตร์หมากรุกฝรั่ง ซึ่งตัวหมากแต่ตัวมีอานุภาพทำลายสูง ยังผลให้เมื่อกลับมาเล่นหมากรุกไทยในเวลาต่อมา เขาสามารถเดินหมากบุกได้หนักหน่วงและรุนแรงขึ้น ด้วยเหตุที่นำแต้มหมากรุกสากลมาประยุกต์ใช้ในเกมหมากรุกไทยนั่นเอง

แม้ว่าในกีฬาซีเกมส์ ที่เวียดนาม นักโขกทีมชาติไทยจะไม่ประสบความสำเร็จก็ตาม แต่ใครจะรู้ว่า…แท้ที่จริงแล้วสำหรับ “นกกระจิบ”…ความสำเร็จมันกำลังจะเริ่มต้นจุดนี้ไปต่างหาก

โดย : ม้าเฉียว Member   [ 25/05/2005, 21:40:02 ]

4



(ภาพ อวยชัย แซ่ลี้ ในพิธีมอบถ้วยพระราชทานฯ ที่ท้องสนามหลวง พ.ศ.2547)


สนามหลวง 2547…จุดเริ่มแห่งความสำเร็จ

ถ้าหมากรุกสนามหลวง 2546 เป็นปีแห่งความล้มเหลวของนกกระจิบ ก็อาจจะกล่าวได้ว่าหมากรุกสนามหลวง 2547 เป็นปีแห่งความสำเร็จของเขาอย่างแท้จริง แต้มหมากของเขาผิดเป็นคนละคนจากปีที่แล้ว เขาเดินหมากใจเย็นขึ้น, ระมัดระวังมากขึ้น และบุกได้รุนแรงมากขึ้น จนผมแปลกใจว่านี่เป็นคนเดียวกับปีที่แล้วรึเปล่า?

เขาคว้าชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่า เริ่มตั้งแต่ชนะสิงห์ร้ายแปดริ้วในรอบแรก ชนะธงไชย อันสมศรี ในรอบ 16 เซียน ตามด้วยชนะณรงศักดิ์ กองตัน ในรอบ 8 เซียน ถึงตรงนี้แล้วตำแหน่งแชมป์สนามหลวงอยู่ไม่ไกล แต่เขาต้องชนะเซียนแหว่งให้ได้เสียก่อน

เกมระหว่าง “นกกระจิบ” กับ “เซียนแหว่ง” ในรอบรองชนะเลิศเป็นเกมที่น่าดูอีกเกมหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันสมศักดิ์ศรีเซียน เสมอกันไป 2 กระดานแรก ต้องตัดสินด้วยหมากป้องในกระดานที่สาม จุดแพ้-ชนะมาถึงเมื่อ “นกกระจิบ” โขยกม้าสองตัวยืนข้างกระดาน แล้วกระโจนโถมเข้าใส่แบบทิ้งตัว ฉับพลันที่ “เซียนแหว่ง” ได้เห็นแต้มหมาก เขาตัดสินใจยอมแพ้ทันที…!!

รอบชิงชนะเลิศระหว่าง “นกกระจิบ” กับ “เซียนโดม” เศรษฐชัย อันสมศรี อดีตแชมป์มหาวิทยาลัย จึงกลายเป็นศึกของเซียนดาวรุ่ง กระดานแรกทั้งคู่เล่นอย่างระมัดระวังและเสมอกันไป กระดานที่สองนกกระจิบทำแต้มบ่อพราง ก่อนทิ่มเบี้ย ค4..!! ได้เปรียบตั้งแต่ต้นเกม แม้ว่ารูปเกมจะได้เปรียบศักดิ์หมาก แต่ตำแหน่งกลับยากต่อการเข้าทำ จุดแพ้-ชนะของเกมดำเนินมาถึงเมื่อนกกระจิบ ตัดสินใจขยับขุนหนีจากตำแหน่งอันตราย เพื่อทำการรบประจันบานขั้นแตกหัก หลังจากขุนปลอดภัยแล้ว เขาตัดสินใจเดินหน้าบุกแบบเต็มสูบ ก่อนจะบีบแชมป์กีฬามหาวิทยาลัยจนยอมแพ้ไปในที่สุด

ไม่ต้องสงสัย ตำแหน่งแชมป์สนามหลวงเป็นของเขา…!! และนับเป็นถ้วยรายการใหญ่ใบแรกที่เขาคว้ามาครอง แต่ที่สำคัญที่สุดนี่คือถ้วยพระราชทานฯ ที่นักหมากรุกน้อยคนนักจะมีโอกาสได้สัมผัส แต่บัดนี้เขาคว้ามาครองได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดย : ม้าเฉียว Member   [ 25/05/2005, 21:41:18 ]

5



ภาพหมากรุกสนามหลวง พ.ศ.2547 รอบรองชนะเลิศ ระหว่าง “นกกระจิบ” กับ “เซียนแหว่ง” ซึ่งผลปรากฏว่า นกกระจิบ เอาชนะไปได้ด้วยหมากป้องกระดานที่ 3 หลังจากเสมอกันใน 2 กระดานแรก

โดย : ม้าเฉียว Member   [ 25/05/2005, 21:42:16 ]

6



ภาพหมากรุกสนามหลวง พ.ศ.2547 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง “นกกระจิบ” กับ เศรษฐชัย อันสมศรี อดีตแชมป์มหาวิทยาลัย ผลปรากฏว่านกกระจิบเอาชนะได้ในกระดานที่สอง จุดสำคัญของเกมนี้อยู่ที่ นกกระจิบ ตัดสินใจหนีขุนออกจากตาอันตราย เพื่อหลบสู่ตำแหน่งที่ปลอดภัย ก่อนทำการโจมตีครั้งใหญ่ และได้รับชัยชนะ

โดย : ม้าเฉียว Member   [ 25/05/2005, 21:43:08 ]

7



(ภาพ อวยชัย แซ่ลี้ กับการคว้าแชมป์ถ้วยพระราชทานฯ พ.ศ.2548 ได้เป็นสมัยที่สอง)


สนามหลวง 2548…แชมป์ถ้วยพระราชทานฯ 2 ปีซ้อน

“การเป็นแชมป์นั้นยาก แต่การป้องกันแชมป์ยากกว่า” เป็นสำนวนที่เราคุ้นเคยกันดี
เช่นเดียวกันคงจะมีนักหมากรุกน้อยคนนักที่จะสามารถคว้าแชมป์สนามหลวงได้ 2 สมัยติดต่อกัน

พ.ศ.2548 นกกระจิบมาที่สนามหลวงเพื่อป้องกันแชมป์ ท่ามกลางความกังขาว่า เขาจะสามารถรักษาแชมป์ไว้ได้หรือไม่? แต่ดูเหมือนว่าเขาจะทำให้ทุกคนหายสงสัย
เพราะว่าเขาเดินหมากได้เฉียบขาดกว่าปีที่แล้วเสียอีก
หลังจากโชว์ฟอร์มอันร้อนแรงสยบคู่ต่อสู้อย่างง่ายดายในรอบแรก ๆ ตามด้วยชนะ “เจ้าหนูสมาธิ” 2
กระดานรวดในรอบ 8 เซียน ชนะ “จิ๋ม ลาดพร้าว” โอภาส เสมสวัสดิ์ ในเกมหมากป้องแบบเร้าใจในรอบรองชนะเลิศ
มาถึงตอนนี้เขาได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศอีกครั้ง เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน

เกมระหว่าง “นกกระจิบ” กับ “เดชา ทางด่วน” เดชา เทพพุทธางกูร ในรอบชิงชนะเลิศ ดูเหมือนนกกระจิบชื่อ-ชั้นจะเหนือกว่า แต่ เดชา ทางด่วน เป็นคนที่ไม่อาจจะมองข้ามไปได้ เพราะการที่เขาผ่านมาถึงรอบนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าเขามีดีพอตัว หลังจากการแข่งกระดานแรกจบลงด้วยการเสมอกัน กระดานที่สอง เดชา เล่นแบบเร้าใจด้วยการเซ่นเบี้ยให้กินฟรี…!! นั่นทำให้เขาเป็นต่อทาง นกกระจิบเป็นฝ่ายรับ ต้องเดินหนีขุนไป-มา และเป็นอีกครั้งที่เขาแสดงให้เห็นถึงทักษะการตั้งรับที่ไม่ธรรมดา ช่วงท้ายเขาพลิกเกมกลับมาชนะได้ในที่สุด…!!

แชมป์สนามหลวงตกเป็นของเขาอีกครั้ง…!! และนับเป็นแชมป์สมัยที่สอง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาภาคภูมิใจมากกับถ้วยใบนี้
ซึ่งเขามักจะพูดกับคนใกล้ชิดเสมอว่าเขาให้ความสำคัญอย่างมากกับถ้วยใบนี้

และเป็นที่น่าสังเกตว่า “ตำนานแห่งวงการหมากรุกไทย” มักเริ่มต้นที่สนามหลวง นักหมากรุกชื่อดังหลาย ๆ คนเคยคว้าแชมป์ที่นี่ และได้กลายเป็น “ตำนาน” ในเวลา อาทิเช่น ปรมาจารย์พลบ จาดบรรเทอง, พระอรรคเทวินทรามาตย์, “อาจารย์เหงี่ยม” สม บรมสุข, “เซียนหมู” สุรการ วงษ์นิล, “ทนายนักโขก” อ.นคร ตรีสะอาด, “เซียนซ้ง”วิรัช เลิศมวลมิตร ฯลฯ

“นกกระจิบ” คว้าแชมป์สนามหลวง ได้ถึง 2 ครั้ง 2 ครา เขาจะกลายเป็นตำนานบทใหม่หรือไม่?
กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์

โดย : ม้าเฉียว Member   [ 25/05/2005, 21:44:40 ]

8



เกมระหว่าง “นกกระจิบ” กับ “เดชา ทางด่วน” เดชา เทพพุทธางกูร ในหมากรุกสนามหลวง พ.ศ.2548 รอบชิงชนะเลิศ จุดแพ้ชนะของแม็ทช์นี้อยู่ในกระดานที่สอง ซึ่งในช่วงต้นเกม เดชา ทางด่วน เซ่นเบี้ยและเป็นต่อทางในช่วงแรก ก่อนที่นกกระจิบจะพลิกเกมกลับมาเอาชนะได้ในช่วงท้าย และคว้าแชมป์ถ้วยพระราชทานฯ เป็นปีที่สองติดต่อกัน

โดย : ม้าเฉียว Member   [ 25/05/2005, 21:45:44 ]

9



(นกกระจิบ ได้รับการยกย่องจากคนในวงการหมากรุก ว่าเดินหมากบุกได้ดีที่สุดใน พ.ศ.นี้)


จอมบุกอันดับ 1 แห่งแผ่นดิน

หากใครมีโอกาสได้ชมการเดินหมากของ “นกกระจิบ” อย่างน้อยสักครั้งหนึ่ง เชื่อได้เลยว่าเขาจะต้องมีความประทับใจไม่น้อย กับแต้มบุกอันแพรวพราวของเขา ที่หลายคนในวงการยกให้เขาเป็น “จอมบุกอันดับ 1 แห่งแผ่นดิน” แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่านอกจากการบุกแล้ว เขาเป็นคนที่ “เดินขุนเก่ง” มาก ๆ คนหนึ่ง เขามักจะหาตำแหน่งที่ปลอดภัยให้ขุนได้อยู่เสมอ และมักจะเดินขุนหลบเลี่ยงอันตรายได้ดี

ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของ “อาจารย์เหงี่ยม” นายสม บรมสุข ที่กล่าวว่า
“ผู้ใดเดินหมากเรือ, ม้า, โคน, เม็ด และเบี้ยเก่ง หาเกรงกลัวไม่ หากเกรงแต่ผู้เดินขุนเก่งเท่านั้น”

และในยามที่เขาตกเป็นฝ่ายรับ มันยากสำหรับคู่ต่อสู้ที่จะโจมตีขุนของเขา

ถ้าหากท่านไม่เชื่อ…คราวหน้าจงสังเกตเมื่อเขาตกเป็นฝ่ายรับ
แล้วท่านจะได้เห็นวิธีการตั้งรับแบบ “ซูเปอร์ดีเฟ้นซ์” ของเขา…!!

โดย : ม้าเฉียว Member   [ 25/05/2005, 21:46:52 ]

10



(ภาพ นกกระจิบยิ้มแฉ่ง หลังคว้าแชมป์สุดยอดเซียน)


สุดยอดเซียนคนใหม่ของเมืองไทย

มหกรรมหมากรุกไทย 2548 จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นับเป็นการแข่งขันหมากรุกที่มีเงินรางวัลสูงสุดในรอบปี
ยอดเซียนจากทั่วประเทศต่างเดินทางมาเพื่อชิงชัยในรายการนี้โดยเฉพาะ “นกกระจิบ” ก็เช่นกัน
แต่เขาเคยทำผลงานได้ไม่ดีนักในทัวนาเม้นท์นี้ ซึ่งเขาเคยตกรอบแรกมาก่อนใน พ.ศ.2547

แต่ พ.ศ.2548 ดูเหมือนจะเป็นหนังชีวิตคนละม้วนกับ พ.ศ.2547 เมื่อเขาคว้าชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่า โดยผ่านรอบแรก ๆ ได้อย่างสบาย และต้องโคจรมาพบกับเซียนมือวาง คมเพชร พรหมวงษ์ ในรอบ 16 เซียน ผลการแข่งขันปรากฏว่าเขาเอาชนะ คมเพชร ไปได้ราวปาฏิหารย์…!! ขณะเหลือเวลาเพียง 25 วินาทีจะหมดเวลา…!! ซึ่งหากเวลาหมดก่อนเขาก็จะแพ้ตกรอบไปทันที

ในรอบ 8 เซียน เขาต้องโคจรไปพบกับ “สิงห์ร้ายแปดริ้ว” สุรศักดิ์ เชื้อชวลิต ผู้ที่เคยเขี่ยเขาตกรอบในปีที่แล้ว แต่ในคราวนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเอาชนะไปได้ในหมากป้องกระดานที่สาม มาถึงตอนนี้ถึงแม้ว่าเขาจะแพ้ “เซียนหน่อย” ดานุภพ สังข์สุวรรณ ไปในรอบชิงชนะเลิศรุ่นโอเพ่น แต่ก็ไม่ส่งผลอะไรต่อการเข้าไปเล่นในรอบสุดยอดเซียน

เกมระหว่าง “นกกระจิบ” กับ “เซียนแหว่ง” ในรอบ 8 เซียน รุ่นสุดยอดเซียน จัดว่าเป็น “เกมคลาสสิค” อีกครั้งหนึ่งของวงการหมากรุก เมื่อ นกกระจิบ ตัดสินใจทิ้งม้าให้กินฟรี…!!
ก่อนจะบีบหมากเอาชนะไปได้ในปลายกระดาน มาถึงตอนนี้คนในวงการเริ่มจะเชื่อแล้วว่า เขามีสิทธิจะคว้าแชมป์สุดยอดเซียนปีนี้

และในที่สุด สิ่งที่หลาย ๆ คนคาดคิดก็กลายเป็นความจริง เมื่อเกมในรอบชิงชนะเลิศระหว่าง “นกกระจิบ” กับ “โรจน์ สะพานใหม่” ไพโรจน์ สุวรรณ์ จบลงด้วยชัยชนะของนกกระจิบ…!!

สุดยอดเซียนคนใหม่ของประเทศ..ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว…!!
และดูเหมือนจะเป็นสุดยอดเซียนที่มีอายุน้อยที่สุดในรอบหลาย ๆ ปี…!!

โดย : ม้าเฉียว Member   [ 25/05/2005, 21:48:15 ]

11



เกมระหว่าง “นกกระจิบ” กับ คมเพชร พรหมวงษ์ ในมหกรรมหมากรุกไทย 2548 รุ่นโอเพ่น ซึ่งสร้างความฮือฮา เมื่อนกกระจิบพลิกหาตารุกเอาชนะได้ในหมากป้องกระดานที่ 3 ก่อนหมดเวลาเพียง 25 วินาที…!!

โดย : ม้าเฉียว Member   [ 25/05/2005, 21:49:11 ]

12



ทัศนะของ “เซียนป่อง” อ.สุชาติ ชัยวิชิต

“นกกระจิบถือว่าทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในปีนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังต้องปรับปรุง คือ
ศึกษาการเดินหมากหลากหลาย เพราะสุดยอดเซียนไม่ว่าใครเดินหมากอะไรมาต้องรู้รูปหมด”

(คัดลอกจากหนังสือพิมพ์สยามกีฬา ฉบับวันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม 2548 หน้า 6)

โดย : ม้าเฉียว Member   [ 25/05/2005, 21:50:24 ]

13



ทัศนะของ “เซียนแหว่ง” อ.บุญสืบ แซ่เฮง

“ช่วงนี้ต้องจัดให้นกกระจิบเป็นเซียนระดับแนวหน้าที่เดินหมากบุกได้ดีที่สุด
แต่จุดอ่อนของเขาอยู่ที่การตัดสินใจในบางจังหวะยังไม่ละเอียดพอ ก็ยอมรับว่า
เป็นเด็กใหม่ที่อนาคตไกลในวงการเซียนโขก”

(คัดลอกจากหนังสือพิมพ์สยามกีฬา ฉบับวันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม 2548 หน้า 6)

โดย : ม้าเฉียว Member   [ 25/05/2005, 21:51:27 ]

14



บทสรุป

เรื่องราวชัยชนะของนักโขกหนุ่มนามว่า..อวยชัย แซ่ลี้..ดูราวกับเป็นเรื่องมหัศจรรย์
ที่เขาใช้เวลาเพียงแค่ 2-3 ปีเท่านั้น ในการก้าวจากนักหมากรุกโนเนม..มาสู่การเป็นสุดยอดเซียน

ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว หากบอกว่า อวยชัย แซ่ลี้ จะก้าวมาเป็นสุดยอดเซียน
รับรองว่าไม่มีใครเชื่อ…!!

แต่ ณ วันนี้มันเป็นไปแล้ว…!!

สำหรับนักโขกหนุ่ม วัยเพียง 25 ปี 8 เดือน

มาถึงวันนี้…วันที่เขาก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสุดยอดเซียน
เขาเดินทางมาถึงจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว…หรือว่า…ความสำเร็จของเขาเป็นเพียงแค่บทเริ่มต้น…!!

คงมีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่จะให้คำตอบได้
แต่ก็ทำให้หลายคนที่เฝ้าดูอยู่ ลุ้นด้วยใจระทึกเช่นกัน…!!


เรียบเรียงโดย………..ม้าเฉียว



……………………..……….จบ……………………………………..



ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ บายครับ


โดย : ม้าเฉียว Member   [ 25/05/2005, 21:53:15 ]

15

ขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ
สำหรับเรื่องราวของนักหมากรุกหนุ่มที่ hot ที่สุดแห่งยุค

โชคดีที่คุณม้าเฉียวอยู่ร่วมเสมัย และให้ความสนใจเป็นพิเศษ เราจึงได้อ่านบทความดีๆ เช่นนี้

โดย : หมูหมู Member   [ 25/05/2005, 22:02:22 ]

16

อ่านจบแล้วครับ สนุกมาก
ขอบคุณครับที่นำมาให้อ่าน

โดย : บางปะกง Member   [ 25/05/2005, 22:50:33 ]

17

ดีใจจังที่วงการหมากรุกไทย มีสุดยอดฝีมือเป็นเด็กหนุ่มวัยเบญจเพศ
สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการอีกครั้ง
เป็นคลื่นลูกหลัง ที่มีอนาคตอีกคนหนึ่ง

หวังว่า วันหน้า ผู้ที่โค่นนกกระจิบลงได้
จะเป็นเด็กรุ่นเยาว์กว่านกกระจิบอีก

นั่นละ คืออนาคตของหมากรุกไทย

ไม่ทราบว่าการแข่งขัน มีบันทึกหมาก
ให้ได้ติดตามชมความเก่งกาจของยอดฝีมือแต่ละท่านหรือไม่ครับ

สำหรับ คุณม้าเฉียว เป็นนักข่าวกิตติมศักดิ์
ที่มีลีลา น่าเร้าใจจริงๆ ครับ

โดย : ซึซึอิ Member   [ 26/05/2005, 09:25:47 ]

18

สุดยอดครับ!!! สำหรับเรื่องที่นำมาให้อ่านครับ ขอบคุณมากครับ

โดย : เทาเก้าฟ้า Guest   [ 26/05/2005, 10:16:42 ]

19

หากจักนับว่านกกระจิบคือสุดยอดเซียนแห่งปี

ก็ต้องนับว่ากระทู้นี้เป็นบทความหมากกระดานไทยที่ยอดเยี่ยมอย่างที่สุด

ขอขอบพระคุณแลนับถือท่านม้าเฉียวอย่างที่สุดขอรับ

- คนหมากรุกไทย

โดย : หมากรุกไทย Member   [ 26/05/2005, 10:39:39 ]

20

ขอขยายความ "ยอดเยี่ยม" จาก ท่านหมากรุกไทย
เป็น บทความหมากกระดาน ที่ยอดเยี่ยมที่สุด เท่าที่เคยอ่านในเว็บนี้ มาเลยครับ

ทั้งนี้ เพราะ มีการจัดลำดับความไว้ ได้สละสลวยมาก
เริ่มจากการปูพื้นฐาน วางให้เห็นถึงความล้มเหลว อันเป็นที่มาของความสำเร็จ
และต่อด้วยการรักษา ความสำเร็จนั้นไว้ได้

ขอปรบมือให้กับ สุดยอดบทความ ของเว็บนี้ครับ
ใครไม่ได้อ่าน ต้องบอกว่า น่าเสียดาย
(ผมเอง เคยมุงดูนกกระจิบ เล่นกับแชมป์ทหารเรือ
สุดยอดทั้งคู่ แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่า เด็กหนุ่ม คนนี้ คือ นกกระจิบ
เข้าใจว่า ที่มาของชื่อนี้ มาจาก ตอนเล่นแล้ว พูดไม่หยุด เหมือนนกกระจอก กระจิบ แบบนั้นป่าว )

โดย : ซึซึอิ Member   [ 26/05/2005, 10:55:59 ]

21

ขอบคุณครับที่นำมาให้อ่าน

โดย : redbox Member   [ 26/05/2005, 11:18:35 ]

22

ข่าวสั้นๆของนกกระจิบในเดอะเนชั่น 26 พ.ค.
http://www.nationmultimedia.com/search/page.arcview.php?clid=12&id=116257&usrsess=

โดย : อ่านมา Guest   [ 26/05/2005, 19:46:49 ]

23

สุดยอดมากครับท่านม้าเฉียวขอบคุณมากครับ

โดย : 1234 Guest   [ 26/05/2005, 21:30:29 ]

24

ขอบคุณมากครับพี่ม้าเฉียว

เขียนได้น่าอ่านมาก ๆ เลยครับ

โดย : เซลด้า Member   [ 27/05/2005, 18:03:13 ]

25

ขอบคุณพี่ม้าเฉียวคร้าบบบบบ บทความของพี่ยังคงเร้าใจอยู่ทุกคราที่ได้อ่านเลยครับ ^_^

โดย : deomaru Guest   [ 27/05/2005, 21:20:31 ]

26

ได้ดูถ่ายทอดสดแล้ว สุดยอดเลยนายนก.. ขอบอก

โดย : oxygen Member   [ 02/06/2005, 09:00:54 ]

27

เขียวได้ดีมากครับอยากทราบเบอร์โทรพี่ม้าเฉียวครับใครรู้ช่วยบอกที

โดย : 998 Guest   [ 10/06/2005, 18:29:11 ]

28

ท่านม้าเฉียว ย่อมมิใช่ธรรมดา เฉกเช่นคนธรรมดาจนเกินไป

มหาบัณฑิตจากนิด้าท่านนี้ มิได้มีโทรศัพท์แบบพกติดตัวได้
เนื่องจากเห็นว่าตนเองมิได้มีธุระกิจมากมายจนต้องมีการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นกระทั่งขาดมิได้
มีเพียงเบอร์บ้าน ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นช่วงที่อยู่บ้านเท่านั้น
หมายเลขโทรศัพท์ที่ต้องการจึงอาจมิตรงกับความต้องการของท่านที่จะติดต่อ

ลองทางอีเมล์น่าจักพอได้

ma_chao@hotmail.com

โดย : คนหมากไทย Guest   [ 10/06/2005, 18:36:38 ]

29

ขอบคุณพี่ม้าเฉียวมากครับ...เขียนบทความได้สุดยอดมากเลยครับ
อ่านทำให้ผมรู้สึกมีกำลังใจที่จะฝึกซ้อมหมากรุกไทยมากขึ้นและผมจะตั้งใจฝึกซ้อมหมากรุกไทยให้เก่งอย่างพี่
นกกระจิบให้ได้เลยครับ...สู้ๆๆ

โดย : ปลากระพง1 Member   [ 11/09/2007, 01:00:52 ]

 
  E-mail: webmaster@thaibg.com Copyright 2002-2024@www.ThaiBG.com (Thailand), All Rights Reserved  
 
  Sponsors