|
|
[ กลับหน้าหลัก ]
หมากรุกไทย ศาสตร์และศิลป์ที่ยังมีชีวิตอยู่
1
"หมากรุกไทย" ศาสตร์และศิลป์ที่ยังมีชีวิต
โดย ผู้จัดการรายวัน 28 เมษายน 2548
ถ้าพูดถึงกีฬาพื้นบ้านซึ่งเป็นที่คุ้นเคยของคนรุ่นก่อน มักชวนกันเล่นและพากันชม "หมากรุกไทย" นับเป็นกีฬาที่มีบทบาทมากสำหรับชีวิตของคนไทยยุคก่อนๆ นิยมเล่นกันทั้งในบ้าน ในวัด หรือแม้ตามราชสำนักก็มีปรากฏให้พบเห็น ไม่เว้นแม้ตามงานพิธีต่างๆ
"หมากรุกไทย" เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ด้วยทุกก้าววิธีการเดิน เบี้ย เม็ด ม้า เรือ ขุน โคน ซึ่งก็มีกติกาการเดินแตกต่างกันไป หากผู้เดินหมากจะต้องนำทุกตัวเหล่านั้น มาผูกผสานกันให้ดี เพื่อเป็นทั้งเกราะป้องกันตัว "ขุน" ซึ่งถ้าพลาดถูกต่อสู้ไล่จนหรือโดนกินเมื่อไหร่
นั่นหมายถึงความพ่ายแพ้ในกระดานนั้นทันที ขณะเดียวกันก็ต้องหาทางบุกใส่คู่ต่อสู้อยู่ในที
แม้ "หมากรุกไทย" แต่ละกระดานจะใช้ระยะเวลาที่นานพอสมควร แต่ก็เป็นกีฬาที่สร้างทักษะให้เกิดความคิดสร้างสรรค์อย่างเป็นระบบ สอนให้จินตนาการการเดินหมากล่วงหน้าของทั้งคู่ต่อสู้และตนเอง รวมทั้งการวางแผนล่วงหน้าและความรอบคอบ
การเดินหมากสอนให้คนเดินรอบคอบ หากเดินไม่ดี คิดแต่จะได้มากเกินไป โดยไม่รู้จักป้องกันตนเอง อาจเผลอโดนรุกจนแพ้กลางกระดานก็ได้หากไม่ระวัง
ด้วยความเห็นจาก "เซียนป่อง" หรือ สุชาติ ชัยวิชิต ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เราเห็นถึงความสำคัญของกีฬานี้ "หมากรุกไทย เป็นกีฬาพื้นบ้านของคนไทยมายาวนาน ส่วนใหญ่จะเล่นกันตามวันสำคัญและในงานประเพณีต่างๆ โดยในชนบทมีให้เห็นมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับในเมืองหลวงที่มีให้เห็นน้อย กีฬาหมากรุกเป็นกีฬาที่สู้ด้วยมันสมอง การวางแผน ได้คิดได้คำนวณ ทำให้ผู้เล่นไม่โดนใครหลอกง่ายๆ หมากรุกสมัยนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก อดีตคิดก่อนทำ แต่ปัจจุบันทำก่อนค่อยคิด"
มหกรรมหมากรุกไทย
ในขณะที่ "หมากรุกไทย" กำลังจะถูกลืม กลับมีองค์กรที่ยังเห็นความสำคัญและคุณค่า โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บ.เซ็ดเทรด ดอทคอม จำกัด และสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยได้เล็งเห็นความสำคัญและนำเอาหมากรุกไทยมาจัดการแข่งขันชิงแชมป์อีกเป็นปีที่ 2 ซึ่งการแข่งขันแบ่งออกเป็นหลายประเภทชิงชัย ทั้งชิงแชมป์สุดยอดเซียนประเภทโอเพ่น หรือแม้กระทั่งชิงแชมป์ประเภทเยาวชน ซึ่งแบ่งออกเป็นรุ่นอายุไม่เกิน 10 , 12, 16, 19 และ 25 ปี โดยการจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นความสนใจและอนุรักษ์กีฬาพื้นบ้านของไทยให้เยาวชนรุ่นหลัง ได้รู้จัก
งานนี้ มนตรี ฐิรโฆไท นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย กล่าวว่า "กิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อต้องการพัฒนาเยาวชนให้เติบโตเป็นนักลงทุนและกำลังสำคัญของประเทศชาติ โดยเรามองว่ากีฬาหมากรุกเป็นรากฐานในการพัฒนา และมีประโยชน์ครอบคลุมหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ฝึกสมาธิ การวางแผน ความอดทน ฯลฯ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน และในอนาคตได้"
ด้าน ชนิสา ชุติภัทร์ กรรมการผู้จัดการ บ.เซ็ดเทรด ดอทคอม จำกัด ซึ่งเป็นสปอร์นเซอร์หลักของกิจกรรมนี้ "เราจัดกิจกรรมนี้เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งให้เยาวชนหรือผู้ที่มีฝีมือ ได้แสดงออก ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และที่สำคัญให้เยาวชนได้รู้จักกีฬาหมากรุกไทย
นอกจากนี้เรายังมองว่าการจัดกิจกรรมนี้เป็นการส่งเสริมสังคมที่ได้ประโยชน์มากกว่าผลประโยชน์ทางด้านธุรกิจ"
ส่วน กิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่จะหมดวาระในปีนี้ เปิดเผยว่า "ที่จัดขึ้นนี้ไม่ได้ทำเพื่อสนองความชอบส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ที่เกิดขึ้น โดยหวังว่าจะก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดี ส่งผลทำให้เอกชนหันมาสนใจสนับสนุนและหันมาจัดกิจกรรม เพื่อให้เกิดการแข่งขันมากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งจะเป็นการยกระดับอีกทางหนึ่ง และอนาคตอยากจัดกิจกรรมนี้ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค"
งานนี้ท่านที่สนใจสามารถเข้าชมฟรี ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ สนใจสอบถามรายละเอียด และโปรแกรมการแข่งขันติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-229-2219-20
ชิงแชมป์สุดยอดเซียน
สำหรับการแข่งขันมหกรรมหมากรุกไทย 2548 ครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 จุดสนใจของแฟนๆหมากรุกก็น่าจะอยู่ที่การแข่งขันประเภท "ชิงแชมป์สุดยอดเซียน" ซึ่งจะมีเงินรางวัลให้แก่ผู้ชนะเลิศเป็นเงินถึง 1 แสนบาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ และประกาศนียบัตร
นอกจากเงินรางวัลและเกียรติคุณที่กล่าวไปแล้ว ตำแหน่งนี้ยังมีศักดิ์ศรี ความเป็นมือหนึ่งของเซียนหมากรุกไทยเป็นเดิมพัน โดยปีนี้งานน่าจะตื่นเต้นเป็นพิเศษเนื่องจาก สุชาติ ชัยวิชิต "เซียนป่อง" อดีตแชมป์หมากรุกขุนทองคำ 5 สมัย ซึ่งคว้าแชมป์รายการนี้ไปครองได้เมื่อปีที่แล้ว พร้อมเงินรางวัล 1 แสนบาท หลังจากที่ต้องขับเคี่ยวกับ"เซียนแหว่ง" อยู่ถึง 4 กระดาน ได้แสดงสปิริตประกาศขอถอนตัว
เพื่อเปิดทางให้แก่รุ่นหลังได้ขึ้นมา
ปีนี้แชมป์ "สุดยอดเซียน" จึงน่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากไม่มีตัวเต็งแบบโดดๆ แต่น่าจะเป็นการขับเคี่ยวกันของอันดับ 2-4 เมื่อปีที่แล้วนั่นก็คือ บุญสืบ แซ่เฮง หรือเซียนแหว่งรองแชมป์ สาธิต เกษตรชลหรือแดง ขอนแก่น อันดับ 3 และ นคร ตรีสอาด อันดับ 4
บุญสืบ แซ่เฮง หรือที่คนในวงการหมากรุกรู้จักกันว่า "เซียนแหว่ง" เผยว่า "หมากรุกเป็นกีฬาที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน จะเห็นได้ในจากต่างหวัด มีประเพณี พิธีอะไรเราก็จะเห็นผู้คนเล่นหมากรุกอยู่เสมอ จึงอยากให้มีคนมาช่วยกันสนับสนุนกีฬานี้ไว้ให้คนรุ่นหลัง
และอยากให้กีฬานี้เป็นกีฬาที่อยู่ในหลักสูตรการเรียน เหมือนดั่งเมืองนอกเพราะจะทำให้เยาวชนได้พัฒนาหลายด้าน มีโอกาสได้เลือกกิจกรรมที่ชอบของพวกเขา
เซียนแหว่ง ยังกล่าวถึงประโยชน์ทางอ้อมของการเล่นหมากรุกไทยว่า "ปัจจุบันเทคโนโลยีล้ำสมัยมากขึ้น เยาวชนสามารถเล่นหมากรุกทางคอมพิวเตอร์ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคนเล่นน้อยลงไม่เหมือนกับการเล่นหมากรุกสมัยก่อนที่คนเล่นกับคู่ต่อสู่ต้องเผชิญหน้ากัน ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์หลายด้านไม่ว่าจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์รู้บุคลิกของคู่ต่อสู้"
ด้านแชมป์เยาวชนหมากรุกไทยในปีที่แล้ว นายภัทรนฤน กิจการ กล่าวว่า "ตนหันมาเล่นกีฬานี้เพราะถูกดูถูกจากเพื่อนว่าเล่นไม่เก่ง จึงเป็นแรงบันดาลใจให้อยากชนะ และอยากเป็นนักกีฬา ซึ่งกีฬานี้ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปก็ว่าได้ คือ ทำให้เรามีจุดเด่นเป็นของตนเอง
มีคนรู้จักมากขึ้น
อยากให้มีหน่วยงานมาสนับสนุนมากกว่านี้ จะเห็นได้ว่า การจัดแข่งขันหมากรุกมีน้อยมาก มีเพียงรายการใหญ่ๆไม่กี่รายการ เมื่อเปรียบเทียบกับกีฬาประเภทอื่นๆ และอยากให้มีการกระจายข่าวสารมากกว่าที่เป็นอยู่" ภัทรนฤน ยังกล่าวต่อด้วยว่า
"ผมอยากให้การจัดกิจกรรมแข่งขันหมากรุกไทย เป็นกระแสที่ตื่นตัวเกิดความนิยมไปทุกระดับ และอยากให้ช่วยเหลือกันสนับสนุนและประชาสัมพันธ์ อย่างเมื่อก่อนไม่มีคนสนใจระนาดซึ่งเป็นศิลปะพื้นบ้านของไทยจนแทบจะหายไปจากสังคม แต่พอมีภาพยนตร์เรื่องโหมโรง เยาวชนและบุคคลที่เกี่ยวข้องต่างก็กลับมาให้ความสนใจ
วิธีการควรจะเริ่มจากตัวเราเองหรือผู้ที่เกี่ยวข้องลงมือช่วยเหลือกันอย่างจริงๆจังๆก่อน ถ้าสุดความสามารถแล้ว จึงขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล กีฬาหมากรุกเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์หลายด้าน สามารถทำให้เด็กรับสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดีได้ในสังคมแห่งโลกาภิวัฒน์ กีฬาชนิดนี้สามารถเป็นตัวประสานส่งเสริมในการเรียนให้เยาวชนมีความคิดแบบลอจิคได้ และยังมีเสน่ห์อยู่ตรงที่ต้องใช้จินตนาการในการเล่นเป็นอย่างมากด้วย"
ข้อแนะนำสำหรับท่านที่อยากเล่น
"เซียนป่อง"หรือสุชาติ ชัยวิชิต เชื่อว่าท่านที่อยากเล่น ขอให้สนใจจริงๆก็หาที่เรียกได้ไม่ยาก "สมัยนี้โลกกว้างขึ้น เด็กเก่งเร็ว เพราะมีตำรา ผู้เชี่ยวชาญยินดีที่จะสอน ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่จะหวงวิชา เพราะกลัวศิษย์จะคิดล้างครู"
ด้านแชมป์เยาวชนหมากรุกไทยในปีที่แล้ว ภัทรนฤน กิจการ ให้ข้อแนะนำว่า "ควรจะศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญและลงมือเล่นจริงๆ ดีกว่ามาศึกษาตามตำรา เพราะการลงมือเล่นจะได้ทั้งประสบการณ์และบรรยากาศในระหว่างการเล่น แต่ถ้าเอาคนเก่งๆหรือผู้เชี่ยวชาญมาสอนสอนเสร็จก็ลืมไม่ได้ใช้"
ส่วนสถานที่สำหรับท่านที่สนใจเล่นหรือชม อยู่ที่ตามตามซุ้มต่างๆในกรุงเทพฯ เช่น ซุ้มดินแดง ซุ้มปิ่นเกล้า หรือจะเป็นการแข่งขันในกีฬามหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันมีเหลือน้อยแล้ว เพราะเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากขึ้นสังคมเจริญเยาวชนก็หันไปเล่นทางอินเทอร์เน็ตกันหมด เว็บไซต์ยอดนิยมก็ได้แก่ www.Thaibg.com
สำหรับข้อแตกต่างระหว่างการเล่นตามกระดาน กับการเล่นทางเว็บไซด์ ก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย คือ การเล่นตามกระดานจะได้บรรยากาศ ได้ความรู้ เทคนิคใหม่ๆ ประสบการณ์จากผู้เล่น ขณะที่ทางเว็บไซด์ผู้เล่นได้ฝึกความชำนาญ เพราะทางเว็บไซด์จะบังคับให้เดินเร็ว แต่ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่นจะลดน้อยลง
อนาคตและทิศทางของหมากรุกไทย
แชมป์เยาวชนหมากรุกไทย กล่าวต่อด้วยความเป็นห่วงด้วยว่า "ถ้าเราไม่ช่วยกันสนับสนุนกีฬาหมากรุกไทย ซึ่งเป็นกีฬาพื้นบ้านที่มีมายาวนาน กีฬานี้ก็จะหายไปเหมือนกับกีฬาพื้นบ้านของไทยอื่นๆ ที่ปัจจุบันหายไปมากแล้ว ซึ่งจะทำให้คนรุ่นหลังไม่รู้จัก ถ้าอยากรู้จักอยากเห็นก็จะเห็นได้แต่ในหนังสือเท่านั้น
หมากรุกไม่ได้เปลี่ยนไปแต่สังคมต่างหากที่ทำให้หมากรุกไทยเปลี่ยนไป สำหรับวิธีที่ช่วยได้ก็คือ การที่หน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนน่าจะหันมาสนับสนุน "หมากรุกไทย" มากกว่านี้ โดยจัดการแข่งขันให้บ่อยๆเพื่อให้กีฬานี้ไม่หายไป เพราะเป็นกีฬาพื้นบ้านของไทยมายาวนาน และอยากให้กีฬานี้มีอยู่ในหลักสูตรการเรียนการสอนเหมือนในชนบท"
หวังว่า "หมากรุกไทย" กีฬาที่เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ มีคุณค่าและน่าอนุรักษ์ จะไม่ถูกลืมเลือนไปจากความรู้จักของคนไทยรุ่นหลัง
|
โดย : ฉงฉาน [ 10/05/2005, 21:24:11 ] |
2
เป็นบทความที่ดีมากครับ...ควรที่ทุกคนได้อ่านกัน...และช่วยกันสืบสานกีฬาพื้นบ้านของไทยให้แพร่หลายสืบไป
|
โดย : มังกรiทพ [ 22/08/2007, 12:29:07 ] |
|
|
|
E-mail: webmaster@thaibg.com |
Copyright 2002-2024@www.ThaiBG.com (Thailand), All Rights Reserved |
|
|
|
|