ทางการรัสเซียออกสตาร์คนิวเคลียร์เตือนสหรัฐฯ: ‘เกมหมากรุก’ แห่งความตาย
อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ดมิทรี เมดเวเดฟ ออกคำเตือนเกี่ยวกับนิวเคลียร์อย่างรุนแรงต่อชาติตะวันตกในวันเสาร์นี้ เนื่องจากความสัมพันธ์ยังคงตึงเครียดท่ามกลางสงครามในยูเครนที่ดำเนินอยู่
ความตึงเครียดระหว่างมอสโกและตะวันตกทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเปิดตัวการรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ หลายประเทศตะวันตก รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ประณามสงครามของปูตินในขณะเดียวกันก็ให้การสนับสนุนด้านมนุษยธรรมและการทหารแก่ยูเครน ความช่วยเหลือนี้สนับสนุนความพยายามในการป้องกันประเทศของยูเครน ขณะเดียวกันก็เพิ่มแรงกดดันให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียตึงเครียดมากขึ้น
ความกังวลหลักในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงแห่งชาติท่ามกลางความขัดแย้งคือ รัสเซียอาจหันไปใช้อาวุธนิวเคลียร์ หากพวกเขารู้สึกว่าถูกขัดขวางจากความก้าวหน้าของยูเครน รัสเซียส่งข้อความผสมกันเกี่ยวกับสงครามนิวเคลียร์ โดยปูตินเตือนเมื่อเดือนสิงหาคมว่าไม่มีใครชนะในสงครามนิวเคลียร์ ในขณะที่พันธมิตรของเขาเยาะเย้ยชาติตะวันตกด้วยการคุกคามทางนิวเคลียร์
เมดเวเดฟดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียตั้งแต่ปี 2551 ถึง พ.ศ. 2555 โดยปูตินเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาความมั่นคงของรัสเซีย และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เขาได้กลายเป็นเจ้าหน้าที่รัสเซียคนล่าสุดที่ก่อเหตุคุกคามทางนิวเคลียร์
ALEXEY NIKOLSKY / Sputnik / AFP ผ่าน Getty Images
ในโพสต์โทรเลขที่สร้างขึ้นหลังงานศพของมิคาอิล กอร์บาชอฟ ประธานาธิบดีคนสุดท้ายของสหภาพโซเวียตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมดเวเดฟกล่าวหาตะวันตกว่าต้องการใช้ “ข้อได้เปรียบของความขัดแย้งทางทหารในยูเครน” เพื่อ “กำจัดรัสเซียออกจากเขตการเมือง”
“นั่นเป็นความฝันสกปรกของพวกวิปริตแองโกล-แซกซอน ที่เข้านอนด้วยความคิดลับๆ เกี่ยวกับการล่มสลายของรัฐของเรา กำลังคิดว่าจะฉีกเราออกเป็นชิ้นๆ หั่นเราเป็นชิ้นเล็กๆ ได้อย่างไร” เมดเวเดฟเขียนไว้ในโพสต์ที่แปลแล้ว “ความพยายามดังกล่าวเป็นอันตรายอย่างยิ่งและไม่ควรประมาท นักฝันเหล่านั้นมองข้ามสัจพจน์ง่ายๆ การสลายตัวของพลังงานนิวเคลียร์อย่างมีพลังมักเป็นเกมหมากรุกที่มีความตาย ซึ่งรู้แน่ชัดเมื่อเช็คและคู่ครองมาถึง: วันโลกาวินาศสำหรับมนุษยชาติ .”
ในขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ ประณามการรุกรานของรัสเซียและความเป็นผู้นำของปูตินในรัสเซีย พวกเขาไม่ได้เรียกร้องให้มี “การสลาย” ของประเทศรัสเซีย หรือการปฏิบัติการเชิงรุกใดๆ ต่อรัสเซีย เนื่องจากการดำเนินการทางทหารโดยตรงต่อมอสโกจะทำให้ความตึงเครียดด้านนิวเคลียร์ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก
เมื่อเดือนที่แล้ว เมดเวเดฟกล่าวว่ายูเครนและตะวันตก “ดูเหมือนจะพร้อมที่จะจัดเตรียมเชอร์โนบิลใหม่” เนื่องจากความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่ากิจกรรมของรัสเซียที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Zaporizhzhia (NPP) อาจนำไปสู่ปฏิกิริยานิวเคลียร์
นักการเมืองรัสเซียคนอื่น ๆ ก็เปิดประตูให้รัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์ท่ามกลางสงครามเช่นกัน แม้ว่าโดยทั่วไปปูตินจะเคยใช้วาทศิลป์ที่วัดได้ด้วยตัวเองมากกว่าก็ตาม ในเดือนมีนาคม โฆษกเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ กล่าวว่ารัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ หากผู้นำรู้สึกว่าประเทศของพวกเขากำลังเผชิญกับ “ภัยคุกคามที่มีอยู่จริง”
อย่างไรก็ตาม โทรทัศน์ของรัฐรัสเซีย ซึ่งปกติแล้วจะผลักดันการโฆษณาชวนเชื่อของปูติน ได้ก่อให้เกิดภัยคุกคามที่รุนแรงมากขึ้นสำหรับสงครามนิวเคลียร์ ในเดือนเมษายน วลาดิมีร์ โซโลฟอฟ (Vladimir Solovyov) ผู้มีชื่อเสียงทางโทรทัศน์เตือนถึงสงครามนิวเคลียร์ว่าจะมีเพียง “คนกลายพันธุ์” เท่านั้นที่จะอยู่รอดได้ หากรัฐสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) ยังคงจัดหาอาวุธให้กับยูเครนต่อไป
นิวส์วีค ติดต่อกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เพื่อขอความคิดเห็น
